เจ็บท้องแข็งถี่ ไม่มีมูก ไม่มีน้ำเดิน ใกล้จะคลอดหรือยัง

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• เจ็บท้องแข็งถี่ ไม่มีมูก ไม่มีน้ำเดิน บอกอะไร
• เจ็บท้องแข็งถี่ ไม่มีมูก ไม่มีน้ำเดิน ควรไปโรงพยาบาลเลยไหม
• ปวดท้องคลอด แต่น้ำไม่เดิน เพราะอะไร
• ปวดท้องถี่ทุก 10 นาที ไม่มีน้ำเดิน ทำไงดี
• ปวดท้องถี่ทุก 5 นาที ไม่มีน้ำเดิน ทำไงดี
• เลือกโภชนาการที่มี MFGM เพื่อ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่า

อาการน้ำเดิน หรือน้ำคร่ำแตก เป็นหนึ่งในสัญญาณใกล้คลอดที่คุณแม่รู้กันดี แต่...ถ้าหากคุณแม่มีอาการเจ็บท้องแข็งถี่ ไม่มีมูก ไม่มีน้ำเดิน อาการแบบนี้ถือจะเป็นสัญญาณใกล้คลอดด้วยหรือเปล่า? แล้วถ้าหากปวดท้องคลอด แต่น้ำไม่เดิน และอาการปวดก็ไม่ดีขึ้น ลักษณะแบบนี้ก็แปลว่ายังไม่ใกล้คลอดใช่ไหม? บทความนี้จาก Enfa มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับอาการเจ็บท้องใกล้คลอดมาฝากค่ะ มาดูกันว่าอาการแบบไหนบ้างนะ ที่เป็นอาการเจ็บท้องใกล้คลอดจริง ๆ และอาการแบบไหนที่เป็นอาการเจ็บท้องหลอก

เจ็บท้องแข็งถี่ ไม่มีมูก ไม่มีน้ำเดิน บอกอะไร

แม้ว่าอาการน้ำเดิน หรือน้ำคร่ำแตก จะเป็นหนึ่งในสัญญาณใกล้คลอด แต่...อาการน้ำเดินไม่ใช่ตัวกำหนดว่าคุณแม่กำลังจะใกล้คลอดเสมอไป และไม่ใช่คุณแม่ทุกคนที่มีอาการน้ำเดินก่อนคลอดค่ะ

มีบ่อยครั้งที่มดลูกมีการบีบตัว แต่ก็ไม่ได้มีน้ำคร่ำแตก หรืออาจจะมีน้ำคร่ำแตกออกมาเล็กน้อยโดยไม่รู้ตัวก็ได้เช่นกัน ดังนั้น หากคุณแม่มีอาการเจ็บท้องแข็งถี่ ไม่มีมูก ไม่มีน้ำเดิน นอกจากจะต้องสังเกตเรื่องน้ำคร่ำเดินหรือไม่แล้ว จะต้องเช็กดูด้วยว่าปากมดลูกของคุณแม่เริ่มเปิดด้วยหรือเปล่า เพราะแม้ว่าน้ำไม่เดิน แต่ปากมดลูกเปิดออกแล้ว นั่นก็เป็นสัญญาณใกล้คลอดเช่นกันค่ะ

อย่างไรก็ตาม อาการเจ็บท้องแข็งถี่ ไม่มีมูก ไม่มีน้ำเดิน ก็สามารถสันนิษฐานได้หลายกรณี ดังนี้

• เป็นอาการเจ็บท้องหลอก เพราะไม่มีน้ำเดิน และปากมดลูกยังไม่เปิด
• เป็นอาการเจ็บท้องใกล้คลอดจริง ถึงจะไม่มีมูก ไม่มีน้ำเดิน แต่ปากมดลูกเปิดแล้ว
• อาจเป็นอาการเจ็บท้องจริง เพราะแม้ไม่มีน้ำเดิน แต่อาการปวดไม่หายไป แม้นอนพักหรือกินยาแก้ปวดแล้วก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ถือเป็นเรื่องปกติที่คุณแม่จะเกิดความสับสนกับอาการเจ็บท้องจริง เจ็บท้องหลอก แต่ถ้าคุณแม่รู้สึกเจ็บท้องแข็งถี่ ๆ แม้ว่าจะไม่มีน้ำคร่ำไหลออกมา และปากมดลูกยังไม่เปิด ถึงแม้จะไม่แน่ใจว่าใช่อาการใกล้คลอดไหม ก็สามารถไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยเบื้องต้นได้เช่นกันค่ะ

เจ็บท้องแข็งถี่ ไม่มีมูก ไม่มีน้ำเดิน ควรไปโรงพยาบาลเลยไหม

ถ้าคุณแม่รู้สึกเจ็บท้องแข็งถี่ ๆ แต่ไม่มีมูก ไม่มีน้ำเดิน หากนั่งพัก นอนพัก หรือกินยาแก้ปวด แล้วอาการดีขึ้น ก็อาจจะไม่ต้องไปโรงพยาบาล เพราะอาจเป็นเพียงอาการเจ็บครรภ์เตือน หรือเจ็บครรภ์หลอก

แต่ถ้าหากคุณแม่เจ็บท้องแข็งถี่ ไม่มีมูก ไม่มีน้ำเดิน แต่กินยาแก้ปวดแล้วก็ไม่หายปวดท้อง นอนพักก็ไม่ดีขึ้น แม้ว่าปากมดลูกจะยังไม่เปิด ก็ควรให้รีบไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยทันทีค่ะ

ปวดท้องคลอด แต่น้ำไม่เดิน เพราะอะไร

อาการปวดท้องคลอด แต่น้ำไม่เดิน เกิดได้จากหลายปัจจัย ดังนี้

• ทารกในครรภ์ดิ้นแรง
• คุณแม่ออกแรงมากเกินไป
• เป็นอาการมดลูกหดรัดตัวตามปกติของอายุครรภ์ไตรมาสสาม

ซึ่งอาการปวดท้องคลอดในลักษณะนี้ เราจะเรียกว่าเป็นอาการเจ็บครรภ์เตือน หรือเจ็บท้องหลอก เพียงคุณแม่นั่งพักสักหน่อย นอนพักสักเดี๋ยว หรือกินยาแก้ปวด ก็สามารถช่วยให้อาการปวดทุเลาลง และรู้สึกดีขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีอาการน้ำเดินหรือน้ำคร่ำไหลร่วมด้วย

อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่พบว่ามีอาการปวดท้องคลอดมากขึ้นเรื่อย ๆ และอาการไม่หายไป แม้ว่าจะนั่งพัก นอนพัก หรือกินยาแก้ปวดแล้วก็ตาม ไม่ว่าปากมดลูกจะเปิดหรือไม่เปิด ไม่ว่าจะมีน้ำคร่ำเดินหรือไม่ก็ตาม แต่ถ้าหากอาการปวดท้องไม่ดีขึ้นเลย ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยนะคะ

ปวดท้องถี่ทุก 10 นาที ไม่มีน้ำเดิน ทำไงดี

อาการปวดท้องถี่ทุก 10 นาที ไม่มีน้ำเดิน กรณีแรกอาจเป็นไปได้ว่า เป็นอาการเจ็บครรภ์เตือน ซึ่งกรณีแบบนี้แม้จะมีอาการปวดทุก ๆ 10 นาที แต่อาการปวดจะไม่รุนแรงขึ้น ละมักปวดที่บริเวณท้องน้อย ไม่ปวดแบบลุกลามมาถึงหน้าท้องหรือบั้นเอวหากคุณแม่นั่งพัก และอาการปวดเหล่านั้นหายไป ก็ถือว่ายังไม่ใช่สัญญาณใกล้คลอดค่ะ

แต่ถ้าหากคุณแม่มีอาการปวดท้องถี่ทุก 10 นาที ไม่มีน้ำเดิน และอาการปวดนั้นค่อย ๆ ปวดแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนทนไม่ไหว แม้จะกินยาหรือนอนพักอาการปวดก็ไม่หายไป หรือพบว่าปากมดลูกเริ่มจะเปิดแล้ว ควรรีบไปพบแพทย์ทันที เพราะนี่อาจเป็นอาการเจ็บท้องจริง และอาจจะถึงเวลาคลอดในอีกไม่นานค่ะ

ปวดท้องถี่ทุก 5 นาที ไม่มีน้ำเดิน ทำไงดี

หากคุณแม่มีอาการปวดท้องถี่ทุก 5 นาที ไม่มีน้ำเดิน สามารถรับมือได้ ดังนี้

• หากอาการปวดท้องเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ให้นอนพัก นั่งพัก หรือกินยาแก้ปวด หากอาการปวดหายไป ถือว่าเป็นเพียงอาการเจ็บครรภ์เตือน ยังไม่ใช่สัญญาณใกล้คลอด
• หากอาการปวดท้องเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าจะกินยาหรือพักผ่อนแล้ว แต่อาการปวดไม่หายไป ควรไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย
• หากอาการปวดท้องเริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีน้ำเดิน แต่ปากมดลูกเริ่มเปิด ควรไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจใกล้ถึงเวลาคลอดแล้ว

อาการปวดท้องในช่วงไตรมาสสาม หรือช่วงใกล้คลอดนั้น มักสร้างความสับสนและความวิตกกังวลให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ หากคุณพ่อคุณแม่พบว่ามีอาการปวดท้อง แต่ไม่แน่ใจว่าจะใช่อาการใกล้คลอดหรือเปล่า การรีบไปพบแพทย์ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร แม้ว่าจะเป็นเพียงอาการเจ็บครรภ์เตือนเฉย ๆ ก็ตาม แต่ถ้าหากเป็นอาการใกล้คลอดจริง คุณแม่ก็จะได้เข้าสู่กระบวนการเตรียมคลอดอย่างทันท่วงที ซึ่งดีต่อตัวคุณแม่และทารกในครรภ์ค่ะ

เลือกโภชนาการที่มี MFGM เพื่อ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่า

การเตรียมความพร้อมก่อนการคลอดนั้นเป็นเรื่องที่จำเป็น ทั้งการเตรียมพร้อมสังเกตอาการใกล้คลอด รวมถึงการจัดของเตรียมคลอดไว้ให้พร้อม จะช่วยให้คุณแม่สามารถรับมือกับนาทีฉุกเฉินได้อย่างทันท่วงที

มากไปกว่านั้น การเตรียมความพร้อมทางโภชนาการ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งพื้นฐานสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะโภชนาการที่ดี มีประโยชน์ จะช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโตของลูกน้อย ให้ลูกมีพัฒนาการทางสมองที่ดี เติบโตมาพร้อมกับทักษะที่สมวัยได้

โดยเฉพาะในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ควรดูแลให้ลูกได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่อง เพราะมี MFGM ซึ่งเป็นสุดยอดสารอาหารในนมแม่หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น

*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561