ท้องลม

ท้องลม ท้องหลอก คือท้องจริง ๆ หรือว่าท้องเทียม

Enfa สรุปให้

  • ท้องลม คือ ภาวะไข่ฝ่อ เป็นภาวะผิดปกติของการตั้งครรภ์ชนิดหนึ่ง โดยมีการปฎิสนธิเกิดขึ้นแต่ในภายหลังต่อมา ตัวอ่อนเกิดการฝ่อตัวและหายไป เหลือเพียงถุงตั้งครรภ์เท่านั้น

  • อาการท้องลมที่พบโดยมากนั้น มักจะมีสาเหตุเกิดจากปัญหาเกี่ยวกับโครโมโซมบกพร่องหรือไม่สมบูรณ์ อสุจิหรือไข่ไม่สมบูรณ์ การตั้งครรภ์ในอายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป รวมไปถึงสาเหตุจากกิจวัตรประจำวัน อาทิ การทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ

  • โอกาสในการเกิดอาการท้องลม สามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงทุกคนและทุกช่วงอายุ ยิ่งโดยเฉพาะผู้หญิงที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป มีโอกาสพบอาการท้องลมประมาณร้อยละ 30 ในขณะที่ผู้หญิงอายุน้อยกว่า 35 ปี มีโอกาสพบอาการนี้ได้ประมาณร้อยละ 15

เลือกอ่านตามหัวข้อ

     • ท้องลม คืออะไร
     • ท้องลม เกิดจากอะไร
     • ท้องลมอันตรายไหม
     • ค่า hCG เมื่อมีภาวะท้องลม
     • อาการท้องลมเป็นอย่างไร
     • สัญญาณของอาการท้องลมที่ควรรู้
     • ท้องลมกี่สัปดาห์ถึงรู้ตัว
     • ท้องลมรักษาอย่างไร
     • ท้องลมกับท้องหลอก ต่างกันอย่างไร
     • หากเคยมีภาวะท้องลมมาก่อน ควรวางแผนการตั้งครรภ์อย่างไรดี
     • ไขข้อข้องใจเรื่องอาการท้องลมกับ Enfa Smart Club

ท้องลม มักเป็นคำที่คุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจจะเคยได้ยินผ่านหู หรือได้รับชมผ่านละครโทรทัศน์ตอนที่ตัวละครแสร้งว่ากำลังตั้งท้อง ก่อนจะมาเฉลยเอาในตอนท้ายว่าแท้จริงเป็นท้องปลอม

แต่คุณแม่รู้หรือไม่ว่า จริง ๆ แล้ว อาการท้องลม ถือเป็นความผิดปกติหนึ่งของการตั้งครรภ์นะ แต่ใครบ้างล่ะที่เสี่ยงเป็นท้องลม แล้วท้องลมนี่อันตรายไหม มาลองหาคำตอบกันเลย

ท้องลม คืออะไร?


ท้องลม หรือภาวะไข่ฝ่อ (Blighted Ovum) เป็นความผิดปกติของการตั้งครรภ์ชนิดหนึ่ง กล่าวคือตามธรรมชาติของการตั้งครรภ์นั้นจะเกิดจากการปฏิสนธิของไข่และสเปิร์ม หลังจากปฏิสนธิแล้วก็จะไปฝังตัวในมดลูก และเติบโตเป็นตัวอ่อนไปเรื่อย ๆ

ซึ่งสำหรับภาวะท้องลม ก็มีการปฏิสนธิเช่นนั้นเกิดขึ้นด้วยเช่นกัน และมีการฝังตัวอ่อนที่มดลูกครบสูตรของการตั้งครรภ์ตามปกติ แต่จู่ ๆ หลังจากฝังตัวได้ไม่นานตัวอ่อนก็เกิดการฝ่อและหายไปดื้อ ๆ เหลือไว้แค่เพียงถุงตั้งครรภ์เปล่า ๆ เอาไว้ดูต่างหน้า

อาการแบบนี้ เรียกภาวะเช่นนี้ว่า ท้องลม และภาวะนี้มักเกิดขึ้นในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ และบางครั้งก็เกิดขึ้นก่อนที่จะรู้ตัวว่าตั้งครรภ์

ท้องลม เกิดจากอะไร?


แม้จนทุกวันนี้ก็ยังไม่ทราบว่าท้องลมเกิดจากอะไร และก็เป็นเรื่องยากที่จะจำเพาะเจาะจงในการหาสาเหตุที่เกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม ภาวะท้องลมที่พบโดยมากนั้นมักมีสาเหตุมาจาก

  • ปัญหาเกี่ยวกับโครโมโซม หรือโครโมโซมไม่สมบูรณ์

  • อสุจิหรือไข่ไม่สมบูรณ์

  • การตั้งครรภ์เมื่ออายุมากกว่า 35 ปีขึ้นไป

  • การดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น ทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ

โอกาสเกิดท้องลมมีมากแค่ไหน?


ท้องลมสามารถเกิดขึ้นได้กับผู้หญิงในทุกช่วงวัย แต่ยิ่งมีอายุมากและตั้งครรภ์ ก็มีโอกาสที่จะเป็นท้องลมมากกว่าปกติ ผู้หญิงที่ตั้งครรภ์ช่วงอายุน้อยกว่า 35 ปี มีโอกาสเกิดท้องลมประมาณร้อยละ 15 ขณะที่การตั้งครรภ์เมื่ออายุ 35 ปีขึ้นไปมีโอกาสพบท้องลมมากกว่าประมาณร้อยละ 30

ท้องลมอันตรายไหม?


เมื่อเทียบกับความผิดปกติของการตั้งครรภ์ประเภทอื่น ๆ ภาวะท้องลมถือว่าเป็นความผิดปกติที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพน้อยมาก แต่ในแง่ของความผิดหวังและเสียใจนั้น คงไม่ต่างไปจากการแท้งลูก หรือความผิดปกติในการตั้งครรภ์รูปแบบอื่น ๆ

ค่า hCG เมื่อมีภาวะท้องลม


คนท้องโดยทั่วไปมักจะตรวจพบฮอร์โมน (Human Chorionic Gonadotropin หรือ hCG) หรือฮอร์โมนการตั้งครรภ์ ซึ่งจะเพิ่มระดับขึ้นหลังการปฏิสนธิ

ดังนั้น จึงไม่แปลกที่คนท้องบางคนจะมีอาการแพ้ท้องเช่นเดียวกับการตั้งครรภ์ปกติ แต่อาการจะไม่เท่ากับคนที่ตั้งท้องโดยสมบูรณ์ เนื่องจากระดับ hCG ในผู้ที่มีภาวะท้องลมจะไม่สูงเท่าค่า hCG ปกติ

สมัครเป็นสมาชิก Enfa Smart Club กับชมวันนี้ ลุ้นรับ MacBook Air

อาการท้องลมเป็นอย่างไร?


ส่วนมากแล้วผู้ที่มีภาวะท้องลมแทบจะไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเองมีภาวะท้องลมอยู่ เพราะไม่มีอาการใดแสดงออกให้ทราบเลยว่ามีการตั้งครรภ์ที่ผิดปกติเกิดขึ้น

สัญญาณของอาการท้องลมที่ควรรู้


อาจไม่ใช่อาการท้องลมโดยตรง แต่ผู้ที่มีภาวะท้องลมอาจมีอาการตั้งครรภ์ตามปกติ เช่น ประจำเดือนไม่มา เจ็บหรือคัดตึงเต้านม วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรือตรวจครรภ์แล้วขึ้นสองขีด หรือตรวจพบค่า hCG เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งหลังพบว่ามีการตั้งครรภ์มาสักพัก และเมื่อตัวอ่อนฝ่อไปแล้ว อาจพบสัญญาณดังต่อไปนี้เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในผู้ที่มีภาวะท้องลมบางรายก็ไม่พบอาการหรือสัญญาณใด ๆ เลย แต่ถ้ามีอาการดังที่กล่าวไปข้างต้น ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัย

ท้องลมกี่สัปดาห์ถึงรู้ตัว?


ท้องลมสามารถตรวจพบได้โดยการอัลตราซาวด์ ซึ่งสามารถตรวจพบได้ในสัปดาห์ที่ 6-7 ของการตั้งครรภ์ขึ้นไป

อย่างไรก็ตาม มีหลายกรณีที่ไม่ทราบว่ามีภาวะท้องลม หากไม่ได้มีเหตุจำเป็นจะต้องมาตรวจสุขภาพภายในที่โรงพยาบาลก็อาจจะไม่ทราบเลย

ท้องลมรักษาอย่างไร?


เมื่อแพทย์ตรวจพบภาวะท้องลม ก็จะวินิจฉัยให้มีการขูดมดลูกเพื่อนำเอาถุงตั้งครรภ์นี้ออกมา หรือในบางกรณีก็อาจรอให้เกิดกระบวนการแท้งขึ้นตามธรรมชาติ หรืออาจแนะนำให้กินยาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการแท้ง

ท้องลม จําเป็นต้องขูดมดลูกไหม?


การรักษาท้องลมนั้นสามารถทำได้หลายวิธี สิ่งสำคัญคือการกำจัดเอาถุงตั้งครรภ์ที่ไม่สมบูรณ์นั้นออกมาให้หมด ซึ่งหากรอให้มีการแท้งตามธรรมชาติเกิดขึ้นแล้ว หรือกินยาเพื่อเร่งการแท้งแล้ว แต่ยังไม่สามารถขับเอาถุงตั้งครรภ์ใบเก่านั้นออกมาได้ แพทย์ก็อาจพิจารณาทำการดูดหรือขูดมดลูกเพื่อเอาถุงตั้งครรภ์ออกมา

ท้องลม (Blighted Ovum) VS ท้องหลอก (Pseudocyesis): แตกต่างกันอย่างไร?


ท้องลม ท้องหลอก มักเป็นคำที่มาคู่กัน จนบางครั้งก็ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่าเป็นอาการอย่างเดียวกัน แต่ในความเป็นจริงแล้ว ท้องลม กับ ท้องหลอก มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด

     ท้องลม (Blighted Ovum) คือ มีการท้องเกิดขึ้นจริง ๆ เพียงแต่ด้วยปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ ทำให้ตัวอ่อนหยุดการพัฒนาและฝ่อไปเอง เหลือไว้แค่ถุงตั้งครรภ์เปล่า ๆ

     ท้องหลอก (Spurious Pregnancy หรือ Pseudocyesis) เป็นอาการทางจิตชนิดหนึ่ง และร่างกายมีการแสดงออกของอาการที่ทำให้รู้สึกว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่จริง ๆ แต่เมื่อไปตรวจกับแพทย์แล้วพบแค่มดลูกเปล่า ๆ ไม่มีร่องรอยการตั้งครรภ์แต่อย่างใด

โดยสรุปก็คือ ท้องลม มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจริง แต่ท้องหลอก ไม่เคยมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น

หากเคยมีภาวะท้องลมมาก่อน ควรวางแผนการตั้งครรภ์อย่างไรดี?


ผู้ที่มีภาวะท้องลมมาก่อน ยังสามารถที่จะตั้งครรภ์แบบสมบูรณ์ได้ เพียงแต่หลังจากการท้องลมและเสร็จสิ้นกระบวนการกำจัดถุงตั้งครรภ์ใบเก่าออก ร่างกายจำเป็นที่จะต้องมีการพักฟื้นก่อนที่จะเริ่มวางแผนตั้งครรภ์รอบใหม่ได้

แต่โดยทั่วไปแล้วแพทย์มักจะแนะนำให้เริ่มวางแผนการตั้งครรภ์ครั้งใหม่เมื่อมีรอบเดือนครบ 3 รอบ ในระหว่างนี้ ควรดูแลตัวเองให้มากขึ้น หมั่นออกกำลังกาย กินอาหารที่มีประโยชน์ ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย รวมถึงตรวจความพร้อมการตั้งครรภ์ด้วย

ป้องกันท้องลมได้ยังไงบ้าง?


เนื่องจากท้องลมมีสาเหตุการเกิดที่ค่อนข้างหลากหลาย และมักเป็นปัจจัยที่ยากจะควบคุม จึงทำให้การป้องกันนั้นเป็นไปได้ยาก หรือแทบเป็นไปไม่ได้เลย

ไขข้อข้องใจปัญหาท้องลมกับ Enfa smart club


1. ท้องลมถือว่าท้องไหม?

ท้องลม ถือว่าเป็นการตั้งครรภ์ เพียงแต่ตัวอ่อนหยุดการพัฒนาไปก่อนที่จะสิ้นสุดกระบวนการตั้งครรภ์เท่านั้นเอง

2. ท้องลมแล้วจะท้องจริงได้ไหม?

หลังจากท้องลมแล้ว หากต้องการจะมีลูก ก็สามารถทำได้ และก็มีโอกาสสูงที่จะเป็นการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ตามปกติ เพียงแต่ต้องรอให้ร่างกายฟื้นตัวหลังจากท้องลมครั้งก่อนหน้าเสียก่อน

3. ท้องลม มีอาการแพ้ท้องไหม?

แม้แต่คนท้องปกติ ก็ไม่ใช่คนท้องทุกคนที่จะมีอาการแพ้ท้อง ผู้ที่มีภาวะท้องลมก็เช่นกัน บางรายก็พบอาการแพ้ท้อง บางรายก็ไม่พบอาการใด ๆ เลย อย่างไรก็ตาม อาการแพ้ท้องในผู้ที่มีภาวะท้องลมนั้นจะน้อยกว่าอาการแพ้ท้องของผู้ที่มีการตั้งครรภ์ปกติ

4. ท้องลมปวดฉี่บ่อยไหม?

อาการปวดฉี่บ่อย เป็นหนึ่งในอาการของคนท้อง เนื่องจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นขณะตั้งครรภ์และมดลูกที่มีการขยายตัวมากขึ้นจนไปเบียดอัดกระเพาะปัสสาวะ จึงทำให้รู้สึกปวดฉี่บ่อยขึ้น

ในส่วนของผู้ที่ท้องลมนั้น เนื่องจากท้องลมมักพบและจบลงในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ มดลูกจึงยังไม่มีการขยายตัวมากพอจะไปเบียดกับกระเพาะปัสสาวะจนทำให้รู้สึกปวดฉี่บ่อย

แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าคนที่มีภาวะท้องลมอาจจะปวดฉี่บ่อย เพียงแต่อาจไม่ได้มาจากการตั้งครรภ์ แต่อาจเป็นปัจจัยอื่น ๆ เช่น ดื่มน้ำมากกว่าปกติ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับกระเพาะปัสสาวะ หรือปัญหาสุขภาพอื่น ๆ

5. ท้องลมเลือดออกกี่วัน?

ระยะเวลาเลือดออกเมื่อมีภาวะท้องลมนั้นมักแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่ถ้าหากพบว่ามีการตั้งครรภ์ และในช่วงแรกของการตั้งครรภ์มีเลือดออก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยและเข้ารับการรักษา เพราะอาจเป็นสัญญาณของการแท้งจากภาวะท้องลม

หรือในกรณีที่รุนแรงคือมีการตั้งครรภ์ที่สมบูรณ์ตามปกติ แต่เกิดการแท้งขึ้น ก็ควรต้องไปพบแพทย์เช่นกัน

6. ท้องลมท้องโตไหม?

ท้องลมมักตรวจพบได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 6-7 ของการตั้งครรภ์ ซึ่งเป็นช่วงแรกของการตั้งครรภ์ที่แม้จะเป็นการตั้งครรภ์ตามปกติขนาดท้องของแม่ก็ยังไม่ได้โตหรือนูนออกมา

เนื่องจากทารกยังมีขนาดตัวเล็กมาก ในส่วนของท้องลมที่ตัวอ่อนฝ่อไปแล้วนั้น ขนาดหน้าท้องก็จะไม่โตหรือนูนออกมาเช่นกัน

7. ท้องลมจะหลุดตอนไหน?

โดยทั่วไปแล้วท้องลมมักตรวจพบได้ในช่วงสัปดาห์ที่ 6-7 ของการตั้งครรภ์ แต่ตัวอ่อนอาจจะหลุดไปแล้ว 1-2 สัปดาห์ก่อนหน้า และเมื่อตรวจพบว่าเหลือแต่ถุงตั้งครรภ์เปล่า ๆ แพทย์ก็จะนัดหรือแนะนำกระบวนการกำจัดถุงตั้งครรภ์ต่อไป

8. ท้องลมขึ้นสองขีดไหม?

เนื่องจากท้องลมเป็นการตั้งครรภ์จริง ๆ ดังนั้น ฮอร์โมนตั้งครรภ์จึงมีระดับที่สูงขึ้น แม้จะไม่ได้มีระดับที่สูงเท่ากับการตั้งครรภ์ตามปกติ แต่ก็มากพอที่จะทำให้ตรวจพบการตั้งครรภ์ ทำให้ในหลาย ๆ กรณีผู้ที่มีภาวะท้องลมได้ทำการตรวจครรภ์แล้วพบผลลัพธ์ขึ้นสองขีด ขณะที่ก็ยังมีอีกหลายกรณีที่มีภาวะท้องลมแต่ตรวจโดยที่ตรวจครรภ์แล้วก็ไม่พบการตั้งครรภ์



บทความแนะนำสำหรับคุณแม่

EFB Form

EFB Form