“ชื่อลูก” คือหนึ่งในสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมพร้อมล่วงหน้า เพราะชื่อที่คุณพ่อคุณแม่เลือกให้นี้จะเป็นชื่อที่ติดตัวลูกรักของเราไปตลอด นอกจากจะใช้เป็นชื่อเรียกแทนตัวบุคคลที่เรารักแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความรักที่คุณพ่อคุณแม่มีให้กับลูกสุดที่รักอีกด้วย

การตั้งชื่อให้ลูกจึงต้องให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ตั้งชื่อทั้งทีก็อยากให้ลูกได้รับชื่อที่ดี ทั้งดีต่อความรู้สึก และดีต่อชีวิตของลูกด้วย วันนี้เราจึงมีเทคนิคการตั้งชื่อลูก ด้วยเทคนิค วิเคราะห์ชื่อ แบบง่าย ๆ มาให้ทุกคนได้ลองทำตามกันดูค่ะ

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

ตั้งชื่อลูก ด้วยเทคนิค วิเคราะห์ชื่อ

 

กฎหมายข้อบังคับเกี่ยวกับการตั้งชื่อ

ก่อนที่จะตั้งชื่อลูก เรามาดูกฎหมายการตั้งชื่อตามพระราชบัญญัติชื่อบุคคล พ.ศ. 2505 กันสักนิด เพื่อที่จะได้วางแผนการตั้งชื่อได้ง่ายขึ้น และหลีกเลี่ยงข้อห้ามตามที่กฎหมายกำหนด

  • ชื่อต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามของพระราชินี หรือราชทินนาม
  • ไม่เป็นคำหยาบหรือมีความหมายหยาบคาย
  • ต้องไม่มีเจตนาในทางทุจริต
  • ผู้ได้รับหรือเคยได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ แต่ออกจากบรรดาศักดิ์นั้นโดยมิได้ถูกถอน จะใช้ราชทินนามตามบรรดาศักดิ์เป็นชื่อตัวหรือชื่อรองก็ได้

รู้อย่างนี้แล้ว คราวนี้เรามาดูเทคนิคการตั้งชื่อให้เป็น ชื่อมงคล ดีต่อลูกและดีต่อใจกันบ้าง

เทคนิคการตั้งชื่อให้เป็นมงคลสำหรับลูก

ถึงเวลาที่เราจะเลือกชื่อเหมาะ ๆ ให้ลูกน้อยของเราแล้ว การตั้งชื่อให้ลูกนั้นไม่มีข้อบังคับหรือหลักการที่ตายตัว ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของคุณพ่อคุณแม่ผู้ปกครองเป็นหลัก โดยส่วนใหญ่คุณพ่อคุณแม่มักจะใช้เทคนิคดังต่อไปนี้

  1. อ่านออกเสียงแล้วฟังดูไพเราะ

    แน่นอนอยู่แล้วว่าลูกของเราจะต้องได้รับชื่อที่เพราะที่สุด ถูกใจคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่ที่เคารพรักที่สุดอย่างแน่นอน หากเราเจอชื่อไหนที่ฟังแล้วไพเราะเสนาะหู อ่านออกเสียงแล้วฟังเพราะ ได้ยินทีไรก็รู้สึกชอบ นึกถึงเมื่อไหร่ก็มีความสุข รีบจดชื่อนี้ลงรายการชื่อในดวงใจเอาไว้เลยค่ะ

  2. นำตัวอักษรหรือสระในชื่อของคุณพ่อละคุณแม่มารวมกัน

    แน่นอนอยู่แล้วว่าลูกของเราจะต้องได้รับชื่อที่เพราะที่สุด ถูกใจคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ใหญ่ที่เคารพรักที่สุดอย่างแน่นอน หากเราเจอชื่อไหนที่ฟังแล้วไพเราะเสนาะหู อ่านออกเสียงแล้วฟังเพราะ ได้ยินทีไรก็รู้สึกชอบ นึกถึงเมื่อไหร่ก็มีความสุข รีบจดชื่อนี้ลงรายการชื่อในดวงใจเอาไว้เลยค่ะ

  3. ลือกชื่อตามความหมาย

    ลูกคือแก้วตาดวงใจของเรา ชื่อของลูกจึงควรเป็นชื่อที่มีความหมายดี ให้ความหมายที่ลึกซึ้งกินใจ โดยเราสามารถเลือกได้ว่าต้องการให้มีความหมายที่ดีในด้านใด เช่น วาสนา สติปัญญา รูปลักษณ์ ความเฉลียวฉลาด ยศถาบรรดาศักดิ์ เป็นต้น

  4. ตั้งชื่อตามวันเกิด

    วิธีเลือกชื่อให้ลูกที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือการเลือกชื่อตามวันเกิดของลูก เพราะตามความเชื่อทางโหราศาสตร์ เชื่อว่าวันและเวลาที่เกิด หรือ “วันเวลาตกฟาก” นั้นสามารถบ่งบอกดวงชะตาของเราได้ การเลือกชื่อให้เหมาะกับวันเกิดจึงส่งผลดีต่อชีวิตของลูกด้วยเช่นกัน โดยการนับเวลาเกิดแบบโหราศาสตร์ไทย จะเริ่มนับตั้งแต่เวลา6.00 – 5.59 น. เป็นวันเดียวกัน ดังนั้นจึงสามารถเรียงลำดับวันและเวลาเกิดได้ตามนี้

    • เกิดวันอาทิตย์ เวลา (6 โมงเช้า) – เช้าวันจันทร์เวลา 5.59 (ตี 5 59นาที) นับเป็นวันอาทิตย์
    • เกิดวันจันทร์ เวลา 6.00 (6 โมงเช้า) – เช้าวันอังคาร เวลา 5.59 (ตี 5 59นาที) นับเป็นวันจันทร์
    • เกิดวันอังคาร เวลา 6.00 (6 โมงเช้า) – เช้าวันพุธ เวลา 5.59 (ตี 5 59นาที) นับเป็นอังคาร
    • เกิดวันพุธ เวลา 6.00 (6 โมงเช้า) – เย็นวันพุธเวลา 17.59 (5โมง59นาที) นับเป็นพุธกลางวัน
    • เกิดวันพุธ เวลา 18.00 (6 โมงเย็น) – เช้าวันพฤหัส เวลา 5.59 (ตี 5 59นาที) นับเป็นพุธกลางคืน
    • เกิดวันพฤหัส เวลา 6.00 (6 โมงเช้า) – เช้าวันศุกร์เวลา 5.59 (ตี 5 59นาที) นับเป็นวันพฤหัส
    • เกิดวันศุกร์ เวลา 6.00 (6 โมงเช้า) – เช้าวันเสาร์เวลา 5.59 (ตี 5 59นาที) นับเป็นวันศุกร์
    • เกิดวันเสาร์ เวลา 6.00 (6 โมงเช้า) – เช้าวันอาทิตย์เวลา 5.59 (ตี 5 59นาที) นับเป็นวันเสาร์

    เมื่อทราบวันและเวลาเกิดแบบโหราศาสตร์ไทยแล้ว ก็ถึงเวลาเลือกชื่อที่เหมาะกับลูก โดยการเลือกชื่อที่ไม่มีตัวอักษรและสระต้องห้าม หรือเป็นกาลกิณี ได้แก่

    • ชื่อของคนที่เกิดวันอาทิตย์ ไม่ควรมีตัวอักษร   ศ ษ ส ห ฬ อ ฮ
    • ชื่อของคนที่เกิดวันจันทร์ ไม่ควรมีสระ ได้แก่ สระ   อะ อา อิ อี อึ อือ อุ อู เอ แอ โอ ไอ ใอ ไม้หันอากาศ และ ตัวการันต์
    • ชื่อของคนที่เกิดวันอังคาร ไม่ควรมีตัวอักษร   ก ข ค ฆ ง
    • ชื่อของคนที่เกิดวันพุธกลางวัน ไม่ควรมีตัวอักษร   จ ฉ ช ซ ฌ ญ
    • ชื่อของคนที่เกิดวันพุธกลางคืน ไม่ควรมีตัวอักษร   บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม
    • ชื่อของคนที่เกิดวันพฤหัสบดี ไม่ควรมีตัวอักษร   ด ต ถ ท ธ น
    • ชื่อของคนที่เกิดวันศุกร์ ไม่ควรมีตัวอักษร   ย ร ล ว ฤ
    • ชื่อของคนที่เกิดวันเสาร์ไม่ควรมีตัวอักษร   ฏ ฎ ฐ ฑ ฒ ณ

  5. การคำนวณผลรวมเลขศาสตร์

    ทำได้โดยการนำตัวอักษรและสระในชื่อมาแทนค่าด้วยตัวเลข แล้วนำตัวเลขที่ได้มาบวกรวมกันเป็นผลรวมเลขศาสตร์ แล้วจึงนำผลรวมที่ได้ไปเทียบดูว่าเป็นผลรวมที่ดีหรือไม่ โดยเราสามารถแทนค่าตัวอักษรและสระในชื่อของเราตามตารางด้านล่างนี้

    • เลข 1 ประกอบด้วย   ก ด ถ ท ภ สระอา สระอำ ฤ ฤา ไม้เอก
    • เลข 2 ประกอบด้วย   ข ช ง บ ป สระเอ สระแอ ไม้โท สระอู
    • เลข 3 ประกอบด้วย   ฆ ต ฑ ฒ ไม้จัตวา
    • เลข 4 ประกอบด้วย   ค ธ ญ ร ษ สระอะ สระโอ ไม้หันอากาศ สระอิ
    • เลข 5 ประกอบด้วย   ฉ ฌ ณ น ม ห ฎ ฮ ฬ สระอึ
    • เลข 6 ประกอบด้วย   จ ล ว อ ไม้ม้วน
    • เลข 7 ประกอบด้วย   ซ ศ ส สระอี  สระอือ  ไม้ตรี
    • เลข 8 ประกอบด้วย   ผ ฝ พ ฟ ย ไม้ไต่คู้
    • เลข 9 ประกอบด้วย   ฎ ฐ ไอ การันต์

    วิธีการหาผลรวมเลขศาสตร์ ยกตัวอย่างชื่อ “สมชาย” ประกอบด้วย ส + ม + ช + สระอา + ย = 7 + 5  +  2  + 1 + 8 = 23 นี่คือผลรวมของชื่อ “สมชาย” เมื่อได้ผลรวมแล้วจึงนำผลรวมนี้ไปเปรียบเทียบดูว่าได้ผลรวมที่ดีหรือไม่
    โดยผลรวมเลขศาสตร์ที่ดี ได้แก่   2, 4, 5, 6, 9, 14, 15, 16, 19, 24, 26, 36, 41, 42, 45, 46, 51, 55, 56, 59, 61, 62, 63, 64, 65, 68, 69, 78, 86, 89, 95, 96, 98, 99

เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้ทำความเข้าใจกับหลักการ วิเคราะห์ชื่อ เรียบร้อยแล้ว ก็สามารถนำไปปรับใช้ในการตั้งชื่อให้ลูกรัก เพื่อที่ลูกของเราจะได้มีชื่อที่ดีต่อใจ ดีต่อชีวิตไปพร้อมกันค่ะ

ลองมาดูชื่อความหมายดีอื่นๆ ได้ที่แอพลิเคชั่นของเรา ที่นี่

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Enfa Smart Club วันนี้ เราพร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลพัฒนาการและโภชนาการลูกน้อยจากผู้เชี่ยวชาญ  พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย ไม่ว่าจะเป็นส่วนลด โปรโมชั่นดีๆ เฉพาะสมาชิกเท่านั้น

 

References