นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

ผ่าคลอดต้องอยู่ไฟไหม แม่ผ่าคลอดอยู่ไฟได้ตอนไหน

Enfa สรุปให้

  • ผ่าคลอดต้องอยู่ไฟไหม แม่ผ่าคลอดสามารถอยู่ไฟได้ แต่ไม่มีความจำเป็นอย่างมีนัยสำคัญต่อสุขภาพหลังคลอด การอยู่ไฟหลังคลอดขึ้นอยู่กับความสนใจของตัวคุณแม่เองเป็นสำคัญ
  • อยู่ไฟ ผ่าคลอด ควรปรึกษากับแพทย์ถึงความพร้อมของร่างกาย และทำการอยู่ไฟกับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น โดยเลือกวิธีอยู่ไฟที่เหมาะกับสุขภาพของตนเอง เพื่อความปลอดภัยและประโยชน์สูงสุด
  • ผ่าคลอดอยู่ไฟตอนไหน แม่ผ่าคลอดที่อยากอยู่ไฟควรรอให้แผลผ่าคลอดหายสนิทก่อน หรือรอครบกำหนดตรวจหลังคลอด 30-45 วัน หากแพทย์ไม่พบภาวะความผิดปกติใด ๆ ก็สามารถอยู่ไฟได้

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

การอยู่ไฟ เป็นหนึ่งในภูมิปัญญาไทยมาช้านาน แม้ปัจจุบันจะเลือนหายไปบ้าง แต่ก็ยังมีการบอกต่อถึงประโยชน์ดี ๆ ในการอยู่ไฟ และมีการปรับเปลี่ยนให้การอยู่ไฟตอบรับกับโลกสมัยใหม่มากขึ้น อย่างไรก็ตาม โดยมากแล้วการอยู่ไฟมักทำกับแม่ที่คลอดธรรมชาติ ถ้าหากคุณแม่ผ่าคลอดอยากอยู่ไฟบ้าง จะสามารถทำได้ไหม? แม่ผ่าคลอดต้องอยู่ไฟไหม? หรือเป็นข้อห้ามที่ไม่ควรทำ? บทความนี้จาก Enfa มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับการอยู่ไฟของแม่ผ่าคลอดมาฝากค่ะ

 

ผ่าคลอดอยู่ไฟได้ไหม


คนผ่าคลอดอยู่ไฟได้ไหม เป็นคำถามที่คุณแม่หลายท่านอาจสงสัย หรืออาจอยู่ระหว่างการตัดสินใจจะทำการอยู่ไฟ คำตอบคือ แม่ผ่าคลอดสามารถอยู่ไฟได้เช่นเดียวกับแม่ที่คลอดธรรมชาติค่ะ

แต่...ต้องรอให้แผลผ่าคลอดหายสนิทเสียก่อนนะคะ ควรรอให้ร่างกายฟื้นตัวหลังคลอดเป็นปกติก่อน หรือหลังจากที่แพทย์นัดไปตรวจหลังคลอด ควรสอบถามและแจ้งต่อแพทย์ว่าอยากอยู่ไฟ หากแพทย์ตรวจร่างกายคุณแม่และไม่พบความผิดปกติ และเห็นชอบว่าร่างกายของคุณแม่มีความพร้อมแล้ว คุณแม่จึงค่อยเริ่มทำการอยู่ไฟค่ะ

 

ผ่าคลอดต้องอยู่ไฟไหม


การอยู่ไฟ ไม่ใช่หลักการจำเป็นที่ต้องปฏิบัติตามทุกคนค่ะ ขึ้นอยู่กับความสนใจและความสมัครใจของคุณแม่เอง อย่าลืมว่าในต่างประเทศก็ไม่มีภูมิปัญหาเรื่องการอยู่ไฟเหมือนคนไทย ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นแม่ผ่าคลอด หรือแม่คลอดธรรมชาติ ก็ไม่มีความจำเป็นจะต้องอยู่ไฟค่ะ

แต่ถ้าหากคุณแม่ผ่าคลอดสนใจ ก็สามารถทำการอยู่ไฟได้ค่ะ และควรทำหลังจากที่แพทย์เห็นชอบว่าร่างกายคุณแม่มีความพร้อม และแผลผ่าคลอดหายเป็นปกติแล้วเท่านั้นนะคะ

 

ผ่าคลอดอยู่ไฟตอนไหน


ผ่าคลอดอยู่ไฟได้เมื่อไหร่ คำตอบนั้นไม่ตายตัวค่ะ เพราะต้องไม่ลืมว่าพื้นฐานสุขภาพของคุณแม่แต่ละท่านแตกต่างกัน บางคนใช้เวลาไม่นานก็ฟื้นตัวจากการผ่าคลอดได้เป็นปกติ แต่คุณแม่บางคนอาจใช้เวลานานกว่าแม่ผ่าคลอดท่านอื่น ๆ หรือคุณแม่บางท่านอาจมีภาวะแทรกซ้อน หรือมีแผลติดเชื้อ ความพร้อมในการอยู่ไฟจึงแตกต่างกันค่ะ

อย่างไรก็ตาม โดยทั่วไปแล้วหากคุณแม่ฟื้นตัวหลังคลอดได้ดี แผลหายสนิทเร็ว ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าคลอด หลังจากผ่าคลอดไปแล้ว 30-45 วัน และไปทำการตรวจหลังคลอดกับแพทย์ หากสุขภาพแม่หลังคลอดเป็นปกติทุกอย่าง แพทย์ก็จะลงความเห็นว่าสามารถอยู่ไฟอย่างปลอดภัยได้ค่ะ

มากไปกว่านั้น ส่วนใหญ่แล้วแพทย์แผนโบราณมักจะแนะนำให้คุณแม่หลังคลอดมาอยู่ไฟไม่เกิน 3 เดือนหลังคลอด เพื่อให้การทับหม้อเกลือเห็นผลมากขึ้น หากเกิน 3 เดือนหลังคลอดไปแล้วผลลัพธ์อาจลดลงค่ะ

 

 

อยู่ไฟผ่าคลอด มีขั้นตอนอย่างไรบ้าง


ขั้นตอนโดยทั่วไปของการอยู่ไฟสำหรับแม่ผ่าคลอด มีดังนี้

  • เริ่มจากการนวดประคบสมุนไพร เพื่อสร้างความผ่อนคลาย บรรเทาอาการปวดเมื่อย กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดลม
  • จากนั้นจะทำการทับหม้อเกลือบริเวณหน้าท้อง หลังส่วนล่าง และขา การทับหม้อเกลือนี้ เชื่อกันว่าจะช่วยให้มดลูกเข้าอู่ได้เร็วขึ้น ช่วยขับน้ำคาวปลา ทำให้หน้าท้องกระชับได้เร็ว ช่วยลดอาการปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ
  • หลังจากทับหม้อเกลือเสร็จแล้ว จะมีการอบสมุนไพร ช่วยเพิ่มความผ่อนคลาย ทำให้หายใจสะดวก และกระตุ้นการไหลเวียนให้ดีขึ้น
  • อย่างไรก็ตาม บางที่อาจมีขั้นตอนการอาบน้ำสมุนไพร เพื่อช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และบำรุงผิวพรรณอีกด้วย

 

ผ่าคลอดอบกระโจมได้ตอนไหน

แม่ผ่าคลอดอบกระโจมได้ตอนไหน อยากอบสมุนไพรหลังผ่าคลอด จะทำได้ไหม คุณแม่สามารถอบสมุนไพรหลังคลอดได้ หลังจากที่แผลผ่าคลอดหายสนิทแล้ว หรือหลังผ่าคลอดไปแล้ว 30-45 วัน ไปทำการตรวจร่างกายตามที่แพทย์นัด หากแพทย์ไม่พบความผิดปกติใด ๆ คุณแม่ก็สามารถไปอบสมุนไพรหลังผ่าคลอดได้ค่ะ

แต่ถ้าหากยังไม่ฟื้นตัวหลังผ่าคลอด แผลผ่าคลอดยังไม่หายดี คุณแม่ไม่ควรรรีบฝืนไปทำการอบสมุนไพรใด ๆ นะคะ ควรรอให้แผลผ่าคลอดหายดี และแพทย์เห็นชอบว่าร่างกายหายเป็นปกติเสียก่อนจึงค่อยไปทำการนวดตัว อบตัวด้วยสมุนไพรค่ะ

 

สมุนไพรต้มอาบหลังผ่าคลอด จำเป็นไหม

สมุนไพรต้มอาบหลังผ่าคลอด พูดกันตามตรงคือ ไม่ได้มีความจำเป็นขั้นสูงสุดที่จะต้องทำค่ะ แต่...สิ่งนี้ขึ้นอยู่กับความสนใจและความสมัครใจของตัวคุณแม่เอง หากอยากทำก็สามารถทำได้

อย่างไรก็ตาม ควรรอให้แผลหายสนิทก่อน หรือรอตรวจหลังคลอดให้เรียบร้อยก่อน หากคุณแม่หายดีแล้ว และไม่มีภาวะแทรกซ้อนใด ๆ หลังคลอด จึงค่อยไปซื้อสมุนไพรมาต้มอาบหลังผ่าคลอดนะคะ

 

ข้อแนะนำเมื่อแม่ผ่าคลอดอยู่ไฟ


สำหรับคุณแม่ที่สนใจเรื่องการอยู่ไฟหลังคลอด มีข้อแนะนำที่ควรคำนึง ดังนี้

  • แม่ผ่าคลอดที่จะอยู่ไฟ ต้องรอให้แผลผ่าคลอดหายสนิทก่อน และรอตรวจหลังคลอดให้เรียบร้อย หากไม่มีภาวะความผิดปกติหลังคลอดใด ๆ จึงค่อยเริ่มอยู่ไฟ
  • ก่อนไปอยู่ไฟควรปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อน ว่าร่างกายพร้อมจริงไหม ไม่ควรทำการอยู่ไฟเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ และควรอยู่ไฟกับผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
  • การอยู่ไฟจะใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง คุณแม่ควรหาเวลาว่างล่วงหน้า หรือหาผู้ช่วยมาดูแลลูกในระหว่างที่ไปอยู่ไฟ
  • เลือกรูปแบบการอยู่ไฟที่เหมาะสมกับตนเอง เพื่อความปลอดภัยต่อสุขภาพ เช่น นวดแบบเบา ๆ อบสมุนไพรที่ไม่ร้อนเกินไป และไม่นานจนเกินไป
  • สังเกตอาการของตนเองหลังการอยู่ไฟ หากเริ่มมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดท้องรุนแรง มีเลือดออก ควรหยุดพักและไปพบแพทย์ทันที
  • คุณแม่ที่มีประวัติเป็นโรคหัวใจ  โรคความดันโลหิตสูง  โรคหอบหืด  โรคลมชัก  โรคไต หรือมีการตกเลือดหลังคลอด ควรปรึกษากับแพทย์ก่อนว่าสามารถทำการอยู่ไฟได้ไหม

การอยู่ไฟ มีข้อดีในการช่วยฟื้นฟูสุขภาพแม่หลังคลอดได้ก็จริง แต่...ต้องปรึกษากับแพทย์และผู้เชี่ยวชาญก่อนทุกครั้ง เพื่อให้การอยู่ไฟมีความปลอดภัยและเกิดประโยชน์ต่อแม่ผ่าคลอดอย่างสูงสุด

 

เด็กผ่าคลอดเริ่มต้นดีต้องมีดีครบ 3: สมองดี ภูมิคุ้มกันดี สุขภาพลำไส้ดี


คุณแม่รู้ไหมคะว่า ทารกที่ผ่าคลอด จะไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพ (Gut Microbiome) จากบริเวณช่องคลอดของแม่ ซึ่งทำให้เด็กผ่าคลอดอาจมีพัฒนาการภูมิคุ้มกันแรกเกิด และสุขภาพลำไส้ช้ากว่าเด็กที่คลอดแบบธรรมชาติ ส่งผลให้มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น

ด้วยเหตุนี้ คุณแม่จึงควรดูแลให้ทารกได้กินนมแม่ เพราะในนมแม่มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเด็กผ่าคลอด ดังนี้

  • MFGM เป็นสารอาหารที่พบในนมแม่ ซึ่งมีงานวิจัยรับรองว่า MFGM ยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง ส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ชนิดดี และยังเป็นโภชนาการที่เหมาะสมกับระบบขับถ่ายของลูกน้อยได้อีกด้วย
  • 2’-FL ใยอาหารธรรมชาติที่พบมากที่สุดในนมแม่  เป็นแหล่งอาหารให้แก่จุลินทรีย์ชนิดดีหลายชนิดในลำไส้ (commensal microbiota) ช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อยได้ดีขึ้น
  • Commensal Microbiome คือ ดีเอ็นเอของกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดีที่อยู่รวมกัน เช่นบิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) และ แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ที่พบในน้ำนมแม่ มีส่วนช่วยทำให้ผนังลำไส้แข็งแรง พัฒนาระบบทางเดินอาหาร ทำให้ลูกขับถ่ายดี เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง

 


บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด

    • คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล. การอยู่ไฟคืออะไร. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.si.mahidol.ac.th/sirirajdoctor/article_detail.aspx?ID=1488. [29 สิงหาคม 2025]
    • โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 3 อินเตอร์. อยู่ไฟหลังคลอด: ฟื้นฟูสุขภาพและคืนความสดใสให้คุณแม่หลังคลอด. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.chularat3inter.com/th/contents/postpartum-care. [29 สิงหาคม 2025]
    • โรงพยาบาลศิครินทร์. คำถามยอดฮิตที่คุณแม่ผ่าคลอดอยากรู้. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.sikarin.com/health/. [29 สิงหาคม 2025]
    • โรงพยาบาลพีเอ็มจี. การอยู่ไฟหลังคลอดคืออะไร?. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://pmghospital.in.th/postpartum-confinement/. [29 สิงหาคม 2025]
    • เลี้ยงลูกตามใจหมอ. #การอยู่ไฟ #จำเป็นหรือไม่จำเป็น. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://web.facebook.com/SpoiledPediatrician/posts/. [29 สิงหาคม 2025]
    * นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
    Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
    เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
    Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

    คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

    กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

    Line TH
    Cart TH Join Enfamama