อยากกินของเปรี้ยวเกิดจากอะไร คนท้องกินของเปรี้ยวจะเปรี้ยวไหม

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• อาการอยากกินของเปรี้ยว เกิดจากอะไร
• อยากกินของเปรี้ยวร่างกายขาดอะไร
• คนท้องอยากกินของเปรี้ยวตอนไหน
• คนท้องกินของเปรี้ยวจะเปรี้ยวไหม
• อาการอยากกินของเปรี้ยวตลอดเวลาของคนท้อง จะหายไปเมื่อไหร่
• อาการอยากกินของเปรี้ยว แต่ไม่ได้ท้องเกิดจากอะไร
• อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อย เริ่มต้นด้วยโภชนาการผ่านคุณแม่
  

คนท้องมักอยากกินอะไรแปลก ๆ โดยเฉพาะของเปรี้ยว อาการอยากกินของเปรี้ยวเกิดจากอะไร คนท้องมีอาการอยากกินของเปรี้ยวเหมือนกันทุกคนไหม คนท้องกินของเปรี้ยวจะเปรี้ยวไหม สารพัดคำถามที่หลายคนสงสัยเกี่ยวกับอาการคนท้อง วันนี้ Enfa จึงรวบรวมคำตอบมาให้หายคาใจ พร้อมคำแนะนำในการจัดการหรือแก้ไขอาการอยากกินของเปรี้ยวมาฝากกัน มีอะไรบ้างมาอ่านกันเลยค่ะ

อาการอยากกินของเปรี้ยว เกิดจากอะไร

อาการอยากกินของเปรี้ยว เกิดจากอะไร เป็นคำถามที่หลายคนสงสัยอย่างมาก การที่คนท้องอยากกินของเปรี้ยวมีสาเหตุสำคัญมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนที่เพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงตั้งครรภ์ ส่งผลต่อการรับรู้รสชาติและความอยากอาหาร ทำให้คนท้องอยากกินของเปรี้ยว อยากกินอาหารรสจัด เช่น รสเปรี้ยว เพราะรสเปรี้ยวช่วยให้คุณแม่รู้สึกสดชื่นและช่วยลดอาการคลื่นไส้หรือแพ้ท้องได้

นอกจากนี้ การตั้งครรภ์ยังส่งผลต่อการทำงานของสมองส่วนที่เกี่ยวข้องกับความอยากอาหารและอารมณ์ ทำให้คนท้องอยากกินของเปรี้ยว หรือมีความรู้สึกอยากรับประทานอาหารบางชนิดที่ช่วยเพิ่มความพึงพอใจด้วย

อยากกินของเปรี้ยวร่างกายขาดอะไร

อยากกินของเปรี้ยวร่างกายขาดอะไรหรือเป็นสัญญาณเตือนอะไรคุณแม่บ้างนั้นเป็นเรื่องที่ควรใส่ใจอย่างยิ่ง โดยในช่วงตั้งครรภ์ร่างกายคนท้องมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทั้งทางร่างกายและอารมณ์ ซึ่งบางอาการจำเป็นต้องได้รับการตอบสนองโดยเร็วเพราะส่งผลต่อสุขภาพเด็กในท้อง
ตัวอย่างเช่นอาการที่ร่างกายอยากกินของเปรี้ยวซึ่งดูเหมือนไม่มีอะไรสำคัญนัก แต่ความจริงแล้วอาจเป็นสัญญาณที่เตือนว่าร่างกายกำลังต้องการสารอาหารบางอย่างเพื่อการปรับสมดุลระหว่างตั้งครรภ์ ดังนี้

• วิตามินซี ซึ่งพบในของเปรี้ยว เช่น ผลไม้รสเปรี้ยว ส้ม มะนาว มะม่วงเปรี้ยว เป็นแหล่งของวิตามินซีที่ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันและช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก
• ธาตุเหล็ก ซึ่งเชื่อมโยงกับการขาดวิตามินซี เนื่องจากรสเปรี้ยวช่วยกระตุ้นการดูดซึมธาตุเหล็กจากอาหาร โดยเฉพาะในคนท้องที่มีความเสี่ยงต่อการขาดธาตุเหล็ก ร่างกายอาจส่งสัญญาณผ่านความอยากอาหาร
• สมดุลกรด-ด่างในร่างกาย ซึ่งมาจากการปรับสมดุลของกรดในกระเพาะอาหาร หรือช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหารของคนท้อง
• ต้องการพลังงานหรือความสดชื่น โดยคุณแม่ท้องมักมีอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย หรือแพ้ท้อง ทำให้ต้องการของเปรี้ยวเพื่อทำให้รู้สึกสดชื่น ผ่อนคลายความอ่อนเพลีย

คนท้องอยากกินของเปรี้ยวตอนไหน

คนท้องอยากกินของเปรี้ยวตอนไหน การที่คนท้องอยากกินของเปรี้ยวมักเกิดขึ้นในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ (1-3 เดือนแรก) ซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงสูงที่สุด คนท้องส่วนใหญ่มักรู้สึกคลื่นไส้หรือแพ้ท้องในช่วงนี้ โดยเฉพาะช่วงเช้าที่มักมีอาการคลื่นไส้จากการแพ้ท้อง ซึ่งการกินของเปรี้ยว เช่น มะนาว ส้ม ผลไม้ดอง ช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้

นอกจากนี้ อาการคนท้องอยากกินของเปรี้ยวอาจนานถึงช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสที่สอง (4-6 เดือน) เนื่องจากต้องการวิตามินซีหรือสารอาหารที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันและการเจริญเติบโตของทารก และในคนท้องบางคนอาจมีอาการอยากกินของเปรี้ยวอีกครั้งในช่วงใกล้คลอดหรือช่วงตั้งครรภ์ไตรมาสที่สาม (7-9 เดือน) เพราะรสเปรี้ยวช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร ลดความอึดอัดจากมดลูกที่ขยายตัว และให้ความรู้สึกสดชื่นนั่นเอง

คนท้องกินของเปรี้ยวจะเปรี้ยวไหม

คนท้องกินของเปรี้ยวจะเปรี้ยวไหมในที่นี้ไม่ได้หมายถึงนิสัยนะคะ แต่หมายถึงว่าจะรู้สึกถึงรสชาติเปรี้ยวไหม ความจริงแล้วแม้ว่าฮอร์โมนคุณแม่จะส่งผลต่อการรับรู้รสชาติและความอยากอาหารก็ตาม แต่เมื่อคนท้องกินเปรี้ยวก็จะรู้สึกเปรี้ยวตามปกติ และในบางคนอาจรู้สึกเปรี้ยวน้อยลงกว่าเดิมหรือบางคนรู้สึกว่าเปรี้ยวเข้มข้นขึ้น โดยการที่คนท้องรับรู้รสชาติไวขึ้นเพราะร่างกายตอบสนองต่อรสชาติได้ไวขึ้น โดยเฉพาะในช่วงแพ้ท้องนั้นขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงในร่างกายและฮอร์โมนค่ะ

อย่างไรก็ดี คุณแม่ท้องไม่จำเป็นต้องทดลองกินของเปรี้ยวหลาย ๆ แบบเพื่อทดลองรสชาติ ควรกินของเปรี้ยวในปริมาณที่เหมาะสม เลือกแหล่งอาหารที่ปลอดภัยและมีประโยชน์ เช่น ผลไม้สดที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะม่วงดิบ มะนาว หรือมะขามเปียก หลีกเลี่ยงอาหารที่มีสารปรุงแต่งหรือรสเปรี้ยวจากสารเคมี เช่น น้ำมะนาวเทียม น้ำอัดลมรสเปรี้ยว และขนมที่ผ่านการแปรรูป

อาการอยากกินของเปรี้ยวตลอดเวลาของคนท้อง จะหายไปเมื่อไหร่

อาการอยากกินของเปรี้ยวตลอดเวลาของคนท้องจะเป็นมากในช่วงไตรมาสแรก (1-3 เดือน) เนื่องจากมีอาการแพ้ท้อง และโดยปกติจะลดลงเมื่ออาการแพ้ท้องบรรเทาลง หรือเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่สอง (4-6 เดือน) ซึ่งเป็นช่วงที่ฮอร์โมนในร่างกายเริ่มปรับตัวเข้าสู่ระดับปกติ

อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีอาการคนท้องอยากกินของเปรี้ยวอาจคงอยู่จนถึงช่วงไตรมาสที่สามหรือกระทั่งคลอด ขึ้นกับร่างกายคุณแม่ด้วย เพราะอาการอยากกินของเปรี้ยวไม่ได้มีสาเหตุจากการแพ้ท้องเท่านั้น แต่ยังมาจากการขาดวิตามินซี มีความเครียดหรือความต้องการอาหารที่ช่วยกระตุ้นระบบย่อยอาหาร หากคุณแม่มีความกังวลใจว่าทำไมอาการนี้ไม่หายไป สามารถขอคำปรึกษาด้านโภชนาการจากแพทย์ผู้ดูแลการตั้งครรภ์ได้

อาการอยากกินของเปรี้ยว แต่ไม่ได้ท้องเกิดจากอะไร

ผู้หญิงบางคนอาจมีอาการอยากกินของเปรี้ยว แต่ไม่ได้ท้อง หรืออยากกินของเปรี้ยวก่อนเป็นประจำเดือน ทำให้เกิดความสงสัยว่าตั้งท้องหรือไม่ ซึ่งจริง ๆ แล้วหากคุณแม่ตั้งท้องมักจะมีอาการหลายอย่างประกอบกัน ไม่ได้มีเพียงอาการอยากกินของเปรี้ยวเท่านั้นที่จะบ่งชี้ว่าตั้งครรภ์
อาการอยากกินของเปรี้ยวแต่ไม่ได้ท้องยังเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น

• การขาดสารอาหารบางชนิด เช่น วิตามินซี หรือขาดแร่ธาตุ เช่น ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม
  
• มีปัญหาทางระบบย่อยอาหาร กระเพาะอาหารมีกรดต่ำ หรือระบบย่อยอาหารทำงานไม่สมดุล ร่างกายอาจเรียกร้องรสเปรี้ยวเพื่อช่วยกระตุ้นการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร
• การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ในช่วงมีประจำเดือน วัยหมดประจำเดือน หรือภาวะความเครียด
• มีความเครียดหรืออารมณ์แปรปรวน ทำให้อยากกินของเปรี้ยวเพื่อทำให้อารมณ์สมดุลและรู้สึกสดชื่นขึ้น
• เบื่อหน่ายในอาหารเดิม ๆ โดยอาการอยากกินของเปรี้ยวอาจเป็นแค่ความต้องการรสชาติที่แตกต่างจากเดิม
• สภาพอากาศที่แปรเปลี่ยน เช่น อากาศร้อนจัด หรือร่างกายสูญเสียเหงื่อมาก ทำให้ต้องการความสดชื่นจากการกินของเปรี้ยว
  

อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อย เริ่มต้นด้วยโภชนาการผ่านคุณแม่

อาการอยากกินของเปรี้ยวในแม่ท้องเป็นภาวะปกติโดยเฉพาะในช่วงการตั้งครรภ์ไตรมาสแรก โดยอาหารรสเปรี้ยวที่คุณแม่ท้องเลือกกินควรมีปริมาณเหมาะสม เน้นผลไม้สดที่มีรสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว มะม่วงดิบ หลีกเลี่ยงของหมักดองหรือมีการปรุงแต่งด้วยสารเคมี พร้อมทั้งกินอาหารที่หลากหลายมีสารอาหารครบถ้วนเพื่อส่งต่โภชนาการที่สู่ลูกน้อย

นอกจากนี้ ยังสามารถเสริมด้วยนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ดีเอชเอ โฟเลต โคลีน และแคลเซียม