Enfa สรุปให้
-
โฟลิก กรดโฟลิก หรือ โฟเลต คือวิตามินบี 9 ที่สามารถละลายในน้ำได้ มีหน้าที่ช่วยร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยเร่งการแบ่งเซลล์อย่างมีประสิทธิภาพ
-
กรดโฟลิก ช่วยลดความบกพร่องต่อระบบประสาทและสมอง ลดความพิการแต่กำเนิด หญิงวัยเจริญพันธุ์และผู้ที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์จึงควรได้รับโฟลิก 600-800 ไมโครกรัมต่อวัน
-
กรดโฟลิก ควรเริ่มกินตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ เพราะทารกจะเริ่มดึงโฟลิกมาใช้สร้างเซลล์ตอนอายุครรภ์ 2-4 สัปดาห์ การเริ่มกินโฟลิกหลังจากที่รู้ตัวว่าท้อง อาจไม่ช่วยป้องกันความพิการได้มากนัก
เลือกอ่านตามหัวข้อ
• กรดโฟลิกคืออะไร
• โฟลิกกับโฟเลตต่างกันอย่างไร
• ทำไมโฟลิกจึงสำคัญกับคุณแม่ตั้งครรภ์
• แนะนำอาการที่มีโฟลิกสูง
• คุณแม่ควรเริ่มกินโฟลิกตอนไหนและมากเท่าไหร่
• ถ้าอยากมีลูกต้องกินโฟลิกไหม
• ข้อแนะนำในการเลือกซื้อโฟลิก
• ไขข้อข้องใจเรื่องโฟลิกกับ Enfa Smart Club
นอกจากการกินอาหารที่มีประโยชน์และหลากหลายแล้ว แม่ตั้งครรภ์ยังจำเป็นจะต้องได้รับสารอาหารและวิตามินเสริมอย่าง โฟลิก หรือ โฟเลต เพื่อช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ลดความเสี่ยงของภาวะแทรกซ้อนในขณะตั้งครรภ์ และลดความเสี่ยงต่อภาวะความผิดปกติของทารกในครรภ์ แต่กรดโฟลิก สำคัญกับคุณแม่ตั้งครรภ์จริง ๆ หรือ? แม่ท้องไม่กินโฟลิกได้ไหม จะส่งผลเสียหรือเปล่า?
กรดโฟลิก คืออะไร
โฟเลต หรือ กรดโฟลิก เป็นวิตามินบีประเภทหนึ่ง (วิตามินบี 9) สามารถละลายในน้ำได้ มีหน้าที่ช่วยร่างกายสร้างเซลล์เม็ดเลือดแดง และช่วยเร่งการแบ่งเซลล์อย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งกรดโฟลิกนี้เป็นสารอาหารที่สำคัญมาก โดยเฉพาะใน ช่วง 28 วันแรกของการตั้งครรภ์ เพราะระยะนี้ระบบประสาทส่วนกลางของลูกน้อยในครรภ์กำลังเริ่มพัฒนา หากร่างกายของคุณแม่มีปริมาณโฟลิกต่ำตั้งแต่เริ่มตั้งท้อง เด็กในท้องอาจจะมีโอกาสเกิดความบกพร่องทางสมองและไขสันหลังได้
โฟลิก กับ โฟเลต ต่างกันอย่างไร คือสิ่งเดียวกันหรือไม่?
ทั้งกรดโฟลิก (Folic Acid) และ โฟเลต (Folate) นั้น ต่างก็เป็นวิตามินชนิดเดียวกัน คือ วิตามินบี 9 แต่ถึงแม้จะเหมือนกัน ก็มีความแตกต่างกัน ดังนี้
• กรดโฟลิก คือ วิตามินบี 9 ที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมา เช่น ซีเรียลแบบเย็น ขนมปัง พาสต้า ขนมอบต่าง ๆ
• โฟเลต คือ วิตามินบี 9 ที่พบได้ในอาหารตามธรรมชาติ เช่น ผักใบเขียว ผลไม้ต่าง ๆ เนื้อสัตว์ เครื่องในสัตว์
ทำไมโฟลิก จึงสำคัญสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
โฟลิกนั้น ถือเป็นหนึ่งในสารอาหารสำคัญที่คุณแม่จำเป็นจะต้องได้รับอย่างเพียงพอตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ ระหว่างตั้งครรภ์ และควรได้รับต่อเนื่องไปจนถึงหลังคลอดด้วย โดยกรดโฟลิกมีประโยชน์ที่สำคัญต่อการตั้งครรภ์ดังนี้
• มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์อวัยวะของทารกในครรภ์
• มีส่วนช่วยป้องกันภาวะความพิการในสมอง ระบบประสาท และไขสันหลัง
• มีส่วนช่วยลดความพิการของท่อประสาทในทารก
• มีส่วนช่วยป้องกันความเสี่ยงของท่อหลอดประสาทไม่ปิด
• มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของภาวะทารกไม่มีสมอง (Anencephaly)
• มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการแท้งบุตร
ดังนั้น เพื่อป้องกันความพิการแต่กำเนิดของทารกในครรภ์ คุณแม่ควรจะเริ่มกินโฟลิกตั้งแต่ช่วงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ เพื่อให้ร่างกายมีปริมาณของโฟลิกที่เพียงพอ เพื่อให้ทารกสามารถใช้ในการแบ่งเซลล์ได้ตั้งแต่ช่วงที่มีอายุครรภ์ 2 สัปดาห์
เพราะการกินโฟลิกหลังจากที่อายุครรภ์ 2 สัปดาห์ไปแล้ว อาจไม่ช่วยลดความเสี่ยงของภาวะพิการแต่กำเนิดมากนัก
แนะนำอาหารที่มีโฟลิกสูง สำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
โฟลิก สามารถพบได้ทั้งในอาหารตามธรรมชาาติ และอาหารที่มีการปรุงสังเคราะห์ขึ้นมา ดังนี้
• ไข่
• ซีเรียล
• ขนมปัง
• พาสต้า
• ผักต่าง ๆ เช่น บรอกโคลี กะหล่ำดาว กะหล่ำปลี ดอกกะหล่ำ ผักโขม ผักกาดหอม เห็ด พาร์สนิป ข้าวโพดหวาน บวบ หน่อไม้ฝรั่ง
• ผลไม้ต่าง ๆ เช่น อะโวคาโด ส้มโอ ส้ม เบอร์รี่ กล้วย มะละกอ มะม่วง
• พืชตระกูลถั่ว เช่น ถั่วชิกพี ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ถั่วแดง ถั่วลิมา ถั่วเลนทิล
ซึ่งนอกจากอาหารเหล่านี้แล้ว คุณแม่ยังสามารถเสริมโฟลิกได้ด้วยการดื่มนมสำหรับแม่ตั้งครรภ์ที่อุดมไปด้วยกรดโฟลิก และสารอาหารจำเป็นอื่น ๆ เช่น ดีเอชเอ แคลเซียม ธาตุเหล็ก โคลีน
โดยจะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ได้รับโฟลิกในปริมาณที่เหมาะสม แม้ว่าในวันนั้นอาจจะกินอาหารได้น้อย และนอกจากนี้คุณแม่ยังสามารถกินยาโฟลิกตามที่แพทย์แนะนำได้เช่นกันค่ะ
เมื่อไหร่ที่คุณแม่ควรเริ่มกินโฟลิก และต้องกินมากแค่ไหน
หญิงวัยเจริญพันธุ์ทุกคน ควรจะได้รับโฟลิกประมาณ 600-800 ไมโครกรัมต่อวัน และโฟลิกนั้น ไม่ต้องรอให้ตั้งครรภ์ก่อนถึงค่อยกิน แต่เริ่มกินได้เร็วเท่าไหร่ ก็ยิ่งลดความเสี่ยงต่อความพิการแต่กำเนิดได้มากเท่านั้น
เพราะความพิการของทารกในครรภ์ ไม่ได้เริ่มขึ้นเมื่อทารกเริ่มเป็นมีลักษณะคล้ายกับทารกแล้วนะคะ ทว่า...เริ่มขึ้นตั้งแต่ตอนที่ยังเป็นตัวอ่อน หรือก็คือช่วงอายุครรภ์ 2-4 สัปดาห์แรก ซึ่งโดยมากแล้วคุณแม่จะยังไม่รู้ว่าตนเองกำลังตั้งครรภ์
ด้วยเหตุนี้ หากเอาแบบชัวร์ที่สุด คุณแม่ควรเริ่มกินโฟลิกตั้งแต่ช่วงที่วางแผนตั้งครรภ์ เพราะทารกจะเริ่มสร้างเซลล์และอวัยวะต่าง ๆ เมื่ออายุครรภ์ที่ 2 สัปดาห์ ซึ่งคุณแม่จะยังไม่รู้ตัวว่ากำลังตั้งครรภ์
ดังนั้น หากคุณแม่มีปริมาณของโฟลิกในร่างกายสะสมอยู่ก่อนแล้ว ทารกก็จะสามารถดึงเอาโฟลิกที่มีอยู่อย่างเพียงพอมาใช้ได้ทันที ทำให้สามารถลดความพิการตั้งแต่กำเนิดได้
โฟลิก เตรียมตั้งครรภ์ ถ้าอยากมีลูกต้องกินโฟลิกหรือไม่?
หลังจากไปปรึกษากับแพทย์ถึงความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นเมื่อตั้งครรภ์ และไม่มีความเสี่ยงใด ๆ ที่จะเป็นปัญหาต่อการตั้งครรภ์ คุณแม่ควรเริ่มกินโฟลิกได้ทันทีเลยค่ะ ไม่ต้องรอให้ตรวจพบการตั้งครรภ์แล้วถึงมาเริ่มกิน เพราะอาจจะช้าเกินไปที่จะป้องกันภาวะความพิการแต่กำเนิดของทารกในครรภ์
มากไปกว่านั้น กรดโฟลิกยังมีส่วนช่วยเพิ่มภาวะการเจริญภัณฑ์ ลดความเสี่ยงของภาวะไข่ไม่ตก ช่วยให้ไข่ตกได้ดี จึงมีส่วนช่วยเพิ่มโอกาสที่จะเกิดการตกไข่ และมีการปฏิสนธิ ซึ่งจะนำปสู่การตั้งครรภ์ที่สำเร็จได้ค่ะ
ข้อแนะนำในการเลือกซื้อวิตามินโฟลิก
สำหรับคุณแม่ที่ต้องการจะเลือกซื้อวิตามินโฟลิกด้วยตนเอง ควรเลือกดังนี้
• เลือกวิตามินโฟลิกยี่ห้อที่ได้รับมาตรฐานความไว้วางใจ เชื่อถือได้ สามารถตรวจสอบแหล่งการผลิตและจัดจำหน่ายได้ ตลอดจนมีชื่อที่อยู่และรายละเอียดที่สามารถติดต่อได้โดยตรง
• เลือกวิตามินโฟลิกที่มีเครื่องหมายอย.
• เลือกวิตามินโฟลิกยี่ห้อที่มีผลการวิจัยรองรับ
• เลือกวิตามินโฟลิกที่ได้รับการบรรจุในบรรจุภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน ไม่ชำรุดเสียหาย
• เลือกวิตามินโฟลิกที่มีการระบุปริมาณของโฟลิก วันเดือนปีที่ผลิต หมดอายุ อย่างชัดเจน
ไขข้อข้องใจเรื่องกรดโฟลิกกับ Enfa Smart Club
ยาโฟลิกช่วยเรื่องอะไร?
กรดโฟลิก ถือเป็นสารอาหารสำคัญที่มีส่วนช่วยป้องกันแปละลดความเสี่ยงของทารกในครรภ์ ดังนี้
• มีส่วนช่วยในการสร้างเซลล์อวัยวะของทารกในครรภ์
• มีส่วนช่วยป้องกันภาวะความพิการในสมอง ระบบประสาท และไขสันหลัง
• มีส่วนช่วยลดความพิการของท่อประสาทในทารก
• มีส่วนช่วยป้องกันความเสี่ยงของท่อหลอดประสาทไม่ปิด
• มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของภาวะทารกไม่มีสมอง (Anencephaly)
• มีส่วนช่วยลดความเสี่ยงของการแท้งบุตร
โฟลิกกินได้ถึงกี่เดือน?
โฟลิกควรเริ่มกินตั้งแต่ก่อนจะตั้งครรภ์ และควรกินต่อเนื่องไปจนกระทั่งหลังคลอด ไปจนถึงเมื่อลูกเริ่มหย่านมแม่และกินอาหารอื่น ๆ แทนนมแม่ เพื่อให้แน่ใจได้ว่าทารกจะได้รับกรดโฟลิกในปริมาณที่เพียงพอ
โฟลิกเหมาะกับใคร?
โฟลิกเป็นสารอาหารที่เหมาะกับทุกคนค่ะ โดยเฉพาะกับหญิงในวัยเจริญพันธุ์และหญิงที่ต้องการตั้งครรภ์ เพราะกรดโฟลิกจะช่วยลดความพิการในระบบประสาทและสมอง รวมถึงป้องกันความพิการแต่กำเนิดของทารกในครรภ์ด้วย
กรดโฟลิกควรกินตอนไหน?
กรดโฟลิก ควรเริ่มกินตั้งแต่ก่อนจะตั้งครรภ์ เพื่อให้มีปริมาณโฟลิกที่เพียงพอสำหรับให้ตัวอ่อนใช้ในการสร้างเซลล์และอวัยวะต่าง ๆ ในช่วงอายุครรภ์ 2-4 สัปดาห์
ดังนั้น หากเป็นไปได้ ควรเริ่มกินตั้งแต่ช่วงที่วางแผนจะตั้งครรภ์ หรือยิ่งเริ่มกินก่อนตั้งครรภ์ได้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งมีประโยชน์ และลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ได้มากเท่านั้นค่ะ
- Pregnancy, Birth and Baby. Folate and pregnancy. [Online] Accessed https://www.pregnancybirthbaby.org.au/folate-and-pregnancy. [20 September 2023]
- Healthline. Folic Acid and Pregnancy: How Much Do You Need?. [Online] Accessed https://www.healthline.com/health/pregnancy/folic-acid. [20 September 2023]
- WebMD. Folic Acid and Pregnancy. [Online] Accessed https://www.webmd.com/baby/folic-acid-and-pregnancy. [20 September 2023]
- American Pregnancy Association. Folic Acid in Pregnancy. [Online] Accessed https://americanpregnancy.org/healthy-pregnancy/pregnancy-health-wellness/folic-acid/. [20 September 2023]
- คณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี. วิตามินโฟลิก ลดความเสี่ยงภาวะพิการแต่กำเนิด. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/infographic/วิตามินโฟลิก-ลดความเสี่/. [20 กันยายน 2023]
- MedPark Hospital. โฟลิกกับการตั้งครรภ์. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.medparkhospital.com/lifestyles/folic-acid-and-pregnancy. [20 กันยายน 2023]
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
- ธาตุเหล็ก ประโยชน์ต่อคนท้อง ที่แม่ท้องไม่ควรมองข้าม
- อาหารเสริมธาตุเหล็ก สำคัญต่อคนท้องยังไง ทำไมถึงต้องกิน?
- คนท้องกินอะไรลูกฉลาด บำรุงครรภ์ยังไงให้ลูกน้อยสมองดี
- แคลเซียมคนท้อง จำเป็นแค่ไหน เสริมแคลเซียมยังไงให้พอดี
- อาหารเสริมคนท้อง จำเป็นไหม แม่ท้องควรกินวิตามินอะไรบ้าง
- อัลตราซาวนด์ท้องคืออะไร ต้องทำเมื่อไหร่ และปลอดภัยจริงไหม?
- แคลเซียมคนท้อง จำเป็นแค่ไหน เสริมแคลเซียมยังไงให้พอดี
- ตารางอาหารคนท้องในแต่ละวันเป็นยังไง แม่ท้องควรกินอะไรดี