Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
การที่ลูกพูดติดอ่างหรือพูดไม่ชัดเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในเด็กเล็ก ซึ่งอาจสร้างความกังวลให้กับพ่อแม่ผู้ปกครองได้ไม่น้อย บทความนี้ Enfa จะช่วยไขข้อข้องใจเกี่ยวกับการพูดติดอ่าง วิธีแก้ ลูกพูดติดอ่าง พูดไม่ออก รวมถึงลูกพูดไม่ชัด คุณพ่อคุณแม่จะสังเกตได้อย่างไร พร้อมแนะนำแนวทางการรับมือที่เหมาะสมเพื่อช่วยให้ลูกสามารถพูดได้อย่างคล่องแคล่วค่ะ
ลูกพูดติดอ่าง พูดไม่ออก เกิดจากจากหลายปัจจัย ทั้งทางร่างกายและจิตใจ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อลูกมีอาการพูดไม่ออกติดอ่างมักสร้างความกังวลใจให้คุณพ่อคุณแม่ อาการเหล่านี้อาจดีขึ้นได้เองเมื่อโตขึ้น หรืออาจต้องได้รับการช่วยเหลือและรักษา ซึ่งขึ้นอยู่กับสาเหตุ ดังนี้
หากลูกมีอาการพูดไม่ออกติดอ่างหรือมีความผิดปกติทางพัฒนาการด้านอื่น ๆ ร่วมด้วย ควรพาไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาและแก้ไขอย่างถูกวิธี
ลูกพูดไม่ชัด พูดออกเสียงไม่ชัด หรือทำได้ยากกว่าจะหลุดคำพูดออกมา พูดไม่เป็นประโยค เกิดได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
หากคุณพ่อคุณแม่สังเกตพบว่าลูกไม่สามารถออกเสียงคำพื้นฐาน เช่น พ่อ แม่ ได้ หรือออกเสียงเพี้ยนคนอื่นฟังไม่เข้าใจ ไม่ตอบสนองต่อเสียง หรือมีพฤติกรรมอื่นร่วมด้วย เช่น ไม่สบตา ไม่สนใจพูดคุย ควรพาไปพบแพทย์
การพูดติดอ่างเป็นภาวะที่เด็กพูดไม่ลื่นไหล มีการหยุดชะงัก ซ้ำคำ หรือยืดเสียงขณะพูด ซึ่งสามารถสังเกตสัญญาณที่บอกว่าลูกพูดติดอ่างได้ ดังนี้
หากสังเกตพบอาการดังกล่าว โดยเฉพาะสัญญาณที่บอกว่าลูกพูดติดอ่างมีต่อเนื่องเกิน 6 เดือนขึ้นไปในเด็กที่อายุมากกว่า 5 ปี ควรได้รับการประเมินอาการเพิ่มเติม คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์
เด็กแต่ละคนมีพัฒนาการทางภาษาที่แตกต่างกัน การพบอาการลูกพูดไม่ชัดอาจตัดสินไม่ได้ทันทีว่าลูกกำลังมีปัญหาเรื่องการพูด แต่ต้องสังเกตอาการอย่างต่อเนื่อง โดยในเบื้องต้นคุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตสัญญาณที่บอกว่าลูกพูดไม่ชัดได้ ดังนี้
หากพบสัญญาณที่บอกว่าลูกพูดไม่ชัดเหล่านี้ คุณพ่อคุณแม่ควรพาไปพบแพทย์เพื่อประเมินและช่วยกระตุ้นพัฒนาการพูดของลูกให้ดีขึ้น
เด็กพูดไม่ชัด พูดติดอ่าง พูดติด ๆ ขัด ๆ วิธีแก้ติดอ่างที่ทำได้ง่ายคือเริ่มจากครอบครัว โดยคุณพ่อคุณแม่หรือผู้ปกครองสามารถช่วยแก้ปัญหาเด็กพูดไม่ชัด พูดติดอ่าง ด้วยการฝึกฝนและปรับพฤติกรรมอย่างเหมาะสม ดังนี้
การที่เด็กพูดไม่ชัด พูดติดอ่าง พูดติดๆ ขัดๆ มีวิธีแก้ด้วยการฝึกฝนอย่างถูกต้อง หากคุณพ่อคุณแม่ช่วยกระตุ้นการพูดด้วยวิธีที่เหมาะสม ลูกจะค่อย ๆ พัฒนาความสามารถทางการพูดได้ดีขึ้นเองค่ะ
เมื่อพบว่าลูกพูดติดอ่างหรือพูดไม่ชัด คุณพ่อคุณแม่อาจรู้สึกกังวล แต่สิ่งสำคัญคือการเข้าใจและช่วยลูกพัฒนาการพูดอย่างถูกต้องโดยไม่กดดัน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือเมื่อลูกพูดติดอ่าง ลูกพูดไม่ชัด โดยการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ไม่บังคับให้ลูกพูด เพราะจะยิ่งทำให้ลูกกังวล สบตาระหว่างสนทนาและให้กำลังใจลูกเสมอ
นอกจากนี้ ควรเป็นคนเริ่มการสนทนาโดยพูดให้ลูกฟังช้า ๆ ชัดเจน เริ่มจากประโยคสั้น ๆ แล้วจึงค่อย ๆ เพิ่มความยาวประโยค อาจใช้เกมมาช่วยเป็นเครื่องมือในการฝึกพูด หรือเล่นบทบาทสมมุติ โดยไม่ตำหนิหรือล้อเลียนเมื่อลูกพูดผิด
ทั้งนี้ การฟังก็เป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาการพูดของลูก คุณพ่อคุณแม่ควรพยายามอดทนฟังลูกพูดจนจบ ไม่ขัดจังหวะหรือแทรกคำขณะลูกพูด การพูดติดอ่างและพูดไม่ชัดเป็นเรื่องที่พัฒนาได้หากมีการฝึกฝนอย่างถูกวิธีและไม่มีความกดดันจากผู้ปกครอง
นมแม่ที่มี MFGM หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจดได้ดียิ่งขึ้น
*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561
การพูดติดอ่างตอนโตอาจเกิดจากความเครียดสูง การเปลี่ยนแปลงในชีวิต เช่น ย้ายโรงเรียน หรือปัญหาทางจิตใจ เช่น วิตกกังวล
หากลูก7 ขวบพูดไม่ชัด อาจเป็นสัญญาณของปัญหาทางกายภาพหรือพัฒนาการ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุและวิธีแก้ไข
เด็ก 3 ขวบพูดไม่ชัด ถือเป็นเรื่องปกติในบางกรณี ควรฝึกพูดด้วยการอ่านนิทาน เล่นเกมที่ส่งเสริมการออกเสียง และสังเกตพัฒนาการอย่างใกล้ชิด หากอาการไม่ดีขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
หากลูกพูดไม่ชัด ลิ้นแข็ง ควรฝึกให้ลูกบริหารกล้ามเนื้อลิ้น เช่น ให้แลบลิ้นแตะจมูก แลบลิ้นแตะคาง หรือดื่มน้ำจากหลอดเพื่อกระตุ้นการทำงานของลิ้น หากไม่ดีขึ้นควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจดูความผิดปกติทางกายภาพ และฝึกออกเสียงร่วมกับนักแก้ไขการพูด
Enfa สรุปให้ พูดติดอ่าง พูดไม่ออก เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พัฒนาการด้านภาษาและการพูดช้า พันธุกร...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เมื่อเด็กอายุย่างเข้า 3-5 ขวบ ก็เป็นช่วงวัยที่เหมาะสำหรับการพาเด็กเข้าสู่รั้วโรงเร...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เมนูอาหารสําหรับวัยก่อนเรียน 3-6 ปี ควรจะต้องมีทั้งเนื้อสัตว์ ผัก และไขมัน เพื่อให้...
อ่านต่อ