น้ำนมเหลืองอันล้ำค่า เปรียบเสมือนวัคซีนธรรมชาติ ที่มีแลคโตเฟอร์ริน และ MFGM
น้ำนมเหลือง (Colostrum): วัคซีนธรรมชาติจากอกแม่ ที่มีแลคโตเฟอร์ริน และ MFGM ที่สุด..เพื่อสมองและภูมิคุ้มกัน สำหรับเด็กทุกคนและเด็กผ่าคลอด หลายคนอาจเคยได้ยินว่า “น้ำนมเหลือง คือ ของขวัญที่ล้ำค่าสำหรับลูก” เพราะ “น้ำนมเหลือง” (Colostrum) ซึ่งหลั่งออกมาในเพียงแค่ 1-3 วันแรกหลังคลอด อัดแน่นไปด้วย สารอาหารสำคัญอย่าง แลคโตเฟอร์ริน เปรียบเสมือน วัคซีนธรรมชาติหยดแรก ที่จะช่วยสร้างเกราะภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงให้ลูกน้อย และวางรากฐานพัฒนาการสมองและร่างกายที่เหนือกว่าตั้งแต่วันแรก
ทำไมน้ำนมเหลืองจึงสำคัญ?
ในช่วง 1-3 วันแรกหลังคลอด ร่างกายคุณแม่จะผลิตน้ำนมเหลืองซึ่งเป็น “ของขวัญล้ำค่า” สำหรับลูก
- อุดมไปด้วย Lactoferrin สารสำคัญที่ช่วย เสริมภูมิคุ้มกัน ต้านเชื้อโรค และช่วยดูดซึมธาตุเหล็ก ลดความเสี่ยงภาวะโลหิตจาง
- นมแม่ยังมีสารอาหารสำคัญอย่าง MFGM (Milk Fat Globule Membrane) ที่ช่วยพัฒนาสมองทั้ง IQ และ EF หรือ ทักษะสมองเพื่อความสำเร็จในอนาคต ทำให้สมองลูก ไม่เพียงแค่คิดไว แต่เชื่อมต่ออย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการรอบด้านที่เหนือกว่า
รู้จักน้ำนมแม่ทั้ง 3 ระยะ และความสำคัญของ Lactoferrin
น้ำนมแม่แบ่งออกเป็น 3 ระยะสำคัญ ได้แก่
- น้ำนมเหลือง (Colostrum) ซึ่งหลั่งออกมาในช่วง 1–3 วันแรกหลังคลอด เป็นน้ำนมที่มีความเข้มข้นของสารอาหารและภูมิคุ้มกันสูงที่สุด โดยเฉพาะ Lactoferrin สารอาหารล้ำค่าที่มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูกตั้งแต่วันแรก ช่วยปกป้องลูกจากเชื้อโรคและสนับสนุนพัฒนาการอย่างรอบด้าน
- น้ำนมระยะเปลี่ยนผ่าน (Transitional Milk) ในช่วง 4–20 วันหลังคลอด ซึ่งสารอาหารจะเริ่มปรับสมดุลมากขึ้น
- น้ำนมสุก (Mature Milk) หลัง 20 วันเป็นต้นไป ที่มีสารอาหารครบถ้วนสำหรับการเจริญเติบโตระยะยาว
ทั้งนี้ แม้ Lactoferrin จะมีอยู่ในน้ำนมแม่ทุกระยะ แต่จะพบมากที่สุดในช่วงน้ำนมเหลือง ซึ่งเป็นช่วงเวลาสั้นๆและสำคัญที่สุด เพื่อช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและสร้างเกราะป้องกันที่ดีที่สุด
คุณสมบัติของ Lactoferrin ที่คุณพ่อคุณแม่ต้องรู้
แลคโตเฟอร์ริน คือ สารอาหารหลัก ที่มีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและสนับสนุนสุขภาพของลูก โดยมีงานวิจัยพิสูจน์แล้วว่าเป็น สารอาหารที่ ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและลดความเสี่ยงในการเจ็บป่วยของลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิด
นอกจากนี้ Lactoferrin ยังมีคุณสมบัติที่ช่วยดูแลสุขภาพลูกอย่างรอบด้าน ได้แก่
- ช่วยดูดซึมธาตุเหล็กอย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยงภาวะโลหิตจางในทารก
- เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ให้พร้อมต่อสู้กับเชื้อโรค
- ต้านเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส และเชื้อรา ที่เป็นสาเหตุของการเจ็บป่วย
- สนับสนุนระบบการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ที่ดีในลำไส้ ช่วยให้ลำไส้แข็งแรง
ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวของ lactoferrin อาจมีส่วนช่วยในการเสริมภูมิคุ้มกัน ในเด็กผ่าคลอดที่อาจมีความเสี่ยงจากการพัฒนาของภูมิคุ้มกันที่ล่าช้ากว่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ เนื่องจากไม่ได้รับจุลินทรีย์ชนิดดีจากช่องคลอดแม่
สร้างสมองของลูกให้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดในช่วง1000วันแรกด้วย Lactoferrin + MFGM + DHA
สมองของลูกเติบโต 80% ภายใน 1,000 วันแรก ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สมองพัฒนาเร็วที่สุด และสำคัญที่สุด การได้รับโภชนาการที่ครบถ้วนตั้งแต่วันแรก โดยเฉพาะ Lactoferrin + MFGM + DHA/ARA มีผลโดยตรงต่อพัฒนาการสมองในระยะสั้นและยาว
งานวิจัยพบว่าการได้รับโภชนาการที่มี Lactoferrin + MFGM + DHA/ARA ช่วยส่งเสริมพัฒนาการสมองได้ดีกว่าการได้รับเพียง DHA/ARA เพียงอย่างเดียว
โดยสารอาหารเหล่านี้ในนมแม่ มีผลลัพธ์ชัดเจนด้าน Cognitive Development ว่ามีพัฒนาการด้านความคิด การเรียนรู้ และความจำ เร็วกว่าชัดเจนในวัย 12 เดือน และผลลัพธ์ระยะยาวพิสูจน์แล้วว่า เด็กจะมี Self-Control หรือความสามารถในการควบคุมตนเองดีกว่าอย่างมีนัยสำคัญในช่วงอายุ 2.5–6 ปี พร้อม ทั้งมีคะแนนรวมด้านพฤติกรรม (Total Behavior Score) สูงกว่า ส่งผลให้ลูกเติบโตเป็นเด็กที่… มั่นใจ มองโลกในแง่ดี ฉลาด และใจเย็น มีความสามารถในการ เข้าสังคม สื่อสารได้ดี มีสมาธิ ตื่นตัว และอารมณ์ดี ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของความสำเร็จในอนาคต
สารอาหารสำคัญอย่าง Lactoferrin + MFGM + DHA/ARA ในนมแม่ ไม่เพียงช่วยให้สมองลูก ฉลาดและก้าวล้ำแต่ยังสร้างพฤติกรรม ที่เป็นรากฐานสำคัญของความสำเร็จในอนาคต
อ้างอิง
- Bialic, K.; Bialic, A.; Bakalarczyk, R.; Majewski, P.; Bednarz, L.; Szala-Czerwonka, K.; Wo´s, N.; Rejmer, A.; Rojek, K.; Wijas, K. Exploring the Potential of Lactoferrin in Neonatology and Obstetrics—Promising Advancements for Maternal and Infant Health.J. Educ. Health Sport 2023, 34, 34–50
- Czosnykowska-Łukacka, M., Orczyk-Pawiłowicz, M., Broers, B., & Królak-Olejnik, B. (2019). Lactoferrin in Human Milk of Prolonged Lactation. Nutrients, 11(10), 2350. https://doi.org/10.3390/nu11102350
- Moya-Pérez A, Luczynski P, Renes IB, et al. Intervention strategies for cesarean section-induced alterations in the microbiota-gut-brain axis. Nutr Rev. 2017;75(4):225-240. doi:10.1093/nutrit/nuw069
- Julvez J, Guxens M, Carsin AE, Forns J, Mendez M, Turner MC, Sunyer J. A cohort study on full breastfeeding and child neuropsychological development: the role of maternal social, psychological, and nutritional factors. Dev Med Child Neurol. 2014 Feb;56(2):148-56
- Smith J, Patel A, Martinez G, et al. Effects of breastfeeding on cognitive abilities at 4 years old: cohort study. Int J Early Childhood. 2024 Jul;57(1):255–277
- Suri, S., Verlato, G., & Ray, S. (2025). Editorial: The first 1000 days: window of opportunity for child health and development. Frontiers in nutrition, 12, 1673003. https://doi.org/10.3389/fnut.2025.1673003
- Lee, H., Park, H., Ha, E., Hong, Y. C., Ha, M., Park, H., Kim, B. N., Lee, B., Lee, S. J., Lee, K. Y., Kim, J. H., Jeong, K. S., & Kim, Y. (2016). Effect of Breastfeeding Duration on Cognitive Development in Infants: 3-Year Follow-up Study. Journal of Korean medical science, 31(4), 579–584. https://doi.org/10.3346/jkms.2016.31.4.579
- Tua Karing J, Tracy A, Gonzales CR, et al. Breastfeeding, Early Self-Regulation, and Academic Achievement in Kindergarten Among Disadvantaged Children. Matern Child Health J. 2021;25(11):1766-1775. doi:10.1007/s10995-021-03193-5
- The Basics of Breastfeeding . [Online] Accessed https://americanpregnancy.org/healthy-pregnancy/breastfeeding/breastfeeding-overview/ [1 Oct 2025]