นานมาแล้วมีชายคนนึง อาศัยอยู่อย่างเดียวดายบนภูเขาทางภาคเหนือ ในวันหนึ่งของปลายฤดูร้อน มีสายฝนโปรยปรายไปทั่วทั้งทุ่งบริเวณหน้ากระท่อมที่ชายผู้นั้นอาศัยอยู่
“อื้มมมมมม สดชื่นจัง เอ๊ะนั้นอะไรอะ ดอกดอกต้อยติ่งนี่นา อื้มสวยจริง ๆ นะเนี้ย โอ้โหม่วงไปทั้งภูเขาเชียว เข้าไปดูใกล้ ๆ นิดนึงดีกว่า”
♫ ฝนตกพล่ามพรมลงมาจากฟ้าคราม ม่วงอะไรหนา ทะเลสีม่วงสุดตา ห่มคลุมภูเขาสวยงาม ม่วงสีม่วงต้อยติ่ง ฝนตกจึงเกิดสิ่งอัศจรรย์ เมื่อนั้นฝักมันระเบิดออกไป ♫
ชายเดียวดายยืนมองท้องทุ่งต้อยติ่งแล้วฟังเสียงแตกของมันด้วยความสุขใจ
“ป่านเนี้ยที่บ้านทางใต้คงอยู่กันอย่างอบอุ่นและพร้อมหน้าพร้อมตาสินะ ถ้าเจ้าหญิงน้อยของฉันหน่ะได้เห็นต้อยติ่งแตกออกจากฝัก เธอจะชอบใจเสียงของมันมั้ยน๊า เอ้…นี้ก็ใกล้วันเกิดเธอแล้วนี่นา”
เมื่อฝนหยุดตก ชายเดียวดายก็ก้มลงเก็บฝักต้อยติ่งจำนวนนึง หวังจะเก็บไปเป็นของขวัญวันเกิดให้หลานสาวของเขา ชายเดียวดายบรรจงเช็ดฝักต้อยติ่งจนแห้งสนิทเพื่อมันจะได้ไม่แตกออกมาระหว่างการเดินทางไปหาเจ้าหญิงน้อยของเขา
♫ เจ้าหญิง ๆ ระเบิดต้อยติ่งกำลังไปหา เพราะสวรรค์สวยงามจับตา อยากย้อนเวลาด้วยดวงตาของเธอ ♫
ชายเดียวดายเริ่มต้นออกเดินทางสู่ภาคใต้ แต่การเดินทางฝ่าสายฝนของเขาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แต่เขาก็ไม่ย่อท้อ แม้ระยะทางจะไกล และวันเกิดก็ใกล้เข้ามาทุกที
ฝนยังตกไม่ยอมหยุด ชายเดียวดายต้องเก็บฝักต้อยติ่งไว้อย่างระมัดระวัง ห่อมันไว้หลายชั้นเก็บไว้ในกระเป๋าที่ลึกที่สุด “อ้าวเผลอแปปเดียวอ่ะ ใกล้จะค่ำซะละ หาที่พักก่อนดีกว่า เฮ้อง่วงนอนจัง แต่เดี๋ยวนะของตรวจดูฝักต้อยติ่งก่อนดีกว่า ยังแห้งสนิทอยู่หรือป่าวน้า เอ๊ะ ๆ โอ้โห้ เหมือนจะชื้น ๆ นิด ๆ นะเนี้ย”
แล้วชายเดียวดายก็เอาฝักต้อยติ่งออกมาผิงไฟ ทีละฝัก ๆ ผิงไปก็พลางยิ้มกริ่มนึกถึงเจ้าหญิงน้อย ๆ ว่าจะมีความสุขถ้าได้เห็นฝักต้อยติ่ง จนเขาง่วงแล้วก็หลับไป
ในคืนนั้น ไม่แน่ใจว่าเป็นความฝันหรือความจริง แต่เขาได้ยินเสียงเล็ก ๆ คุยกันด้วยความโกรธ
“ช่วยด้วย โอ้ย! ช่วยด้วย เราโดนคนใจร้ายจับตัวเอาไว้”
“โอ้ย! ขอน้ำกินหน่อยสิ เราคอแห้งอ่ะ”
“ปล่อยเรานะ ปล่อยเราเดี๋ยวนี้ คนอะไรอะ ใจร้ายชะมัดเลยอะ จับเราขังไว้แล้วยังคิดจะย่างเราอีกเนี้ย”
“เฮ้ย! เขาไม่ได้ย่าง เขาแค่ต้องการมั่นใจว่าพวกเราแห้งสนิทเท่านั้น”
“มันเรื่องอะไรกันเล่า ฝนตกเปาะแปะรอบตัว ฉันได้กลิ่นน้ำฝนแต่กลับออกไปเล่นไม่ได้ ใช่เห็นเราเป็นทาสหรือไงอ่ะ”
“หืม ไม่หรอกหน่า เขาเห็นเราเป็นของขวัญต่างหาก”
“โธ่! คนรับคงดีใจแย่หรอกนะ ของขวัญที่เกิดจากการทรมานคนอื่นอย่างเนี้ย”
“บอกว่าจะเอาเราอ่ะไปให้หลานสาว โอ้ย! น่ารักเหลือเกิน เขาอยากจะเห็นหลานสาวตัวน้อย ๆ เติบโตงดงาม แต่กลับกีดกัดเราให้เติบโต มันไม่ยุติธรรมเลยอ่ะ”
♫ ใจร้ายช่างใจร้ายจับพวกเรามัดไว้อึดอัดเหลือทน พวกเราอยากเล่นน้ำอยากระบำกลางสายฝน ใจร้ายช่างใจร้าย จับพวกเราขังไว้ทำร้ายจิตใจ ความฝันเป็นของเรา ชีวิตเป็นของเรา ขังแล้วเราเฉาปล่อยเราได้ไหม ถ้ายังขังพวกเรา จำเอาไว้ว่าคุณหน่ะคนใจร้าย ♫
ชายเดียวดายสะดุ้งตื่น นั่งนิ่งทบทวน “เอ๊ะ! ฝันไปหรือเปล่าเนี่ย อื้ม! ฝักต้อยติ่งของฉันล่ะ” ชายเดียวดายรื้อค้นฝักต้อยติ่งออกมาจากกระเป๋า แกะห่อหลายชั้นจนเจอฝักต้อยติ่ง
แม้พวกมันจะยังนอนสงบนิ่งอยู่ในห่อเหมือนเดิม แต่ความรู้สึกของชายเดียวดายไม่เหมือนเดิม เขากำลังคิดอะไรบางอย่าง บางอย่างที่อาจทำให้เช้าวันรุ่งขึ้นแตกต่างไปจากวันเดิม ๆ
รุ่งเช้า ชายเดียวดายออกเดินทางต่อและก็เป็นจริง มันต่างไปจากเมื่อวาน วันนี้เขาก้าวเท้าช้าลงกว่าเดิม และกางแขนออกรับน้ำฝน บนฝ่ามือของเขาเต็มไปด้วยฝักต้อยติ่งที่ไร้พันธนาการใด ๆ ไม่ถูกห่อคลุมอีกแล้ว
“เอาหล่ะเจ้าต้อยติ่งทั้งหลาย ฉันจะไม่ห่อไม่เก็บเจ้าไว้อีกแล้วนะ นั่นไง ฝนตกมาแล้ว เจ้าอยากเล่นน้ำฝนไม่ใช่เหรอ เอาสิ เอาเลย ป๊ะ! ไปเล่นน้ำฝนเลย”
ชายเดียวดายเดินย่ำฝนไปอย่างช้า ๆ ฝักต้อยติ่งบนมือต่างหมุนตัวเล่นระบำน้ำฝนกันอย่างสนุกสนาน ชายเดียวดายมองพวกมันอย่างมีความสุขจนเขาอดยิ้มไม่ได้ เพียงไม่นานต้อยติ่งฝักแก่ระเบิดตัวนำไปก่อน แล้วฝักอื่นก็ระเบิดตาม โดยเฉพาะพวกฝักแฝด มันมีวิธีเล่นที่ไม่เหมือนใคร มันแตกตัวพร้อมกันแล้วสลับขาโยนเมล็ดข้างในใส่กันอย่างสนุกสนาน ดังนักเต้นระบำก็ไม่ปาน
เมื่อต้อยติ่งแตกจนหมดมือ ชายเดียวดายจึงทรุดตัวนั่งลง เขาใช้เวลานั่งรอและก็ร้องเพลงท่ามกลางสายฝน รอให้เมล็ดต้อยติ่งน้อย ๆ หล่นลงพื้นดิน และก็งอกเป็นต้นใหม่ ออกดอกใหม่ และก็ผลิฝักใหม่ เมื่อนั้นเขาก็จะเก็บฝักแล้วออกเดินทางต่อไป กางแขนออกรับน้ำฝนโดยมีฝักต้อยติ่งอยู่บนฝ่ามือ เพื่อรอให้พวกมันแตกตัวออกจากฝัก งอกเป็นต้นใหม่ ออกดอกใหม่ เพื่อเขาจะได้นั่งลงร้องเพลง นั่งรอมันออกฝัก เก็บฝักเพื่อออกเดินทางต่ออีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง
♫ เลิกห่อเจ้าไว้ นำเจ้าปลูกลงดิน แล้วงอกใหม่ ผลิใบไปตามใจตามฝัน เต้นระบำไปเถอะต้อยติ่งน้อย ๆ รอให้งอกใหม่ ชีวิตต้องงอกงามใหม่ ความฝันไม่ควรให้ใครเอาไปกักขัง ♫
แม้ว่าวิธีนี้จะทำให้เขาเดินทางช้าไปบ้าง แต่ชายเดียวดายก็พอใจและคิดว่าเจ้าหญิงน้อยของเค้าก็คงจะดีใจด้วย ทุ่งดอกต้อยติ่งออกดอกบานตามหลังชายเดียวดาย เหมือนพวกมันจะส่งเสียงขอบคุณและก็เชียร์ให้ชายเดียวดายเดินทางต่อไป
“ขอบคุณนะ ขอบคุณนะ คุณใจดีจังเลย โชคดีนะ ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพ”
ในที่สุดเขาก็เดินทางมาถึงบ้านที่ภาคใต้จนได้ แถมทันวันเกิดพอดีซะด้วย เสียงเด็ก ๆ วิ่งไล่หยอกล้อกันอย่างสนุกสนานดังแว่วมา ชายเดียวดายเดินลากขาเข้าไปใกล้ ๆ เสียงนั้นอย่างช้า ๆ
“คุณแม่ขา เรามีแขกเพิ่มอีกหนึ่งคนค่า ใครคะน่ะ โอ้! คุณตาใช่ไหมคะ คุณแม่ คุณตาใช่ไหมคะ คุณตามาหาเราค่ะคุณแม่”
หญิงสาวสวยงามคนนึง หน้าตาละม้ายคล้ายเจ้าหญิงตัวน้อยหันไปตามเสียงของลูกสาว เธอยิ้มให้เขาแล้ววิ่งมากอดอย่างดีใจ เมื่อปลายนิ้วของเธอสัมผัสกับหัวใจของเขา เขารู้ได้ทันทีว่าเธอมิใช่ใคร เป็นเจ้าหญิงตัวน้อยที่เขาสู้อุตส่าห์เดินทางไกลมาหานั่นเอง
เวลาล่วงเลยนานเพียงใดไม่มีใครรู้ บัดนี้ชายเดียวดายแก่ลงและก็มีผมหงอกขาวราวกับขนกระต่าย เจ้าหญิงตัวเล็ก ๆ ของเขาในวันเก่า เติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวสวยงาม มีสามี แล้วก็ลูกสาวที่มีวันคล้ายวันเกิดในวันนี้พอดี
“ลูกจ๋า ดูสิจ๊ะลูก คุณตามีของขวัญวิเศษมาให้หนูด้วยนะ”
ปลายนิ้วอูมแตะที่มือชายชรา ในตาเป็นประกายจ้องมองของวิเศษที่ว่านั้น
“มานี่สิ หลานรักของตา เจ้าฝักต้อยติ่งพวกเนี้ย มันเป็นของหลานแล้วนะ เอาพวกเขาลงดินนะหลาน แล้วเจ้าอะ จะได้เห็นสิ่งที่สวยงามเกินจะบรรยายเชียวล่ะ”
แม้เป็นวันที่ฟ้าใส แดดส่องแสงประกายแต่ก็มีน้ำหยดลงมา เป็นน้ำจากดวงตาของชายที่เดียวดายมาตลอดการเดินทาง น้ำตาไหลเพราะความสุขที่เต็มหัวใจนั้นเอง
♫ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ ฝนหยดแหมะลงมา ต้อยติ่ง ขี้เกียจ แตกบนฝ่ามือ ลืมตารับฝน ขอมอบดอกต้อยติ่ง แด่เจ้าหญิงน้อย ๆ ของฉัน และเธอ และเธอ ผู้ชื่นชมในความสัมพันธ์ อย่าให้ความรัก ถูกกักถูกขัง ให้ความรักเป็นพลัง ส่งเสียงดังไปสู่ใจของเธอ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ ♫
หลังจากงานวันนั้น ชายชราได้เดินทางกลับกระท่อมหลังเดิมทางภาคเหนือ เพียงแต่ในเวลาต่อมาเขาไม่เคยเหงาอีกเลย เพราะทุก ๆ ปี จะมีเจ้าหญิงเจ้าชายตัวเล็ก ๆ ผลัดกันเวียนมาหาไม่ได้ขาดสาย มาช่วยเขาปลูกผัก ปลูกดอกไม้และฟังนิทาน แม้หนทางจากภาคใต้จะไกลเกินกว่าจะมาถึงกระท่อมบนภูเขาทางภาคเหนือ แต่ก็ไม่ยากเลยสำหรับเด็ก ๆ ที่จะมาหา ก็แค่เดินมาเรื่อย ๆ ตามถนนสายเล็ก ๆ ที่มีดอกต้อยติ่งบานสะพรั่งสองข้างทางเท่านั้นเอง
♫ เจ้าหญิง เจ้าหญิง ระเบิดต้อยติ่งกำลังไปหา เพราะสวรรค์สวยงามจับตา อยากย้อนเวลาด้วยดวงตาของเธอ เจ้าหญิง เจ้าหญิง ระเบิดต้อยติ่งกำลังไปหา ไม่ใช่ระเบิดเวลา แต่เราเรียกว่าระเบิดต้อยติ่ง……ฝนตกพล่ามพรมลงมาจากฟ้าคราม ม่วงอะไรหนา ทะเลสีม่วงสุดตา ห่มคลุมภูเขาสวยงาม ม่วงสีม่วงต้อยติ่ง ฝนตกจึงเกิดสิ่งอัศจรรย์ เมื่อนั้นฝักมันระเบิดออกไป……ใจร้ายช่างใจร้ายจับพวกเรามัดไว้อึดอัดเหลือทน พวกเราอยากเล่นน้ำอยากระบำกลางสายฝน ใจร้ายช่างใจร้าย จับพวกเราขังไว้ทำร้ายจิตใจ ความฝันเป็นของเรา ชีวิตเป็นของเรา ขังแล้วเราเฉาปล่อยเราได้ไหม ถ้ายังขังพวกเรา จำเอาไว้ว่าคุณหน่ะคนใจร้าย….. เลิกห่อเจ้าไว้ นำเจ้าปลูกลงดิน แล้วงอกใหม่ ผลิใบไปตามใจตามฝัน เต้นระบำไปเถอะต้อยติ่งน้อย ๆ รอให้งอกใหม่ ชีวิตต้องงอกงามใหม่ ความฝันไม่ควรให้ใครเอาไปกักขัง……เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ ฝนหยดแหมะลงมา ต้อยติ่ง ขี้เกียจ แตกบนฝ่ามือ ลืมตารับฝน ขอมอบดอกต้อยติ่ง แด่เจ้าหญิงน้อย ๆ ของฉัน และเธอ และเธอ ผู้ชื่นชมในความสัมพันธ์ อย่าให้ความรัก ถูกกักถูกขัง ให้ความรักเป็นพลัง ส่งเสียงดังไปสู่ใจของเธอ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ เปาะแปะ ♫
แสงแดดร้อนแรงแผดเผา แผ่นดินแตกร้าวด้วยความแห้งแล้ง ในห้วย หนอง คลอง บึง แห้งผาก ไม่มีน้ำหลงเหลืออ...
อ่านต่อกาลครั้งหนึ่ง ยังมีลำธารสายเล็ก ๆ สายหนึ่งเกิดขึ้นจากแหล่งต้นน้ำในป่าลึก ลำธารสายนี้แม้จะยังเด็กน...
อ่านต่อท่ามกลางผืนป่าสีทองอันแสนจะกว้างใหญ่ บรรดาสัตว์ต่างๆต่างอาศัยร่วมกันอย่างมีความสุข ที่เนินเขาสีแด...
อ่านต่อ