Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
อาการเวียนหัวในเด็กเล็กเป็นสิ่งที่พ่อแม่มักไม่คุ้นเคย เพราะเด็กอาจอธิบายความรู้สึกได้ไม่ชัดเจน โดยเฉพาะในช่วงอายุ 5-10 ปีที่เด็กเริ่มเข้าโรงเรียน อาจมีปัจจัยกระตุ้นจากกิจกรรม การเรียนรู้ หรือสุขภาพจิตใจ เด็กบางคนอาจแค่เหนื่อยหรือนอนไม่พอ แต่บางกรณีอาจเป็นสัญญาณเตือนของโรคทางระบบประสาท หรือโรคเกี่ยวกับการทรงตัว การเข้าใจอาการเบื้องต้นอย่างถูกต้องจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลและตัดสินใจพาลูกไปพบแพทย์ได้ทันท่วงที
ลูกปวดหัว อาเจียน ไม่มีไข้ อาจมองว่าไม่ใช่อาการรุนแรง แต่ในบางกรณีก็สามารถเป็นสัญญาณของโรคทางระบบประสาท เช่น
แม้ว่าลูกปวดหัว อาเจียน ไม่มีไข้เป็นอาการที่ไม่น่ากังวล แต่คุณพ่อคุณแม่ควรบันทึกอาการของลูกไว้เป็นระยะ ๆ เพื่อช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคได้แม่นยำขึ้น เช่น เกิดช่วงเวลาไหน อะไรเป็นตัวกระตุ้น และใช้เวลานานเท่าไรจึงหาย
ลูกปวดหัว คลื่นไส้ ไม่มีไข้ มักมีสาเหตุหลักมาจากภาวะต่อไปนี้
ลูกปวดหัวบ่อย เวียนหัวบ่อย อาจสะท้อนถึงภาวะเรื้อรังที่ไม่ควรละเลย เช่น
หากลูกปวดหัวบ่อย เวียนหัวบ่อย จนมีผลต่อการเรียนหรือใช้ชีวิตประจำวัน แนะนำให้พบกุมารแพทย์เฉพาะทางด้านระบบประสาท (Pediatric Neurologist) เพื่อหาสาเหตุค่ะ
ลูก 5 ขวบ เวียนหัว เนื่องจากเด็กเริ่มมีการเคลื่อนไหวมาก และอธิบายอาการได้พอสมควร อาการเวียนหัวในช่วงวัยนี้อาจเกี่ยวข้องกับโรคเวียนศีรษะแบบชั่วคราวในเด็ก การติดเชื้อในหู ไมเกรน และความเหนื่อยล้า ซึ่งหากลูกเวียนหัวขณะเดิน หรือมีอาการบ้านหมุนแม้อยู่กับที่ ควรพาไปตรวจการทำงานของหูชั้นในหรือระบบทรงตัว
ลูก 7 ขวบ เวียนหัว อาจเพราะเป็นวัยที่เริ่มมีภาระกิจกรรมมากขึ้น เช่น การใช้สายตา การนั่งเรียน การทำการบ้าน หากเวียนหัวในวัยนี้ อาจมีสาเหตุดังนี้
อาการปวดหัวในเด็ก 7 ขวบ มักไม่รุนแรงและหายได้เมื่อปรับพฤติกรรม เช่น ลดหน้าจอ ดื่มน้ำให้เพียงพอ และเข้านอนให้ตรงเวลา
ลูกบ่นปวดหัว แต่ไม่มีไข้ คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลด้วยตนเองได้ในเบื้องต้น โดยพาลูกไปพักในที่เงียบ สงบ ไม่มีแสงจ้า อาจช่วยประคบเย็นที่หน้าผากหรือบริเวณที่ปวด และให้ลูกนอนพักอย่างน้อย 30 นาที และงดกิจกรรมใช้สายตา
ทั้งนี้ ลูกเวียนหัวอาจดูไม่ได้รุนแรงนัก แต่สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ควรจดบันทึกสิ่งที่กินก่อนมีอาการ เช่น อาหารประเภทช็อกโกแลต เนื้อแปรรูป หรือชีส ซึ่งอาจกระตุ้นไมเกรนได้ เพื่อช่วยให้แพทย์วินิจฉัยอาการได้แม่นยำมากขึ้นค่ะ
หากลูกมีอาการปวดหัวร่วมกับอาการข้อใดข้อหนึ่งต่อไปนี้ ควรพาไปพบแพทย์ทันทีค่ะ
นอกจากการดูแลสุขอนามัย สุขภาพโดยรวม และเฝ้าสังเกตพัฒนาการของของลูกน้อยว่าเหมาะสมตามวัยแล้วหรือไม่แล้ว การดูแลด้านโภชนาการตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกของชีวิตนั้น ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญให้กับชีวิตของลูก จะช่วยให้ลูกพร้อมเติบโตมาเป็นเด็กที่ทั้งฉลาดทางความคิดและฉลาดทางอารมณ์
โดยโภชนาการที่สำคัญที่ลูกน้อยควรได้รับก็คือนมแม่ เพราะในนมแม่ที่มี MFGM หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น
*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561
ลูกปวดหัวตรงหน้าผากมักเกี่ยวข้องกับ อาการปวดหัวจากความเครียด ปัญหาไซนัส หรืออาการตาล้าจากการใช้สายตาเพ่งเป็นเวลานาน นอกจากนี้ยังเป็นตำแหน่งที่พบได้ในโรคไมเกรนเช่นกัน
ลูกปวดหัวบ่อยควรพาไปพบแพทย์อย่างยิ่งค่ะ เพราะการที่ลูกปวดหัวบ่อยเป็นสัญญาณสำคัญที่ต้องได้รับการวินิจฉัยหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อให้ได้รับการดูแลรักษาที่ถูกต้องและป้องกันผลกระทบต่อการเรียนและคุณภาพชีวิต
ลูกปวดหัวด้านหลังส่วนใหญ่มักเกิดจากความเครียดและความตึงของกล้ามเนื้อบริเวณคอและบ่า ซึ่งมักสัมพันธ์กับท่าทางที่ไม่ถูกต้อง เช่น การก้มเล่นมือถือหรือแท็บเล็ตนาน ๆ แต่ก็สามารถเป็นอาการของไมเกรนได้เช่นกัน
Enfa สรุปให้ ลูกปวดหัว อาเจียน ไม่มีไข้ อาจเกิดจากไมเกรน ความเครียด หรือปัญหาทางระบบประสาท หากอา...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ลูกเหงื่อออกเยอะ ผมเปียก มักไม่ใช่เรื่องผิดปกติ โดยเฉพาะในทารกและเด็กเล็กที่ร่างกาย...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ลูกกินยายากมักเกิดจากรสชาติยาไม่ถูกปาก ความกลัว หรือประสบการณ์ไม่ดี เช่น เคยสำลักยา...
อ่านต่อ