
Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การตั้งครรภ์ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อร่างกายของคุณแม่หลายอย่าง ตั้งแต่เริ่มตั้งท้อง ขณะตั้งท้อง ไปจนถึงหลังคลอดแล้วก็ยังคงพบการเปลี่ยนแปลงตามมาได้อีก หนึ่งในนั้นคือ น้ำคาวปลา ที่จะถูกขับออกมาหลังคลอด
ซึ่งมักทำให้คุณแม่หลาย ๆ ท่านวิตกกังวลว่าอาจเป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อสุขภาพ หรือกังวลว่าน้ำคาวปลาไม่ยอมหมดไปสักที จะทำให้เกิดความผิดปกติต่อร่างกายด้วยไหม แต่ความจริงเป็นอย่างไร ลองมาหาคำตอบกันค่ะ
น้ำคาวปลา (Lochia) คือ เลือดและเศษเนื้อเยื่อที่ไหลออกมาจากช่องคลอดของผู้หญิงหลังจากการคลอดลูก มีกลิ่นเหม็นอับคล้ายกับประจำเดือน โดยคุณแม่หลังคลอดมักจะมีน้ำคาวปลาไหลออกมาทันทีหลังคลอด และจะยังไหลออกมาเป็นระยะต่อไปอีกประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังคลอด
น้ำคาวปลาในช่วงระยะแรกหลังคลอดลูกจะมีสีแดงหรือแดงเข้ม แต่เมื่อผ่านไปประมาณ 4-10 วัน น้ำคาวปลาก็จะเริ่มมีสีที่จางลง เป็นสีชมพู หรือสีน้ำตาล จากนั้นเมื่อผ่านไป 10-14 วัน น้ำคาวปลาจะมีลักษณะคล้ายกับตกขาวคนท้องระยะแรกที่จะเกิดขึ้นก่อนหรือหลังการมีประจำเดือน และเมื่อพ้น 14 วันไปแล้ว จนกระทั่งครบ 6 สัปดาห์ น้ำคาวปลาจะมีลักษณะเป็นมูกสีขาวหรือสีออกเหลือง และอาจขับออกมามากผิดปกติ
น้ำคาวปลาแม้จะมีลักษณะคล้ายกับประจำเดือน แต่แท้จริงแล้วมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน เพราะเลือดและมูกที่ไหลออกมาหลังคลอดนี้ ไม่ได้เป็นผลพวงของการมีรอบเดือน แต่เป็นผลพวงจาการคลอดลูก
และน้ำคาวปลาก็จะไหลออกมามากกว่าประจำเดือน มีระยะเวลาในการหลั่งที่นานกว่าประจำเดือน อีกทั้งน้ำคาวปลายังมีเศษซากของเนื้อเยื่อ หรือรก ไหลออกมาด้วย ขณะที่เลือดประจำเดือนจะไม่พบองค์ประกอบดังกล่าว
น้ำคาวปลาอาจจะไหลออกมาทันทีหลังคลอด หรือเริ่มหลั่งหลังจากคลอดผ่านไป 3 วัน และจะมีการขับออกมาเรื่อย ๆ จนกระทั่งครบ 6 สัปดาห์ น้ำคาวปลาจึงจะค่อย ๆ หมดไป
มาฟังคำอธิบายสั้นๆ จากพยาบาลต้อ จุฑามาศ จากทีมพยาบาลของ Enfa Smart Club กันค่ะ
น้ำคาวปลาถือเป็นเรื่องปกติของกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหลังคลอด และมักไม่ใช่สัญญาณของความผิดปกต่อสุขภาพแต่อย่างใด
แต่ถ้าหากน้ำคาวปลามีลักษณะดังต่อไปนี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนบางประการ
นอกจากลักษณะของน้ำคาวปลาที่ต้องสังเกตแล้ว ควรสังเกตดูว่า มีอาการดังต่อไปนี้ร่วมด้วยหรือไม่
ลักษณะของน้ำคาวปลาและอาการร่วมดังกล่าว อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ หรือมีอาการตกเลือด ซึ่งค่อนข้างอันตราย ควรไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษา
น้ำคาวปลาจะมีกระบวนการหลั่งและขับออกมาเองตามธรรมชาติ โดยที่ไม่ต้องไปกินยาขับ และไม่มียาใดที่ใช้สำหรับการขับน้ำคาวปลาโดยตรง ส่วนมากจะเป็นยาแผนโบราณ หรือยาที่มีสรรพคุณเชื่อว่าช่วยขับน้ำคาวปลาได้
แต่ในความเป็นจริงแล้ว คุณแม่หลังคลอดไม่จำเป็นต้องไปกินหรือดื่มยาอะไรเพื่อขับน้ำคาวปลา เพราะน้ำคาวปลาจะขับออกมาเองและหยุดไหลไปเองตามธรรมชาติ
มากไปกว่านั้น ยาที่เชื่อว่าจะช่วยขับน้ำคาวปลา อาจส่งผลต่อการผลิตน้ำนมแม่ ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อลูกที่กินนมแม่เข้าไปด้วย ยิ่งยาที่เชื่อว่าจะช่วยขับน้ำคาวปลาบางชนิดเป็นยาดอง หากทารกดื่มนมแม่ที่กินยาดองเข้าไป ก็เสี่ยงที่จะทำให้ทารกเมาได้ และแม่ให้นมบุตร ไม่ควรกินยาเองสุ่มสี่สุ่มห้าโดยที่ไม่ได้ผ่านการเห็นชอบจากแพทย์
โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะแนะนำระยะเหมาะสมของการมีเพศสัมพันธ์หลังคลอดอยู่ที่ประมาณ 4-6 สัปดาห์หลังคลอด เพื่อให้คุณแม่ได้มีเวลาพักฟื้นร่างกาย เพื่อให้แผลผ่าคลอดแห้งสนิทหรือสมานตัวดีขึ้น และเพื่อรอให้น้ำคาวปลาขับออกมาจนหมดเสียก่อน เพราะการมีเพศสัมพันธ์ขณะที่ยังมีน้ำคาวปลาหลั่งออกมานั้น เสี่ยงที่จะเกิดการติดเชื้อได้
โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะแนะนำให้ไปตรวจหลังคลอดเมื่อน้ำคาวปลาหมดแล้ว หรือถ้าหากยังมีน้ำคาวปลาขับออกมาอยู่ แพทย์ก็จะทำการเลื่อนนัดออกไปก่อนค่ะ
ในกรณีที่ทำการผ่าตัดคลอด แพทย์จะทำความสะอาดมดลูก และนำเอาชิ้นส่วนของรกและเนื้อเยื่อต่าง ๆ ออกมาให้ด้วย ซึ่งก็หมายความว่า เศษต่าง ๆ ทั้งเมือกและเนื้อเยื่อส่วนใหญ่ก็จะหายไปตั้งแต่ผ่าคลอดเสร็จแล้ว ด้วยเหตุนี้คุณแม่ที่คลอดโดยการผ่าตัดจึงรู้สึกได้ว่าน้ำคาวปลาหมดเร็วกว่าคุณแม่ที่คลอดธรรมชาติ และน้ำคาวปลามักหยุดไหลก่อน 4-6 สัปดาห์
น้ำคาวปลาจะใช้เวลาในการขับออกมาประมาณ 4-6 สัปดาห์ ซึ่งเป็นกระบวนการตามธรรมชาติของร่างกาย
อย่างไรก็ตาม บางคนอาจจะหมดเร็วก่อนถึง 6 สัปดาห์ หรืออาจจะนานกว่านั้น แต่คุณแม่ไม่จำเป็นต้องไปกินยาขับเพื่อเร่งการขับน้ำคาวปลาแต่อย่างใด เพียงแค่หมั่นดูแลตัวเอง เคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ ก็จะช่วยให้น้ำคาวปลาขับออกมาได้เร็วยิ่งขึ้น
น้ำคาวปลามีระยะเวลาในการขับตามธรรมชาติ แต่การหมั่นดูแลตัวเอง การเคลื่อนไหวร่างกายบ่อย ๆ นอกจากจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวได้เร็ว ก็จะช่วยให้น้ำคาวปลาขับออกมาได้ง่ายและเร็วขึ้นด้วย
น้ำคาวปลามีระยะเวลาในการขับตามธรรมชาติ โดยที่คุณแม่หลังคลอดไม่จำเป็นต้องกินยาขับใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแม่ให้นมบุตร ไม่ควรกินยาเองสุ่มสี่สุ่มห้าโดยที่ไม่ผ่านการเห็นชอบจากแพทย์
ไม่มีผลการศึกษาและงานวิจัยที่เพียงพอจะรองรับว่าน้ำมะพร้าวช่วยในการขับน้ำคาวปลาได้แต่อย่างใด เป็นเพียงความเชื่อที่ส่งต่อกันมามากกว่า
อย่างไรก็ตาม น้ำมะพร้าวจัดเป็นน้ำผลไม้ชนิดหนึ่งที่คุณแม่สามารถดื่มได้เพื่อเพิ่มความสดชื่น อีกทั้งสารอาหารจากน้ำมะพร้าวก็ยังเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ทั้งนี้ควรเป็นน้ำมะพร้าวธรรมชาติที่ไม่ปรุงแต่งหรือเพิ่มน้ำตาลจนหวานกว่าปกติ อาจเสี่ยงต่อน้ำตาในเลือดสูงได้ค่ะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่หลังคลอด
Enfa สรุปให้ มดลูกไม่เข้าอู่มีอาการอย่างไร มดลูกไม่เข้าอู่คือภาวะที่มดลูกหลังคลอดไม่หดตัวกลับสู...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ มดลูกเข้าอู่ คือกระบวนการที่มดลูก หดตัวกลับสู่ขนาดปกติเดิมก่อนตั้งครรภ์ ผ่านการบีบ...
อ่านต่อหลังคลอดแล้วคุณแม่ต้องอยู่โรงพยาบาลอีกนานเท่าไหร่นะ? ปกติแล้วคุณแม่ที่กำลังจะใกล้ครบกำหนดคงมีตั้ง...
อ่านต่อ