
Enfa สรุปให้
ตกขาวตั้งครรภ์ เกิดจากฮอร์โมนในร่างกายมีความผันผวน ส่งผลต่อปริมาณของตกขาวที่มากขึ้น ทำให้ผนังช่องคลอดนิ่มลง จึงทำให้สารคัดหลั่งสามารถหลั่งออกมาได้ง่ายขึ้น
ตกขาวคนท้องนั้น เมื่ออายุครรภ์เข้าใกล้ช่วง 40 สัปดาห์ ตกขาวของคนท้องใกล้คลอดจะมีเมือกหนา ๆ และเลือดปนออกมากับตกขาวด้วย เป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังเตรียมพร้อมต่อการคลอดลูก
ลักษณะตกขาวคนท้องที่มีกลิ่นเหม็นคาว เหม็นเปรี้ยว เหม็นบูด ตกขาวมีสีเขียว สีเหลือง สีน้ำตาล สีแดงเข้ม หรือสีเทา พร้อมอาการคัน ปัสสาวะขัด หรือปวดที่ช่องคลอด ควรไปพบแพทย์

เลือกอ่านตามหัวข้อ
การตกขาว เป็นเรื่องปกติที่พบได้ในผู้หญิงทุกคน ซึ่งจะมีลักษณะเป็นของเหลวสีขาว หรือสีใส ออกมาจากช่องคลอด โดยสารคัดหลั่งนี้จะทำหน้าที่ในการหล่อลื่น ทั้งยังป้องกันการติดเชื้อและการระคายเคืองบริเวณช่องคลอดด้วย ตกขาวมักจะเกิดขึ้นในช่วงที่มีรอบเดือน โดยอาจจะเกิดขึ้นในช่วงก่อนมีประจำเดือน ระหว่างมีประจำเดือน หรือหลังมีประจำเดือนก็ได้ นอกจากนี้สี ปริมาณ หรือกลิ่น ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคลด้วย
แต่...ถ้าการตกขาวถือเป็นเรื่องปกติของผู้หญิง แล้วการตกขาวขณะตั้งครรภ์ยังถือเป็นเรื่องปกติอยู่ไหม ถ้าตกขาวตอนท้องจะอันตรายหรือเปล่า เรามาหาคำตอบกันที่บทความนี้เลย
ขณะตั้งครรภ์ร่างกายของคุณแม่จะมีการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ เกิดขึ้นมากมาย โดยสาเหตุหลัก ๆ ก็มาจากการที่ฮอร์โมนในร่างกายมีการผกผันทั้งเพิ่มขึ้นและลดลง จึงส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของคุณแม่ ตั้งแต่ท้องที่จะค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้น เรี่ยวแรงที่ถดถอยลง น้ำหนักที่มากขึ้น หรืออาการแพ้ท้องที่ชวนให้รู้สึกหงุดหงิดใจ
และการเพิ่มขึ้นของฮอร์โมนในช่วงตั้งท้องนี้ก็ยังมีผลต่อปริมาณของตกขาวที่มากขึ้นด้วย รวมถึงผนังช่องคลอดที่นิ่มลง ก็ทำให้สารคัดหลั่งสามารถหลั่งออกมาได้ง่ายขึ้น คุณแม่หลายท่านจึงรู้สึกว่ามีมูกใสๆ ออกมาขณะตั้งครรภ์อ่อนๆ ในช่วงที่กำลังท้อง
ลักษณะของตกขาวโดยทั่วไปแล้วแทบไม่มีความแตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นช่วงก่อนหรือขณะตั้งครรภ์ จึงยากที่จะระบุว่าตกขาวแบบไหนแปลว่าท้อง ลักษณะตกขาวตอนท้องอ่อน ๆ ก็จะมีสีขาว และมีกลิ่นอ่อน ๆ แต่บางครั้งก็ไม่มีกลิ่น ซึ่งเหมือนกับตกขาวตอนที่ยังไม่ท้อง
แต่พอตั้งท้องเข้าใกล้ช่วง 40 สัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่จะมีการคลอด ช่วงนี้แหละที่ตกขาวของคนท้องใกล้คลอดจะมีความแตกต่างจากตกขาวคนท้องระยะแรกตรงที่อาจจะมีเมือกหนา ๆ และเลือดปนออกมากับตกขาวด้วย ซึ่งอาการตกขาวเช่นนี้เป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังเตรียมพร้อมต่อการเจ็บครรภ์คลอด
นอกจากนี้หากคนท้องคันช่องคลอดตกขาวมีสีหรือกลิ่นผิดปกติ เช่น สีเขียว เหลือง เทา หรือมีกลิ่นเหม็น ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาเชื้อโรคหรือภาวะติดเชื้อในช่องคลอด
ตกขาวในช่วงตั้งครรภ์ปกติจะมีสีขาวขุ่นหรือใส ลักษณะเหมือนน้ำนมหรือน้ำใส ๆ ไม่เหนียวจนเกินไป และไม่มีกลิ่นแรง เป็นสัญญาณว่าร่างกายกำลังสร้างสารหล่อลื่นตามธรรมชาติและช่วยป้องกันเชื้อโรค คล้ายกับช่วงที่มีมูกไข่ตก แม้ไม่เหมือนกันเสียทีเดียว แต่ให้ความรู้สึกแฉะมากขึ้นในบางวันได้
ตกขาวสีเหลืองในช่วงตั้งครรภ์ถือว่าเป็นอาการที่พบได้บ่อย และมีได้หลายสาเหตุ ขึ้นอยู่กับลักษณะ สี กลิ่น และอาการร่วมอื่น ๆ การสังเกตให้ละเอียดจะช่วยให้คุณแม่ประเมินได้ว่าผิดปกติหรือไม่ โดยแบ่งตามลักษณะดังนี้
อาจเกิดจากฮอร์โมนและการเสียดสี ไม่ได้บ่งชี้ว่าติดเชื้อ หากไม่มีอาการคันหรือกลิ่นร่วมด้วย ให้สังเกตต่อได้ แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นสีเข้ม กลิ่นแรง หรือปริมาณมากผิดปกติ ควรพบแพทย์
ลักษณะนี้มักไม่ใช่อาการอันตราย แต่อาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของการติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิด ควรใส่ใจความสะอาด และสังเกตต่อเนื่อง
หากมีกลิ่นเหม็นหรือเปรี้ยวร่วมด้วย มักเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ เช่น เชื้อแบคทีเรีย BV หรือเชื้อรา ควรเข้ารับการตรวจรักษา เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในขณะตั้งครรภ์ รวมถึงลดโอกาสที่ตกขาวจะเปลี่ยนสี เช่น ตกขาวสีน้ำตาลในบางราย
สีเขียวมักมีความเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อ เช่น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือการติดเชื้อแบคทีเรียรุนแรง ควรพบแพทย์เพื่อรับการประเมินทันที โดยทั่วไปมักมีสาเหตุ ดังนี้
แม้ไม่มีอาการคัน แต่ สีเขียวก็ยังบ่งบอกถึงการติดเชื้อที่ต้องได้รับการรักษา อาการแบบนี้พบได้บ่อยในผู้ที่ติดเชื้อแบคทีเรียหรือ BV ซึ่งอาจไม่มีอาการเจ็บหรือคัน แต่ยังเป็นภาวะที่ควรพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย
ซึ่งโดยทั่วไปการติดเชื้อในช่องคลอด ไม่ได้ทำร้ายลูกโดยตรง แต่ถ้าปล่อยไว้นานอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการอักเสบของช่องคลอด การติดเชื้อลุกลาม น้ำเดินก่อนกำหนด และคลอดก่อนกำหนด (ในบางกรณี) จึงควรพบแพทย์เพื่อให้วินิจฉัยและจ่ายยาที่ปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ หลีกเลี่ยงการซื้อยามารักษาเอง และงดเพศสัมพันธ์จนกว่าอาการจะหาย
กลิ่นผิดปกติเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ แม้ไม่คันก็ไม่ควรละเลย โดยเฉพาะกลิ่นเหม็นคาว กลิ่นปลาเน่า หรือกลิ่นเปรี้ยวแรง ควรตรวจวินิจฉัยและรับยารักษาตามแพทย์สั่ง เพราะบางครั้งกลิ่นผิดปกติอาจเกิดขึ้นก่อนที่สีหรือปริมาณจะเปลี่ยนแปลง
ฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นทำให้คุณแม่หลายคนมีตกขาวมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะไตรมาสที่ 2–3 หากยังเป็นสีขาวใส ไม่มีกลิ่น และไม่คัน ถือว่าปกติ แต่ถ้าเยอะมากผิดปกติ หรือมีส่วนคล้ายเมือกเหนียว ควรสังเกตว่าไม่ใช่น้ำคร่ำหรือมูกเลือดก่อนคลอดในกรณีที่อายุครรภ์มากขึ้น
ช่วงท้องอ่อน ๆ มักพบตกขาวสีขาวใสหรือขาวน้ำนม ซึ่งเกิดจากเยื่อบุช่องคลอดที่เปลี่ยนแปลงและเลือดไปเลี้ยงมากขึ้น ถือว่าเป็นเรื่องปกติ และอาจทำให้คุณแม่รู้สึกชุ่มชื้นมากกว่าปกติ แต่หากตกขาวมีเลือดปนหรือเปลี่ยนเป็นสีเข้ม ควรรีบพบแพทย์
เมื่อเข้าใกล้ 37–40 สัปดาห์ ตกขาวอาจมีมูกเหนียวขึ้น สีใสปนเลือดเล็กน้อย เป็น “มูกเลือดก่อนคลอด (Bloody show)” ซึ่งเป็นสัญญาณว่าปากมดลูกเริ่มเปิดและใกล้เจ็บท้องคลอด หากมีเลือดมากผิดปกติควรรีบไปโรงพยาบาลทันที
ไตรมาสที่สามร่างกายจะผลิตเมือกและสารหล่อลื่นมากขึ้นเพื่อเตรียมคลอด ทำให้ตกขาวเพิ่มขึ้นได้ หากตกขาวยังเป็นสีขาวใส ไม่มีกลิ่น และไม่ปวดท้องร่วมด้วย ถือว่ายังปกติ แต่ควรสังเกตความแตกต่างจากน้ำเดินหรือการติดเชื้อไว้เสมอ
เดือนสุดท้ายฮอร์โมนเปลี่ยนมากที่สุด ตกขาวอาจมากขึ้นเรื่อย ๆ หรือมีมูกเลือดปนออกมาได้ ถือเป็นภาวะใกล้คลอด หากตกขาวเป็นน้ำใสปริมาณมากไหลต่อเนื่อง ต้องระวังว่าน้ำคร่ำรั่ว และควรไปโรงพยาบาลทันที
คนท้องเป็นตกขาวรักษายังไง การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุต่างกัน ดังนี้
นอกจากจะต้องดูแลสุขภาพขณะตั้งครรภ์ให้แข็งแรงแล้ว สุขอนามัยของคุณแม่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อป้องกันและลดความเสี่ยงของการติดเชื้อแบคทีเรียต่าง ๆ โดยสามารถดูแลความสะอาดง่าย ๆ ดังนี้
สวมใส่เสื้อผ้าตัวหลวม ๆ หรือระบายอากาศได้ดี เพื่อหลีกเลี่ยงการอับชื้นในจุดซ่อนเร้น
ควรเลือกสวมชุดชั้นในที่เป็นมิตรกับผิวหนัง โดยเฉพาะชุดชั้นในที่ทำมาจากผ้าฝ้าย เพราะเบา สบาย ระบายอากาศได้ดี
หลังอาบน้ำ ว่ายน้ำ หรือออกกำลังกาย ควรดูแลอวัยวะเพศให้แห้งสนิท อย่าปล่อยให้อับชื้น
รับประทานโยเกิร์ตหรืออาหารที่อุดมไปด้วยแบคทีเรียที่ดีต่อร่างกาย เพื่อช่วยเพิ่มปริมาณแบคทีเรียชนิดดี ทำให้ขับถ่ายง่าย
ดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรขาดน้ำ เพื่อเสริมให้เซลล์มีความชุ่มชื้น และสารหล่อลื่นตามธรรมชาติในร่างกายสามารถทำงานได้ตามปกติ
เช็ดทำความสะอาดอวัยวะเพศจากหน้าไปหลัง ไม่ควรเช็ดจากด้านหลังมาหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้แบคทีเรียหรือเชื้อไวรัสจากทวารหนักเข้าสู่อวัยวะเพศ
หลีกเลี่ยงการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้นที่มีกลิ่นหอมต่าง ๆ เพราะอาจมีส่วนผสมของน้ำหอม ที่จะทำให้เกิดการระคายเคืองได้ การล้างด้วยน้ำสะอาดถือว่าเพียงพอแล้ว
ควรสวมถุงอย่างอนามัยหากจะมีเซ็กซ์ขณะตั้งท้อง เพื่อป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
อาการคันช่องคลอดในคนท้องมักเกิดจากการติดเชื้อรา ซึ่งรักษาได้ด้วยยาทาหรือยาเหน็บต้านเชื้อราที่ปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์ เช่น clotrimazole หรือ miconazole แต่ควรได้รับยาจากแพทย์เท่านั้น เพราะยาบางชนิดโดยเฉพาะยากินอาจไม่ปลอดภัยในช่วงตั้งครรภ์ และการใช้ยาเองอาจทำให้อาการแย่ลงหรือรักษาไม่ตรงจุดได้
โดยทั่วไปตกขาวในคนท้องไม่อันตราย หากมีสีขาวหรือใส มีกลิ่นอ่อน ๆ และไม่มีอาการคันร่วมด้วย แต่ถ้าตกขาวเป็นสีเขียว เหลือง เทา หรือมีกลิ่นเหม็น มีอาการคันแสบ ปริมาณมากขึ้นผิดปกติ หรือมีเลือดปน เช่น ตกขาวสีน้ำตาลบ่อย ๆ อาจบ่งบอกถึงการติดเชื้อที่ต้องได้รับการรักษา เพราะหากปล่อยทิ้งไว้บางรายอาจเพิ่มความเสี่ยงน้ำเดินก่อนกำหนดหรือคลอดก่อนกำหนดได้
ยาสอดสามารถใช้ได้ในคนท้อง แต่ต้องเป็นยาที่แพทย์สั่งเท่านั้น โดยเฉพาะยาสอดรักษาเชื้อรา เช่น clotrimazole ซึ่งปลอดภัยในหญิงตั้งครรภ์ การซื้อยาสอดใช้เองไม่แนะนำ เพราะอาจใช้ยาผิดชนิด ทำให้อาการแย่ลง หรืออาจได้รับยาที่ไม่เหมาะสำหรับคนท้องได้
ตกขาวสีเขียวไม่สามารถหายได้เอง เพราะมักเป็นสัญญาณของการติดเชื้อแบคทีเรียหรือโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่ต้องได้รับการรักษาด้วยยาอย่างเหมาะสม หากปล่อยไว้อาจทำให้เชื้อลุกลามและเพิ่มความเสี่ยงภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ได้ จึงควรพบแพทย์ทันทีเมื่อพบตกขาวสีเขียวค่ะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
Enfa สรุปให้ ยาแก้ไอคนท้องที่ใช้ได้ เช่น ยากดอาการไอ (dextromethorphan) ยาละลายเสมหะ (acetylcys...
อ่านต่อ
Enfa สรุปให้ คนท้องไม่สบายกินยาอะไรได้บ้าง เมื่อคนท้องไม่สบาย ควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาเองโดยไม่ปรึ...
อ่านต่อ
Enfa สรุปให้ ชีพจรคนท้องอ่อน หรือหัวใจเต้นช้ากว่า 60 ครั้งต่อนาที ถือว่ามีภาวะหัวใจเต้นช้ากว่าปก...
อ่านต่อ