เมื่อถึงวัยที่ลูกเข้าอนุบาล คุณแม่คงไม่อยากเห็นภาพลูกร้องไห้งอแงทุกเช้า ครูรายงานว่าลูกไม่ร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ จะเข้าห้องน้ำก็ไม่ยอมบอก ตักข้าวกินเองไม่ได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ กลับบ้านก็บ่นไม่อยากไปโรงเรียน ฯลฯ เรื่องราวเหล่านี้คุณแม่คงไม่อยากให้เกิดขึ้นแน่นอนใช่มั้ยคะ
หากคุณแม่ต้องการให้ลูกไปโรงเรียนอย่างมีความสุข สนุกกับเพื่อนๆ และกิจกรรมที่คุณครูจัดหามาให้ นี่คือช่วงเวลาสำคัญในการเตรียมพร้อมเรื่องทักษะต่างๆ ที่ลูกจำเป็นต้องใช้ในโรงเรียนอนุบาล เป็นช่วงเวลาที่ให้ลูกได้มีความพร้อมก่อนจะไปเจอสังคมใหม่ เพื่อนใหม่ กฎระเบียบต่างๆ ไม่อย่างนั้นลูกอาจมีปัญหาขณะอยู่โรงเรียนได้
เหล่านี้คือทักษะที่ลูกจำเป็นต้องใช้เมื่อไปโรงเรียนอนุบาล เป็นการฝึกให้ลูกมีทั้งหัวคิดและหัวใจ (mind&heart) คุณแม่ต้องทำให้ช่วงเวลาของการฝึกทักษะเหล่านี้สนุกสนาน โดยฝึกผ่านการเล่น ผ่านกิจกรรมประจำวันของลูก เพื่อลูกจะได้มีความสุข ไม่เครียด และเรียนรู้ได้ดี
เรื่องนี้สำคัญ เพราะเมื่อลูกเข้าไปอยู่ในอีกสังคมหนึ่ง ซึ่งไม่มีคนมาดูแลใกล้ชิดเหมือนอยู่ที่บ้าน ลูกต้องช่วยเหลือตัวเองได้ดีพอสมควร เด็กที่ช่วยเหลือตัวเองได้ดีกว่าก็จะปรับตัวให้เข้ากับโรงเรียนได้ดีกว่าเช่นกัน
การฝึกให้ลูกรู้จักช่วยเหลือตัวเองให้ได้ก่อนเข้าเรียนอนุบาลนั้น ควรครอบคลุมเรื่องต่างๆ ดังนี้
ขณะอยู่โรงเรียน ลูกจะไม่ได้รับการตอบสนองความต้องการทันทีเหมือนตอนอยู่บ้าน เพราะมีเด็กหลายคนไปอยู่รวมกัน ลูกจึงต้องอดทนรอคอย เช่น รอเล่นของเล่น หรือรอพ่อแม่รับกลับบ้าน เป็นต้น คุณแม่จึงต้องค่อยๆ ฝึกลูกให้รู้จักรอคอยทีละน้อย โดยสร้างเงื่อนไขให้ลูกรู้จักรอ ไม่ตอบสนองลูกทันที เช่น เมื่อลูกอยากให้ชงนมให้ ก็บอกว่ารอให้แม่เด็ดผักให้เสร็จแล้วจะไปชงให้ หรืออาจใช้วิธีเบี่ยงเบนให้ลูกหันไปสนใจสิ่งอื่นทดแทนสิ่งที่เขากำลังรออยู่ เช่น หากลูกอยากเล่นชิงช้าในสวนสนุกแต่มีคนเล่นอยู่ ก็อาจชวนลูกไปทำกิจกรรมอื่นขณะรอ เป็นต้น เป็นการสอนให้ลูกรู้ว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีขอบเขต ไม่จำเป็นว่าพ่อแม่ต้องตามใจทุกครั้งเพราะกลัวว่าลูกจะเสียใจ เพราะจะยิ่งทำให้ลูกปรับตัวกับสังคมใหม่อย่างโรงเรียนอนุบาลได้ยาก
เมื่อลูกต้องไปอยู่ที่โรงเรียน ครูไม่สามารถทำอย่างที่พ่อแม่ทำให้ลูกได้เพราะต้องดูแลเด็กหลายคน คุณแม่จึงต้องฝึกลูกให้สามารถพูดได้ว่าต้องการอะไร ชอบหรือไม่ชอบอะไร หรือเมื่อมีปัญหาก็สามารถพูดจัดการได้ เมื่อลูกสามารถบอกความต้องการของตนเองกับคนอื่นได้ ลูกก็จะปรับตัวได้ดี อีกทั้งยังลดพฤติกรรมก้าวร้าวลงอีกด้วย เพราะเด็กพูดสื่อสารบอกความต้องการให้คนอื่นรับรู้ได้
เด็กในวัย 1-3 ปียังยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง หากคุณแม่ไม่ได้ฝึกให้ลูกรู้จักเล่นกับเด็กคนอื่นเลย จะทำให้เขาเข้าสังคมกับเด็กอื่นได้ลำบาก อาจจะทะเลาะ ใช้ความรุนแรงใส่กัน จึงควรฝึกให้ลูกได้เล่นกับเด็กวัยเดียวกันบ้าง บอกให้เขาแบ่งของเล่นให้เพื่อน หากเขาทำได้ก็ชมเขา แต่ถ้าลูกยังไม่อยากทำ อย่าใช้วิธีบังคับเพราะจะยิ่งทำให้ลูกหวงของมากขึ้น ค่อยๆ ฝึกไว้บ้างดีกว่าไปฝึกเมื่อลูกเข้าโรงเรียนเลย
ในวัยเตรียมอนุบาล คุณแม่สามารถฝึกลูกให้มีทักษะพื้นฐานในเรื่องต่างๆ เช่น ฝึกการจับดินสอ ขีดเขียน ระบายสี สอนลูกให้รู้จักนับเลข 1-10 ท่อง ก-ฮ A-Z รู้จักชื่อสี 2-3 สี ให้ลูกมีโอกาสได้เล่นหรือทำกิจกรรมที่ได้ใช้มือบ่อยๆ เช่น ต่อบล็อก ต่อจิ๊กซอว์ ปั้นดินน้ำมัน พับกระดาษ ก่อกองทราย เป็นต้น โดยสามารถทำให้เป็นการผสมระหว่างการฝึกกับการเล่น ไม่จำเป็นต้องเคร่งเครียดจริงจัง ถือเป็นการปูพื้นฐานให้ลูกได้รู้จักสิ่งเหล่านี้ไว้นั่นเอง
นอกจากการเสริมทักษะต่างๆ ให้ลูกพร้อมเข้าสู่วัยอนุบาลแล้ว การมีสมองที่ดี ภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงพร้อมสำหรับการเรียนรู้ก็เป็นสิ่งสำคัญ คุณแม่ไม่ควรมองข้ามการเสริมอาหารเพื่อพัฒนาสมองและภูมิคุ้มกันของลูกให้พร้อมเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวด้วย นอกจากลูกจะได้รับสารอาหารเหล่านี้จากอาหาร 5 หมู่แล้ว การเลือกนมที่เสริมสารอาหารเพื่อพัฒนาสมองและภูมิคุ้มกันให้ลูก ก็จะทำให้มั่นใจว่าลูกจะได้รับสารอาหารเหล่านี้อย่างเพียงพอ
สารอาหารดังกล่าวได้แก่ MFGM เยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในนมแม่ ซึ่งประกอบด้วยสารอาหารต่างๆ ที่พบในนมแม่ เช่น โปรตีนต่างๆ และไขมันเชิงซ้อน, ดีเอชเอ ดีเอชเอ กรดไขมันที่พบมากในเยื่อหุ้มสมองและจอประสาทตา
มีงานวิจัยทางคลินิกพบว่า :
ก่อนถึงเวลาลูกจะไปโรงเรียน ช่วงเวลานี้ขอชวนคุณแม่มาตรวจดูความพร้อมในแต่ละด้านของลูกว่ามีมากน้อยเพียงใด เพื่อว่าคุณพ่อคุณแม่จะได้มีช่วงเวลาในการเตรียมความพร้อมให้ลูก หากมีเรื่องใดที่ลูกยังไม่พร้อม
ลูกทำได้หรือไม่ ถ้าบอกให้ลูก :
การได้เตรียมทักษะต่างๆ ไว้ก่อนในวัยเตรียมอนุบาล จะทำให้เมื่อถึงเวลาลูกไปโรงเรียนจริงๆ ลูกจะสนุกกับการไปโรงเรียน เรียกว่าเตรียมการดีมีชัยไปกว่าครึ่งค่ะ
Reference:
* NeuroProof report for Mead Johnson Nutrition
**Veereman-Wauters G, Staelens S, Rombaut R, et al. Milk fat globule membrane (INPULSE) enriched formula milk decreases febrile episodes and may improve behavioral regulation in young children. Nutrition. 2012;28:749-752.
Enfa สรุปให้ พูดติดอ่าง พูดไม่ออก เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พัฒนาการด้านภาษาและการพูดช้า พันธุกร...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เมื่อเด็กอายุย่างเข้า 3-5 ขวบ ก็เป็นช่วงวัยที่เหมาะสำหรับการพาเด็กเข้าสู่รั้วโรงเร...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เมนูอาหารสําหรับวัยก่อนเรียน 3-6 ปี ควรจะต้องมีทั้งเนื้อสัตว์ ผัก และไขมัน เพื่อให้...
อ่านต่อ