ณ ดินแดนอันไกลโพ้นของประเทศฟินแลนด์ ไกลออกไปทางตอนเหนือ ที่แห่งนั้นมีพระราชาผู้ปกครองดินแดน พระองค์มีพระธิดาองค์หนึ่งชื่อ เจ้าหญิงเวนด์ลา ผู้ฉลาดปราดเปรื่อง และรอบรู้ภาษาทุกภาษาที่ทุกคนใช้สื่อสารกันบนโลกนี้
♫ ฉันชื่อเวนด์ลา เป็นเจ้าหญิงโสภา สวยงามสง่า ฉันน่ารัก ชอบพูดชอบทัก เพราะฉันเป็นคนเจ้าปัญญา ฉันพูดได้หลายภาษา จะไปเมืองไหนทั้งซ้ายทั้งขวา ถามมาตอบไป พูดได้พูดดี ฉันพูดได้หลายภาษา ลั้ลลาลั้ลลา ฉันสวยโสภา เจ้าหญิงเวนด์ลา ลั้ลลา ♫
เจ้าหญิงเวนด์ลาร้องเพลงอย่างมีความสุข พระราชาเองก็ภาคภูมิใจกับเจ้าหญิงเวนด์ลามาก และคิดเสมอว่า ไม่มีใครที่จะสามารถเอาชนะความฉลาดของพระธิดาได้ พระราชาป่าวประกาศออกไปว่า หากชายหนุ่มคนไหนสามารถพูดภาษาที่เจ้าหญิงไม่รู้ความหมายได้ จะยกเจ้าหญิงเวนด์ลาให้ แต่หากมาแล้วไม่สามารถเอาชนะเจ้าหญิงเวนด์ลาได้จะต้องถูกลงโทษ
ชายหนุ่มหลายคนเมื่อเห็นความงามของเจ้าหญิงเวนด์ลาก็ต่างพากันหลงใหล และไม่มีใครคิดว่าตัวเองจะด้อยกว่าเจ้าหญิง จึงพากันรับคำท้าของพระราชา
ชายหนุ่มทั้งรวยทั้งจนพากันเข้ามาสมัครมากมาย บางคนก็ขนทองคำใส่เกวียนมาด้วย เพื่อจะได้สู่ขอเลยเมื่อชนะเจ้าหญิงได้ ชายหนุ่มต่างก็ทยอยเข้าเฝ้าเจ้าหญิง ผ่านไปหนึ่งคน สองคน สามคน สี่คน ห้าคน จนกระทั่งหนึ่งร้อยคน ก็ไม่มีใครเอาชนะเจ้าหญิงเวนด์ลาได้เลย ชายหนุ่มทั้งหลายเลยต้องถูกลงโทษด้วยวิธีการหลายแบบ ทั้งถูกจับขังในถ้ำอันเหม็นอับ ถูฏจับโยนลงทะเลท่คลื่นแรงและเย็นเฉียบ ถูกเนรเทศออกนอกเมืองไปอยู่ในที่ทุรกันดาร ขาดแคลนน้ำ และวิธีการลงโทษอีกมากมาย
เมื่อข่าวนี้่แพร่สะพัดออกไปจึงไม่มีชายหนุ่มคนใดที่จะมารับคำท้าของพระราชาอีกเลย เจ้าหญิงที่สนุกกับการเอาชนะในตอนแรกก็เริ่มเหงาและรู้สึกโดดเดี่ยว
“แย่จังเลย นี่น่ะเหรอโชคชะตาของฉัน”
♫ ฉันชื่อเวนด์ลา เป็นเจ้าหญิงโสภา สวยงามสง่า ฉันน่ารัก และคึกคัก เพราะฉันเป็นคน เจ้าปัญญา ♫
อีกฟากของเมืองไกลออกไป ยังมีชายหนุ่มคนเลี้ยงแกะผู้ยากจนแต่เป็นคนจิตใจดี ที่สำคัญเขาสามารถพูดคุยและรู้ภาษาของสัตว์ เขามีชื่อว่าทิโม่
♫ ผมคือทิโม่ ไม่เก่งไม่อวดโก้ ผมคือทิโม่ ไม่เคยโมโหใคร ผมชื่อทิโม่ สัตว์เล็กสัตวใหญ่ชอบมาเจรจา เจอกันก็ทักทาย (เสียงภาษาสัตว์) เพราะผมนั้นรู้ รู้ รู้ ภาษาของเหล่าสรรพสัตว์ ลั้ลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลา ลั้ลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลา ผมชื่อทิโม่ ♫
วันหนึ่งทิโม่อยากเข้าไปผจญภัยในเมืองที่ซึ่งเขาไม่เคยไป เขาจึงออกเดินทางจากหมู่บ้านทันที ระหว่างทางเขาได้ยินเสียงนกร้องจิ๊บๆ ด้วยความเจ็บปวดอยู่ข้างทาง ทิโม่เข้าใจภาษาสัตว์อยู่แล้วจึงรู้ว่านี่ไใม่ใช่เสียงร้องที่ปกติ เมื่อเขาเดินตามเสียไป ก็ได้พบนกกระจอกปักหักตัวหนึ่ง ทิโม่ได้พูดคุยกับเจ้านกน้อย เพื่อไม่ให้มันตกใจ นกกระจอกจึงให้ทิโฒ่ช่วยทำแผลให้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยทิโม่ก็เกรงว่าหากปล่อยไว้นกตัวนี้อาจจะเป็เหยื่อของสัตว์ตัวอื่น ทิโม่จึงบอกนกกระจอกว่าให้เข้าไปอาศัยอยู่ในถุงย่ามของเขาก่อน เมื่อนกน้อยแข็งแรงแล้วจึงค่อยไป นกน้อยยอมให้ทิโม่เอามันเข้าไปไว้ในถุงย่ามเพื่อความปลอดภัย
เดินไปได้สักพัก ทิโมก็ได้ยินเสียงกระรอกร้องให้ช่วย
(เสียงกระรอก)
“ช่วยด้วยๆ ขาข้าติดกับดักอ่ะ”
ทิโม่จึงช่วยกระรอกออกจากกับดักแล้วทำแผลให้มัน ด้วยจิตใจที่มีเมตตา ทิโม่บอกกับกระรอกว่า ขอให้กระรอกมาอยู่ในถุงย่ามก่อน เมื่อหายแล้วค่อยไป กระรอกยอมให้ทิโม่จับมันใส่ถุงรวมกับนกกระจอก เพื่อให้มันได้พักจนกว่าขาจะหาย
เดินทางไปได้อีกไม่นาน เขาก็ได้ยินเสียงร้อง กา กา กา
ทิโม่จึงร้องถามว่าเกิดอะไรขึ้น กาบอกว่าคู่ของมันหายไป ไม่รู้ว่าคนในเมืองจับไปหรือไม่ ทิโม่จึงชวนกาเข้าเมืองด้วยกัน การู้สึกอุ่นใจที่มีคนพูดภาษาของมันรู้เรื่องเดินทางไปด้วย แต่ด้วยความเหน็ดเหนื่อยจากการบินตามหาคู่ของมันมาทั้งวัน กาจึงขอเข้าไปอยู่ในถุงย่ามด้วย และทั้งหมดก็เดินทางต่อไป
เมื่อมาถึงในเมือง เขาลงนั่งพักดื่มน้ำและป้อนน้ำให้นก กระรอก และกา ระหว่างที่นั่งอยู่นั้น ทิโม่ได้ยินชาวเมืองพูดถึงคำท้าทายชายหนุ่มของพระราชา บรรดาสัตว์สามตัวในถุงย่ามต่างก็อยากให้ทิโม่ผู้ใจดีของพวกมัน ได้มีชีวิตที่ดีขึ้น พวกมันบอกให้ทิโฒ่ลองไปทดสอบดู ทิโม่จึงเดินทางไปพระราชวัง
ที่หน้าวังอันใหญ่โตและสวยงาม ทหารที่เฝ้าประตูวังพาทิโม่ไปเข้าเฝ้าพระราชา เมื่อพระราชาเห็นทิโฒ่ก็ทรงขบขันที่หนุ่มเลี้ยงแกะอย่างเขาจนมารับคำท้าเรื่องภาษาที่เจ้าหญิงไม่รู้ แต่พระราชานึกสนุกก็ทรงยอมให้ทดสอบ พระองค์ทรงเรียกเจ้าหญิงเวนด์ลาออกมา เมื่อเจ้าหญิงออกมา เจ้าหญิงก็ร้องถามทิโม่ว่า
“เธอพูดภาษาอะไรได้บ้างล่ะจ๊ะ”
เจ้าหญิงถามอย่างไม่ใส่นัก เพราะคิดไปว่าทิโม่ก็คงไม่ต่างอะไรจากชายหนุ่มคนอื่นๆ แต่ทิโม่ก็ร้องเพลงออกมาให้เจ้าหญิงฟัง
♫ ผมคือทิโม่ ไม่เก่งไม่อวดโก้ ผมคือทิโม่ ไม่เคยโมโหใคร ผมชื่อทิโม่ สัตว์เล็กสัตวใหญ่ชอบมาเจรจา เจอกันก็ทักทาย (เสียงภาษาสัตว์) เพราะผมนั้นรู้ รู้ รู้ ภาษาของเหล่าสรรพสัตว์ ลั้ลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลา ลั้ลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลา ผมชื่อทิโม่ ♫
คราวนี้เจ้าหญิงและพระราชาต่างเฝ้ามองอย่างสนใจ ทิโม่ก็ค่อยๆรูปหัวเจ้านกกระจอก มันร้องจิ๊บๆๆๆ
ทีโม่ถามเจ้าหญิงว่านกกระจอกพูดว่าอะไร เจ้าหญิงทรงตอบไม่ได้ ทิโม่เฉลยว่า นกบอกว่า ขอบใจที่ช่วยข้าไว้ ปีกของข้าเกือบหายแล้วล่ะ จากนั้นทิโม่ก็เกาใต้คางของกระรอก มันร้องเคล็ก เคล็กๆๆ เจ้าหญิงก็ไม่รู้คำแปลอีก ทิโม่บอกว่า กระรอกบอกขอบคุณที่ช่วยชีวิตมันจากนายพราน ทิโม่ยังไม่ทันใช้อีกาทดสอบภาษากับเจ้าหญิง พระราชาก็ทรงสั่งให้หยุด เพราะไม่อยากเสยหน้าไปมากกว่านี้ เจ้าหญิงเวนด์ลาก็ร้องไห้เสียใจ ี่ทำให้พระราชาผิดหวัง ทิโม่ปลอบเจ้าหญิงว่า ทุกคนเรียนรู้ได้ ส่วนเจ้าหญิงเองก็ยอมรับว่ามีอีกหลายสิ่งที่ตนยังไม่รู้ พระราชานึกถึงคำสัญญาที่ให้ไว้ตั้งแต่ประกาศคำท้าออกไป จึงทรงประกาศให้เจ้าหญิงกับทิโม่อภิเษกสมรสกัน
ทุกๆวันทิโม่จะพาเจ้าหญิงเข้าไปในป่าเพื่อเรียนรู้ภาษาสัตว์ทั้งหลายกันอย่างมีความสุข
♫ นี่คงเป็นวันที่ฉันฝัน เพราะในทุกวันฉันได้พบเจอ เรียนรู้สิ่งใหม่ ได้รู้ทุกสิ่งได้รู้ทุกอย่าง จากเพื่อนร่วมทาง (เสียงสัตว์) ขอเพียงเปิดใจ เรียนรู้สิ่งใหม่ได้ทุกวัน ลั้ลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลา ลั้ลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลัลลา ทิโม่กับเจ้าหญิงเวนด์ลา ♫
แสงแดดร้อนแรงแผดเผา แผ่นดินแตกร้าวด้วยความแห้งแล้ง ในห้วย หนอง คลอง บึง แห้งผาก ไม่มีน้ำหลงเหลืออ...
อ่านต่อกาลครั้งหนึ่ง ยังมีลำธารสายเล็ก ๆ สายหนึ่งเกิดขึ้นจากแหล่งต้นน้ำในป่าลึก ลำธารสายนี้แม้จะยังเด็กน...
อ่านต่อท่ามกลางผืนป่าสีทองอันแสนจะกว้างใหญ่ บรรดาสัตว์ต่างๆต่างอาศัยร่วมกันอย่างมีความสุข ที่เนินเขาสีแด...
อ่านต่อ