นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

เด็กไฮเปอร์เป็นแบบไหน เด็กเป็นไฮเปอร์ฉลาดจริงไหม

Enfa สรุปให้

  • เด็กไฮเปอร์เกิดจาก หลายปัจจัย อาจจะเป็นเรื่องของพันธุกรรมที่ทำให้มีการแสดงออกของพฤติกรรมกระตือรือร้นเกินพอดี หรือเกิดจากปัจจัยภายนอก
  • คุณพ่อคุณแม่อาจต้องใช้กลยุทธ์ในการเลี้ยงดูเด็กไฮเปอร์ ฉลาด ด้วยการเสริมพัฒนาการทางสมองด้วยการทำกิจกรรมที่กระตุ้นสมอง เช่น การทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ การเล่นเกมที่ใช้ความคิด การเล่นเกมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์เป็นต้น
  • เด็กไฮเปอร์ คือ เด็กที่แสดงพฤติกรรมที่มีพลังงานสูงและไม่สามารถควบคุมการกระทำของตัวเองได้อย่างเหมาะสม มีความกระตือรือร้นสูง พูดคุยตลอดเวลา และมักขาดความอดทนในการทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ
     

เลือกอ่านตามหัวข้อ

คุณแม่เคยสังเกตลูกที่ดูเหมือนจะมีพลังล้นเหลือ วิ่งไปวิ่งมา พูดตลอดเวลา และดูเหมือนจะหยุดไม่ได้บ้างไหมคะ? พฤติกรรมเหล่านี้อาจทำให้คุณแม่สงสัยว่านี่คือ เด็กไฮเปอร์ หรือเปล่า หรือเป็นแค่พฤติกรรมกระตือรือร้นมากกว่าคนอื่นๆ เราจะมาทำความเข้าใจกันอย่างละเอียด เพื่อช่วยให้คุณแม่สามารถดูแลลูกน้อยได้อย่างถูกต้องและมีความสุข

 

โรคไฮเปอร์คืออะไร

โรคไฮเปอร์คืออะไร  จริงๆ แล้ว "ไฮเปอร์" หรือที่เรียกกันว่า "ภาวะความกระตือรือร้นเกินพอดี" (Hyperactivity)ไฮเปอร์คืออะไร  ก็คือ ภาวะที่ทำให้บุคคลมีพฤติกรรมที่แสดงออกมาในลักษณะของการกระทำอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง โดยไม่สามารถควบคุมหรือหยุดพักได้ง่าย อาจจะเกิดขึ้นได้ในทุกเพศทุกวัย 

แต่ในเด็กนั้นมักพบมาก โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่ยังอยู่ในวัยพัฒนาการ การที่เด็กมีพลังงานมาก และกระตือรือร้นมากเกินไปอาจทำให้พวกเขาไม่สามารถตั้งใจฟัง หรือทำกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในที่เดียวได้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันและการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพบร่วมกับภาวะอื่นๆ เช่น สมาธิสั้นค่ะ

 

เด็กไฮเปอร์คืออะไร

เด็กไฮเปอร์คืออะไร เด็กไฮเปอร์ คือ เด็กที่แสดงพฤติกรรมที่มีพลังงานสูงและไม่สามารถควบคุมการกระทำของตัวเองได้อย่างเหมาะสม หรือสรุปง่ายๆ ว่า เด็ก hyper คือ เด็กที่ซนมากกว่าปกติ มีความกระตือรือร้นสูง พูดคุยตลอดเวลา และมักขาดความอดทนในการทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ 

เด็กประเภทนี้มักจะมีความกระฉับกระเฉง วิ่งเล่น ตื่นตัวตลอดเวลา และมักมีพลังงานที่ไม่หยุดนิ่ง ซึ่งในบางครั้งอาจทำให้พ่อแม่หรือผู้ดูแลรู้สึกเหนื่อยล้าหรือมีความกังวลใจ 

ข้อสังเกตคือ เด็กไฮเปอร์ ไม่ได้หมายถึงเด็กที่ซุกซนธรรมดาค่ะ แต่เป็นเด็กที่มีพฤติกรรมที่ส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้และความสัมพันธ์กับผู้อื่น บางครั้งอาจทำให้คนรอบข้างรู้สึกว่าเด็กเหล่านี้ขาดความสนใจในสิ่งที่ทำอยู่ แต่จริงๆ แล้ว เด็กไฮเปอร์อาจเป็นเด็กที่มีความสามารถสูงและฉลาดในรูปแบบอื่นๆ เพียงแต่มีความต้องการในการกระตุ้นและการจัดการพลังงานในทางที่เหมาะสมเท่านั้นเอง

เด็กที่มีพลังงานสูงมักจะเป็นผลจากลักษณะทางธรรมชาติของแต่ละคน เด็กบางคนมีแนวโน้มที่จะมีพลังงานมากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งการแสดงออกของพฤติกรรมที่กระตือรือร้นเหล่านี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการในช่วงวัยเด็ก เนื่องจากในวัยนี้เด็กจะมีการเรียนรู้จากการเล่นและการสำรวจสิ่งใหม่ๆ การที่เด็กวิ่งเล่นหรือพูดคุยอย่างไม่มีที่สิ้นสุดเป็นสิ่งที่ช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจของเขา

บางสถานการณ์ ไฮเปอร์ อาจจะหมายถึงพฤติกรรมที่เกินไปและมีการแสดงออกที่ไม่เหมาะสมในสถานการณ์ต่างๆ เช่น การที่เด็กไม่สามารถตั้งสมาธิในการทำการบ้าน หรือไม่สามารถทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธินานๆ ได้

เด็กไฮเปอร์บางคนอาจมีอาการที่ผิดปกติเมื่อเทียบกับเด็กทั่วไป เช่น การพูดเร็วหรือพูดมากเกินไป การกระตุ้นให้ร่างกายเคลื่อนไหวตลอดเวลา หรือมีปัญหากับการยับยั้งชั่งใจ ซึ่งอาจจะมีสาเหตุจากหลายปัจจัย ทั้งพัฒนาการทางสมอง การมีความเครียด หรือสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้อต่อการควบคุมพฤติกรรมของเด็ก

เด็กไฮเปอร์ที่มีอาการที่รุนแรงจนส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้หรือการอยู่ร่วมกับผู้อื่น อาจเป็นสัญญาณของภาวะสมาธิสั้น (ADHD) ซึ่งเป็นภาวะที่มีลักษณะเด่นคือความยากลำบากในการตั้งสมาธิ การควบคุมพฤติกรรม และความตื่นตัวที่มากเกินไป เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นมักจะมีพฤติกรรมที่ไม่สามารถควบคุมได้และอาจส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน เช่น การเรียน การเล่นกับเพื่อน หรือการทำการบ้าน

การที่เด็กจะเป็น "ไฮเปอร์" หรือแสดงพฤติกรรมที่มีพลังงานสูงไม่ใช่เรื่องที่ผิดปกติ แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาทางร่างกายและจิตใจ อย่างไรก็ตาม เมื่อพฤติกรรมเหล่านั้นเริ่มส่งผลกระทบต่อการเรียนรู้หรือการดำเนินชีวิตประจำวัน พ่อแม่และผู้ดูแลควรสังเกตและให้ความสำคัญในการช่วยเหลือและสนับสนุนพฤติกรรมของเด็ก

การจัดการกับเด็กไฮเปอร์สามารถทำได้โดยการสร้างกิจกรรมที่เหมาะสมเพื่อระบายพลังงาน เช่น การเล่นกีฬา การออกกำลังกาย หรือกิจกรรมกลางแจ้งที่ช่วยให้เด็กได้ใช้พลังงานในทางที่สร้างสรรค์ นอกจากนี้ การตั้งกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนในการจัดการกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม และการให้ความสนใจในพฤติกรรมที่ดีของเด็กจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการในทางที่ถูกต้อง

ไฮเปอร์กับสมาธิสั้นต่างกันอย่างไร

บางครั้งคุณแม่อาจจะสงสัยว่า "เด็กไฮเปอร์" กับ "เด็กสมาธิสั้น" (ADHD) นั้นแตกต่างกันอย่างไร สมาธิสั้นกับไฮเปอร์มีความคล้ายคลึงกันค่ะ  

1. ไฮเปอร์
การที่เด็กแสดงพฤติกรรม "ไฮเปอร์" มักหมายถึงพฤติกรรมที่กระตือรือร้นมากเกินไปหรือมีพลังงานสูง เด็กไฮเปอร์มักจะไม่สามารถนั่งนิ่งๆ หรืออยู่ในที่สงบได้ ทำให้เกิดพฤติกรรมที่เคลื่อนไหวตลอดเวลา เช่น การวิ่งเล่นตลอดเวลา การพูดเร็วหรือพูดมากเกินไป หรือการทำกิจกรรมที่ต้องใช้พลังงานสูง การที่เด็กมีพฤติกรรมแบบนี้มักเป็นเรื่องปกติในช่วงวัยเด็ก โดยเฉพาะในวัยอนุบาลหรือวัยประถมที่เด็กยังมีพลังงานมากและต้องการสำรวจสิ่งรอบตัว

อย่างไรก็ตาม การที่เด็กไฮเปอร์ไม่สามารถนั่งนิ่งได้ไม่จำเป็นต้องบ่งบอกถึงปัญหาทางสุขภาพ พฤติกรรมเหล่านี้มักจะลดลงเมื่อเด็กโตขึ้นและพัฒนาความสามารถในการควบคุมตนเองได้ดีขึ้น และการมีพลังงานสูงนี้สามารถถูกระบายออกผ่านกิจกรรมที่เหมาะสม เช่น การเล่นกีฬา หรือการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

2. สมาธิสั้น (ADHD)
ในขณะที่เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder) หรือ ADHD จะมีพฤติกรรมที่คล้ายกับเด็กไฮเปอร์ แต่จะมีลักษณะที่เด่นชัดและต่อเนื่องในหลายๆ ด้าน เด็กที่สมาธิสั้นมักจะมีปัญหากับการตั้งสมาธิในการทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำการบ้าน หรือแม้แต่การฟังคำสั่งจากผู้ใหญ่ พวกเขามักจะขาดความตั้งใจในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งและทำให้เกิดปัญหาต่างๆ ในชีวิตประจำวัน

เด็กที่มี ADHD จะมีลักษณะพฤติกรรมที่เกินกว่าความกระตือรือร้นของเด็กทั่วไป เช่น การกระทำที่ไม่สามารถควบคุมได้ การเปลี่ยนกิจกรรมบ่อยๆ โดยไม่สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานๆ หรือการทำผิดพลาดซ้ำๆ เนื่องจากขาดสมาธิ นอกจากนี้เด็กที่มีภาวะสมาธิสั้นมักจะมีปัญหากับการคอยฟังหรือทำตามคำสั่งและมักจะสร้างความยุ่งเหยิงในสภาพแวดล้อมของตนเอง

ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างเด็กไฮเปอร์และเด็กที่มีสมาธิสั้น (ADHD) คือพฤติกรรมของเด็กไฮเปอร์มักจะเป็นธรรมชาติในช่วงวัยเด็กและค่อยๆ ลดลงเมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น โดยเด็กไฮเปอร์จะมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับการมีพลังงานมาก ในขณะที่เด็กที่มี ADHD จะมีปัญหาในการควบคุมพฤติกรรมและสมาธิอย่างต่อเนื่องแม้จะโตขึ้น โดยเด็กที่มี ADHD จะมีอาการที่ส่งผลกระทบต่อการเรียน การเข้าสังคม และกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน บางครั้งทั้งสองภาวะอาจพบร่วมกันก็ได้ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อวินิจฉัยพฤติกรรมของลูกค่ะ

 

สาเหตุของภาวะไฮเปอร์ในเด็ก

สาเหตุของภาวะไฮเปอร์ในเด็ก มีหลายสาเหตุ เด็กไฮเปอร์ เกิดจาก หลายปัจจัย อาจจะเป็นเรื่องของพันธุกรรมที่ทำให้มีการแสดงออกของพฤติกรรมกระตือรือร้นเกินพอดี หรือเกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น 

  • การขาดการควบคุมจากผู้ปกครอง
  • มาจากพันธุกรรม หากพ่อแม่หรือญาติมีประวัติไฮเปอร์หรือสมาธิสั้น
  • สิ่งแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการพัฒนาการของเด็ก 
  • ภาวะความผิดปกติของสมองหรือระบบประสาทส่วนกลาง
  • ภาวะความผิดปกติทางอารมณ์หรืออาการทางจิต
  • ความผิดปกติของต่อมไร้ท่อ เช่น ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
  • ผลข้างเคียงจากการใช้ยารักษาโรคบางชนิด

นอกจากนี้ยังมีการวิจัยที่บ่งชี้ว่าอาหารที่มีสารกันบูดหรือการนอนหลับที่ไม่เพียงพอก็สามารถทำให้เด็กแสดงพฤติกรรมไฮเปอร์ได้ การรับรู้ถึงสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้ผู้ปกครองสามารถจัดการกับพฤติกรรมของเด็กได้ดียิ่งขึ้น

เกร็ดน่ารู้ คือ ไม่ใช่ทุกเด็กที่ซุกซนจะเป็นเด็กไฮเปอร์ ความซุกซนเป็นเรื่องปกติของวัยเด็ก แต่หากพฤติกรรมส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญนะคะ

 

อาการเด็กไฮเปอร์

อาการเด็กไฮเปอร์ มักจะรวมถึงการแสดงพฤติกรรมที่ไม่สามารถนั่งนิ่งๆ ได้ หรือมีปฏิกิริยาตอบสนองที่รวดเร็วเกินไป โดยเฉพาะในสถานการณ์ที่ต้องการความสงบ เช่น ในห้องเรียนหรือที่โต๊ะอาหาร สำหรับ เด็กไฮเปอร์ อาการเหล่านี้อาจทำให้คุณแม่รู้สึกกังวล แต่การเข้าใจและรับมือกับอาการเหล่านี้ได้ดีจะช่วยให้การเลี้ยงดูลูกเป็นไปได้อย่างราบรื่น

พฤติกรรมเด็กไฮเปอร์ที่พบบ่อย เช่น

  • วิ่งไปวิ่งมาตลอดเวลา
  • พูดคุยตลอดเวลา
  • ขาดความอดทน
  • กระดิกเท้าตลอดเวลา 
  • ชอบกดปากกาจนเกิดเสียงดังซ้ำ ๆ หรือ เคาะดินสอ 
  • ขาดสมาธิ ทำกิจกรรมไม่ต่อเนื่อง
  • มีปัญหาในการควบคุมอารมณ์

 

เด็กไฮเปอร์รักษายังไง

ถ้าถามว่า เด็กไฮเปอร์รักษายังไง สำหรับ การรักษาเด็กไฮเปอร์ ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการปรับวิธีการเลี้ยงดูและการเสริมสร้างทักษะต่างๆ การพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญและแพทย์ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่ได้คำแนะนำที่เหมาะสมค่ะ 

วิธีรักษาเด็กไฮเปอร์ประกอบด้วย

  • การปรับพฤติกรรม  เช่น การตั้งขอบเขตที่ชัดเจน การให้รางวัลหรือการยืนยันพฤติกรรมดีๆ เพื่อเสริมสร้างพฤติกรรมที่เหมาะสม
  • เข้ารับการบำบัดพฤติกรรมและความคิดกับนักจิตบำบัด
  • บางกรณีอาจใช้ยาที่มีฤทธิ์ช่วยให้รู้สึกสงบร่วมด้วย เช่น เมทิลเฟนิเดต อะโทม็อกเซทีน ภายใต้การดูแลของแพทย์
  • การสร้างกิจวัตรประจำวันที่ชัดเจน

 

เด็กไฮเปอร์  กับการส่งเสริมพัฒนาการทางสมอง

การเลี้ยงดู "เด็กไฮเปอร์" ให้เป็นเด็กที่ "ไฮเปอร์ ฉลาด" อาจต้องใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างไปจากการเลี้ยงดูเด็กทั่วไป และไม่ใช่เรื่องเป็นไปไม่ได้ค่ะ การเสริมพัฒนาการทางสมองด้วยการทำกิจกรรมที่กระตุ้นสมอง เช่น

  • การทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิ
  • การเล่นเกมที่ใช้ความคิด
  • การเล่นเกมที่ส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์
  • การฝึกทักษะการควบคุมตนเอง
  • การเรียนรู้ผ่านการทำกิจกรรมทางศิลปะ
  • การฝึกฝนความสามารถในการแก้ปัญหา

กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยให้พวกเขาใช้พลังงานไปในทางที่เหมาะสม

 

วิธีเลี้ยงเด็กไฮเปอร์  ให้ลูกน้อยพัฒนาการสมวัย สุขภาพกายใจแข็งแรง

วิธีเลี้ยงเด็กไฮเปอร์ไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะคุณพ่อคุณแม่ หากรู้วิธีการและเทคนิคที่เหมาะสม เคล็ดลับการเลี้ยงดูเด็กไฮเปอร์ เช่น 

  • ใช้ความอดทนและความเข้าใจ
  • สร้างกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน
  • ให้รางวัลเมื่อทำดี
  • กระชับความสัมพันธ์ผ่านกิจกรรมร่วมกัน
  • ทำกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างสมาธิ และความรู้สึกผ่อนคลายอย่างสม่ำเสมอ
  • ให้ลูกได้มีเวลาออกกำลังกายเพียงพอ
  • กินอาหารที่มีประโยชน์

 

MFGM สารอาหารในนมแม่ เพื่อ IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก

ในช่วง 1,000 วันแรกของลูก เป็นช่วงเวลาสำคัญมากต่อพัฒนาการทางสมองและสติปัญญา โดย 80% ของสมอง จะเติบโตสูงสุดในช่วง 2 ขวบปีแรก และ 90% จะเติบโตสูงสุดในช่วง 5 ปีแรก ด้วยเหตุนี้ โภชนาการในช่วง 1,000 วันแรกของลูกน้อย จึงมีความสำคัญเป็นอย่างมาก

โภชนาการที่ดีจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมองและการเรียนรู้ของลูกน้อย โดยคุณแม่สามารถเสริมสร้างโภชนาการที่ดีได้ด้วยการให้ลูกน้อยได้รับนมแม่ตั้งแต่ 6 เดือนแรก และให้นมแม่อย่างต่อเนื่องควบคู่ไปกับอาหารตามวัยจนอายุ 2 ปี

เพราะในนมแม่มีสารอาหารสำคัญอย่าง MFGM หรือเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในนมแม่ ที่ประกอบด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด ไม่ว่าจะเป็น สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกลงกลิโอไซต์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างการทำงานของสมองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว เพื่อ IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก



บทความแนะนำสำหรับคุณแม่และลูกน้อย

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama