ลูกสาว: พ่อคะ ดาวสวยจังเลยค่ะ เต็มฟ้าไปหมดเลย
ลูกชาย: นั่นดาวอะไรครับพ่อ
คุณพ่อ: ไหน ๆ อ่อดาวลูกไก่น่ะลูก
ลูกสาว: ตรงไหนคะพ่อ ตรงไหนดาวลูกไก่
คุณพ่อ: นั่นไงลูก ที่อยู่รวม ๆ กันเป็นหมู่น่ะ เหมือนลูกไก่ยังไงล่ะ
ลูกชาย: แล้วอันไหนดาวเทียมครับพ่อ
คุณพ่อ: เรามองไม่เห็นหรอกลูก ดาวเทียมหน่ะดวงมันเล็กมาก ๆ เลยนะถ้าเทียบกับดาวจริง ๆ น่ะ
ลูกสาว: พ่อคะ หนูนอนหนุนตักพ่อดูดาวได้ไหมคะ
ลูกชาย: นอนด้วย ๆ จะได้ดูดาวชัด ๆ
คุณพ่อ: อะ อ่ะ อ่ะ มา นอนทั้งคู่เลยมา แบ่งกันคนละข้างนะ
ลูกสาว: ดาวหาง! พ่อขาเมื่อกี้มีดาวหางค่ะ แล่นเร็วมาก หายไปไหนแล้วก็ไม่รู้
คุณพ่อ: อ้อ นั่นเค้าเรียกดาวตกจ้ะ ไม่ไช่ดาวหางลูก
ลูกชาย: แต่มันมีหางนี่นา ทำไมไม่เรียกว่าดาวหาง แล้วดาวตก มันตกไปทางไหนหรอฮะ
ลูกสาว: ก็ตกลงไปในทะเลน่ะสิ เรานี่ไม่รู้เรื่องเลย
คุณพ่อ: เอาล่ะ ๆ ไม่ต้องเถียงกัน ขยับมาใกล้ ๆ สิพ่อจะเล่านิทานให้ฟัง
ลูกสาวและลูกชาย: ดีจังเลย เย้! นิทาน นิทาน นิทาน
♫ มาสิมาล้อมวง เรามานั่งลงใกล้ ๆ กันไว้ เธออย่าเพิ่งไปไหน ก็มีอะไรจะเล่าให้ฟัง กาลครั้งหนึ่งนั้น ยังมีตำนานเรื่องดาวน่าชัง ดาวดวงนั้นลอยขวางอยู่ในท่ามกลางหมู่ดาวมากมาย ♫
คุณพ่อ: นานมาละบนท้องฟ้าไม่ใกล้ไม่ไกลนี่แหละ มีดวงดาวมากมายเลยโคจรอยู่ร่วมกัน ทั้งดาวเคราะห์ ดาวฤกษ์ น้อยใหญ่ นับร้อยนับพันต่างก็เป็นดาวที่สวยงาม มีสีสันสดใส แล้วก็ลวดลายแปลกตา บางดาวเนี่ยนะ มีวงแหวนล้อมรอบสองสามวงเลยนะ บางดวงก็ส่องแสงเจิดจ้า บ้างก็มีดวงจันทร์สีนวล ๆ คอยโคจรอยู่รอบ ๆ คล้ายกับว่าจะหลงใหลความงามของดาวดวงนั้น บางดวงก็เสน่ห์แรงถึงขั้นมีดวงจันทร์มาโคจรอยู่รอบ ๆ ตั้งหลายดวงแน่ะลูก
ลูกชาย: แล้วดาวเทียมล่ะ ดาวเทียมมีไหมครับ
ลูกสาว: เราอย่าเพิ่งขัดสิ ดาวเทียมอยู่นั่นแหละ นี้มันเรื่องดาวจริง ๆ ไม่เกี่ยวกับดาวเทียมสักหน่อย ใช่ไหมคะพ่อ
คุณพ่อ: เอาล่ะ ๆ ตอนนั้นยังไม่มีดาวเทียมหรอกลูก
ลูกสาว: เห็นไหมล่ะ ก็พ่อบอกว่านานมาแล้วไง แค่นี้ก็จำไม่ได้
คุณพ่อ: อ่ะๆๆ จะฟังต่อไหมเนี่ย
ลูกสาวและลูกชาย: ฟังค่ะ/ฟังครับ
♫ กาลครั้งหนึ่งนั้น ยังมีตำนานเรื่องดาวน่าชัง ดาวดวงนั้นลอยขวางอยู่ในท่ามกลางหมู่ดาวมากมาย แต่ดาวน้อยไม่ค่อยจะสวย ไม่นวล ไม่ผ่อง ไม่ส่องประกาย มีแต่ริ้ว แต่ร่อง แต่รอย เป็นดาวขี้เหร่กว่าดาวไหน ๆ ต้องโดนล้อน่าเกลียดน่าชัง โดนทำทุกอย่างให้ดาวต้องอาย เพราะว่าแตกต่างไป ทำให้ดาวน้อยต้องทนน้อยใจ ♫
คุณพ่อ: ท่ามกลางดวงดาวมากมายนั้น ก็มีดวงดาว ดวงเล็ก ๆ ดวงนึง หมุนรอบตัวเองอยู่เงีบย ๆ ในมุมที่มืดมิด มุมนึงบนท้องฟ้า ด้วยความที่มันเป็นดาวดวงเล็กมาก ๆ และก็เต็มไปด้วยริ้วรอย ไม่มีวงแหวนสวยงาม ไม่มีประกายแสงสีสันสดใส เป็นดาวที่ขี้เหร่ที่สุดบนท้องฟ้า มันอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่มีเพื่อน ไม่มีดวงจันทร์ดวงไหนมาโคจรอยู่ใกล้ ๆ เลย
ลูกชาย: น่าสงสารจัง
คุณพ่อ: ใช่แล้วล่ะลูก มันน่าสงสารมากเลยหละ ด้วยความที่ไม่สวยเหมือนดาวดวงอื่น ๆ มันจึงกลายเป็นที่น่าขันของบรรดาดวงดาวทั้งหลาย ที่มักจะหัวเราะให้กับความขี้เหร่ของมัน ทุกครั้งที่โคจรมาใกล้ อย่างดาวเคราะห์สีส้มดวงโตหน่ะ มักจะพูดว่ามันเสียงดังเชียว
“นี่มันก้อนอะไรกันเนี่ย ทำไมน่าเกลียดอย่างนี้นะ”
ไม่เพียงแค่นั้นนะ ดวงจันทร์สีนวลยังมาซ้ำเติมมันอีก “นั่นสิ! เป็นริ้วเป็นแฉกอะไรน่ะ ขี้เหร่จริง ๆ เลยนะเธอเนี่ย หูย! ไปดีกว่า” แล้วดวงจันทร์ก็รีบหมุนรอบตัวเองให้ออกห่างมันไปอีกด้วย
บ้างก็แอบซุบซิบนินทา ชี้ชวนกันให้ดูร่องรอยต่างๆ บนตัวของมันด้วยสีหน้ารังเกียจ แม้แต่ดาวเคราะห์ที่มีวงแหวนก็ยังแอบกระซิบให้ดาวฤกษ์สีฟ้าดวงใหญ่ฟังเลย “นี่ ๆ พี่ดาวฤกษ์ ฉันว่าพี่อ่ะอย่าส่องแสงไปแถว ๆ เจ้าดาวน่าเกลียดนั้นเลยนะ แค่ฉันเห็นมันแค่ราง ๆ เนี้ย ก็ขนลุกแล้วแหละ”
ที่แย่ไปกว่านั้น พวกแก๊งดาวหางวัยรุ่นและแก๊งอุกกาบาต ก็พากันแกล้งดางดาวนั้น บ้างก็พุ่งชนมันให้ยิ่งเป็นร่องเป็นรอยมากขึ้น บ้างก็โฉบเข้าไปใกล้มัน ให้มันตกใจจะได้หัวเราะกันสนุกสนาน “เฮ้ย! พวกเราเอาเลย พุ่งชนให้พรุนเลย เอาเลย ๆ เร็ว”
♫ ดาวเจ้าน่าสงสารต้องอยู่ลำพัง ต้องอยู่เดียวดาย ฟ้าก็หมดความหมาย เมื่อไม่มีใครมาเป็นเพื่อนดาว แล้ววันหนึ่งดาวน้อยก็โบกมือลาฟ้าที่พร่างพราว เริ่มไม่อยากเป็นดาวเลยโดดลงมาจากฟ้ากว้างใหญ่ ♫
คุณพ่อ: เมื่อไม่มีเพื่อน ไม่มีใครยอมรับ ท้องฟ้าก็ไม่มีความหมายอะไรสำหรับดาวดวงนั้น “ทำไมนะ ทำไมดาวดวงอื่น ๆ ถึงต้องรังเกียจเราด้วยนะ เพียงแค่เพราะว่าเราไม่สวยงามเหมือนพวกเขานั้นเองอะหรอ เขามองแค่ผิวขรุขระกับรูปร่างประหลาด ๆ ก็ตัดสินว่าเราไม่น่าคบแล้วหรือไง หืมมมม”
เจ้าดาวดวงน้อยไม่เข้าใจ มันไม่ได้อยากอยู่อย่างโดดเดี่ยว ไม่อยากอยู่โดยต้องระวังคนอื่นมารังแก ไม่ชอบโดนหัวเราะเยาะโดนรังเกียจ ในที่สุดมันก็ตัดสินใจว่ามันไม่อยากเป็นดาวอีกต่อไป คืนนึงมันก็เลยตัดสินใจกระโดดลงมาจากท้องฟ้าอันกว้างใหญ่ และทิ้งทุกอย่างเอาไว้บนฟ้านั้น
♫ ร่วงดิ่งลง มาจากฝากฟ้า มีแสงส่อง เป็นปล่องเป็นสาย พาดผ่านฟ้าที่มีแต่ดาว แต่มีหางยาวกว่าดาวไหน ๆ บนแผ่นน้ำของท้องทะเล ดาวน้อยหล่นและจมน้ำไป ดูทุกอย่างต่างไป เมื่อไม่ใช่ฟ้าที่ดาวคุ้นเคย ♫
คุณพ่อ: หลังจากที่มันกระโดดลงมาจากฟ้า ดาวดวงนั้นก็ตกลงไปในทะเล แล้วก็ จมลง ๆ ลึกลง ๆ ความที่มันเป็นดาวมันว่ายน้ำไม่เป็น มันก็เลยจมลึกลง ๆ มืดลง ๆ จนในที่สุดมันก็จมดิ่งลงไปถึงก้นทะเล แล้วก็หยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น น้ำทะเลเย็นเฉียบ บรรยากาศมืดมิดของก้นทะเลเนี่ยทำให้มันกลัวมาก มันเริ่มลังเลว่า เอ๊ะ! มันคิดถูกแล้วหรือไม่ที่กระโดดลงมาจากท้องฟ้า ความมืดและความไม่คุ้นเคยเนี่ยก็ทำให้มันกลัวมากเลย
ลูกชาย: ผมก็กลัว
ลูกสาว: หนูด้วย
คุณพ่อ: ทุกอย่างก็นิ่งเงียบแล้วก็เย็นเฉียบอยู่นานแค่ไหนเนี่ยก็จำไม่ได้ละ แต่แล้วในความนิ่งนั้นก็ปรากฎเงาราง ๆ ของสายตาหลายสิบคู่กำลังจ้องมองมันอยู่ นั่นทำให้มันตกใจกลัวมากขึ้นไปอีก
ใครกันนะที่มองอยู่ ที่นี่ไม่ใช่ท้องฟ้า สายตาพวกนั้นไม่ใช่สายตาของเหล่าดวงดาวต่าง ๆ อย่างแน่นอน แล้วมันเป็นสายตาของอะไรกันล่ะ ยิ่งคิดมันก็ยิ่งกลัว
เจ้าของสายตาคู่หนึ่งค่อย ๆ เผยตัวออกมาจากความมืดนั้น และขยับเข้าใกล้ดาวที่นอนนิ่งอยู่ที่ก้นทะเล ปลาตัวนึงเอ่ยปากถามดาว โดยมีสัตว์น้ำน้อยใหญ่ส่งเสียงงึมงัมสงสัยอยู่รอบ ๆ
“เธอเป็นใครหน่ะ หน้าตาแปลก ๆ”
“ใช่ ๆ เธอเป็นใครหรอ”
“เอ่อ ฉัน ๆ ฉันเป็นดาวจ้ะ” มันตอบออกไปแบบตะกุกตะกัก เพราะไม่ค่อยได้คุยกับใคร
“ฉันชื่อว่าหมึกจ้ะ ใคร ๆ เรียกฉันว่าปลาหมึก” เจ้าปลาหมึกตัวโตว่ายน้ำมาด้านหลัง เข้ามาพูดเสียงดังอย่างอารมณ์ดีอยู่ข้าง ๆ ดาวโดยไม่รังเกียจ แถมแนะนำสัตว์ตัวอื่น ๆ ต่อซะด้วยนะ
“ส่วนพี่หน้างอ ๆ นั้นน่ะ ชื่อพี่ม้าน้ำ แล้วก็ที่ตัวใส ๆ นั้นก็แมงกระพรุน โน้น ๆ ๆ ที่ตัวโต ๆ กระพรือปีกพรึบ ๆ ๆ นั้นน่ะก็น้ากระเบนจ้ะ”
เจ้าดาวดวงน้อยดวงนั้นมองตามอย่างสนใจ แล้วก็พบว่าแต่ละตัวนั้นรูปร่างหน้าตาแตกต่างกัน สีสันก็ไม่เหมือนกัน ทุกตัวล้วนแต่มีลักษณะเป็นของตัวเอง และที่สำคัญสิ่งหนึ่งที่ไม่เหมือนเดิมเลย ก็คือทุกตัวนั้นไม่แสดงท่าทีรังเกียจมันเลยแม้แต่น้อย แต่กลับยิ้มแย้มและพูดคุยอย่างที่ไม่เคยมีใครทำกับมันมาก่อนเลย
เจ้าดาวน้อย ถามสียงไม่ค่อยมั่นใจออกไปว่า “เอ่อ พวกเธอมาพูดคุยกับฉันน่ะ ไม่รังเกียจฉันเหรอ”
ปลาหมึกทำเสียงสงสัยตอบ “อ้าว! ทำไมพวกเราต้องรังเกียจเธอด้วยล่ะ”
“เพราะฉัน ๆ ไม่สวยเลยน่ะสิ ผิวก็ขรุขระไม่เหมือนใครเลยอะ”
น้ากระเบนเสียงเหน่อเลยเอ่ยน้ำเสียงใจดีกลับดาวว่า “แหม ที่นี่ไม่มีใครเหมือนใครทั้งนั้นแหละเจ้าดาวเอ้ย แต่พวกเราก็อยู่ร่วมกันอย่างดีนะ”
ดาวเริ่มรู้สึกดีขึ้นเมื่อได้ยินน้าพูดกระเบนพูดอย่างนั้น ส่วนเจ้าหมึกก็ยังอารมณ์ดีถามต่อไปว่า “เอ้อ! เธอมาจากไหนเหรอจ๊ะ แล้วมายังไงเนี่ย มาตัวเดียวเรอะ หรือมากับใคร”
ดาวดวงน้อยอารมณ์ดีขึ้นมาก มันเริ่มหัวเราะในความอารมณ์ดีของเจ้าปลาหมึก “ฉันจำไม่ได้แล้วล่ะว่ามาจากไหน แล้วมันก็ไม่สำคัญแล้วด้วย แต่จะรังเกียจไหมล่ะ ถ้าฉันจะขออาศัยอยู่ที่นี้ด้วยอะ”
น้ากระเบนจึงตอบออกไปแบบเหน่อ ๆ แต่จริงใจว่า “ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ท้องทะเลนี่ก็กว้างใหญ่ มีที่ทางมากมายให้เจ้าได้อยู่อาศัย งั้นก็ยินดีต้อนรับสู้บ้านมหาสมุทรของพวกเรา เอแต่เราจะเรียกเธอว่าอะไรดีล่ะ”
“เออ! นั่นสินะะ” ปลาหมึกเห็นด้วยเสียงดัง
น้ากระเบนเลยออกความคิดให้ว่า “เธอว่าเธอเป็นดาว งั้นเราเรียกเธอว่า… ปลาดาวละกันนะ ดีไหม”
“ดีจ้ะดี ฉัน ฉันชื่อปลาดาว”
♫ ปลาก็เริ่มสงสัย เข้ามาใกล้ดาวที่อยู่ในน้ำ วันที่น่าจดจำ เมื่อดาวดวงนั้นเริ่มมีเพื่อนใหม่ ปลาที่อยู่ในน้ำ รูปร่างหน้าตาแตกต่างกันไป ท้องทะเลสดใส เมื่อไม่มีใครมาคอยแกล้งดาว จากดาวน้อยที่อยู่บนฟ้า อยู่ในฝูงปลาเลยเป็นปลาดาว ต่อไปนี้ไม่ต้องอายเขา ไม่กลัวขี้เหร่กว่าปลาไหน ๆ สิ่งที่รู้จากเรื่องปลาดาว อย่ากลัวว่าเราจะไม่เหมือนใคร ถึงแม้แตกต่างกันไป ก็แค่ให้เราเป็นตัวของเรา ก็พอ ♫
คุณพ่อ: ตั้งแต่นั้นมา ดาวดวงนั้นก็เลยกลายเป็นปลาดาว อาศัยอยู่ในท้องทะเลแห่งนั้นอย่างมีความสุข มันได้เป็นตัวของตัวเอง โดยไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับใครอีกต่อไป เห็นไหมลูก ถึงแม้เราจะแตกต่างกันอะนะ แต่ถ้าเราเป็นตัวของตัวเราเอง เราก็จะมีชีวิตที่มีความสุขได้ ไม่ว่าลูกจะรูปร่างหน้าตายังไง เราก็เป็นคนดีได้นะลูก สนุกไหมละลูก
ลูกสาว: สนุกค่ะพ่อ
ลูกชาย: แต่ผมปวดฉี่
ลูกสาว: โธ่เอ้ยยย
♫ มาสิมาล้อมวง เรามานั่งลงใกล้ ๆ กันไว้ เธออย่าเพิ่งไปไหน ก็มีอะไรจะเล่าให้ฟัง กาลครั้งหนึ่งนั้น ยังมีตำนานเรื่องดาวน่าชัง ดาวดวงนั้นลอยขวางอยู่ในท่ามกลางหมู่ดาวมากมาย แต่ดาวน้อยไม่ค่อยจะสวย ไม่นวล ไม่ผ่อง ไม่ส่องประกาย มีแต่ริ้ว แต่ร่อง แต่รอย เป็นดาวขี้เหร่กว่าดาวไหน ๆ ต้องโดนล้อน่าเกลียดน่าชัง โดนทำทุกอย่างให้ดาวต้องอาย เพราะว่าแตกต่างไป ทำให้ดาวน้อยต้องทนน้อยใจ ดาวเจ้าน่าสงสารต้องอยู่ลำพัง ต้องอยู่เดียวดาย ฟ้าก็หมดความหมาย เมื่อไม่มีใครมาเป็นเพื่อนดาว แล้ววันหนึ่งดาวน้อยก็โบกมือลาฟ้าที่พร่างพราว เริ่มไม่อยากเป็นดาวเลยโดดลงมาจากฟ้ากว้างใหญ่ ร่วงดิ่งลง มาจากฝากฟ้า มีแสงส่อง เป็นปล่องเป็นสาย พาดผ่านฟ้าที่มีแต่ดาว แต่มีหางยาวกว่าดาวไหน ๆ บนแผ่นน้ำของท้องทะเล ดาวน้อยหล่นและจมน้ำไป ดูทุกอย่างต่างไป เมื่อไม่ใช่ฟ้าที่ดาวคุ้นเคย ปลาก็เริ่มสงสัย เข้ามาใกล้ดาวที่อยู่ในน้ำ วันที่น่าจดจำ เมื่อดาวดวงนั้นเริ่มมีเพื่อนใหม่ ปลาที่อยู่ในน้ำ รูปร่างหน้าตาแตกต่างกันไป ท้องทะเลสดใส เมื่อไม่มีใครมาคอยแกล้งดาว จากดาวน้อยที่อยู่บนฟ้า อยู่ในฝูงปลาเลยเป็นปลาดาว ต่อไปนี้ไม่ต้องอายเขา ไม่กลัวขี้เหร่กว่าปลาไหน ๆ สิ่งที่รู้จากเรื่องปลาดาว อย่ากลัวว่าเราจะไม่เหมือนใคร ถึงแม้แตกต่างกันไป ก็แค่ให้เราเป็นตัวของเรา ก็พอ ♫
ในฤดูร้อนของปี ชายหนุ่มคนหนึ่งต้องการเดินทางไปยังหมู่บ้านเล็กๆ ที่อยู่ห่างไกล แห้งแล้ง และอากาศร้...
อ่านต่อกาลครั้งหนึ่ง ณ เมืองใหญ่ในนครวารี มีการจัดพิธีค้นหารัชทายาทเพื่อสืบราชบัลลังก์ต่อจากพระราชาองค์ป...
อ่านต่อนานมาแล้วมีเจ้าหญิงองค์หนึ่งชื่อเจ้าหญิงซิลเวีย อาศัยอยู่กับราชินีดอกไม้ตั้งแต่ยังเด็กๆ ภายในวัดอ...
อ่านต่อ