ชื่อเจ้าหญิงดิสนีย์ เจ้าหญิงบาร์บี้ ไอเดียดี ๆ ตั้งชื่อให้ลูกสาว

Enfa สรุปให้

• การตั้งชื่อลูกโดยอ้างอิงจากตัวละครเจ้าหญิง ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียการตั้งชื่อลูกสาวที่ได้รับความนิยมสูงมาก
• เด็กหญิงหลาย ๆ คนจึงมีชื่อจริงหรือชื่อเล่นที่ได้แรงบันดาลใจมาจากตัวละครที่เป็นเจ้าหญิงชื่อดังต่าง ๆ จากเครือดิสนีย์ บาร์บี้ หรือพิกซาร์
• ชื่อเจ้าหญิงมีต้นกำเนิดมาจากภาษาต่าง ๆ ที่หลากหลาย และเปี่ยมไปด้วยความหมายที่ดีงาม เป็นมลคลต่อเจ้าของชื่อ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • ไอเดียชื่อเจ้าหญิงดิสนีย์ สำหรับตั้งชื่อลูกสาว
     • ไอเดียชื่อเจ้าหญิงต่าง ๆ สำหรับตั้งชื่อลูกสาว
     • ไอเดียชื่อบาร์บี้ สำหรับตั้งชื่อลูกสาว

คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกสาว หลาย ๆ คนเลือกนำชื่อเจ้าหญิงจากในการ์ตูนมาเป็นไอเดียสำหรับการตั้งชื่อลูกสาว เพราะแน่นอนว่าสำหรับคุณพ่อคุณแม่แล้ว ลูกสาวก็เสมือนกับเจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ที่จะต้องถนอมกล่อมเกลี้ยงให้เติบโตมาอย่างงดงาม

และสำหรับคุณพ่อคุณแม่คนไหนที่กำลังมองหาไอเดียในการตั้งชื่อลูกสาว และสนใจที่จะอยากนำชื่อเจ้าหญิงมาตั้งชื่อให้กับลูกน้อยบ้าง วันนี้ Enfa ได้ขนกองทัพชื่อเจ้าหญิงดิสนีย์  ชื่อเจ้าหญิงบาร์บี้มากมาย เพื่อเป็นไอเดียเก๋ ๆ ให้คุณพ่อคุณแม่ได้เลือกนำไปตั้งชื่อลูกสาวกันค่ะ 

ไอเดียชื่อเจ้าหญิงดิสนีย์ สำหรับตั้งชื่อลูกสาว

ถ้าพูดถึงเจ้าหญิง แน่นอนว่าเจ้าหญิงดีสนีย์คือหมุดหมายแรก ๆ ที่หลายคนนึกออกและเลือกนำมาเป็นแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อลูกสาวค่ะ เพราะค่ายดีสนีย์นั้นมีภาพยนตร์ชุดเจ้าหญิงรวบรวมเอาไว้มากมาย และล้วนแล้วแต่โด่งดังเป็นที่จดจำได้ดี

โดยเจ้าหญิงดิสนีย์ ชื่อดังที่หลายคนรู้จักกันดี และอยู่ในทำเนียบ 13 เจ้าหญิงดีสนีย์อย่างเป็นทางการ (Official Princesses) ตามลำดับ ดังนี้ 

1. สโนว์ไวท์ (Snow White) จากเรื่อง สโนว์ไวท์กับคนแคระทั้งเจ็ด (Snow White and the Seven Dwarfs) โดยชื่อ ‘สโนว์ไวท์’ นั้น หมายถึง ผู้ที่มีผิวขาวราวหิมะ ตามแครักเตอร์ของตัวละครนั่นที่มีผิวขาวราวกับหิมะในฤดูหนาวนั่นเอง 
2. ซินเดอเรลล่า (Cinderella) จากเรื่อง ซินเดอเรลล่า (Cinderella) โดยชื่อ ซินเดอเรลล่า มาจากภาษาฝรั่งเศส คือ Cendrillon หมายถึง ฝุ่นหรือผงขี้เถ้าเล็ก ๆ ซึ่งชื่อนี้แม่เลี้ยงของซินเดอเรลลาเป็นคนตั้งให้ หลังจากที่คอยใช้ให้เธอทำงานทุกอย่างดูจนสกปรกมอมแมม จึงตั้งฉายาให้ใหม่ จาก เอลล่า (Ella) เป็นซินเดอเรลล่า (Cinderella) หรือเอลล่าจอมมอมแมมนั่นเอง 
3. ออโรร่า (Aurora) จากเรื่อง เจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty) โดยชื่อ ออโรร่า (Aurora) ในภาษาละติน จะแปลว่า รุ่งอรุณ และยังหมายถึง แสงเหนือบนขอบฟ้า อีกด้วย 
4. แอเรียล (Ariel) จากเรื่อง เจ้าหญิงเงือกน้อย (The Little Mermaid) โดยชื่อ แอเรียล (Ariel) มาจากภาษาฮีบรู หมายถึง สิงโตของพระเจ้า "lion of God" 
5. เบลล์ (Belle) จากเรื่อง โฉมงามกับเจ้าชายอสูร (Beauty and the Beast) โดยชื่อ เบลล์ (Belle) มาจากภาษาฝรั่งเศส หมายถึง สวย น่ารัก 
6. จัสมิน (Jasmine) จากเรื่อง อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ (Aladdin and the Enchanted Lamp) โดยชื่อ จัสมิน (Jasmine) ในภาษาอังกฤษจะหมายถึงดอกมะลิ แต่ในภาษาเปอร์เซีย อันเป็นดินแดนกำเนิดของเจ้าหญิงจัสมิน จะหมายถึง ของขวัญจากพระเจ้า "gift from God" หรือจะหมายถึง ดอกไม้หอม "fragrant flower" ก็ได้เช่นกัน 
7. โพคาฮอนทัส (Pocahontas) จากเรื่อง โพคาฮอนทัส (Pocahontas) โดยชื่อ โพคาฮอนทัส (Pocahontas) เป็นคำในภาษาพาววาแทน (Powhatan language) หมายถึง เด็กผู้สนุกสนาน "playful one" ซึ่งเรียกตามบุคลิกลักษณะของโคาฮอนทัสที่เป็นคนสนุกสนาน ขี้เล่น ขี้สงสัย อย่างไรก็ตาม ชื่อ โพคาฮอนทัส นั้น เสมือนเป็นเพียงฉายาเท่านั้น แต่ชื่อจริง ๆ ของเธอคือ มาโตอาคา (Matoaka) หมายถึง ขนนกสีขาว 
8. มู่หลาน (Mulan) จากเรื่อง มู่หลาน (Mulan) โดยชื่อ มู่หลาน (Mulan) ในภาษาจีน หมายถึง กล้วยไม้ป่า (Wild orchid) หรือดอกแมกโนเลีย (Magnolia) ซึ่งแม้ว่ามู่หลานจะไม่ได้มีชาติกำเนิดเป็นเจ้าหญิง แต่ก็ได้รับเกียรติให้เลือกเข้ามาอยู่ในทำเนียบเจ้าหญิงของดีสนีย์ด้วย 
9. เทียน่า (Tiana) จากเรื่อง เจ้าชายกบ (The Princess and the frog) โดยชื่อ เทียน่า (Tiana) มีต้นกำเนิดมาจากภาษารัสเซีย หมายถึง เจ้าหญิง 
10. ราพันเซล (Rapunzel) จากเรื่อง ราพันเซล (Rapunzel) โดยชื่อ ราพันเซล นี้ เป็นภาษาเยอรมัน และเป็นชื่อผักพื้นบ้านของเยอรมัน โดยชื่อนี้ก็มีที่มาจากตอนที่แม่ของราพันเซลตั้งท้องแล้วอยากกินผักราพันเซลนั่นเองค่ะ 
11. เมอริด้า (Merida) จากเรื่อง นักรบสาวหัวใจมหากาฬ (Brave) โดยชื่อเมอริด้า (Merida) เป็นภาษาละติน หมายถึง ผู้ได้รับเกียรติอันสูงส่ง 
12. โมอาน่า (Moana) จากเรื่อง โมอาน่า ผจญภัยตำนานหมู่เกาะทะเลใต้ (Moana) โดยชื่อ โมอาน่า เป็นภาษาฮาวาย หมายถึง ท้องทะเล หรือ มหาสมุทร หรือ ผืนน้ำอันกว้างใหญ่ 
13. รายา (Raya) จากเรื่อง รายากับมังกรตัวสุดท้าย (Raya and the Last Dragon) โดยชื่อ รายา นี้ มีความหมายที่แตกต่างกันไปในหลายภาษา ในภาษาฮิบรู จะหมายถึง เพื่อน หรือสหาย ในภาษาละตินจะหมายถึง ราชินี ส่วนในภาษามลายูจะหมายถึง กษัตริย์หรือผู้ปกครองแผ่นดิน 

ส่วนเจ้าหญิงองค์อื่น ๆ ที่อยู่ร่วมกันในจักรวาลของดีสนีย์ แต่ไม่จัดว่าอยู่ในทำเนียบเจ้าหญิงอย่างเป็นทางการ ได้แก่ 

• เอลซ่า (Elsa) จากเรื่องผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (Frozen) และผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ (Frozen 2) โดยชื่อ เอลซ่า ในภาษาฮีบรูนั้นมีรากศัพท์เดิมมาจาก ชื่อ เอลิซาเบธ ซึ่งความหมายของเอลซ่าในภาษาฮีบรู เยอรมัน และสวิส จะมีความหมายว่า พระเจ้าคือคําสัตย์ของฉัน  "God is my oath" 
• อันนา (Anna) จากเรื่องผจญภัยแดนคำสาปราชินีหิมะ (Frozen) และผจญภัยปริศนาราชินีหิมะ (Frozen 2) โดยชื่อ อันนา มีรากศัพท์เดิมมาจากภาษาฮีบรู คือ Hannah หรือ ‎Chanah แปลว่า ผู้เปี่ยมไปด้วยความกรุณา  
• เอเลน่า (Elena) จากเรื่อง เอเลน่ากับความลับของอาวาลอร์ (Elena of Avalor) โดยชื่อ เอเลน่า มีต้นกำเนิดอยู่ในหลายกลุ่มภาษา เช่น ภาษาสเปน ภาษาอิตาเลีย ภาษาฮีบรู ภาษากรีก ซึ่งมีความหมายว่า แสงสว่าง หรือประกายอันเจิดจ้า  
• มิราเบล (Mirabel) จากเรื่อง เมืองเวทมนตร์คนมหัศจรรย์ (Encanto) โดยชื่อมิราเบล มาจากรากศัพท์เดิมในภาษาละติน คือ Mirabilis ซึ่งหมายถึง ความอัศจรรย์  

ไอเดียชื่อเจ้าหญิง สำหรับตั้งชื่อลูกสาว

นอกจากชื่อเจ้าหญิงในจักวาลดิสนีย์แล้ว ก็ยังมีชื่อเจ้าหญิงจากภาพยนตร์ ซีรีส์ รวมถึงชื่อจากเจ้าหญิงที่มีตัวตนอยู่จริง ๆ อีกมากมายที่น่าสนใจและมีความหมายที่ดี เหมาะสำหรับเป็นไอเดียตั้งชื่อลูกสาวตัวน้อยของคุณพ่อคุณแม่ อาทิ 

1. มีอา หรือไมอา (Mia) จากเรื่องบันทึกรักเจ้าหญิงมือใหม่ (The Princess Diaries) แสดงโดย แอนน์ แฮททาเวย์ คำว่า มีอา (Mia) นั้น มีความหมายที่แตกต่างกันไปในหลายภาษาค่ะ ถ้าในภาษาละติน ภาษาสเปน ภาษาอิตาเลียน จะหมายถึง ของฉัน ส่วนในภาษาพื้นเมืองออสเตรเลีย (Nyungar) จะหมายถึงพระจันทร์ หรือในภาษาอียิปต์โบราณและภาษากลุ่มสลาฟ จะหมายถึง ที่รัก หรือผู้เป็นที่รัก 
2. จีเซลล์ (Giselle) จากเรื่อง มหัศจรรย์รักข้ามภพ (Enchanted) แสดงโดย เอมี แอดัมส์ ซึ่ง จีเซลล์ (Giselle) เป็นคำในภาษาฝรั่งเศส และมีรากศัพท์มาจากกลุ่มภาษาเจอร์แมนิก และมีความหมายว่า คำมั่นสัญญา 
3. เลอา (Leia) จากเรื่อง สตาร์ วอร์ส (Star Wars) แสดงโดย แคร์รี ฟิชเชอร์ ชื่อ เลอา (Leia) นี้ มีความหมายแตกต่างกันไปในหลายภาษาค่ะ ในภาษาฮีบรู แปลว่า "เหนื่อยล้า" "อิดโรย" ในภาษาฮาวาย แปลว่า "บุตรแห่งสวรรค์" หรือ "ดอกไม้แห่งสวรรค์" ในภาษาอัสซีเรียน แปลว่า "นายหญิง" และในภาษาลาติน แปลว่า "สิงโต" 
4. แอน (Ann) จากเรื่อง โรมรำลึก (Roman Holiday) แสดงโดย ออเดรย์ เฮปเบิร์น คำว่า แอน (Ann) นี้ เป็นชื่อเรียกสั้น ๆ จากชื่อเต็มคือ Hannah ในภาษาฮีบรู ซึ่งหมายถึง ความสง่างาม เมตตา หรือ ผู้ได้รับความโปรดปรานจากพระเจ้า 
5. ฟิโอน่า (Fiona) จากเรื่อง เชร็ค (Shrek) โดย ฟิโอน่า (Fiona) เป็นคำในภาษาแกลิก หมายถึง สีขาว 
6. อนาสตาเซีย หรือ แอนนาสเตเซีย (Anastasia)  จากเรื่อง อนาสตาเซีย (Anastasia) ซึ่งชื่อนี้เป็นคำทั้งในภาษากรีก โรมัน และรัสเซีย มีความหมายว่า การคืนชีพ หรือ ผู้ฟื้นคื้นชีพ 
7. โอฟีเลีย (Ofelia) จากเรื่อง อัศจรรย์แดนฝัน มหัศจรรย์เขาวงกต  (Pan's Labyrinth) แสดงโดย อิวาน่า บาเคโร่ ชื่อนี้มีต้นกำเนิดมาจากภาษาโปรตุเกส และภาษากรีก หมายถึง ผู้ช่วยเหลือ 
8. โอเด็ตต์ (Odette) จากเรื่อง เจ้าหญิงหงส์ขาว (The Swan Princess) โดยคำว่า โอเด็ตต์ (Odette) มีต้นกำเนิดอยู่ในภาษาฝรั่งเศสและภาษาเยอรมัน หมายถึง มั่งคั่ง ร่ำรวย 
9. ไอรีน (Irene) จากเรื่อง เจ้าหญิงกับมนุษย์กองกอย (The Princess and The Goblin) คำว่า ไอรีน (Irene) มีต้นกำเนิดมาจากภาษากรีก หมายถึง สันติ ความสงบสุข 
10. มารีน่า (Marina) จากเรื่อง ซินแบด พิชิตตำนาน 7 คาบสมุทร (Sinbad: Legend of the Seven Seas) ชื่อมารีน่า (Marina) มีต้นกำเนิดอยู่ในภาษาละติน หมายถึง มาจากทะเล หรือ ผู้มาจากทะเล 
11. แอตต้า (Atta) จากเรื่อง ตัวบั๊กส์ หัวใจไม่บั๊กส์ (A Bug's Life) โดย แอตต้า (Atta) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาอารบิก หมายถึง ของขวัญ พ่อ หรือ แฝด 
12. เอลิซาเบ็ธ (Elizabeth) พระนามของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบ็ธที่ 2 แห่งอังกฤษ โดย คำว่า เอลิซาเบ็ธ (Elizabeth) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาฮีบรู หมายถึง คำสัญญาของพระเจ้า หรือ พระเจ้าคือคําสัตย์ของฉัน   
13. เลโอนอร์ (Leonor) เจ้าหญิงเลโอนอร์ เป็นพระธิดาองค์โตในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 และพระราชินีเลติเซียแห่งราชอาณาจักรสเปน โดยชื่อ เลโอนอร์ (Leonor) เป็นคำในกลุ่มภาษาสเปนและภาษาโปรตุเกส หมายถึง คบเพลิง แสงสว่าง หรือแสงแห่งดวงอาทิตย์ 
14. โซเฟีย (Sofia) เจ้าหญิงโซเฟีย เป็นพระธิดาองค์รองในสมเด็จพระราชาธิบดีเฟลิเปที่ 6 และพระราชินีเลติเซียแห่งราชอาณาจักรสเปน โดยชื่อ โซเฟีย (Sofia) มีต้นกำเนิดมาจากภาษากรีก หมายถึง ความเฉลียวฉลาด 
15. อินกริด หรือ อิงกริด (Ingrid) เจ้าหญิงอินกริด เป็นพระธิดาองค์โตในมกุฎราชกุมารโฮกุน และมกุฎราชกุมารีเม็ตเตอ-มาริต แห่งราชอาณาจักรนอร์เวย์ โดยชื่อ อินกริด (Ingrid) เป็นชื่อในภาษานอร์สโบราณที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในแถบสแกนดิเนเวีย มีความหมายว่า สวยงาม หรือ ผู้เป็นที่รัก 
16. ไอโกะ (Aiko) เจ้าหญิงไอโกะ เป็นพระธิดาเพียงพระองค์เดียวในสมเด็จพระจักรพรรดินารูฮิโตะและสมเด็จพระจักรพรรดินีมาซาโกะแห่งญี่ปุ่น โดยชื่อ ไอโกะ (Aiko) ในภาษาญี่ปุ่นจะหมายถึง เจ้าตัวเล็กผู้เป็นที่รัก หรือสาวน้อยผู้เป็นที่รัก 
17. แคธารีน่า อามาเลีย (Catharina-Amalia) เจ้าหญิงแคธารีน่า อะมาเลีย เป็นพระราชธิดาองค์โตในสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์และสมเด็จพระราชินีมักซิมาแห่งเนเธอร์แลนด์ โดยชื่อ แคธารีน่า (Catharina) มีต้นกำเนิดมาจากภาษากรีก หมายถึง ความบริสุทธิ์ ส่วนชื่อ อามาเลีย (Amalia) เป็นคำในกลุ่มภาษาเจอร์แมนิกและสแกนดิเนเวีย หมายถึง ความวิริยะอุตสาหะ 
18. อเล็กเซีย (Alexia) เจ้าหญิงอเล็กเซีย เป็นพระราชธิดาองค์ที่สองในสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์และสมเด็จพระราชินีมักซิมาแห่งเนเธอร์แลนด์ โดยชื่อ อเล็กเซีย (Alexia) มีต้นกำเนิดมาจากภาษากรีก หมายถึง ผู้ปกป้อง ผู้ช่วยเหลือ 
19. อารีอาน หรืออาเรียน หรืออารียาน หรืออาเรียเน่ (Ariane) เจ้าหญิงอารีอาน เป็นพระราชธิดาองค์สุดท้องในสมเด็จพระราชาธิบดีวิลเลิม-อเล็กซานเดอร์และสมเด็จพระราชินีมักซิมาแห่งเนเธอร์แลนด์ โดยชื่อ อารีแอน (Ariane) เป็นคำในภาษากรีกและภาษาละติน หมายถึง ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด 
20. เอสเตลล์ (Estelle) เจ้าหญิงเอสเตลล์ เป็นพระธิดาพระองค์โตในมกุฎราชกุมารีแห่งสวีเดน กับเจ้าชายดาเนียล ดยุกแห่งเวสเตร์เยิตลันด์ โดยชื่อ เอสเตลล์ (Estelle) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาละติน หมายถึง ดวงดาว 

ไอเดียชื่อบาร์บี้ สำหรับตั้งชื่อลูกสาว

หากคุณพ่อคุณแม่เป็นแฟนคลับบาร์บี้ และอยากจะตั้งชื่อให้คล้ายกับเจ้าหญิงคนโปรดด้วยล่ะก็ เราได้รวบรวมลิสต์ชื่อบาร์บี้ทั้งหมดเพื่อเป็นไอเดียตั้งชื่อลูกสาวตัวน้อยกันค่ะ 

1. คลาร่า (Clara) จากเรื่อง บาร์บี้ อิน เดอะ นัทแครกเกอร์ (Barbie in the Nutcracker: 2001) โดยชื่อ คลาร่า มีต้นกำเนิดมาจากภาษาละติน หมายถึง แสงสว่าง หรือ ชื่อเสียงโด่งดัง 
2. ราพันเซล (Rapunzel) จากเรื่อง บาร์บี้ เจ้าหญิงราพันเซล Barbie as Rapunzel: 2002) ซึ่งชื่อ ราพันเซล นั้นเป็นชื่อเรียกผักพื้นบ้านชนิดหนึ่งในเยอรมัน 
3. โอเด็ตต์ (Odette) จากเรื่อง บาร์บี้ เจ้าหญิงแห่งสวอนเลค (Barbie of Swan Lake: 2003) ชื่อ โอเด็ตต์ มีต้นกำเนิดอยู่ในภาษาฝรั่งเศสและภาษาเยอรมัน หมายถึง ความมั่งคั่ง ความร่ำรวย 
4. แอนนาลิส (Anneliese) จากเรื่อง เจ้าหญิงบาร์บี้และสาวผู้ยากไร้  (Barbie as the Princess and the Pauper: 2004) โดยชื่อ แอนนาลิส เป็นคำที่ผสมกันระหว่าง แอนนา (Anna) ในภาษาเยอรมัน หมายถึง ความงดงาม และ ลิส  (Leise) ในภาษาดัตช์ หมายถึง พระเจ้าผู้เปี่ยมไปด้วยความเมตตา รวมกันเป็น แอนนาลิส (Anneliese) หมายถึง ความงดงามอันเปี่ยมไปด้วยพระกรุณาแห่งพระเจ้า 
5. เอริก้า (Erika) จากเรื่อง เจ้าหญิงบาร์บี้และสาวผู้ยากไร้  (Barbie as the Princess and the Pauper: 2004) และบาร์บี้ กับแคมป์ร็อคเจ้าหญิงซูเปอร์สตาร์ (Barbie in Rock ‘N Royals: 2015) โดยชื่อ เอริก้า มีต้นกำเนิดมาจากภาษานอร์ส หมายถึง พลังอำนาจอันมั่นคง 
6. เอลิน่า (Elina) จากเรื่อง บาร์บี้ นางฟ้าในโลกแห่งความฝัน (Barbie Fairytopia: 2005) นางฟ้าบาร์บี้ในดินแดนใต้สมุทร (Barbie Fairytopia: Mermaidia: 2006) และนางฟ้าบาร์บี้กับเวทมนตร์แห่งสายรุ้ง (Barbie Fairytopia: Magic of the Rainbow: 2007) โดยชื่อ เอลิน่า มีต้นกำเนิดมาจากภาษษกรีก หมายถึง แสงสว่างอันเจิดจ้า 
7. แอนนิก้า (Annika) จากเรื่อง บาร์บี้กับเวทมนตร์แห่งพีกาซัส (Barbie and the Magic of Pegasus: 2005) ชื่อ แอนนิก้า นี้ ปรากฎอยู่ในหลายภาษา ไม่ว่าจะเป็น ภาษาสันสกฤต ภาษาอารบิก ภาษาเมารี ภาษาเยอรมัน ภาษาสวีเดน ภาษาฮีบรู ภาษาแอฟริกัน ซึ่งมีความหมายร่วมกันคือ ความสง่างาม 
8. แอชลิน (Ashlyn) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) โดยชื่อ แอชลิน (Ashlyn) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาไอริช หมายถึง ความฝัน 
9. แบลร์ (Blair) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) โดยชื่อ แบลร์ (Blair) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาแกลิก หมายถึง ทุ่งหญ้า หรือ ทุ่งกว้าง 
10. คอร์ทนีย์ (Courtney) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) และบาร์บี้ กับแคมป์ร็อคเจ้าหญิงซูเปอร์สตาร์ (Barbie in Rock ‘N Royals: 2015) โดยชื่อ คอร์ทนีย์ (Courtney) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาฝรั่งเศสและภาษาละติน หมายถึง จมูกน้อยน่ารัก 
11. เดเลีย (Deliah) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) โดยชื่อ เดเลีย (Deliah) มีต้นกพเนิดมาจากภาษาฮีบรู หมายถึง ความละเอียดละออ ประณีตบรรจง  
12. อเดไลน์ (Edeline) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) โดยชื่อ อเดไลน์ (Edeline) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาเยอรมันโบราณ หมายถึง ผู้มีเกียรติ 
13. ฟัลลอน (Fallon) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) โดยชื่อ ฟัลลอน (Fallon) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาไอริชโบราณ หมายถึง ผู้เป็นใหญ่ หรือ ผู้สืบทอดเชื้อสายมาจากกษัตริย์ 
14. เจเนวีฟ (Genevieve) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) โดยชื่อ เจเนวีฟ (Genevieve) มีต้นกำเนิดมาจากกลุ่มภาษาเจอร์แมนิกและภาษาเซลติก หมายถึง ลูกสาวของตระกูล หรือ หญิงสาวผู้มีผิวขาว หรือ เกลียวคลื่นสีขาว  
15. แฮดลีย์ (Hadley) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) โดยชื่อ แฮดลีย์ (Hadley) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาอังกฤษ หมายถึง ทุ่งหญ้าอันเขียวขจี 
16. อิสล่า (Isla) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) โดยชื่อ อิสล่า (Isla) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาสเปน หมายถึง เกาะ 
17. เจเนสซ่า (Janessa) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) โดยชื่อ เจเนสซ่า (Janessa) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาฮีบรู หมายถึง พระเจ้าผู้สง่างาม 
18. เคทลีน (Kathleen) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) โดยชื่อ เคทลีน (Kathleen) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาอังกฤษ-ไอริช หมายถึง ความบริสุทธิ์ 
19. เลซีย์ (Lacey) จากเรื่อง บาร์บี้ 12 เจ้าหญิงเริงระบำ (Barbie in the 12 Dancing Princesses: 2006) โดยชื่อ เลซีย์ (Lacey) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาฝรั่งเศสโบราณ หมายถึง ผมเปีย 
20. โรเซลล่า (Rosella) จากเรื่อง บาร์บี้ เจ้าหญิงแห่งเกาะหรรษา (Barbie as the Island Princess: 2007) โดยชื่อ โรเซลล่า (Rosella) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาละตินและภาษาฝรั่งเศส หมายถึง ดอกกุหลาบ 
21. แมรีโพซ่า (Mariposa) จากเรื่อง บาร์บี้ แมรีโพซ่ากับเหล่านางฟ้าผีเสื้อแสนสวย (Barbie Mariposa: 2008) โดยชื่อ แมรีโพซ่า (Mariposa) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาสเปน หมายถึง ผีเสื้อ 
22. เลียน่า (Liana) จากเรื่อง บาร์บี้ กับ ปราสาทแห่งเพชรพลอย (Barbie And The Diamond Castle: 2008) โดยชื่อ เลียน่า (Liana) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาฝรั่งเศส หมายถึง เถาองุ่น หรือเกลียวเถาวัลย์ 
23. อเล็กซ่า (Alexa) จากเรื่อง บาร์บี้ กับ ปราสาทแห่งเพชรพลอย (Barbie And The Diamond Castle: 2008) และบาร์บี้ กับประตูพิศวง (Barbie and The Secret Door: 2014)  โดยชื่อ อเล็กซ่า (Alexa) มีต้นกำเนิดมาจาก ภาษากรีก หมายถึง ผู้พิทักษ์ ผู้ปกป้อง 
24. อีเดน (Eden) จากเรื่อง บาร์บี้ กับ วันคริสต์มาสสุดหรรษา (Barbie in a Christmas Carol: 2008) โดยชื่อ อีเดน (Eden) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาฮีบรู หมายถึง สถานที่แห่งความสุขและความยินดี 
25. ทัมเบลิน่า (Thumbelina) จากเรื่อง บาร์บี้ ขอเสนอ ทัมเบลิน่า (Barbie Presents: Thumbelina: 2009) โดยชื่อ ทัมเบลิน่า (Thumbelina) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาอังกฤษและภาษาเดนมาร์ก หมายถึง ตัวเล็ก 
26. คอรินน์ (Corrine) จากเรื่อง บาร์บี้กับสามทหารเสือ (Barbie and the Three Musketeers: 2009) และบาร์บี้ เจ้าหญิงพลังมหัศจรรย์ (Barbie in Princess Power: 2015) โดยชื่อ คอรินน์ (Corrine) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาละติน หมายถึง สตรีผู้งามยิ่ง 
27. เมอร์ลิอาห์ (Merliah) จากเรื่อง บาร์บี้ เงือกน้อยผู้น่ารัก (Barbie in A Mermaid Tale: 2010) และบาร์บี้ เงือกน้อยผู้น่ารัก ภาค 2 (Barbie in A Mermaid Tale 2: 2012) โดยชื่อ เมอร์ลิอาห์ (Merliah) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาอังกฤษ หมายถึง ท้องทะเล 
28. กราเซล่า (Graciella) จากเรื่อง บาร์บี้ ความลับแห่งนางฟ้า (Barbie: A Fairy Secret: 2011) โดยชื่อ กราเซล่า (Graciella) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาละติน หมายถึง ความเมตตา การช่วยเหลือ การให้พร 
29. โซเฟีย (Sophia) จากเรื่อง บาร์บี้กับโรงเรียนแห่งเจ้าหญิง (Barbie: Princess Charm School: 2011) โดยชื่อ โซเฟีย (Sophia) มีต้นกำเนิดมาจากภาษากรีก หมายถึง ความเฉลียวฉลาด สติปัญญา 
30. วิคตอเรีย (Victoria) จากเรื่อง เจ้าหญิงบาร์บี้และสาวน้อยซูเปอร์สตาร์ (Barbie: The Princess and the Popstar: 2012) โดยชื่อ วิคตอเรีย (Victoria) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาละติน หมายถึง ชัยชนะ 
31. คาตาเนีย (Catania) จากเรื่อง บาร์บี้ แมรีโพซ่ากับเจ้าหญิงเทพธิดา (Barbie Mariposa and the Fairy Princess: 2013) โดยชื่อ คาตาเนีย (Catania) มีต้นกำเนิดมาจากภาษากรีกและภาษาอิตาเลียน หมายถึง ความบริสุทธิ์ 
32. ลูมิน่า (Lumina) จากเรื่อง บาร์บี้ เจ้าหญิงเงือกน้อยกับไข่มุกวิเศษ (Barbie: The Pearl Princess: 2014) โดยชื่อ ลูมิน่า (Lumina) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาละติน หมายถึง แสงอันเจิดจ้า 
33. คาร่า (Kara) จากเรื่อง บาร์บี้ เจ้าหญิงพลังมหัศจรรย์ (Barbie in Princess Power: 2015) โดยชื่อ คาร่า (Kara) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาอิตาเลียน หมายถึง ที่รัก หรือ ผู้เป็นที่รัก 
34. เมดิสัน (Madison) จากเรื่อง บาร์บี้ เจ้าหญิงพลังมหัศจรรย์ (Barbie in Princess Power: 2015) โดยชื่อ เมดิสัน (Madison) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาอังกฤษ หมายถึง บุตรแห่งแมทธิว 
35. มาเคล่า (Makayla) จากเรื่อง บาร์บี้ เจ้าหญิงพลังมหัศจรรย์ (Barbie in Princess Power: 2015) โดยชื่อ มาเคล่า (Makayla) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาฮีบรู หมายถึง ผู้ใดเล่าจะเหมือนกับพระผู้เป็นเจ้า หรือ ไม่มีผู้ใดจะเสมอเหมือนพระเจ้า 
36. อาเมเลีย (Amelia) จากเรื่อง ภารกิจลับฉบับเจ้าหญิง (Barbie Princess Adventure: 2020) โดยชื่อ อาเมเลีย (Amelia) มีต้นกำเนิดมาจากภาษาเยอรมัน หมายถึง ความขยันหมั่นเพียร ผู้มีวิริยะอุตสาหะ 

บทความแนะนำสำหรับการตั้งชื่อลูก

• การตั้งชื่อลูก พร้อมความหมาย ตั้งชื่อลูกชาย ตั้งชื่อลูกสาว แบบอินเตอร์
• พื้นฐานการตั้งชื่อมงคล ตั้งชื่อลูกตามวันเกิด
• ตั้งชื่อเล่นลูกชาย ให้ฮีโร่ตัวน้อยของคุณ
• ตั้งชื่อลูกฝาแฝด ด้วยชื่อคล้องจอง ความหมายดี
• ชื่อของลูกมีผลต่ออนาคตของพวกเขาอย่างไร
• ไอเดียตั้งชื่อลูกแฝด ชื่อลูกแฝดความหมายดี เป็นสิริมงคล
• รวมชื่อเกาหลีเพราะ ๆ ความหมายดี สำหรับตั้งชื่อเกาหลีให้ลูก