สัปดาห์ที่ 19 ของการกระตุ้นการตั้งครรภ์

การที่คุณแม่ตั้งครรภ์อยู่ในภาวะที่มีสมาธิ จิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง จะก่อให้เกิดความสงบในจิตใจซึ่งส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ให้สงบ รู้สึกมั่นคงปลอดภัยและรู้สึกมีความสุข ซึ่งก่อให้เกิดผลดีต่อวงจรการทำงานของสมองลูกน้อย ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านต่างๆ ของเขาต่อไป

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

การที่คุณแม่จะมีสมาธินั้นไม่ได้หมายถึงการ นั่งนิ่งๆ  แล้วนั่งขัดสมาธิทำเพื่อสมาธิ แต่คุณแม่สามารถทำได้ในระหว่างวันขณะที่ทำกิจกรรมต่างๆ อยู่ เช่น  

  • ระหว่างทานอาหาร - เมื่อถึงเวลาอาหาร คุณแม่ต้องตัดใจที่จะทานอาหารอย่างเดียว ไม่ทำอย่างอื่นไปด้วยขณะทาน เช่น ไม่ทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ไปทานไป   ให้มีใจจดจ่อกับการทาน เคี้ยวอาหารอย่างช้าๆ ละเอียด ไม่เร่งรีบ อาจจะนับจำนวนการเคี้ยวไปด้วยให้ได้คำละ 10 ครั้ง นอกจากได้สมาธิแล้ว อาหารที่ทานยังละเอียด ช่วยให้ย่อยง่ายขึ้นด้วย 
  • ระหว่างนั่งรถ -  ไม่ว่าจะอยู่บนรถประจำทาง รถไฟฟ้า รถส่วนตัว คุณแม่สามารถทำจิตใจให้มีสมาธิได้ ด้วยการนั่งหลับตาลง สัก 2-3 นาที พร้อมหายใจเข้า-ออกช้าๆ ลึกๆ  หากคุณแม่ขับรถเอง อาจต้องทำสมาธิในช่วงรถติดไฟแดง
  • กิจกรรมพาเพลินกิจกรรมบางอย่างทำให้จิตใจเราเกิดสงบ เกิดสมาธิได้อย่างดี  เช่น การอ่านหนังสือ การทำงานฝีมือ อย่างปักผ้า ถักนิ้ตติ้ง ฯลฯ คุณแม่จึงสามารถเลือกทำกิจกรรมเหล่านี้ เพื่อฝึกความสงบและสร้างสมาธิได้ค่ะ

เมื่อคุณแม่เกิดความสงบ  เลือดในกายของคุณแม่จะสูบฉีดในจังหวะปกติ หัวใจจะเต้นอย่างสม่ำเสมอซึ่งจะส่งผลต่อสมองของลูก ในความรับรู้ของสมองลูก ความปกติและสม่ำเสมอนี้ หมายถึงความปลอดภัยของเขา ซึ่งเมื่อลูกรู้สึกมั่นคงปลอดภัย จะส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านต่างๆ รวมทั้งการทำงานของสมองค่ะ