Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การที่เด็กทารกมีฟันน้ำนมขึ้นเป็นช่วงเวลาที่มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์ของลูกน้อย โดยฟันจะเริ่มขึ้นจากเหงือกเมื่อทารกอายุประมาณ 4-7 เดือน แต่บางครั้งก็อาจจะเริ่มช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับแต่ละคน ช่วงนี้ลูกจะรู้สึกเจ็บปวดจากการที่ฟันเจาะเหงือกออกมา และอาจเกิดอาการต่างๆ เช่น งอแง ร้องไห้ มีน้ำลายไหล หรือแม้กระทั่งไข้เล็กน้อย คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นต้องรู้วิธีดูแลและเข้าใจถึงอาการที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยให้ลูกน้อยผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างราบรื่น
ลูกฟันขึ้นงอแงเป็นเรื่องปกติ เพราะเมื่อฟันเริ่มขึ้น ทารกมักจะรู้สึกไม่สบายจากการที่ฟันดันผ่านเหงือกออกมา ซึ่งจะทำให้เหงือกบวมและเจ็บ โดยมักจะมีอาการเหล่านี้อยู่ประมาณ 3-5 วัน แต่บางครั้งอาจยาวนานถึง 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับแต่ละเด็ก
ทั้งนี้ ฟันแต่ละซี่ที่ขึ้นก็จะมีอาการที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น ฟันหน้า (Incisors) มักจะขึ้นเร็วและอาการไม่รุนแรงเท่ากับฟันกราม ฟันกรามที่เริ่มขึ้นจะทำให้เหงือกบวมและเจ็บมากกว่า ฟันซี่เหล่านี้ต้องการเวลาในการขึ้นนานกว่าฟันหน้า ซึ่งทำให้ทารกอาจรู้สึกเจ็บนานกว่าหรือมีอาการงอแงต่อเนื่องไปจนถึงช่วงที่ฟันกรามขึ้น
อาการไข้ที่เกิดจากการขึ้นฟันมักจะเป็นไข้ต่ำหรือไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส ซึ่งเกิดจากการอักเสบของเหงือกเมื่อฟันเริ่มดันขึ้น โดยไข้ในช่วงนี้มักจะไม่คงอยู่ยาวนาน หากไข้เกิดขึ้นเกิน 2 วันหรือมีอาการที่รุนแรง ควรปรึกษาแพทย์เพื่อให้คำแนะนำที่เหมาะสม
ทั้งนี้ ฟันกรามที่เริ่มขึ้นมักจะทำให้เกิดอาการไข้ได้นานกว่าฟันหน้า เนื่องจากขนาดของฟันกรามที่ใหญ่และต้องใช้แรงดันจากเหงือกในการขึ้นมากกว่า ฟันกรามจะทำให้ทารกรู้สึกเจ็บและมีไข้ในช่วงที่เหงือกบวมและมีการอักเสบมากขึ้น คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้วิธีบรรเทาอาการไข้ เช่น การให้ยาลดไข้ตามคำแนะนำจากแพทย์ และทำให้ลูกดื่มน้ำมากๆ เพื่อลดอุณหภูมิร่างกาย ในกรณีที่ไข้สูงเกินไปหรือไม่ลดลง ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของไข้
การที่ฟันของทารกขึ้นจากเหงือกและปรากฏให้เห็นใช้เวลาอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ ขึ้นอยู่กับแต่ละซี่ของฟัน ฟันแรกที่ขึ้นมักจะเป็นฟันล่างกลาง (Incisors) และฟันกรามมักจะขึ้นในภายหลัง การขึ้นของฟันอาจมีระยะเวลาต่างกันไปสำหรับเด็กแต่ละคน โดยเฉพาะฟันกรามที่มักใช้เวลานานกว่าฟันหน้าหรือฟันซี่อื่น
อาการเด็กฟันจะขึ้นที่พบบ่อย คือ
อย่างไรก็ตาม หากเห็นว่าลูกมีอาการรุนแรงผิดปกติ เช่น ไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียส เกิดผื่น ปวดมากเกิน หรือกินไม่ได้ต่อเนื่อง ควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยสาเหตุอื่นร่วมด้วย
เด็กฟันขึ้นงอแงมากกว่าปกติ หรือบางทีลูกฟันขึ้นร้องทั้งคืน ทำให้คุณพ่อคุณแม่ไม่สบายใจ แต่สามารถปลอบใจและดูแลลูกน้อยได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
ฟันกรามขึ้นอาจทำให้ทารกมีไข้สูงขึ้นกว่าฟันซี่อื่น การดูแลในช่วงนี้คือการให้ลูกดื่มน้ำมาก ๆ และใช้ยาเพื่อลดไข้ เช่น พาราเซตามอล โดยให้ใช้ตามขนาดที่เหมาะสมกับอายุและน้ำหนักของทารก หากไข้สูงเกิน 2 วันหรือไม่ลดลง ควรปรึกษาแพทย์
สัญญาณไข้จากการขึ้นฟันกรามไม่แตกต่างจากการขึ้นฟันน้ำนมทั่วไป คือ ไม่มีไข้สูงโดยตรงจากฟันขึ้น คือลูกอาจมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัว ไม่สบายตัวได้บ้าง แต่จะไม่มีไข้สูงเกินกว่า 38 องศาเซลเซียส หากลูกฟันกรามขึ้นมีไข้สูงผิดปกติหรือมีไข้ต่อเนื่องหลายวัน ควรพาไปพบแพทย์ เพราะอาจเกิดจากสาเหตุอื่น
ลูกฟันขึ้นอาจมีช่วงทรมานกายใจทั้งลูกน้อยและพ่อแม่อยู่บ้าง นอกจากวิธีบรรเทาอาการลูกงอแงฟันขึ้นที่กล่าวไปแล้ว หากลูกยังอาการไม่ลดลง อาจพิจารณาการใช้ยาบรรเทาอาการได้ โดยควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา ปกติแล้วมักใช้ยาบรรเทาอาการ ดังนี้
เจลที่ใช้ทาเหงือกเพื่อบรรเทาอาการเจ็บและบวมควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และไม่มีสารเคมีที่เป็นอันตราย เช่น ยาชาที่มีส่วนผสมของเบนโซเคน (Benzocaine) ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ในทารกบางราย ควรใช้ตามคำแนะนำจากแพทย์หรือคำแนะนำในฉลากผลิตภัณฑ์เท่านั้น
ข้อควรระวัง หากลูกมีอาการแพ้หรือเกิดผื่นแดงหลังจากใช้เจลทาเหงือก ควรหยุดใช้ทันทีและปรึกษาแพทย์
ยาพาราเซตามอลเป็นยาลดไข้และบรรเทาอาการปวดที่ใช้ได้กับทารกในช่วงที่ฟันขึ้น แต่ควรให้ตามขนาดที่แพทย์แนะนำโดยพิจารณาจากอายุและน้ำหนักของลูก
ข้อควรระวังคือการใช้ยาพาราเซตามอลเกินขนาดอาจทำให้เกิดอันตรายต่อตับได้ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังและใช้ยาตามคำแนะนำจากแพทย์หรือฉลากผลิตภัณฑ์ และควรหลีกเลี่ยงการใช้ยาพาราเซตามอลในกรณีที่ลูกมีอาการท้องเสียหรืออาเจียน เนื่องจากอาจส่งผลต่อการดูดซึมยา
นอกจากการดูแลสุขอนามัย สุขภาพโดยรวม และเฝ้าสังเกตพัฒนาการของของลูกน้อยว่าเหมาะสมตามวัยแล้วหรือไม่แล้ว การดูแลด้านโภชนาการตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกของชีวิตนั้น ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญให้กับชีวิตของลูก จะช่วยให้ลูกพร้อมเติบโตมาเป็นเด็กที่ทั้งฉลาดทางความคิดและฉลาดทางอารมณ์
โดยโภชนาการที่สำคัญที่ลูกน้อยควรได้รับก็คือนมแม่ เพราะในนมแม่ที่มี MFGM หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น
*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561
Enfa สรุปให้ กระหม่อมหลังปิดกี่เดือน? กระหม่อมหลังของทารกจะเริ่มปิดตั้งแต่แรกเกิด หรืออายุตั้งแต...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ลูกฟันขึ้นงอแงกี่วัน อาการงอแงอาจเกิดขึ้นได้ 3-5 วัน แต่บางครั้งอาจยาวนานถึง 1-2 สั...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ของเล่นเสริมพัฒนาการ 6-12 เดือน ควรเลือกของเล่นที่เหมาะกับพัฒนาการของแต่ละช่วงวัย เ...
อ่านต่อ