นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

เด็กอัจฉริยะ กับการส่งเสริมศักยภาพที่พ่อแม่ควรรู้

Enfa สรุปให้

  • เด็กอัจฉริยะ คือ เด็กที่มีความสามารถโดดเด่นกว่าระดับเฉลี่ยของวัยเดียวกัน ทั้งด้านสติปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ หรือทักษะเฉพาะด้าน 

  • เด็ก Gifted คือ เด็กที่มีพรสวรรค์หรือความสามารถพิเศษในด้านใดด้านหนึ่ง เช่น วิทยาศาสตร์ ศิลปะ ภาษา หรือความเป็นผู้นำ มักเรียนรู้เร็ว เข้าใจลึก และต้องการวิธีการเรียนรู้เฉพาะที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป

  • เด็ก Gifted ไม่จำเป็นต้องเป็นเด็กเรียนเก่งเสมอไป แต่คือเด็กที่มีศักยภาพสูง หากได้รับการสนับสนุนจากพ่อแม่ ครู และสภาพแวดล้อมที่เข้าใจ จะสามารถพัฒนาได้อย่างสมดุล

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

เมื่อพูดถึงคำว่า “เด็กอัจฉริยะ” หลายคนมักนึกถึงเด็กที่เรียนเก่ง พูดเร็ว หรือคิดได้เหนือกว่าคนอื่น แต่แท้จริงแล้วคำว่าเด็กอัจฉริยะหรือเด็ก Gifted คือ คำที่มีความหมายลึกซึ้งกว่านั้น เด็กกลุ่มนี้มีศักยภาพที่โดดเด่นและแตกต่างจากเด็กทั่วไป ซึ่งหากได้รับการส่งเสริมอย่างเหมาะสม ก็สามารถเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคมได้อย่างมาก

บางครั้งพ่อแม่อาจสงสัยว่า ความฉลาดของลูกเกี่ยวข้องกับลักษณะคนไอคิวสูงหรือไม่ ซึ่งในความเป็นจริงเด็กอัจฉริยะไม่จำเป็นต้องมี IQ สูงเท่านั้น แต่ยังต้องมีความคิดสร้างสรรค์และแรงจูงใจในการเรียนรู้ด้วย ในบทความนี้ Enfa จะพาทุกท่านมารู้จักกับเด็กอัจฉริยะกันค่ะ

 

เด็ก Gifted คืออะไร

คำว่า เด็ก Gifted คือ เด็กที่มีความสามารถพิเศษหรือศักยภาพสูงกว่าระดับเฉลี่ยของเด็กทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นด้านสติปัญญา ความคิดสร้างสรรค์ ศิลปะ ดนตรี ภาษา หรือความเป็นผู้นำ เด็กเหล่านี้มักเรียนรู้เร็ว เข้าใจลึก และมีความสนใจเฉพาะด้านที่ชัดเจน

โดยในแวดวงจิตวิทยาการศึกษา เด็ก Gifted ไม่ได้หมายถึงแค่ “เด็กที่สอบได้คะแนนดี” แต่เป็นเด็กที่มีความสามารถเฉพาะตัว ซึ่งต้องการวิธีการเรียนรู้และสิ่งแวดล้อมที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป เพื่อให้พัฒนาเต็มศักยภาพ

 

ลักษณะเด็กอัจฉริยะ

แม้เด็กแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน แต่มีลักษณะบางอย่างที่พบได้บ่อยใน เด็ก Gifted เช่น

  • เรียนรู้ได้เร็ว สามารถเข้าใจแนวคิดซับซ้อนได้ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือเรียนรู้ด้วยตัวเองได้ง่าย
  • อยากรู้อยากเห็นสูง มักตั้งคำถามที่ลึก หรืออยากรู้เหตุผลเบื้องหลังสิ่งต่าง ๆ
  • มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถเชื่อมโยงเรื่องราวต่าง ๆ และหาวิธีแก้ปัญหาที่แปลกใหม่
  • มีสมาธิจดจ่อสูง เมื่อสนใจสิ่งใดจะตั้งใจและทุ่มเทจนสำเร็จ
  • มีความจำดีเยี่ยม สามารถจดจำรายละเอียดได้แม่นยำและยาวนาน
  • มีความอ่อนไหวทางอารมณ์ รับรู้ความรู้สึกผู้อื่นได้ดี บางครั้งอาจมีความกังวลหรือคิดมาก
  • ตั้งมาตรฐานกับตนเองสูง มักต้องการทำสิ่งต่าง ๆ ให้สมบูรณ์แบบ

อย่างไรก็ตาม เด็กบางคนที่ดูเหมือน “อยู่ไม่สุข” ก็อาจไม่ใช่พฤติกรรมลบเสมอไป เพราะในหลายกรณีที่พบว่าเด็กซนคือเด็กฉลาด และพวกเขามักมีพลังในการเรียนรู้และต้องการการกระตุ้นที่เหมาะสมจากพ่อแม่เท่านั้น

 

เด็กอัจฉริยะ พ่อแม่สร้างได้จริงหรือไม่

คำถามยอดฮิตของคุณพ่อคุณแม่หลายคนคือ เด็กอัจฉริยะ พ่อแม่สร้างได้จริงหรือไม่ คำตอบคือ "พันธุกรรม" และ "สภาพแวดล้อม" ต่างทำงานร่วมกันค่ะ

  • พันธุกรรม (Genetics) มีส่วนกำหนดพื้นฐานทางสติปัญญาของเด็ก ถ้าพ่อแม่มี IQ สูง ลูกก็มีแนวโน้มที่จะมีศักยภาพทางปัญญาสูงตามไปด้วย
  • สภาพแวดล้อม (Environment) เป็นปัจจัยสำคัญที่สามารถ เพิ่มระดับไอคิว (IQ) ลูกได้ มีงานวิจัยจากผู้เชี่ยวชาญชี้ว่า การจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับการเรียนรู้ตามวัยตั้งแต่เล็ก ๆ สามารถเพิ่มระดับไอคิวลูกได้ถึง 20-30 คะแนน นั่นหมายความว่า การเลี้ยงดูที่ใส่ใจ การกระตุ้นอย่างถูกวิธี และการให้โอกาสในการเรียนรู้ตามความสนใจ จะเป็นการดึงศักยภาพทางพันธุกรรมที่มีอยู่แล้วออกมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

แม้พันธุกรรมจะเป็นพื้นฐาน แต่การเลี้ยงดูในสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเรียนรู้และกระตุ้นพัฒนาการอย่างเหมาะสม คือกุญแจสำคัญในการดึงศักยภาพสูงสุดของลูกออกมา ซึ่งก็เท่ากับว่า พ่อแม่มีส่วนช่วยสร้างหรือส่งเสริมให้ลูกพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ จนอาจเรียกได้ว่าเป็นเด็กอัจฉริยะได้ค่ะ 

โดยการส่งเสริมที่สำคัญที่สุดคือการสนับสนุนการเรียนรู้ตามความสนใจของลูกอย่างเต็มที่ จะทำให้เขามีความสุขและสนุกจนกลายเป็นอัจฉริยะในด้านนั้นได้ การเลี้ยงลูกให้ฉลาดจึงไม่ใช่แค่เรื่องของพันธุกรรม แต่คือความพยายามและเทคนิคการเลี้ยงดูที่เหมาะสม

 

เด็ก Gifted มีความต้องการต่างจากเด็กทั่วไปหรือไม่

แน่นอนว่า เด็ก Gifted มีความต้องการเฉพาะทาง ทั้งในด้านการเรียนรู้และอารมณ์จิตใจ เช่น

  • ต้องการการเรียนรู้ที่ท้าทายมากกว่าหลักสูตรปกติ
  • ชอบการตั้งคำถามและการค้นคว้าด้วยตัวเองมากกว่าการท่องจำ
  • อาจรู้สึกเบื่อหรือไม่มีแรงจูงใจหากบทเรียนซ้ำซากเกินไป
  • ต้องการครูหรือผู้ปกครองที่เข้าใจและเปิดพื้นที่ให้คิดต่าง
  • บางคนต้องการความช่วยเหลือทางอารมณ์ เพราะอาจรู้สึกโดดเดี่ยวหรือแตกต่างจากเพื่อน

บางครั้ง เด็กที่มีพลังมาก อดนั่งนิ่ง ๆ ไม่ได้ อาจถูกมองว่าเป็นเด็กไฮเปอร์ แต่แท้จริงอาจเป็นเด็กที่มีพลังงานและศักยภาพสูง เพียงต้องการกิจกรรมและแนวทางการเรียนรู้ที่เหมาะกับธรรมชาติของเขา

 

เด็กอัจฉริยะของไทย

ประเทศไทยเองก็มีการให้ความสำคัญกับกลุ่ม เด็กอัจฉริยะ หรือ เด็ก Gifted โดยมีการส่งเสริมในหลายรูปแบบ เช่น

โครงการห้องเรียนพิเศษ (Gifted Program)

เป็นโครงการที่มีอยู่ในโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาจำนวนมาก เพื่อรองรับนักเรียนที่มีความสามารถพิเศษทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ หรือภาษา โดยมีการเร่งรัดเนื้อหาและเพิ่มความเข้มข้นในการเรียน ให้เด็กได้เรียนรู้เชิงลึกและท้าทายมากกว่าห้องเรียนปกติ

 

การสนับสนุนจากหน่วยงานรัฐ

หน่วยงานด้านการศึกษาและสถาบันวิจัยต่าง ๆ ได้มีการจัดค่ายวิชาการ หรือโครงการ โอลิมปิกวิชาการ เพื่อเฟ้นหาและพัฒนาศักยภาพของเด็กกลุ่มนี้ให้ก้าวหน้าไปถึงระดับสากล เช่น สสวท. (สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) เป็นต้น

 

บุคคลอัจฉริยะที่ได้รับการยอมรับ

เช่น เด็กไทยที่สร้างชื่อเสียงในการแข่งขันโอลิมปิกวิชาการระดับโลก เด็กที่ค้นพบสิ่งประดิษฐ์ หรือผู้ที่สามารถศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยในสาขาเฉพาะทางตั้งแต่อายุน้อย ซึ่งเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่าศักยภาพของเด็กไทยนั้นไม่แพ้ชาติใดในโลก

 

โรงเรียนเด็กอัจฉริยะ

โรงเรียนเด็กอัจฉริยะไม่ได้หมายถึงโรงเรียนสำหรับเด็ก gifted หรือโรงเรียนที่มีแต่เด็กไอคิวสูง แต่หมายถึง สภาพแวดล้อมที่เข้าใจและตอบสนองความต้องการการเรียนรู้ที่แตกต่างกันของเด็ก gifted ค่ะ ซึ่งปัจจุบันมีหลายโรงเรียน เช่น

ห้องเรียน Gifted ในโรงเรียนทั่วไป

โรงเรียนรัฐและเอกชนจำนวนมากมีห้องเรียนพิเศษ (Gifted Program) ที่เน้นวิทย์-คณิต หรือภาษา ซึ่งจะมีการเรียนที่ก้าวหน้ากว่าห้องเรียนปกติ และเหมาะสำหรับเด็กที่อยากเรียนต่อในโรงเรียนวิทยาศาสตร์หรือสาขาเฉพาะทาง

 

โรงเรียนวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะ

นอกจากห้องเรียนพิเศษในโรงเรียนทั่วไปแล้ว ยังมีโรงเรียนวิทยาศาสตร์โดยเฉพาะ เช่น โรงเรียนมหิดลวิทยานุสรณ์ หรือโรงเรียนกำเนิดวิทย์ สำหรับเด็กที่มีความสามารถโดดเด่นในสายวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์อย่างชัดเจน ซึ่งเป็นหลักสูตรที่เน้นการทำวิจัยและโครงงานเชิงลึก

 

สถาบันพัฒนาทักษะเฉพาะทาง

นอกจากนี้ ยังมีสถาบันพัฒนาทักษะเฉพาะทางอีกหลายแห่ง เช่น สถาบันที่เน้นการสอนทักษะการคิดอย่างเป็นระบบ (ตรรกะ) ความคิดสร้างสรรค์ การเขียนโปรแกรม หรือทักษะชีวิต ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการส่งเสริมความฉลาดในหลายมิติ

 

Homeschool (โฮมสคูล)

เป็นทางเลือกสำหรับครอบครัวที่ต้องการออกแบบหลักสูตรให้สอดคล้องกับความสนใจและความเร็วในการเรียนรู้ของ เด็ก gifted โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่เด็กมีความสนใจเฉพาะทางที่ระบบโรงเรียนปกติไม่สามารถตอบสนองได้อย่างเต็มที่

 

ลูกเป็นอัจฉริยะ หรือเปล่า คุณพ่อคุณแม่จะทราบได้อย่างไร

การระบุว่าลูกเป็นเด็กอัจฉริยะ หรือเด็ก Gifted ไม่ใช่แค่การสังเกตด้วยตนเอง แต่ต้องอาศัยการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญเพื่อความแม่นยำและเพื่อวางแผนการส่งเสริมที่เหมาะสม โดยทำได้ดังนี้

  • การสังเกตเบื้องต้น โดยสังเกตลักษณะเด่นที่กล่าวมาข้างต้น เช่น การเรียนรู้ที่รวดเร็วเกินวัย ความสนใจที่ลึกซึ้งเป็นพิเศษ หรือทักษะภาษาที่โดดเด่น

  • ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ หากสงสัยว่าลูกเข้าข่าย เด็ก Gifted คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบ นักจิตวิทยา หรือแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากลูกมีปัญหาด้านพฤติกรรมหรืออารมณ์ร่วมด้วย เช่น เบื่อโรงเรียน มีปัญหากับเพื่อน หรือมีความกังวลสูง ในกรณีที่คุณพ่อคุณแม่สังเกตว่าลูกมีพฤติกรรมอยู่ไม่นิ่งมากเป็นพิเศษ ควรแยกให้ออกระหว่างความเป็นเด็กไฮเปอร์ซึ่งเป็นภาวะทางระบบประสาทที่ต้องได้รับการดูแลทางการแพทย์ กับความเป็น เด็ก gifted ที่มีพลังงานสูงและความอยากรู้อยากเห็น

  • การประเมินทางจิตวิทยา โดยผู้เชี่ยวชาญจะทำการประเมินพัฒนาการ ทำแบบวัดความถนัด และ ตรวจวัดระดับสติปัญญา (IQ) เป็นรายบุคคล ซึ่งโดยทั่วไป เด็ก gifted มักมี IQ สูงกว่า 130 การวินิจฉัยอย่างเป็นทางการจะช่วยให้โรงเรียนหรือผู้ปกครองเข้าใจความต้องการที่แตกต่างของลูก และสามารถจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized Education Program - IEP) ที่เหมาะสมที่สุดได้

ทั้งนี้ การวินิจฉัยไม่ใช่แค่เพื่อติดป้ายว่าเป็นเด็กอัจฉริยะ แต่เพื่อทำความเข้าใจความต้องการที่แตกต่างของลูก และวางแผนการศึกษาเฉพาะบุคคลที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งจะช่วยลดความเครียดและความเบื่อหน่ายจากการเรียนรู้ที่ไม่ตอบโจทย์ความสามารถของเขา

 

ส่งเสริมพัฒนาการลูกน้อยให้พัฒนาการไว

ไม่ว่าลูกจะถูกวินิจฉัยว่าเป็นเด็ก Gifted หรือไม่ก็ตาม การส่งเสริมพัฒนาการอย่างเหมาะสมคือสิ่งสำคัญที่สุดในการดึงศักยภาพของลูกทุกคนออกมาค่ะ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมพัฒนาลูกได้ดังนี้

โภชนาการและความรัก

โดยนมแม่เป็นสุดยอดอาหารสมองที่ช่วยพัฒนาระบบประสาทของเด็กอย่างเป็นธรรมชาติ ควบคู่ไปกับความรักและความอบอุ่นจากพ่อแม่ ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการที่ดีทั้งด้านสติปัญญาและอารมณ์ (EQ) สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ควรทำความเข้าใจว่าคนท้องกินอะไรลูกฉลาด เพื่อเสริมสร้างโภชนาการที่ดีสู่ทารกในครรภ์ เช่น การได้รับโฟเลตและ DHA ที่เพียงพอระหว่างตั้งครรภ์ ก็เป็นส่วนหนึ่งของการวางรากฐานทางปัญญาที่ดี

 

สร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นการเรียนรู้

  • เน้นประสบการณ์จริง คือการให้เด็กได้รับประสบการณ์โดยตรงผ่านประสาทสัมผัสทั้ง 5 ซึ่งมีประสิทธิภาพมากกว่าการดูจากรูปภาพหรือบัตรคำ
  • สนับสนุนความสนใจเฉพาะทาง โดยเมื่อรู้ว่าลูกสนใจเรื่องใดเป็นพิเศษ ให้สนับสนุนอย่างเต็มที่ จัดหาแหล่งความรู้ หนังสือ หรือโอกาสในการทำงานเพิ่มเติมในส่วนนั้น
  • เปิดโอกาสให้ตั้งคำถามและคิดอย่างอิสระ อย่าปิดกั้นคำถามของลูก แต่ส่งเสริมให้เขาเป็นคนช่างคิด กล้าแสดงความคิดเห็น และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
  • สอนทักษะการเรียนรู้ (Learning How to Learn) เน้นให้ลูกเรียนรู้ทักษะการค้นคว้าวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล และการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นทักษะสำคัญที่จะช่วยให้ เด็กอัจฉริยะ สามารถพัฒนาความสามารถของตนเองต่อไปได้ตลอดชีวิต

 

ใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด

กำหนดเวลาในการใช้สื่อหรือเทคโนโลยีให้เหมาะสมกับวัย และเลือกใช้สื่อที่ช่วยให้เด็กได้รับประสบการณ์การเรียนรู้ที่หลากหลายและโต้ตอบได้ เช่น แอปพลิเคชันการศึกษาที่เน้นการคิดวิเคราะห์ ไม่ใช่แค่การเล่นเกม

 

ความสำคัญของจิตวิทยาการเลี้ยงลูก

การทำความเข้าใจหลักการ จิตวิทยาการเลี้ยงลูก จะช่วยให้พ่อแม่สามารถรับมือกับพฤติกรรมที่ท้าทายของลูก Gifted ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดการกับความอ่อนไหวทางอารมณ์ การสอนทักษะทางสังคม และการกำหนดขอบเขตที่ชัดเจนแต่มีความยืดหยุ่น

 

Enfagrow A+ แบรนด์เดียวที่เสริม MFGM

เอนฟาโกร เอพลัส มายด์โปร สูตรเฉพาะที่มี MFGM, DHA, 2’-FL และวิตามินบี 12 มีส่วนช่วยในการทำงานตามปกติของระบบประสาทและสมอง

 

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama