นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

ลูกยืดตัวตอนกี่เดือน? ไขทุกข้อสงสัยเรื่อง Growth Spurt

Enfa สรุปให้

  • Growth Spurt คือ Growth Spurt คือ ช่วงเวลาที่ร่างกายของเด็กมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะในด้านความสูง น้ำหนัก และพัฒนาการของอวัยวะต่าง ๆ
  • ลูกยืดตัวตอนกี่เดือนที่เห็นชัดสุด อาจเริ่มตั้งแต่แรกเกิด เช่น ช่วง 7-10 วัน, 3 สัปดาห์, 6 สัปดาห์, 3 เดือน และ 6 เดือน โดยช่วงแรกเกิดถึง 1 ปีนี้ เด็กทารกจะเปลี่ยนแปลงเร็วมาก และต้องดูแลเป็นพิเศษมากด้วย
  • Growth Spurt เห็นได้เจนโดยเฉพาะใน 3 ช่วงวัย คือ แรกเกิด – 1 ปี ช่วง 1 – 10 ปี และช่วงวัยรุ่น ซึ่ง Growth Spurt ไม่ได้เป็นเรื่องของความสูงเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการพัฒนาทั้งสมอง กล้ามเนื้อ และทักษะต่าง ๆ ด้วย

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจสังเกตว่า มีช่วงเวลาหนึ่งที่ลูกน้อยดูโตเร็วมาก กินเก่งขึ้น ขับถ่ายบ่อย หรือบางช่วงก็นอนเยอะผิดปกติ สิ่งเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณของการ "ยืดตัว" หรือที่เรียกว่า Growth Spurt ซึ่งเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ร่างกายของลูกน้อยเติบโตแบบพุ่งพรวด ในบทความนี้ Enfa จะพาคุณพ่อคุณแม่มาสังเกตและเตรียมตัวรับมือเรื่องนี้เพื่อให้มีความเข้าใจและเตรียมพร้อมเสริมพัฒนาการให้ลูกน้อยเติบโตอย่างแข็งแรงสมวัยกันค่ะ

 

Growth Spurt คืออะไร


Growth Spurt คือ ช่วงเวลาที่ร่างกายของเด็กมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น โดยเฉพาะในด้านความสูง น้ำหนัก และพัฒนาการของอวัยวะต่าง ๆ โดยช่วงที่เด็กยืดตัวนี้ เด็กอาจจะกินเก่งขึ้น งอแงบ่อยขึ้น หรือนอนหลับมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องปกติ ไม่ต้องกังวลค่ะ เพราะเป็นสัญญาณว่าลูกกำลังโต

 

Growth Spurt เกิดขึ้นตอนช่วงอายุเท่าไหร่


ช่วงเวลาที่เด็กจะมี Growth Spurt นั้นแบ่งได้เป็นหลายช่วงอายุ ซึ่งช่วงที่เด็กยืดตัวและสามารถสังเกตได้ชัดเจนมากคือ Growth Spurt ทารก และช่วงวัยรุ่น ที่พ่อแม่มักรู้สึกว่าเผลอแป๊บเดียวลูกโตขึ้นเร็วมาก ทั้งนี้ สามารถแบ่งช่วงอายุของการยืดตัวเด็กได้ดังนี้

 

ช่วงแรกเกิดถึง 1 ปี 

ช่วงนี้เด็กจะโตเร็วที่สุด เช่น ช่วง 7-10 วัน, 3 สัปดาห์, 6 สัปดาห์, 3 เดือน และ 6 เดือน เด็กทารกจะเปลี่ยนแปลงเร็วมาก และต้องดูแลเป็นพิเศษมากด้วย

 

วัยเด็ก (1-10 ปี)

ช่วงวัยนี้ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวและมีพัฒนาการต่อเนื่องแบบไม่หวือหวาเท่าช่วงทารกหรือวัยรุ่น แต่ก็สำคัญมาก เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายสร้างฐานการเติบโตที่มั่นคง เด็กจะค่อย ๆ สูงขึ้นเฉลี่ยปีละประมาณ 5-7 ซม./ปี พ่อแม่อาจไม่รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงทันที แต่ถ้าเปรียบรูปถ่ายของลูกปีต่อปีจะเห็นชัดเจน คือ

  • ช่วงวัย 1-3 ปี
    ลูกจะเริ่มเดิน วิ่ง พูด และแสดงอารมณ์ได้หลากหลายมากขึ้น พัฒนาการทางสมองและกล้ามเนื้อมัดใหญ่โดดเด่นขึ้น

  • ช่วงวัย 4-6 ปี (วัยอนุบาล)
    พัฒนาการทางภาษาจะก้าวกระโดด ลูกพูดเก่ง ซักถามมาก และเริ่มเรียนรู้เรื่องเพื่อน การให้ความร่วมมือ และการเข้าสังคม

  • ช่วงวัย 7-10 ปี (วัยประถมต้น)
    ลูกจะมีพัฒนาการด้านร่างกายต่อเนื่อง เริ่มมีพฤติกรรมเอาอย่างผู้ใหญ่มากขึ้น มีความคิดเป็นระบบ และเตรียมพร้อมเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นตอนต้น

 

วัยรุ่น (หญิง 8-13 ปี / ชาย 10-15 ปี)

ช่วงวัยรุ่นนับเป็นอีกช่วงเวลาสำคัญของการยืดตัวแรงอีกระลอกหนึ่งเนื่องมาจากฮอร์โมนวัยเจริญพันธุ์ เด็กบางคนอาจสูงขึ้นหลายเซนติเมตรในปีเดียวเลยทีเดียว บางคนน้ำหนักขึ้น กินเก่ง และอาจเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกายและอารมณ์อื่น ๆ ด้วย

 

ลูกยืดตัวตอนกี่เดือน


คุณพ่อคุณแม่โดยเฉพาะพ่อแม่มือใหม่หลายคนอาจสงสัยว่าจะสังเกตอย่างไรว่าลูกยืดตัวตอนกี่เดือน ถึงแม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะเลี้ยงดูลูกน้อยอย่างใกล้ชิดทุกวันแต่ก็ยังมีหลายอย่างที่สังเกตได้ว่าลูกกำลังยืดตัว ดังนี้

  • 3 สัปดาห์ เริ่มดูดนมบ่อย งอแงขึ้น และนอนนานขึ้น
  • 6 สัปดาห์ กล้ามเนื้อเริ่มแข็งแรงขึ้น ลูกอาจพยายามยกศีรษะเล็กน้อย
  • 3 เดือน เริ่มสังเกตสิ่งรอบตัวได้ดีขึ้น เคลื่อนไหวมือและเท้าได้คล่อง
  • 6 เดือน เริ่มนั่งเองได้ เริ่มพลิกตัวคล่องขึ้น ร่างกายแน่นขึ้น
  • 9 เดือน เริ่มคลาน ลุกนั่งเองได้ เตรียมเข้าสู่การยืนในไม่ช้า

 

อาการลูกยืดตัวเป็นอย่างไร


เมื่อลูกน้อยกำลังอยู่ในช่วง Growth Spurt อาจมีอาการยืดตัวของเด็กหลายอย่างที่สังเกตได้ง่ายๆ เช่น

  • ดูดนมบ่อย หิวง่าย เพราะร่างกายใช้พลังงานเยอะกว่าปกติ
  • งอแงมากขึ้น อารมณ์แปรปรวนได้บ้าง เพราะร่างกายเปลี่ยนแปลงเร็ว
  • หลับเยอะหรือหลับไม่สนิท เด็กบางคนหลับนานขึ้น บางคนตื่นกลางดึกบ่อยขึ้น เป็นเรื่องปกติ
  • ติดพ่อแม่มากขึ้น อยากอยู่ในอ้อมกอด เพราะรู้สึกไม่มั่นคงจากการเปลี่ยนแปลงในร่างกาย
  • ถ่ายบ่อยหรืออุจจาระเปลี่ยน เกิดจากระบบย่อยอาหารที่ยังไม่สมบูรณ์ดีนัก และการกินนมเยอะขึ้น

 

เด็กยืดตัว ท้องเสีย เพราะอะไร


จริง ๆ แล้วการยืดตัวไม่ทำให้ลูกท้องเสียโดยตรงค่ะ แต่การที่ลูกกินนมบ่อยขึ้น หรือระบบย่อยยังไม่พัฒนาเต็มที่ อาจทำให้ถ่ายบ่อยขึ้นหรืออุจจาระดูเหลวกว่าปกติ ซึ่งเป็นเรื่องที่พบได้บ่อยในช่วงนี้ ทำให้เกิดการเข้าใจว่าเด็กยืดตัวท้องเสีย 

ทั้งนี้ หากว่าทารกท้องเสียเพราะยืดตัวแต่ลูกยังดูร่าเริง กินนมได้ดี ไม่มีไข้ ไม่มีอาการขาดน้ำ ก็ถือว่าไม่ใช่ท้องเสีย แต่เมื่อไรก็ตามที่ลูกน้อยมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น มีไข้ อาเจียน ถ่ายเป็นน้ำ หรือมีเลือดปนในอุจจาระ ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกิดจากการติดเชื้อได้ค่ะ

 

เด็กยืดตัว เป็นไข้ เพราะอะไร


โดยปกติแล้ว การยืดตัวไม่ทำให้เด็กเป็นไข้ค่ะ แต่อาจมีเหตุบังเอิญที่อาการไข้มาในช่วงเดียวกันได้ เช่น การติดเชื้อไวรัส เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรงพอ เด็กจึงติดหวัดได้ง่าย หรือเด็กอยู่ในช่วงฟันงอก เมื่อเด็กฟันขึ้นมักมีไข้ต่ำ งอแง และถ่ายเหลวร่วมด้วย นอกจากนี้ อาจเป็นผลมาจากวัคซีน ซึ่งหากลูกมีไข้ไม่เกิน 38.5°C และไม่มีอาการอื่นที่น่าห่วง อาจดูแลเองที่บ้านได้ แต่ถ้าไข้สูง ซึม ไม่กินนม ควรพาไปพบแพทย์ค่ะ

 

เด็กยืดตัว กับพัฒนาการตามวัยที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้


Growth Spurt ไม่ได้เป็นเรื่องของความสูงเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการพัฒนาทั้งสมอง กล้ามเนื้อ และทักษะต่าง ๆ ด้วย เด็กอาจเริ่มทำสิ่งใหม่ ๆ ได้ เช่น กลิ้งตัว คลาน หรือพูดคำแรก สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรรู้และให้การสนับสนุนลูกน้อยในช่วงยืดตัว คือ

  • ส่งเสริมอาหารที่ดี มีประโยชน์ เน้นนมแม่หรือนมสูตรที่เหมาะสม รวมถึงอาหารที่ช่วยเสริมพัฒนาการ เช่น DHA, แคลเซียม, ธาตุเหล็ก
  • สนับสนุนให้ลูกนอนให้เพียงพอ เพราะ Growth hormone จะหลั่งมากตอนหลับ ทารกจึงควรนอนวันละ 14–17 ชม.
  • หมั่นเล่นและพูดคุยกับลูก เพื่อช่วยให้สมองของลูกได้รับการกระตุ้น สร้างการเชื่อมโยงของเซลล์สมองได้ดีขึ้น

ทั้งนี้ Growth Spurt คือช่วงเวลาทองของการเติบโต ลูกของเราจะเปลี่ยนไปไวมาก ทั้งในด้านร่างกายและพฤติกรรม พ่อแม่อาจรู้สึกแปลกใจหรือเป็นห่วง แต่จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับเด็กทุกคนค่ะ คุณพ่อคุณแม่เพียงคอยสังเกต ดูแลโภชนาการ การนอน และอารมณ์ของลูกอย่างใกล้ชิด เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้เจ้าตัวเล็กเติบโตแข็งแรง ฉลาดสมวัย พร้อมลุยโลกกว้างได้อย่างมั่นใจค่ะ
 

 

เลือกโภชนาการที่มี MFGM ช่วยให้ลูกน้อยมี IQ/EQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก


น้ำนมแม่เป็นแหล่งแคลเซียมที่สำคัญที่ลูกน้อยจะได้รับ โดยควรให้น้ำนมแม่ตั้งแต่ลูกตลอดไปจนถึงอายุประมาณ 6 เดือน นอกจากนี้ในน้ำนมแม่ยังมีสารอาหารชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “MFGM” หรือเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในน้ำนม (Milk Fat Globule Membrane) ประกอบด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด อย่างสปิงโกไมอิลีน ฟอสโฟไลปิด แกงกลิโอไซต์ เป็นต้น 

สารอาหารในนมแม่เหล่านี้ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ช่วยให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ MFGM ในนมแม่ ยังมีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก

*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561

 

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama