การไปโรงเรียนหรือเนิร์สเซอรี่ดูจะเป็นเรื่องใหญ่สำหรับลูกเหมือนกัน เพราะเขายังคงกลัวการแยกจากแม่อยู่ หากต้องถูกแยกไปอยู่ในสภาพแวดล้อมใหม่ๆ ที่ไม่คุ้นเคย...มาดูพัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกน้อยเดือนนี้กันค่ะ

ด้านสติปัญญาและการเรียนรู้

  • ลูกวัยนี้ต้องการสถานะที่เท่าเทียมกับผู้ใหญ่ และต้องการทำทุกสิ่งอย่างที่ผู้ใหญ่ทำ ไม่ว่าจะเป็นงานบ้าน  ขับรถ กวาดบ้าน หรือเปิดปิดโทรทัศน์เอง เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่า เขาสามารถควบคุมสิ่งต่างๆ ได้  ให้คุณแม่ลองหาของเล่นประเภทจำลองหรือเลียนแบบอุปกรณ์ต่างๆ มาให้ลูกเล่น  เพราะนอกจากช่วยให้เกิดการเรียนรู้ได้มากขึ้นแล้วยังช่วยคลายความรู้สึกอยากเท่าเทียมผู้ใหญ่ได้ด้วย

  • สมาธิที่ดีเริ่มต้นจากความสนใจใคร่รู้  ดังนั้นของเล่นที่ช่วยเสริมการเรียนรู้ให้ลูกวัยนี้และคุณแม่ควรมีไว้ติดบ้านคือของเล่นที่เป็นชุด เช่น ไม้บล็อก เครื่องเรือน ชุดประกอบบ้าน  สวนสัตว์ เป็นต้น

ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว

  •  การเจริญเติบโตด้านร่างกายจะช้ากว่าเมื่อขวบปีแรก แต่จะไปพัฒนาการในด้านอื่นแทน คุณแม่ไม่ควรกังวลหากเดือนนี้น้ำหนักตัวลูกจะไปขึ้น

  • การเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อต่างๆ จึงเป็นเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการด้านร่างกายให้แก่ลูกน้อยวัยนี้ เช่น เปิดโอกาสให้ลูกได้ออกมาวิ่งเล่น ได้หัดถีบจักรยานสามล้อ ได้ปั้นแป้ง ปั้นดิน ได้หัดกรอกทรายใส่ขวด หยิบเม็ดกระดุมใส่โหล  หรือหัดร้อยลูกปัด ลากเส้น ระบายสี ฯลฯ  

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

ด้านภาษาและการสื่อสาร

  • ลูกจะไม่พูดเป็นคำๆ เหมือนก่อนแล้ว แต่เรียนรู้ที่จะพูดเป็นประโยคสั้นๆ เช่น นกเกาะกิ่งไม้ หมาเห่าโฮ้งๆ

  • สามารถบอกชื่อและนามสกุลจริงได้แล้ว ถ้าคุณแม่เคยสอนให้เขาพูดและสามารถบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในหนังสือได้

  • สามารถทำตามคำสั่ง 3 คำสั่งที่ต้องแสดงท่าทางต่างๆ กันได้ เช่น ช่วยเอาหมอนไปเก็บ แล้วหยิบหนังสือเล่มนั้นมาให้แม่ เป็นต้น

  • พูดมากขึ้นเวลาเล่น และชอบที่จะให้คนอื่นฟังตัวเองพูดมากกว่าจะฟังจากคนอื่น

ด้านอารมณ์และสังคม

  • ลูกวัยนี้ยังเอาแต่ใจ  ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุให้ลูกแสดงอารมณ์แรงขึ้น บางครั้งปล่อยวางบ้างในสิ่งที่พอจะยืดหยุ่นกันได้ ก็จะช่วยให้สถานการณ์ประเภทอาละวาดลั่นบ้านเบาบางลงไปบ้าง

  • ปฏิเสธการกิน  บางคนอาจถือเอานิสัยนี้เป็นลักษณะเฉพาะตัวไปเลย คุณแม่อาจปล่อยให้ลูกไม่กินอาหารบางมื้อบ้างได้  เพราะโดยธรรมชาติเมื่อหิวก็จะมาขอกินเอง

  • สามารถช่วยเหลือตัวเองได้มากขึ้น เช่น สามารถถอดเสื้อผ้าได้เอง เรียกว่าหมดทุกชิ้น แต่การใส่เสื้อผ้าเองนั้นยังคงต้องใช้เวลาฝึกฝน

     นอกจากคุณแม่จะเปิดโอกาสให้ลูกช่วยเหลือตัวเองแล้ว ยังสามารถใช้ช่วงเวลานี้สอนระเบียบวินัยในการหยิบเก็บเสื้อผ้าหรือของเล่นให้เรียบร้อยได้ เพื่อพัฒนาการที่รุดหน้าของลูกค่ะ