นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

ดัชนีมวลกายเด็ก และวิธีช่วยให้ลูกมีค่า BMI เด็กที่เหมาะสม

Enfa สรุปให้

  • ดัชนีมวลกาย (BMI) เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินภาวะโภชนาการของเด็ก ซึ่งช่วยให้ผู้ปกครองและแพทย์สามารถตรวจสอบได้ว่าเด็กมีน้ำหนักที่เหมาะสมกับส่วนสูงและมีการเจริญเติบโตที่เหมาะสมหรือไม่
  • การใช้ค่าดัชนีมวลกายเด็ก หรือ BMI ในเด็กไม่ได้หมายความว่าเด็กที่มีค่า BMI สูงหรือเกินเกณฑ์จะเป็นเด็กอ้วนเสมอไป ต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น เช่น โภชนาการ การออกกำลังกาย และพันธุกรรม เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่แม่นยำที่สุด
  • ความเข้าใจเกี่ยวกับ BMI เด็กมีความสำคัญอย่างมาก เพราะช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพของเด็กได้อย่างเหมาะสม ทั้งสุขภาพทางกาย เช่น ภาวะขาดสารอาหาร ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และสุขภาพทางใจ เช่น ความเครียด ภาวะซึมเศร้า การขาดความมั่นใจในตัวเอง

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

ดัชนีมวลกายเป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการประเมินภาวะโภชนาการของเด็ก ซึ่งช่วยให้ผู้ปกครองและแพทย์สามารถตรวจสอบได้ว่าเด็กมีน้ำหนักที่เหมาะสมกับส่วนสูงของเขาหรือไม่ การที่ BMI ในเด็กมีค่าที่เหมาะสมช่วยให้เด็กเติบโตได้อย่างสมวัยและมีสุขภาพแข็งแรง ลดความเสี่ยงต่อโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง เช่น โรคอ้วน เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว

นอกจากนี้ การติดตาม BMI เด็กอย่างสม่ำเสมอช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับโภชนาการได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ หากเด็กมีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ก็สามารถปรับปรุงการรับประทานอาหารให้เหมาะสม และหากน้ำหนักเกินก็สามารถส่งเสริมให้มีพฤติกรรมการกินและออกกำลังกายที่ดีขึ้นได้ ในบทความนี้ Enfa จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับดัชนีมวลกายเด็ก วิธีอ่านค่า และแนวทางการดูแลเด็กให้มี BMI ที่เหมาะสมตามวัย

 

ค่าดัชนีมวลกาย (BMI) คืออะไร


ดัชนีมวลกาย (Body Mass Index: BMI) เป็นค่าที่คำนวณจากน้ำหนักตัวและส่วนสูงของบุคคล ซึ่งใช้เป็นตัวชี้วัดเบื้องต้นเพื่อประเมินภาวะโภชนาการ โดยมีสูตรคำนวณดังนี้

BMI = น้ำหนัก (กก.)/ ส่วนสูง (ม.) ยกกำลังสอง

ค่าดัชนีมวลกายช่วยให้สามารถประเมินระดับความสมดุลระหว่างน้ำหนักและส่วนสูงของเด็กได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับเด็ก ค่า BMI ไม่สามารถนำมาใช้วัดโดยตรงแบบผู้ใหญ่ได้ เนื่องจากเด็กอยู่ในช่วงที่กำลังเติบโตและมีอัตราการเจริญเติบโตที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงวัย ดังนั้น จึงต้องนำค่าที่คำนวณได้ไปเปรียบเทียบกับตารางเปอร์เซ็นไทล์ ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานที่ใช้พิจารณาสุขภาพของเด็กโดยอ้างอิงจากอายุและเพศ

การใช้ค่า BMI ในเด็กไม่ได้หมายความว่าเด็กที่มีค่า BMI สูงหรือเกินเกณฑ์จะเป็นเด็กอ้วนเสมอไป ต้องพิจารณาร่วมกับปัจจัยอื่น เช่น โภชนาการ การออกกำลังกาย และพันธุกรรม เพื่อให้ได้ข้อสรุปที่แม่นยำที่สุด

 

วิธีอ่านค่าดัชนีมวลกายเด็ก


การอ่านค่าดัชนีมวลกายเด็กจะต้องนำไปเปรียบเทียบกับค่ามาตรฐานในรูปของเปอร์เซ็นไทล์ ซึ่งแบ่งเป็น 4 กลุ่มหลัก ๆ ดังนี้

 

ต่ำกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 5

น้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ อาจเสี่ยงต่อภาวะขาดสารอาหาร การพัฒนาร่างกายที่ล่าช้า และภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

 

เปอร์เซ็นไทล์ที่ 5 – 85

น้ำหนักอยู่ในเกณฑ์ปกติ ถือว่าเด็กมีสุขภาพดีและเจริญเติบโตอย่างเหมาะสม

 

เปอร์เซ็นไทล์ที่ 85 – 95

น้ำหนักเกิน อาจเสี่ยงต่อการเกิดโรคอ้วนในอนาคต และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

 

มากกว่าเปอร์เซ็นไทล์ที่ 95

โรคอ้วน เด็กที่มี BMI ในระดับนี้อาจมีความเสี่ยงสูงต่อโรคเบาหวาน โรคหัวใจ และปัญหาสุขภาพอื่น ๆ

ทั้งนี้ การอ่านค่า BMI ในเด็กควรทำควบคู่กับการตรวจสอบลักษณะร่างกาย กิจกรรมทางกาย และพฤติกรรมการรับประทานอาหาร เพื่อให้สามารถวางแผนดูแลสุขภาพของเด็กได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

การเข้าใจดัชนีมวลกายเด็ก สำคัญอย่างไร


ความเข้าใจเกี่ยวกับ BMI เด็กมีความสำคัญอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้สามารถดูแลสุขภาพของเด็กได้อย่างเหมาะสม ซึ่งไม่ใช่เพียงสุขภาพทางกายเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขภาพจิตใจของเด็กด้วย ดังนี้

  • BMI ต่ำกว่าเกณฑ์ อาจส่งผลให้เด็กมีภาวะขาดสารอาหาร ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย และการพัฒนาของร่างกายและสมองล่าช้า
  • BMI สูงเกินไป อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน ความดันโลหิตสูง รวมถึงปัญหาทางจิตใจ เช่น ความเครียดหรือภาวะซึมเศร้าจากการถูกล้อเลียน และการขาดความมั่นใจในตัวเอง

 

วิธีเสริมค่า BMI ในเด็กให้เหมาะสมตามวัย


การเสริมค่า BMI ในเด็กให้เหมาะสมตามวัยไม่ใช่แค่เรื่องของการเพิ่มหรือลดน้ำหนัก แต่เป็นการปรับสมดุลของโภชนาการและกิจกรรมทางกาย เพื่อให้เด็กเติบโตอย่างแข็งแรงและมีสุขภาพดี โดยสามารถทำได้ดังนี้

 

รับประทานผลไม้ แทนขนมจุกจิก

ขนมกรุบกรอบ ขนมหวาน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูงอาจเป็นสาเหตุให้เด็กมีน้ำหนักเกิน ควรเปลี่ยนเป็นการให้ผลไม้สดที่มีวิตามินและใยอาหารสูง เช่น

  • กล้วย มีโพแทสเซียมสูงและช่วยให้พลังงาน
  • ฝรั่ง มีไฟเบอร์สูง ช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น
  • แอปเปิล ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดและให้ความอิ่มนานขึ้น

ทั้งนี้ หากเด็กไม่ชอบผลไม้ อาจลองทำเป็นสมูทตี้หรือนำมาผสมโยเกิร์ตเพื่อเพิ่มรสชาติที่ถูกใจเด็ก
 

ทานอาหารให้ครบ 5 หมู่

อาหารที่สมดุลและครบหมู่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับเด็กอย่างมาก โดยอาหาร 5 หมู่ มีดังนี้

  • คาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าวกล้อง มันเทศ ขนมปังโฮลวีต ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ดี
  • โปรตีน เช่น ไข่ เนื้อปลา ถั่วเหลือง ช่วยสร้างกล้ามเนื้อและเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
  • ไขมันดี เช่น อะโวคาโด ถั่วเปลือกแข็ง น้ำมันมะกอก จำเป็นต่อการพัฒนาสมอง
  • วิตามินและแร่ธาตุ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้สด ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
  • นมและผลิตภัณฑ์จากนม เช่น นมสด โยเกิร์ต ช่วยเสริมสร้างกระดูกและฟัน

นอกจากนี้ ควรปลูกฝังวินัยการการกินที่ดีตั้งแต่วัยเด็ก ควรฝึกให้เด็กกินเป็นเวลา มีมื้ออาหารที่แน่นอน เพื่อป้องกันการกินจุกจิกระหว่างวัน ไม่บังคับให้กินมากเกินไป ควรให้เด็กกินเท่าที่รู้สึกอิ่ม และฟังสัญญาณความหิวของร่างกาย สำหรับเด็กที่น้ำหนักเกินอาจใช้จานขนาดเล็กลงเพื่อฝึกให้เด็กค่อย ๆ ปรับตัวกับปริมาณอาหารที่พอดี
 

ออกกำลังกาย

การออกกำลังกายมีบทบาทสำคัญในการควบคุมน้ำหนักและเสริมสร้างสุขภาพ เด็กควรออกกำลังกายอย่างน้อย 60 นาทีต่อวัน เพื่อช่วยในการเผาผลาญพลังงานและเสริมสร้างกล้ามเนื้อ โดยกิจกรรมที่เหมาะกับเด็กแต่ละช่วงวัย ได้แก่

  • วัย 2-5 ปี วิ่งเล่น กระโดดเชือก ปีนป่าย หรือเล่นในสนามเด็กเล่น
  • วัย 6-12 ปี ว่ายน้ำ ขี่จักรยาน เล่นฟุตบอลหรือบาสเกตบอล
  • วัย 13 ปีขึ้นไป ฟิตเนส โยคะ หรือกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น เดินป่า

นอกจากนี้ ควรทำให้การออกกำลังกายเป็นเรื่องสนุก เช่น เล่นเกมเต้นกับครอบครัว หรือทำกิจกรรมกลางแจ้งร่วมกัน จะช่วยให้เด็กไม่รู้สึกเบื่อ

ทั้งนี้ เด็กที่ใช้เวลากับหน้าจอ เช่น โทรศัพท์ แท็บเล็ต คอมพิวเตอร์ มากเกินไป อาจมีแนวโน้มเป็นเด็กน้ำหนักเกิน เนื่องจากขาดการเคลื่อนไหว ควรจำกัดเวลาใช้หน้าจอ ไม่เกิน 2 ชั่วโมงต่อวัน และให้เด็กมีกิจกรรมที่ต้องเคลื่อนไหวร่างกายแทน เช่น ช่วยทำงานบ้าน หรือเล่นกีฬา

 

BMI เด็กเป็นตัวชี้วัดที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถติดตามภาวะโภชนาการของลูกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยควรตรวจสอบค่า BMI อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งสนับสนุนให้เด็กมีพฤติกรรมการกินและการออกกำลังกายที่เหมาะสม การสร้างนิสัยการดูแลสุขภาพตั้งแต่วัยเด็กจะช่วยให้พวกเขาเติบโตอย่างแข็งแรงและมีสุขภาพที่ดีในระยะยาว

 

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Shopee TH Lazada TH Join Enfamama