เมื่อว่าที่คุณแม่ทราบข่าวดีแล้วว่าตัวเองตั้งท้อง เรื่องต่อไปที่ต้องเตรียมการ คือการแจ้งที่ทำงาน เพื่อเตรียมตัวลาคลอด แต่ควรบอกช่วงไหน และอย่างไรดี สำหรับคุณแม่ส่วนใหญ่ มักเลือกแจ้งข่าวการตั้งท้องของตัวเอง หลังจากผ่านพ้นการตั้งครรภ์ในไตรมาสแรก เพื่อความมั่นใจในเรื่องของสุขภาพครรภ์
ถ้าหากคุณแม่ทำงานในองค์กรขนาดเล็ก การแจ้งข่าวการตั้งครรภ์อาจจะไม่ต้องผ่านหลายคนมากนัก เวลาที่ควรจะแจ้ง ขึ้นอยู่กับความสะดวกของตัวเราเอง อาจจะเริ่มจากหัวหน้า หรือลูกน้องในทีม เพื่อแจ้งข่าวของเรา รวมถึงอาจจะเริ่มวางแผนงานคร่าว ๆ ในช่วงที่เราลาคลอดกับทีมก็เป็นสิ่งที่ดีเช่นกัน
เมื่อเราแจ้งข่าวแล้ว สิ่งที่คุณแม่ควรเตรียมตัวต่อมา คือการวางแผนเตรียมลาคลอด โดยหลัก ๆ ที่ต้องเตรียม ดังนี้
• เลือกวันที่จะเริ่มลาคลอด ให้อิงตามกำหนดคลอดของเรา ล่วงหน้าสัก 1 – 2 อาทิตย์ และกำหนดวันที่จะกลับมาทำงานได้
• ในบางองค์กร มีสวัสดิการสนับสนุนคุณแม่ลาคลอด คุณพ่อลาคลอด และสวัสดิการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบสวัสดิการเหล่านี้ เพื่อประกอบการวางแผนลาคลอด
• ตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2562 ลูกจ้างสามารถลาคลอดบุตรได้ไม่เกิน 98 วัน ซึ่งรวมวันลาเพื่อตรวจครรภ์ก่อนคลอดบุตรด้วย และนับรวมวันหยุดที่มีระหว่างวันลา นอกจากนี้ นายจ้างจะต้องจ่ายค่าจ้างในช่วงที่ลาคลอด แต่ไม่เกิน 45 วัน
• คุณแม่ควรวางแผนการทำงานในช่วงก่อนลาคลอด แบ่งงานในหน้าที่ของตัวเองต้องส่งต่อให้ใครดูแล หรือมีอะไรที่ต้องจัดการให้เสร็จก่อนลาคลอดหรือไม่
• ในช่วงระหว่างลาคลอด ถ้าหากคุณแม่มีความจำเป็นต้องทำงาน ควรประเมินล่วงหน้า ว่าสามารถทำได้หรือไม่ ถ้าทำได้ สามารถทำงานได้ในช่วงเวลาไหน ทำงานจากที่บ้านได้หรือไม่ ควรปรึกษา และวางแผนกับเพื่อนร่วมงาน หรือหัวหน้า
สิ่งสำคัญสำหรับคุณแม่ ที่ต้องคำนึงถึงเป็นอันดับแรก คือสุขภาพของเรา อย่าพยายามโหมงาน เพื่อเคลียร์ทุกอย่างให้เสร็จก่อนลาคลอด หรือระหว่างในช่วงที่ลาคลอด ควรทำเท่าที่สามารถทำได้ค่ะ
Enfa สรุปให้ คนท้องปวดท้องตรงกลางอาจเกิดจากมดลูกขยายตัว กดทับอวัยวะภายใน หรือระบบย่อยอาหารผิดปกต...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ คนท้องนอนไม่หลับ เกิดได้จากหลายปัจจัย เช่น ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อาการแพ้ท้อง ปวดเมื่อ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ คนท้องหายใจไม่อิ่ม มักเกิดจากมดลูกขยายตัวกดเบียดกระบังลม หรือฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนเพิ...
อ่านต่อ