สัปดาห์ที่ 26 คำแนะนำ
* ให้คุณพ่อสัมผัสและนวดท้องคุณแม่บ่อยๆ คุณพ่อหมั่นลูบไล้หน้าท้องคุณแม่บ่อยๆ ขณะที่สัมผัสอาจร้องเพลงหรือพูดคุยไปด้วย สมองของลูกสามารถพัฒนาได้ตั้งแต่ในครรภ์ หากระบบประสาทต่างๆ ของเขาได้รับการกระตุ้นอยู่เสมอ จะส่งผลดีต่อพัฒนาการด้านฉลาดเรียนรู้ของลูก
* ดูแลโภชนาการ เช่น ทานปลา เพื่อเพิ่มโปรตีนและดีเอชเอ ดื่มนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์ เพราะต้นทางของสู่อัจฉริยะตัวน้อยของลูก นับหนึ่งช่วงตั้งครรภ์ ลูกในครรภ์จึงควรได้รับสารอาหารเพื่อไปบำรุงสมอง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของความฉลาด สติปัญญา โดยรับจากแม่ผ่านทางรก ดังนั้นคุณแม่จึงต้องดูแลโภชนาการที่มีคุณภาพตลอดช่วงการตั้งครรภ์ เช่น การทานปลา การดื่มนมสำหรับแม่ตั้งครรภ์ เช่น นมเอนฟามาม่า ซึ่งมีดีเอชเอสูงถึง 50 มก./แก้ว โฟเลต โคลีน ใยอาหาร และแร่ธาตุต่างๆ
* เปิดเพลงเดิมๆ ให้ลูกฟังทุกวัน มีผลการวิจัยที่พิสูจน์แล้วว่า เด็กในครรภ์สามารถรับรู้และจดจำเพลงที่ได้ฟังบ่อยๆ ขณะอยู่ในครรภ์ได้ คุณแม่จึงควรเปิดเพลงเดิมๆ ให้ลูกฟังทุกๆ วัน และหลังคลอดคุณแม่ลองเปิดเพลงเดิมนั้น ลูกจะสงบ ไม่ร้องกวนและหลับง่ายขึ้น เนื่องจากลูกเคยชินต่อเสียงเพลงนั้นตั้งแต่อยู่ในครรภ์นั่นเอง
* สัมผัส ลูบหน้าท้องบ่อยๆ การสัมผัสลูบหน้าท้องบ่อยๆ จะกระตุ้นระบบประสาทและสมองส่วนรับสัมผัสของลูก คุณแม่ควรลูบหน้าท้องเป็นวงกลมจากบนลงล่างหรือจากล่างขึ้นบน ขณะเดียวกันก็ร้องเพลงหรือพูดคุยไป จะช่วยกระตุนพัฒนาการด้านการได้ยินของลูกด้วย

 

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

 

สัปดาห์ที่ 27 คำแนะนำ
* หาช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย ร้องเพลงกล่อมเด็กให้ลูกฟัง จังหวะที่นุ่มนวลของเพลงกล่อมเด็ก และการเปล่งเสียงที่อ่อนโยนและเต็มไปด้วยความรักของแม่ เป็นการเตรียมความพร้อมให้ลูกคุ้นเคยกับน้ำเสียงและภาษาของคุณแม่ตั้งแต่ลูกอยู่ในท้อง ซึ่งเป็นพื้นฐานของพัฒนาการด้านภาษา
* งดทำสี ไฮไลต์ ดัด โกรกผม แม้ไม่มีงานวิจัยที่ยืนยันว่าการทำสีผมมีอันตรายต่อเด็กในครรภ์ แต่การที่สารเคมีที่สัมผัสกับผิวของคุณแม่ที่ไม่แข็งแรงเหมือนเดิมในช่วงที่ฮอร์โมนเปลี่ยน อาจจะทำให้ผิวหนังคุณแม่แพ้ง่ายกว่าปกติ
* บริหารยืดกล้ามเนื้อลดอาการปวดหลัง การบริหารยืดกล้ามเนื้อด้วยการนั่งในท่าโยคะง่ายๆ คือ เอาฝ่าเท้าชนกันและมือสองข้างวางบนเข่าหรือพนมมือไว้ นั่งหลังตรง (หากชิดผนังได้จะดีมาก) จะทำให้คุณแม่รู้สึกสบายขึ้น ลดอาการปวดหลังได้
* ทานอาหารมื้อเย็นเร็วขึ้นกว่าเดิม เพื่อป้องกันอาการแสบร้อนหน้าอกระหว่างตั้งครรภ์ ซึ่งเกิดจากมีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร และกรดนั้นไหลย้อนขึ้นมาที่บริเวณทรวงอก คุณแม่จึงควรทานอาหารมื้อเย็นเร็วขึ้นกว่าเดิม และงดทานอาหารก่อนเข้านอน 2-3 ชั่วโมง ยกเว้นการดื่มนมสักแก้ว

 

สัปดาห์ที่ 28 คำแนะนำ
* เล่นส่องไฟใส่ท้อง สัปดาห์นี้ สายตาการมองเห็นของลูกเริ่มพัฒนา สามารถกระพริบตาได้เมื่อมีการกระตุ้นด้วยแสง การเล่นกับลูกโดยใช้ไฟฉายหลอดเล็กๆ ที่มีแสงไม่จ้าจนเกินไปนักฉายวนไปที่หน้าท้องแม่ประมาณ 5นาที จะช่วยกระตุ้นเซลล์สมอง เส้นประสาทส่วนรับภาพและการมองเห็นของลูกได้
* สวดมนต์ออกเสียง ช่วงเวลาที่คุณแม่สวดมนต์ ส่วนใหญ่จะเป็นเวลาก่อนนอน การที่ลูกได้ยินเสียงคุณแม่ในเวลาที่เงียบสงบ จะทำให้ลูกฟังเสียงอย่างสงบไปด้วยรู้สึกมีความสุข และเป็นผลดีกับวงจรการทำงานของสมองของลูกด้วย
* กินอาหารที่ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ร่างกายแม่ตั้งครรภ์ต้องปรับสมดุลด้วยการระบายความร้อนออกไป ทำให้คุณแม่มีการขับเหงื่อออกมากเพื่อเป็นการระบายความร้อน จึงควรกินอาหารที่ช่วยลดความร้อนในร่างกาย เช่น ผัก ผลไม้สด อย่าง แตงโม มังคุด สับปะรด ส้ม ชมพู่ แก้วมังกร ฯลฯ ธัญพืชต่างๆ
* ฟังดนตรีที่มีจังหวะผ่อนคลาย คุณแม่ควรเลือกฟังดนตรีที่ช่วยผ่อนคลาย เป็นดนตรีที่มีทำนองเรียบง่าย ไม่ซับซ้อน จังหวะปานกลางค่อนไปทางช้า ขณะฟังคุณแม่ควรปล่อยใจให้สบาย นึกถึงภาพที่สวยงาม และอาจฮัมทำนองคลอเบาๆ จะเป็นการสื่อสารที่อบอุ่นไปยังลูกน้อยในท้องส่งผลต่อพัฒนาการด้านอารมณ์ของลูก