นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

วัยเด็กคือช่วงไหน? พร้อมเจาะลึกพัฒนาการเด็กแต่ละช่วงวัย

Enfa สรุปให้

  • วัยเด็ก คือ ช่วงวัยของผู้ที่มีอายุยังไม่เกิน 18 ปี หรือยังไม่บรรลุนิติภาวะ จะถือว่ายังเป็นเด็ก ซึ่งจำเป็นต้องได้รับการดูแล อบรม เลี้ยงดูอย่างเหมาะสม ตลอดจนได้รับสิทธิอย่างเท่าเทียมกับผู้ใหญ่
  • พัฒนาการเด็กแต่ละช่วงวัย จะแตกต่างกันไปตามอายุที่มากขึ้นและร่างกายที่เจริญเติบโตมากขึ้น ซึ่งพัฒนาการของเด็กจะค่อย ๆ เด่นชัดมากขึ้นไปตามวัย
  • วัยเด็กตอนต้น หมายถึง เด็กอายุระหว่าง 2-6 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยอนุบาล ก่อนจะเข้าสู่วัยเด็กตอนกลางในระดับประถมศึกษา และวัยเด็กตอนปลายในระดับมัธยมศึกษา

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

วัยเด็ก แน่นอนว่าสำหรับคุณพ่อคุณแม่หลายคน พวกเราอาจจะผ่านพ้นช่วงเวลาเหล่านั้นมาหลายสิบปีแล้ว แต่นึกหวนคืนไปเมื่อไหร่ก็ยังได้พบกับความสุขและความทรงจำดี ๆ มากมายที่เคยเกิดขึ้นเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเราได้กลายมาเป็นพ่อแม่คนแล้ว เราก็กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่จะต้องอบรมและเลี้ยงดูลูกน้อยให้มีวัยเด็กที่สมบูรณ์ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และมีพัฒนาการที่สมวัย บทความนี้จาก Enfa มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับวัยเด็กและการเสริมพัฒนาการเด็กแต่ละช่วงวัยมาฝากค่ะ

 

วัยเด็ก คืออะไร

วัยเด็ก คือ ช่วงวัยของเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ซึ่งคำว่า “เด็ก”ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 จะหมายความว่า บุคคลซึ่งมีอายุต่ำกว่าสิบแปดปีบริบุูรณ์ แต่ไม่รวมถึงผู้ที่บรรลุนิภาวะด้วยการสมรส

ดังนั้น ผู้ที่มีอายุยังไม่เกิน 18 ปี ก็จะยังถือว่าเป็นวัยเด็กอยู่นั่นเองค่ะ แต่ถึงแม้จะยังเป็นเด็ก เด็กทุกคนก็มีสิทธิที่จะต้องได้รับการเลี้ยงดู อบรม ดูแล การศึกษา การรักษาพยาบาล และสิทธิอื่น ๆ อย่างเท่าเทียมเช่นเดียวกันกับผู้ใหญ่ และการละเมิดสิทธิเด็กไม่ว่าในทางใดก็ตาม จะต้องได้รับโทษตามที่กฎหมายได้กำหนดเอาไว้

 

พัฒนาการเด็กแต่ละช่วงวัย

พัฒนาการแต่ละช่วงวัยของเด็กนั้นมีความแตกต่างกันไปอย่างชัดเจน เมื่ออายุมากขึ้น พัฒนาการต่าง ๆ ก็จะก้าวกระโดดและมีศักยภาพด้านต่าง ๆ มากขึ้นตามอายุและร่างกายที่เจริญเติบโตสมวัย ดังนี้

วัยเด็กตอนต้น
วัยเด็กตอนต้น คือ เด็กที่มีอายุระหว่าง 2-6 ปี ซึ่งเด็กในวัยนี้ก็จะอยู่ในช่วงวัยเตรียมอนุบาลและวัยอนุบาลนั่นเองค่ะ โดยพัฒนาการทั่วไปสำหรับช่วงวัยเด็กตอนต้น จะมีดังนี้

พัฒนาการเด็ก 2-3 ปี
สำหรับเด็กเล็กวัย 2-3 ปีนั้น เป็นช่วงเวลาที่กำลังพัฒนาอารมณ์และความรู้สึก เด็กวัยนี้เริ่มเรียนรู้ที่จะเข้าใจความรู้สึกตนเองและผู้อื่น รู้จักที่จะแสดงความโกรธหรือความผิดหวัง ในบางครั้งจึงอาจแสดงอารมณ์ฉุนเฉียวบ่อย ขณะเดียวกันก็เริ่มเข้าใจผลกระทบจากพฤติกรรมของตัวเองและผู้อื่น เช่น รับรู้ว่าผู้อื่นกำลังดีใจ เสียใจ ร้องไห้ 

ในด้านภาษา เด็กวัย 2 ปี เพิ่งจะเริ่มพูดเป็นประโยคสั้น ๆ ที่ยังไม่มีความซับซ้อนมากนัก เช่น หิวข้าว ไปไหน ร้อน ไม่สวย เป็นต้น แต่เมื่ออายุ 3 ปี ก็จะพูดได้คล่องขึ้น เริ่มมีบทสนทนาที่ยาวขึ้น และเล่าเรื่องง่าย ๆ ในชีวิตประจำวันได้

ขณะเดียวกัน เด็กในวัยนี้ก็จะชอบการเลียนแบบและบทบาทสมมุติด้วย สามารถจดจำคำพูด ท่าทาง และการแสดงออกที่พบเห็นจากพ่อแม่ คนใกล้ชิด หรือในโทรทัศน์ได้ จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคุณพ่อคุณแม่ต้องระมัดระวังคำพูดต่อหน้าเด็กเล็ก เพราะเด็กวัยนี้พร้อมจะเลียนแบบและจดจำไปใช้ทันที ซึ่งเด็กวัย 2-3 ปีก็ยังเล็กเกินกว่าจะเข้าใจได้ว่าทำไมคำพูดแบบนี้ถึงยังไม่เหมาะสม

ในส่วนของพัฒนาการด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว เด็กวัย 2-3 ปี สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้อย่างคล่องแคล่ว วิ่งได้เร็วขึ้น ปีนป่ายได้โดยไม่ต้องคอยช่วยพยุง ทั้งยังสามารถทำกิจวัตรประจำวันบางอย่างด้วยตนเองได้แล้ว เช่น ล้างมือเอง สวมเสื้อผ้าได้เอง เริ่มกิน้ขาวเองได้ เป็นต้น

พัฒนาการเด็ก 3-4 ปี
เด็กวัย 3-4 ปี ถือว่าเป็นช่วง "วัยซนคนมหัศจรรย์" ค่ะ เพราะลูกวัยนี้จะเต็มไปด้วยจินตนาการและพลังงานที่พร้อมจะสงสัย ตั้งคำถาม และทดลองทำสิ่งต่าง ๆ อย่างไม่หยุดยั้งกันเลยทีเดียว

คุณพ่อคุณแม่อาจจะได้ยินคำถามที่ขึ้นต้นด้วยคำว่า “ทำไม” วันละหลายรอบ ซึ่งนั่นเป็นพัฒนาการที่สำคัญมากของเด็กในวัยนี้ เพราะเด็ก ๆ เริ่มเรียนรู้ได้มากขึ้น เข้าใจกฎกติกาที่มีความซับซ้อนเล็กน้อยได้ และยังสามารถสื่อสารเรื่องต่าง ๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย

สำหรับพัฒนาการด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว เด็กวัยนี้สามารถเดินขึ้น-ลงบันไดสลับเท้าได้ เตะและจับลูกบอล วิ่งขี่จักรยานสามล้อ และยืนขาเดียวได้นานถึง 5 วินาที ซึ่งทำให้เด็ก ๆ มีพลังงานพร้อมที่จะทำกิจกรรมสุดสนุกได้ทั้งวันอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ขณะที่พัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม เด็ก ๆ เริ่มที่จะเข้าใจความรู้สึกที่หลากหลายได้มากขึ้น เช่น เศร้า โกรธ หรือดีใจ โดยสามารถรับรู้และคาดเดาสาเหตุของอารมณ์นั้น ๆ ได้ มากไปกว่านั้น ยังมีพฤติกรรมเลียนแบบผู้ปกครอง เพื่อน ๆ และคุณครูมากขึ้นด้วย

เด็กวัยนี้สามารถที่จะตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองได้ เช่น เกมที่อยากเล่น เสื้อผ้าที่อยากใส่ อาหารที่ชอบ เพื่อนที่สนิท เพื่อนที่ไม่ชอบ เป็นต้น

พัฒนาการเด็ก 4-6 ปี
พัฒนาการที่สำคัญของเด็กในวัยนี้ที่จะปรากฎให้เห็นได้อย่างชัดเจน มีดังนี้

1.พัฒนาการด้านอารมณ์และสังคม
เด็กในวัยนี้มักเพลิดเพลินกับการเล่นเป็นกลุ่มเล็ก ๆ ร่วมกับเพื่อนวัยเดียวกัน และมีความสามารถในการทำกิจกรรมกับเพื่อนได้อย่างราบรื่น ซึ่งนั่นก็รวมไปถึงการเริ่มแสดงออกถึงความเป็นเจ้าของในสิ่งของหรือความสัมพันธ์มากขึ้นเริ่มแยกแยะความสัมพันธ์กับคนรอบข้างได้ชัดเจนขึ้น เช่น แยกว่าคนไหนคือเพื่อนสนิท คนไหนไม่สนิท หรือคนไหนที่ไม่ชอบ 

นอกจากนี้ เด็ก ๆ ยังเริ่มตระหนักถึงผลกระทบจากคำพูดและการกระทำต่อความรู้สึกของตนเอง เริ่มเรียนรู้และเข้าใจว่าพฤติกรรมแบบใดที่ทำให้รู้สึกมีความสุข และแบบใดที่ทำให้รู้สึกไม่สบายใจ

2.พัฒนาการด้านร่างกายและการเคลื่อนไหว
เด็กวัยนี้เริ่มสนุกกับการเคลื่อนไหวที่หลากหลายมากขึ้น เพราะสามารถที่จะเดิน วิ่ง ปีน ป่าย ได้อย่างคล่องแคล่ว เด็กบางคนเริ่มที่จะสนุกกับการเรียนว่ายน้ำและว่ายน้ำเป็นตั้งแต่อายุ 4-6 ปี เพราะพัฒนาการร่างกายที่คล่องตัวมากขึ้น จึงเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ สามารถทำกิจกรรมที่หลากหลาย เช่น ฟุตบอล บาสเก็ตบอล วิ่ง ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน เป็นต้น

3.สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
เด็กวัยนี้ถือว่าโตมากพอที่จะทำกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ ด้วยตัวเองได้เป็นอย่างดี โดยที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องมาคอยกำกับดูแลตลอดเวลา สามารถอาบน้ำด้วยตัวเองได้อย่างสะอาด ไปตัดผมได้โดยไม่ร้องไห้ กินข้าวเองได้ ทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ เองได้ ถือเป็นช่วงวัยที่สำคัญในการที่คุณพ่อคุณแม่จะเริ่มปลูกฝังเรื่องของการมีวินัยให้กับเด็ก ๆ ในวัยนี้ค่ะ

4.พัฒนาการด้านภาษาและการสื่อสาร
เด็กวัยนี้สามารถเข้าใจเรื่องที่มีความลึกซึ้งและซับซ้อนมากขึ้นได้ สามารถพูดจาและเรียบเรียงเรื่องราวต่าง ๆ ที่มีรายละเอียดมากขึ้นได้ เข้าใจกติกาและกฎเกณฑ์ที่ยากขึ้นได้ ตลอดจนการมีคำศัพท์และคำแสลงเฉพาะกลุ่มของตัวเองอีกด้วย เด็ก ๆ หลายคนก็สามารถที่จะสื่อสารด้วยภาษาที่ 2-3 ได้อย่างคล่องแคล่วด้วยเช่นกัน

 

วัยเด็กตอนกลาง

วัยเด็กตอนกลาง คือ เด็กที่มีอายุระหว่าง 6-12 ปีขึ้นไป ซึ่งก็จะอยู่ในช่วงวัยเรียนในระดับชั้นประถมศึกษา โดยเด็กในวัยนี้ก็จะมีพัฒนาการสำคัญ ๆ ด้านต่าง ๆ ดังนี้

พัฒนาการสำคัญ ๆ ของเด็กอายุ 6-7 ปี เช่น

  • รู้จักเวลากลางวันและกลางคืน
  • สามารถแยกแยะระหว่างมือขวาและมือซ้ายได้
  • สามารถคัดลอกรูปทรงที่ซับซ้อน เช่น เพชร สี่เหลี่ยมคางหมู สี่เหลี่ยมจัตุรัส แปดเหลี่ยม
  • สามารถบอกเวลาได้
  • สามารถเข้าใจคำสั่งที่มีคำสั่งแยกกัน 2-3 คำสั่งได้
  • สามารถอธิบายอุปกรณ์และวิธีการใช้งานของอุปกรณ์นั้น ๆ ได้
  • สามารถท่องเลขสามตัวย้อนหลังได้
  • สามารถอ่านหนังสือและ/หรือสื่อที่เหมาะสมกับวัยได้
  • สามารถทำโจทย์ทำคณิตศาสตร์ง่าย ๆ ได้ เช่น การบวกและลบ

พัฒนาการสำคัญ ๆ ของเด็กอายุ 8-9 ปี เช่น 

  • สามารถนับย้อนหลังได้
  • รู้วันที่
  • อ่านเพิ่มเติมและสนุกกับการอ่าน
  • เข้าใจเศษส่วน
  • เข้าใจแนวคิดเรื่องพื้นที่
  • วาดรูปและระบายสี
  • สามารถตั้งชื่อเดือนและวันในสัปดาห์ตามลำดับได้
  • ชอบสะสมวัตถุ

พัฒนาการสำคัญ ๆ ของเด็กอายุ 10-12 ปี เช่น

  • จดบันทึกและเขียนเรื่องราวต่าง ๆ ด้วยภาษาและสำนวนที่สละสลวย
  • สามารถเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ได้อย่างละเอียด มีการใส่อารมณ์และความรู้สึกร่วมไปกับเรื่องที่เล่า
  • อ่านหนังสือเก่ง สามารถอ่านเรื่องราวต่าง ๆ ที่หลากหลายและสนใจได้ดี
  • ชอบคุยโทรศัพท์หรือส่งข้อความ
  • มีความสนใจในเรื่องของเทคโนโลยี

 

วัยเด็กตอนปลาย

วัยเด็กตอนปลาย คือ เด็กที่มีอายุระหว่าง 13-18 ปี ซึ่งก็คือเด็กวัยรุ่นที่กำลังศึกษาในระดับชั้นมัธยมศึกษานั่นเอง โดยเด็กในวัยนี้ก็จะมีพัฒนาการแห่งวัยที่สำคัญ ๆ ดังนี้

  • เริ่มสนใจตัวเองมากขึ้น ดูแลตัวเองมากขึ้น มีความมั่นใจในตัวเอง
  • มีความสนอกสนใจในเรื่องของเพศสภาพ และความต้องการทางเพศ
  • ร่างกายเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ตัวสูงขึ้น น้ำหนักตัวมากขึ้น เริ่มมีขนขึ้นตามทอวัยวะเพศ อวัยวะเพศขยาย หน้าอกขยาย เสียงแตก เป็นต้น
  • เริ่มรู้ความถนัดของตนเอง และพยายามที่จะฝึกฝนทักษะที่มีให้ดีมากยิ่งขึ้น
  • มีความเป็นตัวของตัวเองสูง และจะต่อต้านเมื่อถูกบังคับให้ทำในสิ่งที่ขัดกับความต้องการ
  • มีความสนใจในเรื่องของเทคโนโลยี และเชี่ยวชาญเรื่องของเทคโนโลยีมากขึ้น
  • เริ่มคิดเป็นนามธรรมมากขึ้น
  • มีความสนใจต่อประเด็นต่าง ๆ ในสังคม ทั้งด้านปรัชญา การเมือง และวิถีชีวิตของคนในสังคมไทยและสังคมโลก
  • ใฝ่หาการยอมรับจากเพื่อน พ่อแม่ และสังคม
  • เริ่มเปรียบเทียบตนเองกับผู้อื่นมากขึ้น
  • เรียนรู้ที่จะตั้งเป้าหมาย และหาวิธีที่จะไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้

 

พัฒนาการวัยเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยส่งเสริมได้

พัฒนาการวัยเด็ก ที่คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยส่งเสริมและสนับสนุนลูกให้เติบโตอย่างสมวัย ทำได้หลายวิธี ดังนี้

  1. ดูแลให้ลูกได้กินอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลาย โภชนาการที่ดี จะทำให้เด็ก ๆ มีร่างกายที่แข็งแรง ไม่ป่วยง่าย ทำให้ลูกเรียนรู้และทำกิจกรรมตามวัยได้อย่างเต็มที่ไม่มีสะดุด
  2. ดูแลให้ลูกพักผ่อนอย่างเพียงพอ การพักผ่อนที่เหมาะสมจะช่วยให้สมองปลอดโปร่ง มีพลังในการทำกิจกรรมได้อย่างเต็มที่ ไม่ง่วงนอนระหว่างวัน สามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี
  3. พาลูกทำกิจกรรมที่สมวัย เด็กเล็กไม่จำเป็นต้องสนใจวิชาการ เพราะพวกเขาเรียนรู้ได้ดีที่สุดผ่านการเล่น ก็พาลูกเล่นให้เต็มที่ เมื่อลูกเริ่มโตขึ้น เข้าใจความซับซ้อนมากขึ้น ก็จัดหากิจกรรมที่เหมาะกับวัยมาให้เล่น สิ่งที่เหมาะกับวัย ย่อมกระตุ้นพัฒนาการของลูกได้ดีกว่
  4. กิจกรรมที่ยากเกินวัย เพราะนอกจากจะไม่สนุกแล้ว ยังทำให้เด็กกดดันมากขึ้นด้วย
  5. ฝึกฝนวินัยตั้งแต่ยังเล็ก การมีวินัยก็ถือเป็นลำดับพัฒนาการที่สำคัญและไม่ควรมองข้าม ฝึกให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตัวเอง ทำสิ่งต่าง ๆ เป็นกิจวัตรอย่างสม่ำเสมอ นอกจากจะช่วยให้ลูกดูแลตัวเองได้แล้ว ก็ยังช่วยให้สามารถใช้ชีวิตในสังคมร่วมกับผู้อื่นได้ดีอีกด้วย
  6. การดุ ด่า และตี เมื่อลูกทำผิดพลาด หรือทำไม่ได้ดั่งใจ ไม่ได้ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการที่ดีขึ้นแต่อย่างใด มีแต่เสี่ยงจะทำให้ลูกมีปัญหาด้านสภาพจิตใจ และยังอาจทำให้ความสัมพันธ์ในครอบครัวแย่ลงอีกด้วย
  7. สนับสนุนในสิ่งที่ลูกทำได้ดีและอยากทำ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อแม่อยากให้ทำ ให้โอกาสลูกได้ทำในสิ่งที่พวกเขาถนัด และส่งเสริมให้เขาได้พัฒนาตนเองอย่างเหมาะสม
  8. ไม่คาดหวังในสิ่งที่ไม่จำเป็น ลูกอาจจะไม่เก่งสิ่งนี้ แต่อาจทำสิ่งอื่นได้ดีก็ได้ หรือถ้าลูกไม่ชอบอะไรเลย ก็ไม่ใช่เรื่องผิด และไม่ควรโกรธ แต่ควรพาลูกทำกิจกรรมที่หลากหลายมากขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ค้นพบตัวตนและความสามารถของตัวเอง

 

นมแม่ที่มี MFGM เพื่อ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่า

เพื่อให้ลูกน้อยพัฒนาการสมอง, IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่า การดูแลเรื่องอาหารการกินและโภชนาการของลูกถือเป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรละเลย เพื่อให้ลูกน้อยได้กินอาหารครบทั้ง 5 หมู่ เสริมสร้างการเจริญเติบโตทั้งทางด้านร่างกายและสมอง สามารถเรียนรู้และทำกิจกรรมตามวัยได้อย่างเต็มที่

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ทารกควรจะต้องได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่อง เพราะในนมแม่มี MFGM หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง

*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561


  • Raising Children Network. 2-3 years: toddler development. [Online] Accessed https://raisingchildren.net.au/toddlers/development/development-tracker-1-3-years/2-3-years. [21 January 2025]  
  • WebMD. 3- to 4-Year-Olds: Developmental Milestones. [Online] Accessed https://www.webmd.com/parenting/3-to-4-year-old-milestones. [21 January 2025]  
  • Pathways. 4-6 Years Abilities. [Online] Accessed https://pathways.org/growth-development/4-6-years/milestones/. [21 January 2025]  
  • Children’s Hospital of Orange County (CHOC). Growth & Development: 6 to 12 Years (School Age). [Online] Accessed https://choc.org/primary-care/ages-stages/6-to-12-years/. [21 January 2025]  
  • Children’s Hospital of Orange County (CHOC). Teenager Growth & Development: 13 to 18 Years (Adolescent). [Online] Accessed https://choc.org/primary-care/ages-stages/13-to-18-years/. [21 January 2025]  
  • The Johns Hopkins University. The Growing Child: Adolescent 13 to 18 Years. [Online] Accessed https://www.hopkinsmedicine.org/health/wellness-and-prevention/the-growing-child-adolescent-13-to-18-years. [21 January 2025]  
  • โรงพยาบาลพญาไท. บุคลิกชัดเจน ปรับตัวเข้ากับผู้อื่น นี่แหละ! พัฒนาการในเด็กวัยรุ่นตอนปลาย. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.phyathai.com/th/article/2870-. [21 มกราคม 2025]  
  • โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์. เข้าใจพัฒนาการลูก จากทารกสู่วัยรุ่น. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/may-2019/child-growth-and-development. [21 มกราคม 2025]  
  • Ramkhamhaeng University. บทที่ 6 - วัยเด็ก. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก http://old-book.ru.ac.th/e-book/p/PC290(54)/PC290-6.pdf. [21 มกราคม 2025]  
  • ศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก. เด็ก กลุ่มเป้าหมายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.thaichildrights.org/articles/article-laws/. [21 มกราคม 2025]  
  • Amnesty International Thailand. สิทธิเด็ก. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.amnesty.or.th/our-work/childrights/. [21 มกราคม 2025] 

 

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama