ลูกน้อยกำลังซนและช่างเจรจามากขึ้น ซึ่งเป็นผลจากกล้ามเนื้อที่แข็งแรงมากขึ้นจึงทำให้ลูกเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว และการใช้ภาษาของลูกก็ดีขึ้นมาก...มาดูพัฒนาการแต่ละด้านของลูกน้อยเดือนนี้กันค่ะ
ด้านสติปัญญาและการเรียนรู้
-
เด็กวัยนี้ยังคงเลียนแบบการกระทำของคุณพ่อคุณแม่เหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันมากกว่าจะทำด้วยความคิดตนเอง
-
ความสามารถในการคิดของลูกก็ค่อยๆ พัฒนาขึ้น จากการที่เขาสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้าจากกิจวัตรที่ทำซ้ำๆ ทุกวัน จนสามารถวางแผนล่วงหน้าได้บ้างเล็กน้อย เช่น เมื่อถึงเวลาเข้านอนแต่ลูกยังไม่อยากนอน เขาจะอิดออดและพยายามต่อรองขอเล่นต่อ
-
เริ่มเข้าใจความสัมพันธ์ของเหตุและผลอย่างง่ายๆ เช่น หากหมุนก๊อกน้ำไปทางหนึ่งน้ำจะไหลออกมา ถ้าหมุนไปอีกทางน้ำจะหยุดไหล ถ้ากดสวิตช์ไฟเปิดกดอีกทีไฟปิด เป็นต้น
-
ลูกมีสมาธิในการเล่นหรือทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อเรียนรู้มากขึ้น คุณแม่อาจหาของเล่น เช่น บล็อกไม้ ตัวต่อ การวาดรูประบายสี ร้อยลูกปัด เกมกรอกทรายหรือน้ำใส่ขวด มาให้ลูกได้เล่นเพื่อเสริมสร้างสมาธิและการจดจำได้
-
หากคุณแม่สอนนับ 1 2 3 ลูกจะสามารถนับตามได้ ส่วนความเข้าใจเรื่องจำนวนยังต้องค่อยๆ ฝึกต่อไป ซึ่งในระหว่างเดือนที่ 25-30 เดือน ลูกจะสามารถนับเลข 1-2 ได้
ช่วง 2-3 ปีแรก เป็นช่วงเวลาสำคัญของพัฒนาการของเด็ก และการให้เด็กได้รับโภชนาการที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เด็กต้องได้รับสารอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เพื่อการเจริญเติบโตในทุกๆ ด้าน และนมมีบทบาทสำคัญในช่วงนี้ MFGM เป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีคุณค่าที่พบในน้ำนมแม่ มีความสำคัญต่อพัฒนาการโดยรวมของเด็ก โดยเฉพาะพัฒนาการ 3 ด้านที่สำคัญ คือ สมอง ภูมิคุ้มกัน และระบบขับถ่าย MFGM ช่วยพัฒนาทั้ง IQ และ EQ ของเด็ก รวมทั้งเสริมสร้างความแข็งแรงให้ระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยลดโอกาสการติดเชื้อของทางเดินหายใจส่วนบนในเด็ก และลดการเจ็บป่วยของเด็กลงด้วย
ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
-
ลูกเดินได้อย่างสมดุลและมั่นคงเหมือนผู้ใหญ่แล้ว แต่เวลาวิ่งจะยังแข็งอยู่ เด็กบางคนจะชอบเดินถอยหลัง เรียกว่าสนุกกับการเคลื่อนไหวไม่น้อย
-
ลูกเดินขึ้นบันไดได้เองแล้ว แต่ยังสลับก้าวเดินไม่ได้ และยังต้องมีคนคอยดูแลและระวังเรื่องความปลอดภัยให้ลูกอยู่
-
ชอบที่จะเขย่งเพื่อสำรวจดูของที่อยู่บนโต๊ะหรือตู้ และพยายามเอื้อมคว้าของที่อยู่สูงเกินตัว จนบางครั้งก็ทำข้าวของหล่นร่วงลงมาได้ คุณแม่จึงต้องคอยระวังข้าวของที่ตกแตกได้ หาที่เก็บไว้ให้มิดชิด รอจนพ้นวัยซนก่อนแล้วค่อยนำออกมาวางโชว์
-
ลูกวัยนี้สนุกสนานที่ได้ผลักและดันตัวเองไปกับของเล่น อย่างเช่น รถบรรทุกหรือรถสามล้อลากรูปสัตว์ต่างๆ เป็นต้น
-
หลังจากที่ลูกฝึกฝนที่จะใช้ดินสอขีดเขียนมาหลายเดือน ตอนนี้ลูกสามารถลากเส้นตรงได้แล้ว และหยิบของชิ้นเล็กๆ ได้แต่ก็อาจจะมีหลุดมือบ้าง
-
เดือนนี้ลูกสามารถต่อบล็อกได้ประมาณ 6 ชั้นโดยไม่ล้มแล้ว ซึ่งเป็นผลจากการที่ลูกมีสมาธิในการเล่นมากขึ้น และการทำงานประสานกันระหว่างมือกับตาสัมพันธ์กันมากขึ้น
ด้านภาษาและการสื่อสาร
-
สามารถพูดประโยคสั้นๆ เพื่อบอกคุณพ่อคุณแม่ว่าต้องการหรือไม่ต้องการอะไรได้แล้ว และเริ่มพูดได้ชัดเจนขึ้น แต่ก็ยังคงใช้สีหน้าท่าทางในการสื่อสารร่วมด้วย
-
หากที่ผ่านมาคุณแม่ร้องเพลงให้ลูกฟังซ้ำๆ เดือนนี้ลูกสามารถจดจำเนื้อเพลงสั้นๆ และร้องได้บางท่อนแล้ว
-
สนใจดูภาพในหนังสือ ที่คุณแม่เคยเปิดให้ลูกดู บางครั้งก็จะชี้ที่ภาพและบอกได้ถูกว่าภาพนั้นคือภาพอะไร
ด้านอารมณ์และสังคม
-
ลูกกล้าแสดงออกมากขึ้นและกล้าที่จะทำตามสิ่งที่ตัวเองต้องการเป็นประจำอยู่เสมอ
-
ลูกแยกแยะอารมณ์ได้มากขึ้นจากสิ่งเร้าต่างๆ ซึ่งเด็กวัยนี้มีทั้งอารมณ์รัก โกธร กลัว เบิกบาน และอยากรู้อยากเห็น เป็นพื้นฐาน
-
ลูกเริ่มแสดงออกให้รู้ว่าเขาชอบหรือไม่ชอบสิ่งต่างๆ ได้จากสีหน้าและท่าทาง เช่น ชอบรสหวาน กินแล้วสีหน้ามีความสุข ชอบสีบางสี เช่น สีชมพู ก็จะกอดและหอมแต่ตุ๊กตาสีชมพู หรือเสียงบางเสียง เช่น ชอบเสียงนกร้อง ในของเล่นที่กดแล้วมีเสียงสัตว์ ก็จะกดแต่เสียงนี้
-
ลูกควรจะได้เรียนรู้การเข้าสังคมอย่างจริงจังมากขึ้นในขวบปีนี้ คุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้พบปะผู้คน พาไปเดินเล่นทักทายเพื่อนบ้าน ไปเล่นสนามเด็กเล่นให้ลูกได้เล่นกับเด็กวัยใกล้ๆ กัน ได้เรียนรู้ที่จะรอ เพื่อเล่นของเล่นที่ตนเองอยากเล่น แรก ๆ ลูกอาจจะมองดูว่า คนอื่นเขาเล่นอะไรกันยังไง แล้วจึงค่อยแสดงท่าทีว่าอยากเล่นบ้าง
นี่ละค่ะ จอมซนตัวน้อยของเรา ที่นับวันจะยิ่งรู้เรื่องมากขึ้น ยิ่งถ้าเราเปิดโอกาสให้เขาได้เล่น ได้เห็น ได้เลียนแบบ และได้มีประสบการณ์ใหม่ๆ เขาก็จะเรียนรู้ได้มากขึ้นไปอีก