Enfa สรุปให้
เด็กส่วนใหญ่เริ่มใช้รถวงกลมหัดเดินเมื่ออายุประมาณ 6–12 เดือน ขึ้นไป โดยต้องนั่งเองได้และขาสัมผัสพื้น แต่แพทย์หลายแห่งไม่แนะนำให้ใช้ เพราะเสี่ยงอุบัติเหตุและอาจทำให้พัฒนาการเดินช้าลง
หากจำเป็นต้องใช้รถหัดเดิน ควรเลือกรถหัดเดินที่มีฐานกว้าง เบรกอัตโนมัติ ปรับความสูงได้ วัสดุแข็งแรง และผ่านมาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงใช้เฉพาะบนพื้นเรียบ มีผู้ใหญ่ดูแลใกล้ชิดเสมอ
รถหัดเดินไม่ได้ช่วยให้เด็กเดินเร็วขึ้น และอาจเพิ่มความเสี่ยงอุบัติเหตุ ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า คือการให้ลูกฝึกเดินตามธรรมชาติ เล่นบนพื้น หรือใช้ของเล่นผลัก (push toy) แทน
เลือกอ่านตามหัวข้อ
วัยหัดเดินถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ตื่นเต้นที่สุดเลยล่ะค่ะ เมื่อลูกน้อยเริ่มนั่งได้เอง พยายามยืนเกาะเฟอร์นิเจอร์ และก้าวเดินทีละน้อย ๆ หลายครอบครัวจึงเริ่มมองหาอุปกรณ์ช่วยฝึกเดิน หนึ่งในนั้นคือ รถวงกลมหัดเดิน หรือที่เรียกกันว่า baby walker
แม้รถหัดเดินจะดูเหมือนช่วยเสริมพัฒนาการ แต่ในมุมของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กกลับมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย และผลเสียที่อาจตามมา หากคุณแม่กำลังสงสัยว่ารถวงกลมหัดเดินควรเริ่มใช้ตอนกี่เดือนถึงเหมาะสม หรือจริง ๆ แล้ว รถหัดเดินจำเป็นไหม บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจข้อดี-ข้อเสีย ความเสี่ยง และคำแนะนำที่ถูกต้องมากขึ้นค่ะ
ความคิดที่ว่ารถหัดเดินช่วยให้ลูกเดินเร็วขึ้นเป็นสิ่งที่พ่อแม่จำนวนมากเชื่อ แต่หลักฐานจากการศึกษาจำนวนมากกลับแสดงว่า รถหัดเดินไม่จำเป็นต่อพัฒนาการเดินตามธรรมชาติของเด็ก โดยมีเหตุผลดังนี้
พัฒนาการเดินไม่ได้เร็วขึ้น
เด็กต้องเรียนรู้การทรงตัว ยกตัวขึ้นเอง และก้าวเดินจากพื้นแข็ง รถหัดเดินทำให้เด็กข้ามขั้นตอนเหล่านี้ ส่งผลให้เดินช้ากว่าปกติ หรือมีท่าทางเดินผิดธรรมชาติ
ความเสี่ยงมากกว่าประโยชน์
เด็กที่อยู่ในรถหัดเดินสามารถเคลื่อนไปยังพื้นที่อันตราย เช่น บันได เตาไฟ หรือของมีคม ได้เร็วกว่าที่ผู้ปกครองจะหยุดได้
ทางเลือกที่ดีกว่า
แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้ playpen คอกกั้นเด็ก หรือของเล่นที่ช่วยผลัก (push toys) แทน เพราะช่วยฝึกกล้ามเนื้อและสมดุลได้อย่างปลอดภัยมากกว่า
ดังนั้น หากถามว่ารถหัดเดินจำเป็นไหม คำตอบจากแพทย์คือ ไม่จำเป็น และไม่ควรใช้เป็นประจำค่ะ
สำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้ อาจสงสัยว่ารถหัดเดินใช้ตอนกี่เดือนจึงจะเหมาะสม โดยทั่วไปรถวงกลมหัดเดินถูกออกแบบมาสำหรับเด็กที่สามารถนั่งเองได้แล้ว และมีแรงขาพอที่จะยันพื้นได้ ซึ่งมักจะอยู่ในช่วง 6–12 เดือน บางรุ่นอาจระบุว่าสามารถใช้ได้ถึง 15 เดือน แต่ไม่ควรเกินกว่านั้นค่ะ
หากจำเป็นต้องใช้รถวงกลมหัดเดิน ควรอยู่ในการดูแลของผู้ปกครองตลอดการใช้งาน ควรใช้ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น ไม่ควรใช้ต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง และเลิกใช้ทันทีเมื่อเด็กเริ่มพยายามเดินเอง เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือพัฒนาการเดินผิดท่า นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ควรเข้าใจพัฒนาการแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย เช่น เด็กคลานกี่เดือน เด็กเดินได้กี่เดือน เพื่อจะได้ส่งเสริมพัฒนาการได้เหมาะสม
ข้อมูลจากโรงพยาบาลเด็กทั่วประเทศในสหรัฐอเมริกา (Nationwide Children's Hospital) ระบุว่า ในแต่ละปียังคงมีเด็กหลายพันคนได้รับบาดเจ็บจากรถหัดเดินจนต้องเข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉิน อันตรายส่วนใหญ่เกิดจากความสามารถในการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วของรถหัดเดิน ซึ่งเร็วถึง 1 เมตรต่อวินาที ทำให้ผู้ปกครองไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที โดยความเสี่ยงที่พบได้บ่อย คือ
เพื่อการตัดสินใจที่รอบด้าน เรามาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของรถหัดเดินแบบวงกลมกันอย่างชัดเจนกันค่ะ
ข้อเสียรถหัดเดิน
ข้อดี (ที่จริงแล้วไม่เชิงจัดว่าเป็นข้อดี)
จะเห็นได้ว่าข้อดีที่มีอยู่นั้นเป็นเพียงความสะดวกสบายชั่วคราว ซึ่งสามารถทดแทนได้ด้วยวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่า ในขณะที่ข้อเสียนั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยและพัฒนาการของลูกน้อยในระยะยาว จึงควรพิจารณาข้อเสียให้มากกว่าข้อดีก่อนตัดสินใจใช้รถหัดเดิน
หากจำเป็นต้องใช้รถหัดเดินควรควรเลือกแบบที่ปลอดภัยที่สุด และใช้เพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยพิจารณาเลือกรถหัดเดินที่ปลอดภัยได้จาก
วิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมพัฒนาการการเดินของลูกคือการปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ และจัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้ลูกได้ฝึกฝนอย่างเต็มที่ โดยคำแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ในการฝึกลูกน้อยวัยหัดเดิน ทำได้ดังนี้
ช่วงหัดเดินของลูกน้อยอาจมีอุบัติเหตุเล็ก ๆ เกิดขึ้นได้บ้าง เช่น ลูกหกล้ม ลูกหัวโน คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ ควรดูแลอย่างใกล้ชิดและช่วยเหลือเท่าที่จำเป็น รวมทั้งระมัดระวังสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยอย่างที่กล่าวไปก็เพียงพอแล้ว
นอกจากการดูแลสุขอนามัย สุขภาพโดยรวม และเฝ้าสังเกตพัฒนาการของของลูกน้อยว่าเหมาะสมตามวัยแล้วหรือไม่แล้ว การดูแลด้านโภชนาการตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกของชีวิตนั้น ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญให้กับชีวิตของลูก จะช่วยให้ลูกพร้อมเติบโตมาเป็นเด็กที่ทั้งฉลาดทางความคิดและฉลาดทางอารมณ์ และทักษะ EF
โดยโภชนาการที่สำคัญที่ลูกน้อยควรได้รับก็คือนมแม่ เพราะในนมแม่ที่มี MFGM สุดยอดสารอาหารในนมแม่ ประกอบด้วยไขมันและโปรตีนกว่า 150 ชนิด รวมทั้งสฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิค แกงกลิโอไซด์ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการสมองของลูกน้อย และยัง เป็นสารอาหารชนิดเดียวที่ช่วยให้ลูกมี 10 ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน
โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น
ไม่แนะนำให้เด็ก 4 เดือน นั่งรถหัดเดินค่ะ เพราะเด็กวัยนี้ยังไม่สามารถนั่งตัวตรงเองได้ กล้ามเนื้อคอและหลังยังไม่แข็งแรงพอ หากใช้เร็วเกินไปอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อกระดูกสันหลังหรือสะโพก และเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ แพทย์มักแนะนำให้รอจนกว่าลูกสามารถนั่งเองได้อย่างมั่นคงก่อน
แม้เด็ก 5 เดือน บางคนอาจเริ่มนั่งได้บ้าง แต่ยังไม่แข็งแรงพอที่จะนั่งในรถหัดเดิน การใช้เร็วเกินไปอาจทำให้ร่างกายรับน้ำหนักไม่ถูกต้อง ส่งผลต่อพัฒนาการเดินในอนาคต ช่วงวัยนี้ควรให้ลูกฝึกกล้ามเนื้อด้วยการนอนคว่ำ คลาน หรือเล่นบนพื้น มากกว่าการใช้อุปกรณ์ที่มีล้อเคลื่อนที่
เด็ก 6 เดือนขึ้นไปส่วนใหญ่เริ่มนั่งเองได้มั่นคงและขาแตะพื้น จึงเป็นช่วงที่ผู้ผลิตรถหัดเดินหลายรายระบุว่าสามารถใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม แพทย์และกุมารเวชมักไม่แนะนำ เพราะแม้ใช้ได้ก็ยังมีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เช่น การตกบันไดหรือการเข้าถึงสิ่งอันตราย จึงควรพิจารณาอย่างระมัดระวัง
เก้าอี้หัดเดินหรือรถวงกลมหัดเดิน ไม่ใช่อุปกรณ์จำเป็นต่อพัฒนาการของลูก เพราะไม่ได้ช่วยให้เดินเร็วขึ้น และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากจะใช้จริง ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 6–12 เดือนเมื่อเด็กนั่งได้แล้ว แต่ควรใช้เวลาไม่นานและต้องมีผู้ใหญ่ดูแลใกล้ชิดเสมอ ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าคือการให้ลูกเล่นบนพื้นหรือใช้ของเล่นผลักแทนค่ะ
เด็กคว่ำกี่เดือน
ทารกนั่งได้ตอนกี่เดือน
เด็กคลานตอนกี่เดือน
เด็กตั้งไข่กี่เดือน
Enfa สรุปให้ เด็กส่วนใหญ่เริ่มใช้รถวงกลมหัดเดินเมื่ออายุประมาณ 6–12 เดือน ขึ้นไป โดยต้องนั่งเอง...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ กระหม่อมหลังปิดกี่เดือน? กระหม่อมหลังของทารกจะเริ่มปิดตั้งแต่แรกเกิด หรืออายุตั้งแต...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ลูกฟันขึ้นงอแงกี่วัน? อาการงอแงอาจเกิดขึ้นได้ 3-5 วัน แต่บางครั้งอาจยาวนานถึง 1-2 ส...
อ่านต่อ