นานมาแล้วมีหมี 3 ตัวอาศัยอยู่ในป่าใหญ่ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านคนนัก หมี 3 ตัวนั้นประกอบไปด้วย พ่อหมีซึ่งเป็นหมีตัวโต ร่างกายสูงใหญ่ แม่หมี ตัวกลม ๆ มีขนาดตัวปานกลาง และลูกหมีที่เป็นหมีตัวเล็ก ๆ
เช้าวันหนึ่งหมีทั้ง 3 ตัวตื่นนอนและได้อาบน้ำแต่งตัวทาแป้งหอมฟุ้ง พร้อมที่จะเริ่มวันใหม่ จากนั้นไม่นานก็มีเสียงเรียกขึ้นว่า “ได้เวลาอาหารเช้าแล้วจะ” เป็นเสียงเรียกที่คุ้นเคยของแม่หมีนั่นเอง “หอมจังเลยฮะแม่ กำลังหิวอยู่พอดีเลยฮะ” เสียงเจ้าหมีน้อยออดอ้อน อาหารเช้าวันนี้เป็นเมนูที่แม่หมีทำเป็นประจำทุกวัน นั่นคือข้าวโอ๊ต เธอตักข้าวโอ๊ตร้อน ๆ ลงในชามทั้ง 3 ใบ โดยชามใบแรกเป็นชามใบใหญ่ที่สุด ชามนั้นเป็นของพ่อหมี ใบที่ 2 เป็นชามขนาดรองลงมา เป็นของแม่หมี และใบสุดท้ายซึ่งเป็นของลูกหมีเป็นชามใบที่มีขนาดเล็กที่สุด แต่ข้าวโอ๊ตนั้นร้อนเกินกว่าที่จะรับประทานได้ ระหว่างที่ต้องรอให้ข้าวโอ๊ตเย็นลง พ่อหมีจึงเอ่ยชวนแม่ลูกว่า “ระหว่างรอ เราออกไปเดินเล่น รับอากาศยามเช้ากันดีมั้ย” แม่หมีและลูกหมีต่างพยักหน้าเห็นด้วย และทั้ง 3 ก็ออกจากบ้านไป
ในขณะเดียวกันมีสาวน้อยผมทอง แก้มยุ้ย ตัวเล็ก ๆ บ้านของเธออยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ได้ออกมาเล่นซนนอกบ้าน เธอได้เดินเล่นทักทายสัตว์นานาชนิด “สวัสดีจ้ะ สบายดีมั้ย” เธอถามนกที่เจอระหว่างทาง “สบายดีจะ หนูน้อยจะเดินไปไหนเหรอจ้ะ” นกน้อยกล่าวทักทาย “เดินเล่นไปเรื่อย ๆ จะ ฉันไปก่อนนะ โชคดีจ้ะ” แต่ก่อนที่จะจากกันนกน้อยได้บอกกับหนูน้อยผมทองว่า “อย่าเดินไปไหนสุ่มสี่สุ่มห้านะหนูน้อย ในป่ามีสัตว์น้อยใหญ่มากมาย ไม่ใช่ทุกตัวนะจ้ะที่จะใจดี” และทั้งคู่ก็แยกย้ายกันไป
เธอเดินเข้าป่ามาเรื่อย ๆ ไม่นานเธอก็มาถึงหน้าบ้านหลังหนึ่งซึ่งเธอไม่รู้เลยว่านั่นคือบ้านของหมี 3 ตัว “โอ้โฮ... บ้านหลังนี้ช่างน่ารักจังเลย” เธอมองผ่านกระจกตรงประตูเข้าไปในบ้านเห็นมีอาหารอยู่บนโต๊ะกินข้าว เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครอยู่และเห็นว่าประตูไม่ได้ล็อก เธอจึงเปิดประตูเข้าไปในตัวบ้าน
หนูน้อยผมทองเดินตรงดิ่งไปที่โต๊ะกินข้าว เมื่อเห็นข้าวโอ๊ตที่ส่งกลิ่นหอมไปทั่วทั้งห้อง ก็ทำให้ท้องร้องเพราะรู้สึกหิวขึ้นมาทันที “น่ากินจังเลย กลิ่นหอมมาก ๆ ด้วย“ หนูน้อยจึงหยิบช้อนที่ใหญ่ที่สุดข้างชามใบที่ใหญ่ที่สุดตักข้าวโอ๊ตเข้าปาก “โอ๊ย นี่มันร้อนเกินไป ฉันกินไม่ได้หรอก ลองอันนี้ดีกว่า” เธอขยับมาตักข้าวโอ๊ตในชามใบกลางที่เป็นของแม่หมี “ชามนี้ยังร้อนเกินไปอยู่ดี” เธอรีบวางช้อน แล้วมาที่ชามสุดท้าย คือชามใบเล็กของลูกหมีน้อยนั่นเอง “ว้าว มันช่างดีจริง ๆ อร่อยที่สุดไปเลย” เธอไม่รอช้าจัดการรับประทานข้าวโอ๊ตของลูกหมีจนเกลี้ยงชาม
สักครู่ต่อมาหนูน้อยผมทองได้เดินสำรวจรอบ ๆ บ้าน จนหันไปเห็นเก้าอี้ 3 ขนาดที่ตั้งอยู่หน้าทีวี เธอจึงอยากลองนั่งเก้าอี้ทั้ง 3 ตัวนั้น โดยเริ่มจากตัวที่ใหญ่ที่สุด แต่เธอไม่สามารถปีนขึ้นไปได้ “โอ้ว ตัวนี้มันช่างสูงเกินไป” หนูน้อยบ่นพึมพำ และเปลี่ยนมาตัวที่ 2 แต่ก็ยังไม่ถูกใจ “ตัวนี้มันแข็งเกินไป ไม่ชอบเลย” หนูน้อยผมทองจึงเลือกที่จะนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเล็ก แต่... โครม!!! เก้าอี้ไม่สามารถรับน้ำหนักของเธอไหว มันจึงหักออกเป็นชิ้น ๆ “โอ๊ยยย หักหมดเลย อดนั่งเลยเรา”
หลังจากเล่นซนจนเก้าอี้พังไปแล้ว หนูน้อยผมทองเริ่มรู้สึกง่วงและอยากนอนเต็มที่ เพราะกินข้าวโอ๊ตเข้าไปจนอิ่ม เธอเดินทั่วบ้านจนมาเจอห้องนอนของครอบครัวหมี เธอเดินเข้าไปในห้องนั้น เห็นเตียงนอน 3 เตียง เตียงขนาดใหญ่ เตียงขนาดกลาง และเตียงขนาดเล็ก ตอนแรกเธอลองขนาดใหญ่แต่มันใหญ่และแข็งจนเกินไป เธอจึงมาลองเตียงที่ 2 ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าเตียงแรกเล็กน้อย ทุกอย่างมันเหมือนจะพอดีแต่หนูน้อยผมทองก็ยังบ่นว่า “เตียงนี้มันนุ่มเกินไป” สุดท้ายหนูน้อยผมทองจึงย้ายมาที่เตียงเล็ก เธอยิ้มพอใจเมื่อ กระโดดขึ้นบนเตียงนอน “โอ้ว เตียงนี้มันช่างสบายจริง ๆ” หนูน้อยผมทองนอนเล่นอยู่บนเตียงสักพักก็เผลอหลับไปในที่สุด
ต่อมาหมีทั้ง 3 ตัวกลับมาถึงบ้านและเปิดประตูเข้าไปด้วยความหิวโหย แต่เมื่อมาถึงโต๊ะกินข้าวทั้ง 3 ต้องตกใจ “ใครมากินข้าวโอ๊ตของฉันเนี่ย” พ่อหมีเอ่ยเสียงดัง “มีคนมากินข้าวโอ๊ตของฉันเหมือนกัน” แม่หมีพูดขึ้นด้วยความโมโห “ข้าวโอ๊ตของผมถูกกินจนหมดเลยฮะ” ลูกหมีน้อยพูดด้วยน้ำเสียงเศร้า
จากนั้นครอบครัวหมีได้ตามรอยหนูน้อยผมทองจนมาถึงเก้าอี้หน้าทีวี “มีคนมานั่งเก้าอี้ของฉัน” เสียงคำรามกึกก้องของพ่อหมี “ใครมานั่งเก้าอี้ของฉัน” เสียงแม่หมีถามขึ้นด้วยความโกรธ ลูกหมีจึงรีบไปดูที่เก้าอี้ของตัวเองและพบว่า “ฮือ ๆ ใครไม่รู้มานั่งเก้าอี้ของผมจนหักเลยฮะ พ่อกับแม่มาดูสิ ฮือๆ” ลูกหมีร้องไห้ด้วยความเสียใจ พ่อหมีกับแม่หมีรีบเข้ามากอดปลอบลูก
หมีทั้ง 3 ตัวยังคงเดินตามรอยหนูน้อยไปที่ห้องนอน เห็นเตียงใหญ่อยู่ในสภาพยับยู่ยี่ เมื่อพ่อหมีเห็นก็คำรามด้วยความโกธร “ใครนะกล้ามานอนเตียงของฉัน” แม่หมีพูดต่อว่า “แล้วยังมานอนที่เตียงของฉันด้วย” ลูกหมีมองไปที่เตียงเล็กของมัน แล้วรีบส่งสัญญาณให้พ่อกับแม่เงียบเสียง“จุ๊ ๆ พ่อฮะ แม่ฮะ มีหนูน้อยผมทองมาหลับอยู่ที่เตียงของผมฮะ” และแล้วหมีทั้ง 3 ตัวค่อย ๆ ย่องไปยืนอยู่รอบเตียงที่หนูน้อยกำลังหลับอย่างสบาย “นี่แหละฮะ คนที่กินข้าวโอ๊ตของผมจนหมด นั่งเก้าอี้ของผมจนหัก แล้วยังนอนหลับสบายอยู่บนเตียงของผมด้วย”
ทั้งพ่อหมีและแม่หมีต่างพากับปลุกหนูน้อยผมทองให้ตื่นด้วยความไม่พอใจ “ตื่นเดี๋ยวนี้นะ เจ้าหนูน้อยเกเร” พ่อหมีคำรามปลุกเสียงดัง หนูน้อยผมทองรู้สึกตัวแต่ยังงัวเงีย ขยี้หูขยี้ตา “ฉันบอกให้ตื่นเดี๋ยวนี้ แม่หนูขี้โมย” คราวนี้แม่หมีเป็นฝ่ายตวาดเสียงดังตามมา หนูน้อยผมทองได้สติ ค่อย ๆ ลืมตา ทันใดนั้นเองเธอกรีดร้องสุดเสียงด้วยความตกใจสุดขีดเมื่อเห็นหมีทั้ง 3 ตัวยืนเรียงอยู่รอบเตียง “กรี๊ด!!” เธอกระโดดออกจากเตียงอย่างรวดเร็ว แล้วรีบวิ่งหนีออกจากบ้านเจ้าหมี 3 ตัวไปด้วยความกลัว วิ่งไปร้องไห้ไป เพื่อรีบกลับบ้านให้เร็วที่สุด โดยไม่หันหลังกลับไปมองที่บ้านของเจ้าหมี 3 ตัวอีกเลย
บทเรียนที่หนูน้อยผมทองได้ในวันนี้คือ เราไม่ควรเข้าไปในบ้านใครก่อนได้รับอนุญาต โชคดีที่ครั้งนี้สัตว์ที่หนูน้อยผมทองเจอไม่ใช่สัตว์ป่าใจร้าย เธอจึงสามารถกลับบ้านได้อย่างปลอดภัย แต่เธอได้ให้สัญญากับตัวเองว่า “ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ขอโทษนะคะคุณหมีสามตัว”
นานมาแล้วมีเจ้าหญิงองค์หนึ่งชื่อเจ้าหญิงซิลเวีย อาศัยอยู่กับราชินีดอกไม้ตั้งแต่ยังเด็กๆ ภายในวัดอ...
อ่านต่อเด็กๆ จ๊ะ เด็กๆ หวังอยากได้อะไรกันบ้างมั้ย ♫ จะปรารถนาสิ่งใด จงระวังให้ดี อยากได้สิ่งนั้น อยา...
อ่านต่อในป่าใหญ่แห่งหนึ่งมีสัตว์น้อยใหญ่หลายชนิดได้อาศัยอยู่ร่วมกัน ในป่านี้มีบึงใหญ่ น้ำใสเย็น สัตว์ทุ...
อ่านต่อ