Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การอยู่ไฟ เป็นหนึ่งในภูมิปัญญาไทยมาช้านาน แม้ปัจจุบันจะเลือนหายไปบ้าง แต่ก็ยังมีการบอกต่อถึงประโยชน์ดี ๆ ในการอยู่ไฟ และมีการปรับเปลี่ยนให้การอยู่ไฟตอบรับกับโลกสมัยใหม่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม โดยมากแล้วการอยู่ไฟมักทำกับแม่ที่คลอดธรรมชาติ ถ้าหากคุณแม่ผ่าคลอดอยากอยู่ไฟบ้าง จะสามารถทำได้ไหม? แม่ผ่าคลอดต้องอยู่ไฟไหม? หรือเป็นข้อห้ามที่ไม่ควรทำ? บทความนี้จาก Enfa มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับการอยู่ไฟของแม่ผ่าคลอดมาฝากค่ะ
คนผ่าคลอดอยู่ไฟได้ไหม เป็นคำถามที่คุณแม่หลายท่านอาจสงสัย หรืออาจอยู่ระหว่างการตัดสินใจจะทำการอยู่ไฟ คำตอบคือ แม่ผ่าคลอดสามารถอยู่ไฟได้เช่นเดียวกับแม่ที่คลอดธรรมชาติค่ะ
แต่...ต้องรอให้แผลผ่าคลอดหายสนิทเสียก่อนนะคะ ควรรอให้ร่างกายฟื้นตัวหลังคลอดเป็นปกติก่อน หรือหลังจากที่แพทย์นัดไปตรวจหลังคลอด ควรสอบถามและแจ้งต่อแพทย์ว่าอยากอยู่ไฟ หากแพทย์ตรวจร่างกายคุณแม่และไม่พบความผิดปกติ และเห็นชอบว่าร่างกายของคุณแม่มีความพร้อมแล้ว คุณแม่จึงค่อยเริ่มทำการอยู่ไฟค่ะ
การอยู่ไฟ ไม่ใช่หลักการจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามทุกคนค่ะ ขึ้นอยู่กับความสนใจและความสมัครใจของคุณแม่เอง อย่าลืมว่าในต่างประเทศก็ไม่มีภูมิปัญหาเรื่องการอยู่ไฟเหมือนคนไทย ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นแม่ผ่าคลอด หรือแม่คลอดธรรมชาติ ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องอยู่ไฟค่ะ
แต่ถ้าหากคุณแม่ผ่าคลอดสนใจ ก็สามารถทำการอยู่ไฟได้ค่ะ และควรทำหลังจากที่แพทย์เห็นชอบว่าร่างกายคุณแม่มีความพร้อม และแผลผ่าคลอดหายเป็นปกติแล้วเท่านั้นนะคะ
ผ่าคลอดอยู่ไฟได้เมื่อไหร่ คำตอบนั้นไม่ตายตัวค่ะ เพราะต้องไม่ลืมว่าพื้นฐานสุขภาพของคุณแม่แต่ละท่านแตกต่างกัน บางคนใช้เวลาไม่นานก็ฟื้นตัวจากการผ่าคลอดได้เป็นปกติ แต่คุณแม่บางคนอาจใช้เวลานานกว่าแม่ผ่าคลอดท่านอื่น ๆ หรือคุณแม่บางท่านอาจมีภาวะแทรกซ้อน หรือมีแผลติดเชื้อ ความพร้อมในการอยู่ไฟจึงแตกต่างกันค่ะ
อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วหากคุณแม่ฟื้นตัวหลังคลอดได้ดี แผลหายสนิทเร็ว ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าคลอด หลังจากผ่าคลอดไปแล้ว 30-45 วัน และไปทำการตรวจหลังคลอดกับแพทย์ หากสุขภาพแม่หลังคลอดเป็นปกติทุกอย่าง แพทย์ก็จะลงความเห็นว่าสามารถอยู่ไฟอย่างปลอดภัยได้ค่ะ
มากไปกว่านั้น ส่วนใหญ่แล้วแพทย์แผนโบราณมักจะแนะนำให้คุณแม่หลังคลอดมาอยู่ไฟไม่เกิน 3 เดือนหลังคลอด เพื่อให้การทับหม้อเกลือเห็นผลมากขึ้น หากเกิน 3 เดือนหลังคลอดไปแล้วผลลัพธ์อาจลดลงค่ะ
ขั้นตอนโดยทั่วไปของการอยู่ไฟสำหรับแม่ผ่าคลอด มีดังนี้
แม่ผ่าคลอดอบกระโจมได้ตอนไหน อยากอบสมุนไพรหลังผ่าคลอด จะทำได้ไหม คุณแม่สามารถอบสมุนไพรหลังคลอดได้ หลังจากที่แผลผ่าคลอดหายสนิทแล้ว หรือหลังผ่าคลอดไปแล้ว 30-45 วัน ไปทำการตรวจร่างกายตามที่แพทย์นัด หากแพทย์ไม่พบความผิดปกติใด ๆ คุณแม่ก็สามารถไปอบสมุนไพรหลังผ่าคลอดได้ค่ะ
แต่ถ้าหากยังไม่ฟื้นตัวหลังผ่าคลอด แผลผ่าคลอดยังไม่หายดี คุณแม่ไม่ควรรรีบฝืนไปทำการอบสมุนไพรใด ๆ นะคะ ควรรอให้แผลผ่าคลอดหายดี และแพทย์เห็นชอบว่าร่างกายหายเป็นปกติเสียก่อนจึงค่อยไปทำการนวดตัว อบตัวด้วยสมุนไพรค่ะ
สมุนไพรต้มอาบหลังผ่าคลอด พูดกันตามตรงคือ ไม่ได้มีความจำเป็นขั้นสูงสุดที่จะต้องทำค่ะ แต่...สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความสนใจและความสมัครใจของตัวคุณแม่เอง หากอยากทำก็สามารถทำได้
อย่างไรก็ตาม ควรรอให้แผลหายสนิทก่อน หรือรอตรวจหลังคลอดให้เรียบร้อยก่อน หากคุณแม่หายดีแล้ว และไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ หลังคลอด จึงค่อยไปซื้อสมุนไพรมาต้มอาบหลังผ่าคลอดนะคะ
สำหรับคุณแม่ที่สนใจเรื่องการอยู่ไฟหลังคลอด มีข้อแนะนำที่ควรคำนึง ดังนี้
การอยู่ไฟ มีข้อดีในการช่วยฟื้นฟูสุขภาพแม่หลังคลอดได้ก็จริง แต่...ต้องปรึกษากับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อให้การอยู่ไฟมีความปลอดภัยและเกิดประโยชน์ต่อแม่ผ่าคลอดอย่างสูงสุด
คุณแม่รู้ไหมคะว่า ทารกที่ผ่าคลอด จะไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพ (Gut Microbiome) จากบริเวณช่องคลอดของแม่ ซึ่งทำให้เด็กผ่าคลอดอาจมีพัฒนาการภูมิคุ้มกันแรกเกิด และสุขภาพลำไส้ช้ากว่าเด็กที่คลอดแบบธรรมชาติ ส่งผลให้มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น
ด้วยเหตุนี้ คุณแม่จึงควรดูแลให้ทารกได้กินนมแม่ เพราะในนมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กผ่าคลอด ดังนี้
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด
Enfa สรุปให้ แผลผ่าคลอดเย็บแม็ก ในบางกรณีที่คลอดฉุกเฉิน หรือต้องรีบผ่าคลอดเนื่องจากคุณแม่ประสบอุ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ผ่าคลอดต้องอยู่ไฟไหม แม่ผ่าคลอดสามารถอยู่ไฟได้ แต่ไม่มีความจำเป็นอย่างมีนัยสำคัญต่อ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ น้ำคาวปลาผ่าคลอดกี่วันหมด โดยทั่วไปน้ำคาวปลาผ่าคลอดจะหมดภายใน 4–6 สัปดาห์ แต่บางรา...
อ่านต่อ