วัยเด็ก เป็นวัยสำคัญที่ต้องการสารอาหารมาเพื่อพัฒนาสมองให้เติบโตอย่างเต็มที่ ดังนั้น ดีเอชเอ หรือ DHA จึงถือเป็นอีกหนึ่งในสารอาหารสำคัญที่สมองต้องการ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรดไขมันจำเป็น ทั้งมี โอเมก้า 3 เพราะเป็นส่วนประกอบของเซลล์ทุกเซลล์ มีหน้าที่สำคัญในการทำงานของระบบประสาทและสมอง เพื่อให้สมองของลูกน้อยพัฒนาอย่างมีประสิทธิภาพ วันนี้เรามีความรู้เกี่ยวกับแหล่งอาหาร พร้อมประโยชน์ของ DHA มาฝากกันค่ะ

แหล่งของ DHA สารอาหารจากธรรมชาติ

 

ในช่วงที่ทารกอยู่ในครรภ์จะได้รับ ดีเอชเอ (DHA) หรือกรดไขมันโอเมก้า 3 ผ่านทางสายสะดือโดยตรง จากอาหารที่คุณแม่รับประทาน รวมถึงในน้ำนมแม่ หากทารกกินนมแม่ได้อย่างน้อย 6 เดือน ก็จะได้รับสารนี้ตลอดในช่วง 6 เดือนเช่นกันค่ะ ซึ่งหลังจากหย่านมแม่แล้ว ลูกน้อยควรได้รับสารอาหารที่มี DHA รวมอยู่ด้วย ซึ่ง DHA ในอาหารธรรมชาติ พบได้มากในปลาแซลมอน ปลาทูน่า และนอกจากนี้ยังพบ DHA จำนวนหนึ่ง ในปลาที่มีไขมันสูง เช่น ปลาช่อน ปลาดุก ปลาจะละเม็ด ปลาสำลี ปลาตะเพียน และไข่แดง ฯลฯ

ทำไมต้องให้ลูกรับประทานอาหารที่มี DHA

 

ดีเอชเอ (DHA หรือ Docosahexaenoic acid) เป็นส่วนประกอบสำคัญของสมองและจอประสาทตา (เรตินา) ช่วยให้สมองส่วน Cerebral cortex ที่ทำหน้าที่ด้านความทรงจำ การใช้เหตุและผล การเรียนรู้ ควบคุมกล้ามเนื้อ และสายตาให้พัฒนาเชื่อมโยงกันได้ดี ซึ่ง DHA มีส่วนช่วยให้ลูกน้อยมีความฉลาดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วง 3 ปีแรก ซึ่งเป็นช่วงวัยที่สมองจะมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งหากสมองได้รับสารอาหารที่จำเป็นและเพียงพอก็จะช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่ถูกต้องสมวัยนั่นเองค่ะ

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

อาหารเด็ก ที่อุดมไปด้วย DHA

 

1. ปลาแซลมอน เป็นปลาที่มี DHA ปริมาณสูงที่สุดในบรรดาปลาทั้งหมด พยายามเลือกหาแซลมอนที่มาจากแหล่งธรรมชาติมากกว่าจากฟาร์มหรือการเลี้ยงแบบระบบปิด เพราะปลาแซลมอนที่มาจากธรรมชาตินั้นอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์อย่างโอเมก้า 3 สูงกว่าแซลมอนทั่วไป

2. ไข่ปลา มี DHA สูง1.3 ถึง 1.7 มิลลิกรัมต่อไข่ปลา 100 กรัม (ทั้งนี้ค่าของ DHA ขึ้นอยู่กับชนิดของปลาด้วยนะคะ)

3. เนยถั่ว เป็นอาหารรับประทานง่ายที่เด็ก ๆ หลายคนชอบ นับเป็นแหล่งอาหารที่อุดมไปด้วย DHA เช่นกัน ลองทาเนยถั่วบนขนมปัง เป็นขนมให้ลูกน้อยรับประทานเล่นแทนขนมหวานสำเร็จรูปทั่วไปดู จะยิ่งเป็นการเพิ่มคุณค่าทางอาหาร เพราะเด็ก ๆ จะได้รับทั้ง DHA โปรตีน และวิตามินบี

4. ถั่วเหลือง และอาหารที่ทำจากถั่วเหลืองอย่างเต้าหู้ เป็นอาหารที่อุดมไปด้วย DHA ถั่วเหลืองนอกจากจะเป็นอาหารสมองแล้วเต้าหู้ถั่วเหลืองยังมีแคลเซี่ยมอยู่มากช่วยให้กระดูกลูกน้อยแข็งแรงเพิ่มขึ้นอีกด้วย

นอกจากได้รับสารอาหารที่มี DHA สูงแล้ว ยังมีสารอาหารจำเป็นอื่น ๆ ที่ช่วยบำรุงสมอง พร้อมส่งเสริมพัฒนาการสมอง ร่างกาย และสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็ก ได้แก่

  • วิตามินบี 12 ช่วยเสริมสร้างการทำงานของระบบประสาทและสมอง พบในอาหารทะเล ตับ ชีส นม และไข่ เป็นต้น

  • ธาตุเหล็ก ช่วยนำออกซิเจนในเลือดไปเลี้ยงสมองและร่างกายให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ พบในตับ เนื้อสัตว์ ผักใบเขียว และธัญพืช เป็นต้น

  • กรดอะมิโนจำเป็น เป็นหน่วยย่อยของโปรตีน เป็นสารตั้งต้นของสารสื่อประสาท ช่วยให้สมองทำงานได้ดี พบในเนื้อสัตว์ นม ไข่ และธัญพืช เป็นต้น

  • ไอโอดีน มีความสำคัญต่อการทำงานของต่อมไทรอยด์ ช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของร่างกาย การเจริญเติบโตของเซลล์สมอง ความจำ และสติปัญญาของเด็ก พบใน ปลาทู อาหารทะเล และนม

เมนูอาหาร เสริมพัฒนาการเด็ก

 

1. ไข่ตุ๋นแซลมอนใส่แครอท ไข่เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูง วิตามินเอ วิตามินบี 12 นอกจากจะให้สารอาหารที่ร่างกายต้องการแล้ว ในไข่แดงยังมีสารอาหารที่ช่วยพัฒนาความจำให้เด็ก ๆ อย่าง โคลีน (Choline) ดังนั้น เด็ก ๆ ควรรับประทานไข่ไก่อย่างน้อยวันละ 1 ฟองทุกวัน

2. ต้มจืดตำลึงหมูสับ ตำลึงถือว่าเป็นผักยอดฮิตสำหรับคุณพ่อคุณแม่ เพราะตำลึงเป็นผักที่มีประโยชน์มากมาย อีกทั้งยังช่วยบำรุงนมสำหรับคุณแม่ให้นม แล้วยังดีสำหรับเด็ก ๆ เพราะในใบตำลึงอุดมไปด้วยวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และยังช่วยเสริมภูมิต้านทาน ไม่ให้ป่วยง่ายอีกด้วย

เพราะโภชนาการเป็นปัจจัยสำคัญในการเจริญเติบโตของลูก การวางแผนโภชนาการเด็กในทุกช่วงวัยจึงเป็นสิ่งที่คุณควรใส่ใจ คุณแม่มือใหม่สามารถหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการดูแลลูกน้อย รวมไปถึงข้อมูลโภชนาการของเด็กที่น่าสนใจ ได้ที่ Enfa A + Smart Club