Enfa สรุปให้
ฉีดยาคุม 1 เดือน ท้องได้แต่มีโอกาสน้อยมาก หรือน้อยกว่า 1% โดยเฉพาะการฉีดยาตรงตามนัดทุกครั้ง ถือเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูงมาก
ฉีดยาคุมแบบ 1 เดือน ปล่อยในได้ เพราะยาถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์อยู่แล้ว แต่ยาฉีดไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้ หากไม่มั่นใจคู่นอนควรใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย
ฉีดยาคุมแบบ 1 เดือน ประจําเดือนไม่มา เป็นผลข้างเคียงที่พบได้ปกติและไม่เป็นอันตราย เกิดจากฮอร์โมนทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกบางลง ไม่ใช่สัญญาณของการตั้งครรภ์ หากฉีดยาตรงเวลาไม่ต้องกังวล
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การฉีดยาคุมกำเนิดเป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมสำหรับคนที่ไม่พร้อมมีบุตร เพราะสะดวก ไม่ต้องกินยาทุกวัน และมีประสิทธิภาพสูง โดยเฉพาะยาฉีดคุมกำเนิดชนิด 1 เดือน ที่มีทั้งฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสตินรวมกันหรือบางสูตรอาจเป็นโปรเจสตินเดี่ยว ขึ้นอยู่กับชนิดยา
ในบทความนี้ Enfa จะพาคุณแม่ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับการฉีดยาคุม 1 เดือน ท้องได้ไหม ปล่อยในได้ไหม ประจำเดือนไม่มาปกติไหม ผลข้างเคียงมีอะไรบ้าง ไปอ่านกันเลยค่ะ
ไม่มีวิธีคุมกำเนิดใดป้องกันได้ 100% บ่อยครั้งก็พบว่าการคุมกำเนิดผิดพลาดหรือคุมแล้วยังท้อง เช่น กินยาคุมแล้วท้อง ฝังยาคุมแล้วท้องก็มี สำหรับยาคุมแบบฉีด 1 เดือน ถือว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันการตั้งครรภ์ เพราะตัวยาจะไปยับยั้งการตกไข่ ทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกไม่พร้อมต่อการฝังตัว และทำให้มูกที่ปากมดลูกเหนียวข้นจนสเปิร์มผ่านได้ยาก
แต่เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ควรฉีดตรงเวลาและครบทุกเดือน จะทำให้โอกาสพลาดท้องต่ำมากค่ะ เพราะยามีประสิทธิภาพสูงกว่า 94–97% ในการใช้งานจริง และเกือบ 99% ในการใช้อย่างถูกวิธีสม่ำเสมอ หากฉีดล่าช้า เกินระยะเวลา 30 วัน ตัวยาอาจหมดฤทธิ์ ทำให้มีโอกาสตั้งครรภ์ได้ค่ะ
ฉีดยาคุมแบบ 1 เดือน ปล่อยในได้ค่ะ โดยหากฉีดยาคุมในช่วงวันแรกถึงวันที่ 5 ของประจำเดือน ยาจะเริ่มออกฤทธิ์ทันที สามารถมีเพศสัมพันธ์แบบปล่อยในได้อย่างปลอดภัยตั้งแต่วันแรก แต่ถ้าฉีดนอกช่วงนี้ ยาจะต้องใช้เวลาประมาณ 7 วัน กว่าจะออกฤทธิ์เต็มที่ ดังนั้นระหว่างนั้นควรใช้ถุงยางร่วมด้วยเพื่อป้องกันการตั้งครรภ์
ทั้งนี้ หากพลาดนัดฉีด หรือฉีดล่าช้าเกินกำหนด ความเสี่ยงท้องจะเพิ่มขึ้นอย่างมาก ดังนั้นไม่ควรปล่อยในหากยังไม่ได้ฉีดเข็มถัดไปค่ะ
ฉีดยาคุม 1 เดือน ประจําเดือนไม่มา เป็นอาการที่เจอบ่อย เช่น มาช้า มาน้อย หรือไม่มาเลย ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน โดยหลังฉีดยาคุมแบบ 1 เดือนในช่วง 3–6 เดือนแรก ร่างกายอาจยังปรับตัวไม่ทัน ทำให้ประจำเดือนมาน้อยลง หรือมีเลือดออกกะปริบกะปรอย ในบางรายอาจเกิดภาวะประจำเดือนไม่มา โดยเฉพาะในผู้ที่ใช้ยาคุมชนิดโปรเจสตินเดี่ยว แต่โดยทั่วไปไม่ถือว่าอันตรายค่ะ
อย่างไรก็ตาม หากเมนส์ไม่มาต่อเนื่องหลายเดือนและมีอาการเหมือนคนตั้งครรภ์ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน คัดเต้านม ควรตรวจการตั้งครรภ์เพื่อความมั่นใจ หากผลตรวจไม่ตั้งครรภ์ ถือเป็นผลข้างเคียงที่พบได้ ไม่ต้องกังวล แต่ควรติดตามร่วมกับแพทย์ เพราะอาจเกิดภาวะอื่น เช่น ท้องนอกมดลูก
นอกเหนือจากการเปลี่ยนแปลงของประจำเดือนแล้ว ฉีดยาคุมแบบ 1 เดือน มีผลข้างเคียงอื่น ๆ ได้เช่นกัน ซึ่งความรุนแรงและอาการจะแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงแรกที่ร่างกายกำลังปรับตัว และจะค่อย ๆ ดีขึ้นเองภายใน 2-3 เดือน ผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย ได้แก่
สุขภาพและพัฒนาการของลูกน้อยเริ่มต้นตั้งแต่ช่วงที่อยู่ในครรภ์ การที่คุณแม่ได้รับสารอาหารครบถ้วนและเหมาะสมจะช่วยเสริมสร้างสมอง ร่างกาย และภูมิคุ้มกันของลูกให้แข็งแรง การใส่ใจโภชนาการจึงเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตที่ดีที่สุดของลูก โดยในแต่ละวัน คุณแม่ควรเลือกอาหารที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และกรดไขมันจำเป็น เช่น DHA โฟเลต และแคลเซียม ซึ่งล้วนมีบทบาทต่อการพัฒนาสมองและการเจริญเติบโตของทารก
ซึ่งนอกจากการเลือกกินอาหารที่มีประโยชน์เป็นประจำในทุกมื้อแล้ว คุณแม่ยังสามารถเสริมด้วยนมสำหรับคนท้องและให้นมบุตร เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ อาจเลือกดื่มนมเอนฟามาม่า เอพลัส วันละ 2 แก้ว เพื่อให้ร่างกายได้รับแคลเซียมและโคลีนตามความต้องการของคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตรในแต่ละวัน (THAI DRI)
โภชนาการที่ดีไม่เพียงช่วยให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่แข็งแรง แต่ยังช่วยปกป้องคุณแม่จากภาวะแทรกซ้อนระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคโลหิตจาง ความดันโลหิตสูง หรือเบาหวานขณะตั้งครรภ์ เมื่อแม่สุขภาพดี ลูกก็จะได้รับการดูแลที่สมบูรณ์ไปพร้อมกัน ดังนั้น ทุกคำที่แม่เลือกกินในวันนี้ คือการวางรากฐานสู่อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อยอย่างแท้จริง
โอกาสท้องของผู้หญิงจะกลับมาเป็นปกติเมื่อเลิกฉีดยาคุม 1 เดือน โดยฮอร์โมนที่ได้รับจากยาจะค่อย ๆ หมดไป และร่างกายจะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ระบบสืบพันธุ์จะเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง ซึ่งหมายความว่ารังไข่จะกลับมาตกไข่ตามรอบเดือน ทำให้คุณสามารถตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ภาวะเจริญพันธุ์จะกลับมาเป็นปกติภายใน 1-3 เดือนหลังจากวันนัดฉีดยาเข็มสุดท้ายค่ะ
ถ้าฉีดในช่วง 1–5 วันแรกของประจำเดือน สามารถปล่อยในได้ทันที แต่ถ้าฉีดนอกช่วงนี้ ควรรออย่างน้อย 7 วันเพื่อให้ยาออกฤทธิ์เต็มที่ ในระหว่าง 7 วันนี้ ควรงดการมีเพศสัมพันธ์หรือใช้ถุงยางอนามัยร่วมด้วย หลังจากครบ 7 วันแล้วจึงจะสามารถหลั่งในได้ค่ะ
ฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน ท้องได้ไหม
กินยาคุมกี่วันถึงปล่อยในได้
เลิกกินยาคุมกี่เดือนท้อง
ไม่รู้ว่าท้องแล้วกินยาคุม
กินยาคุมให้นมบุตรได้ไหม
หยุดกินยาคุม 1 เดือนจะท้องไหม
ปล่อยในหลังเมนส์หมด 7 วัน
ปล่อยในตอนเป็นเมนส์ ท้องไหม
Enfa สรุปให้ ฉีดยาคุม 1 เดือน ท้องได้แต่มีโอกาสน้อยมาก หรือน้อยกว่า 1% โดยเฉพาะการฉีดยาตรงตามนั...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ฉีดยาคุมแบบ 3 เดือน มีโอกาสท้องได้น้อยมาก ถ้าฉีดตรงเวลาทุกเข็ม แต่ถ้าล่าช้าเกิน 14...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ มีลูกอายุเท่าไหร่ลูกฉลาด ไม่ใช่เพียงอายุแม่เท่านั้นที่เป็นตัวกำหนดความฉลาดลูก แต่ย...
อ่านต่อ