กินเพื่อบำรุงคุณแม่และลูกในท้อง

     ในสัปดาห์ที่  12  เป็นต้นไป อาการแพ้ท้องจะลดลง หลังจากนี้คุณแม่จะหิวบ่อย เพราะอัตราการเผาผลาญพลังงานในร่างกายคุณแม่จะมากกว่าปกติ ตอนนี้คุณแม่ไม่ได้ตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนแล้ว แต่มีอีกหนึ่งชีวิตเติบโตอยู่ในครรภ์ อาหารแต่ละมื้อจึงไม่ใช่สำหรับคุณแม่คนเดียว แต่รวมไปถึงลูกน้อยในครรภ์ด้วย  คุณแม่กินอะไร ลูกก็จะกินอย่างนั้นไปด้วย

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

     สารอาหารที่ลูกได้รับจากคุณแม่ สำคัญอย่างยิ่งต่อการเจริญเติบโตของเขา คุณแม่ตั้งครรภ์ต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นกว่าช่วงที่ไม่ตั้งครรภ์อีก 500 แคลอรีต่อวัน  แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณแม่ต้องกินมากขึ้นเป็นสองเท่า  แต่ให้กินโดยเน้นความครบถ้วนทางโภชนาการหรือคุณภาพของอาหาร  เพื่อช่วยในการเติบโตทางร่างกายและสมองของลูก โดยควรคำนึงถึงสิ่งต่อไปนี้

  • อาหารสดใหม่  คุณแม่ตั้งครรภ์ควรรับประทานอาหารธรรมชาติ หรือที่ใกล้เคียงธรรมชาติให้มากที่สุด คือเป็นอาหารสดใหม่ ผ่านขั้นตอนการปรุงน้อย เพื่อคงคุณค่าอาหารไว้ให้มากที่สุด  และหากไม่มีทางเลือกอาหารแช่แข็งก็พอใช้ได้  แต่ควรหลีกเลี่ยงอาหารซอง อาหารบรรจุกระป๋อง

  •  กินมื้อเล็กแต่มากมื้อ   แต่ละมื้อแม่ตั้งครรภ์มักจะกินไม่ได้มากเท่ายามปกติ เพราะลำไส้ทำงานช้าลง และกระเพาะถูกเบียดให้มีพื้นที่น้อยลง แทนที่จะกินมื้อใหญ่ 2-3 มื้อเหมือนตอนไม่ตั้งครรภ์  ก็ควรแบ่งอาหารออกเป็นมื้อย่อยๆ วันละ 5-6 มื้อแทน

  •  ครบคุณค่า  ควรเน้นเพิ่มอาหารประเภทโปรตีนมากขึ้น เพราะแทบทุกส่วนของร่างกายลูกสร้างขึ้นมาจากโปรตีน และรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลง เพราะคาร์โบไฮเดรตไม่ได้ใช้ในการสร้างอวัยวะใดๆของลูก  หากกินมากก็จะตกค้างอยู่ที่แม่ ทำให้แม่อ้วนมากขึ้น   อีกทั้งต้องไม่ลืมที่จะเลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ ให้เพียงพอ โดยเฉพาะผักผลไม้ ที่นอกจากให้วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆแล้ว ยังมีกากใยช่วยการทำงานของระบบขับถ่ายด้วย