จากทารกน้อยที่คุณแม่ต้องคอยอุ้ม วันนี้ลูกน้อยในวัยสองขวบเต็มเคลื่อนไหวร่างกายได้ว่องไว ใช้มือคล่อง มองเห็นชัด ฟังถนัด และชอบหัดพูด  ตอนนี้ลูกช่วยเหลือตัวเองได้หลายอย่างแล้ว...มาดูพัฒนาการแต่ละด้านของลูกน้อยเดือนนี้กันค่ะ 

ด้านสติปัญญาและการเรียนรู้

  • ลูกชอบนั่งดูคนอื่นทำงาน  แม้จะยังเข้าไปมีส่วนร่วมไม่ได้ แต่ก็ยังอยากเห็น อยากพูด และจดจำเอาไว้

  • มีความจำและการใช้ภาษาได้ดี จึงชอบเล่นสมมุติโดยใช้จินตนาการถึงสถานการณ์ต่าง ๆ ขึ้นมา อาจแสดงเป็นคนอื่นหรือใช้สิ่งของบางอย่างเพื่อเล่นเลียนแบบของจริงของผู้ใหญ่ เช่น เครื่องครัว เด็กเล่น บ้านตุ๊กตา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเห็นในชีวิตประจำวัน

  •  ชอบเลียนแบบผู้ใหญ่ เช่น มักหยิบรองเท้าผู้ใหญ่มาใส่และเดินโชว์ไปทั่วบ้าน

ด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว

  • สนุกกับการใช้กล้ามเนื้อใหญ่ แข้ง ขา ลำตัว ในการวิ่งกระโดด ปีนป่าย   ยิ่งลูกใช้กล้ามเนื้อเหล่านี้ได้มากเท่าไหร่ โลกของเขาก็จะกว้างมากขึ้นเท่านั้น เพราะเขาสามารถออกไปในที่ต่าง ๆ ได้มากขึ้น เช่น ออกไปวิ่งเล่น ปีนป่ายในสนามเด็กเล่น  

  • ตอนนี้ลูกจะวิ่ง ลาก ดึง ผลัก ดัน เตะ โยนได้ถนัดและกระฉับกระเฉง

  • ทำกิจกรรมต่างๆ ที่ใช้มือก็ทำได้ดีกว่าก่อน จะร้อยลูกปัดเร็วขึ้นและพับกระดาษชิ้นเล็กๆ ได้

  • เวลาเดินจะมองไปรอบๆ และหลบหลีกสิ่งกีดขวางได้ กำลังขาแข็งแรงดีจึงไม่ค่อยล้มแล้ว

  • เดินด้วยปลายเท้าได้  2-3 ก้าว เดินถอยหลังได้ประมาณ 10 ก้าว และมักร้องขอให้ผู้ใหญ่ช่วยอุ้มหรือจับมือข้างหนึ่งไว้แล้วพาไปเดินบนกำแพงเตี้ยๆ

  • ช่วงนี้การถนัดมือซ้ายหรือมือขวา เริ่มปรากฏให้เห็น

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

ด้านภาษาและการสื่อสาร

  • พูดได้ตรงความหมายและชัดเจนน่าฟังมากขึ้น

  • ลูกชอบฟังเสียงตัวเอง จะเลียนเสียงสูงต่ำของผู้ใหญ่ พูดคุยกับตัวเองและพูดคำซ้ำๆ กัน

  • ลูกยังอยากรู้ชื่อสิ่งของทุกอย่างที่เห็น พยายามพูดให้สอดคล้องกับสิ่งที่ตัวเองทำ แยกความต่างของคำว่า “อันเดียว” และ “หลายๆ อัน” ได้ ชี้อวัยวะต่างๆ ได้ถูกต้อง ชี้รูปสัตว์แล้วบอกชื่อได้ แถมเลียนเสียงร้องของมันได้ด้วย

  • กระตือรือร้นที่จะฝึกฟังเสียงต่างๆ คุณแม่อาจเปิดเทปเพลงแล้วสอนลูกว่าจังหวะเร็วช้าเป็นอย่างไร ให้ลูกตบมือตามจังหวะ หรือถ้ามีเนื้อร้องก็ลองให้ลูกทำท่าทำทางตาม แล้วลองดูว่าลูกจะทำตามเนื้อร้องได้แค่ไหน  ควรเปิดให้ลูกฟังบ่อยๆ

ด้านอารมณ์และสังคม

  • ลูกจะรู้สึกกังวล ไม่มีความสุข เมื่อต้องห่างจากแม่  และเมื่อแม่กลับมาก็จะ “ติด” แม่มาก เพื่อชดเชยความรู้สึกที่เสียไป ซึ่งหากคุณแม่ให้ลูกอยู่กับคนที่ลูกรู้จัก คุ้นเคยและสนิทสนม เช่น คุณพ่อ หรือคุณย่าคุณยาย ตอนที่คุณแม่ไม่อยู่ ลูกก็จะไม่มีปัญหานี้

  • เด็กวัยนี้จะแสดงความรู้สึกภายในออกมาให้ผู้ใหญ่เห็นตรงๆ เช่น แสดงความก้าวร้าว ความโกรธ ความต้องการ ความพอใจ ความไม่พอใจ รวมทั้งแสดงความรู้สึกและอาการต่างๆ ที่จะทำให้คนอื่นๆ เกิดความพึงพอใจ ให้ความรัก ความใจใส่กลับมาด้วย

  • ชอบเลียนแบบคำสั่งของคุณแม่ โดยเฉพาะเวลาที่มีใครในบ้านทำผิด ลูกจะออกคำสั่งห้ามปรามเหมือนอย่างที่ผู้ใหญ่เคยทำกับตน และจะพอใจเมื่อผู้ใหญ่ยอมรับในสิ่งที่ทำผิด ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีให้เด็กเห็นว่าหากทำผิดก็ต้องถูกดุ ทำผิดแล้วก็ต้องยอมรับผิด เป็นเรื่องปกติธรรมดา

  •  ชอบเล่นสมมุติ  ซึ่งการเล่นสมมุติเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ลูกก้าวออกจากความคิดว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของสรรพสิ่งได้ เพราะเขาเริ่มเอาตัวเองไปแทนที่คนอื่นที่เขาเลียนแบบ

  • หวงของ ไม่ยอมแบ่ง เห็นอะไรในบ้านก็มักจะถือสิทธิ์เป็นของตัวเองหมด คุณแม่อย่าบังคับให้ลูกต้องแบ่งตอนนี้ ไม่อย่างนั้นลูกจะต่อต้านและรู้สึกคับข้องใจมาก ทางที่ดีคือคนในบ้านต้องทำให้เด็กเห็นถึงการให้และแบ่งปันอย่างสม่ำเสมอ เมื่อลูกพร้อมก็จะยอมแบ่งปันให้เอง

     ตลอดสองปีที่ผ่านมา คุณแม่ได้เห็นลูกโตวันโตคืน มีความสามารถมากขึ้น ค่อยๆ พัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง เรียนรู้อย่างกระตือรือร้น ซึ่งเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับพัฒนาการด้านต่างๆ ในวัยต่อๆ ไปค่ะ