วัย 1 ปี 4 เดือน

       เข้าขวบปีที่สองนี้ ลูกแสดงความเป็นตัวเองมากขึ้น พยายามทำอะไรด้วยตัวเอง และปฏิเสธความช่วยเหลือจากคนอื่นมากขึ้น ร่างกายเคลื่อนไหวได้แคล่วคล่องขึ้น ทำให้มีโอกาสเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 มากขึ้น สมองได้ทำงานมากขึ้น ยิ่งถ้าคุณแม่มือใหม่เปิดโอกาสให้ลูกได้ฝึกฝนทักษะต่างๆ มากเท่าใดเขาจะเติบโตเป็นเด็กที่มีศักยภาพรอบด้าน...มาดูพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกน้อยเดือนนี้กันค่ะ 

ฉลาดเรียนรู้

  • พัฒนาการของลูกน้อยวัยนี้มีการเรียนรู้หลายสิ่งหลายอย่างมากขึ้น จากการเฝ้ามอง สังเกต จดจำ และทำเลียนแบบค่ะ ไม่ว่าจะเลียนแบบการเคลื่อนไหว การแสดงท่าทางต่างๆ รวมไปถึงการเปล่งเสียงพูดเป็นคำ เรียกว่า ทำอะไรๆ ได้เกือบเท่าผู้ใหญ่แล้ว เพียงแต่ยังต้องใช้เวลาในการฝึกฝนเรียนรู้เพื่อทำมันให้ดีขึ้นๆ  

  • การเจริญเติบโตทางสติปัญญาของเด็กเกี่ยวพันกับการสนองตอบของผู้คนรอบข้าง มีการศึกษาหลายชิ้นที่ระบุว่าเด็กจะสนใจต่อสิ่งแวดล้อมและอยากเรียนรู้แค่ไหนขึ้นอยู่กับปฏิกิริยาของพ่อแม่ต่อการกระทำของลูก นั่นคือหากพ่อแม่สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้ของลูก สติปัญญาของลูกก็จะได้รับการพัฒนา

  • เด็กเรียนรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5  คุณพ่อคุณแม่มือใหม่จึงสามารถช่วยฝึกประสาทสัมผัสให้ลูกได้ เช่น การนำวัตถุแต่ละแบบมากระทบกันเพื่อให้เกิดเสียงที่แตกต่าง ให้ลูกได้มีโอกาสสูดดมกลิ่นอาหารก่อนกิน ให้ลูกได้สัมผัสวัตถุที่มีพื้นผิวแตกต่างกัน เช่น นุ่มนิ่ม หยาบ สาก แข็ง เป็นต้น ให้ลูกได้มีโอกาสชิมอาหารที่มีรสชาติหลากหลาย โดยเฉพาะผักผลไม้ ที่มีทั้งรสเปรี้ยว รสหวาน รสฝาด และอุดมด้วยวิตามินและเกลือแร่

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

ฉลาดเคลื่อนไหว

  • แม้ว่าลูกวัยนี้จะเดินได้ดีขึ้นแต่ก็ยังไม่ทันใจตนเองเหมือนกัน สังเกตได้จากบางครั้งที่ลูกอาจจะยังใช้วิธีคลานเร็วๆ เพื่อไปหยิบของเล่นที่เขาอยากเล่น หรือคลานหนีบางสิ่งที่ทำให้เขารู้สึกกลัวได้

  • วิญญาณนักสำรวจที่ชอบรื้อ ค้น แกะ เคาะ ชิม ดม เพื่อทำความรู้จักสิ่งต่างๆ ยังคงมีอยู่มาก ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยเอื้อให้เขาได้ฝึกทักษะการใช้มือประสานสายตาได้อย่างดีทีเดียว

  • เกมที่จะช่วยให้คุณแม่ฝึกฝนกล้ามเนื้อทั้งมัดใหญ่มัดเล็กได้ดี เช่น เกมกลิ้งลูกบอล เกมโยนรับลูกบอล เกมคลานข้ามหมอน ...ลองหาเวลาเล่นกับลูกดูสิคะ

  • คุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้เดินเท้าเปล่าบนพื้นผิวที่แตกต่างบ้าง จะช่วยให้ลูกเรียนรู้เรื่องการทรงตัวเดิน และผิวสัมผัสที่แตกต่างกันจะช่วยสร้างประสบการณ์แปลกใหม่ให้สมองได้พัฒนาด้วย

ฉลาดสื่อสาร

  • พัฒนาการด้านภาษาดีขึ้นตามลำดับ  หากที่ผ่านมาคุณแม่หมั่นเพิ่มเติมคำศัพท์ใหม่ๆ ให้กับลูก วันละคำสองคำ พูดซ้ำๆ ให้ลูกฟัง เขาก็จะพูดได้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเปิดหนังสือให้ลูกดูภาพต่างๆ แล้วชี้ชวนให้ลูกดู เรียกชื่อสิ่งนั้นให้ลูกฟัง

  • ลูกสามารถพูดคำที่มีความหมายได้ประมาณ 6-7 คำ และสามารถเชื่อมคำสองคำเข้าด้วยกันได้แล้ว เช่น แม่มา กินน้ำ  ไม่กิน  ฯลฯ       

ฉลาดด้านอารมณ์

  • ลูกวัยนี้จะยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง อยากตัดสินใจและทำทุกสิ่งอย่างด้วยตัวเอง หาก คุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่านี้เป็นขั้นหนึ่งของพัฒนาการที่ต้องก้าวผ่านไปสู่การก่อรูปตัวตนของเขาก็จะไม่คิดว่าลูกกำลัง “ดื้อรั้น”  ขอเพียงแค่เปิดโอกาสให้ลูกได้ลองทำอะไรๆ ที่ไม่อันตรายด้วยตัวเอง ห้ามลูกให้น้อยลง เขาก็จะก่อรูปตัวตนได้เร็วขึ้น

  • ลูกจะค่อยๆ พัฒนาบุคลิกภาพของตัวเองขึ้นมาทีละน้อย ซึ่งหากที่ผ่านมาเขาได้รับความรักและการสนองตอบที่ดีก็จะมีบุคลิกที่มั่นคง มั่นใจ และเห็นคุณค่าในตัวเอง แต่ถ้าที่ผ่านมา เขาถูกละทิ้งให้อยู่โดยไม่มีใครคอยกอด พูดคุย หรือเล่นด้วย เขาจะเป็นเด็กที่ขาดความเชื่อมั่นและมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อตัวเองได้  

       ลูกวัยนี้ทำอะไรๆ ได้เกือบเท่าผู้ใหญ่แล้ว ขอเพียงเวลาให้เขาได้ฝึกฝนและเรียนรู้อย่างต่อเนื่องเท่านั้น แล้วพัฒนาการ 360° อัจฉริยะรอบด้านของลูกก็จะเกิดขึ้นค่ะ