นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

รถหัดเดินแบบไหนปลอดภัย รถวงกลมหัดเดินควรใช้ตอนกี่เดือน

Enfa สรุปให้

  • เด็กส่วนใหญ่เริ่มใช้รถวงกลมหัดเดินเมื่ออายุประมาณ 6–12 เดือน ขึ้นไป โดยต้องนั่งเองได้และขาสัมผัสพื้น แต่แพทย์หลายแห่งไม่แนะนำให้ใช้ เพราะเสี่ยงอุบัติเหตุและอาจทำให้พัฒนาการเดินช้าลง

  • หากจำเป็นต้องใช้รถหัดเดิน ควรเลือกรถหัดเดินที่มีฐานกว้าง เบรกอัตโนมัติ ปรับความสูงได้ วัสดุแข็งแรง และผ่านมาตรฐานความปลอดภัย รวมถึงใช้เฉพาะบนพื้นเรียบ มีผู้ใหญ่ดูแลใกล้ชิดเสมอ

  • รถหัดเดินไม่ได้ช่วยให้เด็กเดินเร็วขึ้น และอาจเพิ่มความเสี่ยงอุบัติเหตุ ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า คือการให้ลูกฝึกเดินตามธรรมชาติ เล่นบนพื้น หรือใช้ของเล่นผลัก (push toy) แทน

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

วัยหัดเดินถือเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ตื่นเต้นที่สุดเลยล่ะค่ะ เมื่อลูกน้อยเริ่มนั่งได้เอง พยายามยืนเกาะเฟอร์นิเจอร์ และก้าวเดินทีละน้อย ๆ หลายครอบครัวจึงเริ่มมองหาอุปกรณ์ช่วยฝึกเดิน หนึ่งในนั้นคือ รถวงกลมหัดเดิน หรือที่เรียกกันว่า baby walker 

แม้รถหัดเดินจะดูเหมือนช่วยเสริมพัฒนาการ แต่ในมุมของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กกลับมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัย และผลเสียที่อาจตามมา หากคุณแม่กำลังสงสัยว่ารถวงกลมหัดเดินควรเริ่มใช้ตอนกี่เดือนถึงเหมาะสม หรือจริง ๆ แล้ว รถหัดเดินจำเป็นไหม บทความนี้จะช่วยให้เข้าใจข้อดี-ข้อเสีย ความเสี่ยง และคำแนะนำที่ถูกต้องมากขึ้นค่ะ

 

รถหัดเดินจําเป็นไหม


ความคิดที่ว่ารถหัดเดินช่วยให้ลูกเดินเร็วขึ้นเป็นสิ่งที่พ่อแม่จำนวนมากเชื่อ แต่หลักฐานจากการศึกษาจำนวนมากกลับแสดงว่า รถหัดเดินไม่จำเป็นต่อพัฒนาการเดินตามธรรมชาติของเด็ก โดยมีเหตุผลดังนี้

พัฒนาการเดินไม่ได้เร็วขึ้น
เด็กต้องเรียนรู้การทรงตัว ยกตัวขึ้นเอง และก้าวเดินจากพื้นแข็ง รถหัดเดินทำให้เด็กข้ามขั้นตอนเหล่านี้ ส่งผลให้เดินช้ากว่าปกติ หรือมีท่าทางเดินผิดธรรมชาติ

ความเสี่ยงมากกว่าประโยชน์
เด็กที่อยู่ในรถหัดเดินสามารถเคลื่อนไปยังพื้นที่อันตราย เช่น บันได เตาไฟ หรือของมีคม ได้เร็วกว่าที่ผู้ปกครองจะหยุดได้

ทางเลือกที่ดีกว่า
แพทย์ส่วนใหญ่แนะนำให้ใช้ playpen คอกกั้นเด็ก หรือของเล่นที่ช่วยผลัก (push toys) แทน เพราะช่วยฝึกกล้ามเนื้อและสมดุลได้อย่างปลอดภัยมากกว่า

ดังนั้น หากถามว่ารถหัดเดินจำเป็นไหม คำตอบจากแพทย์คือ ไม่จำเป็น และไม่ควรใช้เป็นประจำค่ะ

 

รถวงกลมหัดเดิน กี่เดือน


สำหรับคนที่จำเป็นต้องใช้ อาจสงสัยว่ารถหัดเดินใช้ตอนกี่เดือนจึงจะเหมาะสม โดยทั่วไปรถวงกลมหัดเดินถูกออกแบบมาสำหรับเด็กที่สามารถนั่งเองได้แล้ว และมีแรงขาพอที่จะยันพื้นได้ ซึ่งมักจะอยู่ในช่วง 6–12 เดือน บางรุ่นอาจระบุว่าสามารถใช้ได้ถึง 15 เดือน แต่ไม่ควรเกินกว่านั้นค่ะ

หากจำเป็นต้องใช้รถวงกลมหัดเดิน ควรอยู่ในการดูแลของผู้ปกครองตลอดการใช้งาน ควรใช้ช่วงสั้น ๆ เท่านั้น ไม่ควรใช้ต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง และเลิกใช้ทันทีเมื่อเด็กเริ่มพยายามเดินเอง เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุ หรือพัฒนาการเดินผิดท่า นอกจากนี้ สิ่งสำคัญคือคุณพ่อคุณแม่ควรเข้าใจพัฒนาการแต่ละช่วงวัยของลูกน้อย เช่น เด็กคลานกี่เดือน เด็กเดินได้กี่เดือน เพื่อจะได้ส่งเสริมพัฒนาการได้เหมาะสม 

 

รถหัดเดินเด็ก อันตราย จริงหรือ


ข้อมูลจากโรงพยาบาลเด็กทั่วประเทศในสหรัฐอเมริกา (Nationwide Children's Hospital) ระบุว่า ในแต่ละปียังคงมีเด็กหลายพันคนได้รับบาดเจ็บจากรถหัดเดินจนต้องเข้ารับการรักษาในห้องฉุกเฉิน อันตรายส่วนใหญ่เกิดจากความสามารถในการเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วของรถหัดเดิน ซึ่งเร็วถึง 1 เมตรต่อวินาที ทำให้ผู้ปกครองไม่สามารถเข้าช่วยเหลือได้ทันท่วงที โดยความเสี่ยงที่พบได้บ่อย คือ

  • ตกบันได เป็นอุบัติเหตุอันดับหนึ่งที่ทำให้เด็กบาดเจ็บรุนแรงถึงขั้นกะโหลกศีรษะแตก
  • ชนของแข็ง เด็กที่เคลื่อนที่เร็วอาจชนเฟอร์นิเจอร์หรือกำแพงจนบาดเจ็บ
  • เข้าถึงของอันตราย เด็กสามารถดึงหม้อร้อน สายไฟ หรือของมีคมได้ง่ายขึ้น
  • เสี่ยงไฟไหม้/น้ำร้อนลวก เด็กในรถหัดเดินสามารถเอื้อมถึงโต๊ะที่มีอาหารร้อนหรือเตารีด
  • อุบัติเหตุจมน้ำ มีรายงานว่าเด็กบางคนขับรถหัดเดินไปยังอ่างน้ำหรือสระน้ำ

 

รถหัดเดิน ข้อเสีย และข้อดีที่ควรรู้


เพื่อการตัดสินใจที่รอบด้าน เรามาเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียของรถหัดเดินแบบวงกลมกันอย่างชัดเจนกันค่ะ 

ข้อเสียรถหัดเดิน

  • เสี่ยงต่ออุบัติเหตุรุนแรง ทั้งลูกล้มหัวฟาดพื้น การตกบันได แผลไฟไหม้ การเข้าถึงสารพิษ และการจมน้ำ
  • พัฒนาการล่าช้า อาจทำให้เด็กเดินได้ช้ากว่าเด็กที่ไม่ได้ใช้รถหัดเดิน เพราะไม่ได้ฝึกฝนการทรงตัวและสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อที่จำเป็น
  • ส่งเสริมการเดินผิดลักษณะ การใช้ปลายเท้าจิกพื้นอาจนำไปสู่ปัญหาการเดินเขย่งในระยะยาว
  • จำกัดการเรียนรู้ การคลานและการสำรวจสิ่งต่าง ๆ บนพื้นด้วยตัวเอง เป็นการเรียนรู้ที่สำคัญเกี่ยวกับพื้นผิว ระยะทาง และการแก้ปัญหา ซึ่งเด็กในรถหัดเดินจะพลาดโอกาสนี้ไป
  • ให้ความรู้สึกปลอดภัยแบบผิดๆ ทำให้ผู้ปกครองอาจชะล่าใจและละสายตาจากเด็ก เพราะคิดว่าลูกอยู่ในที่ที่ปลอดภัยแล้ว

ข้อดี (ที่จริงแล้วไม่เชิงจัดว่าเป็นข้อดี)

  • ให้ความบันเทิงกับเด็ก เพราะของเล่นที่ติดมากับรถหัดเดินสามารถดึงดูดความสนใจของเด็กได้
  • ช่วยให้ผู้ปกครองมีเวลาว่างชั่วคราว สามารถวางเด็กลงในรถหัดเดินเพื่อทำกิจกรรมอื่นได้สักครู่

จะเห็นได้ว่าข้อดีที่มีอยู่นั้นเป็นเพียงความสะดวกสบายชั่วคราว ซึ่งสามารถทดแทนได้ด้วยวิธีอื่นที่ปลอดภัยกว่า ในขณะที่ข้อเสียนั้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อความปลอดภัยและพัฒนาการของลูกน้อยในระยะยาว จึงควรพิจารณาข้อเสียให้มากกว่าข้อดีก่อนตัดสินใจใช้รถหัดเดิน

 

รถหัดเดินแบบไหนปลอดภัย


หากจำเป็นต้องใช้รถหัดเดินควรควรเลือกแบบที่ปลอดภัยที่สุด และใช้เพียงชั่วคราวเท่านั้น โดยพิจารณาเลือกรถหัดเดินที่ปลอดภัยได้จาก

  • มีระบบเบรกอัตโนมัติ เมื่อเจอพื้นที่ลาดหรือบันได
  • ฐานกว้าง เพื่อลดการพลิกคว่ำ
  • ปรับความสูงได้ ให้เด็กวางเท้าราบพอดี
  • วัสดุแข็งแรง ไม่มีขอบคม
  • ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยสากล
  • ใช้เฉพาะบนพื้นเรียบในห้องที่ปลอดภัย และต้องมีผู้ใหญ่เฝ้าใกล้ชิดเสมอ

 

คำแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ฝึกลูกน้อยวัยหัดเดินยังไงดี


วิธีที่ดีที่สุดในการส่งเสริมพัฒนาการการเดินของลูกคือการปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ และจัดสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัยให้ลูกได้ฝึกฝนอย่างเต็มที่ โดยคำแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ในการฝึกลูกน้อยวัยหัดเดิน ทำได้ดังนี้

  • Tummy Time คือจุดเริ่มต้นที่ดี โดยการให้ลูกนอนคว่ำตั้งแต่ยังเล็ก เป็นการสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อคอ หลัง และแขน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของการเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ
  • ปล่อยให้คลานอย่างอิสระ เพราะการคลานช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่และเล็ก การทำงานประสานกันของมือและสายตา อย่ารีบเร่งให้ลูกข้ามขั้นตอนนี้ไป
  • จัดพื้นที่ปลอดภัยให้ลูก เมื่อลูกเริ่มเกาะยืนและเกาะเดิน ควรจัดบ้านให้ปลอดภัย เก็บของมีคม สารเคมี ปิดปลั๊กไฟ และติดตั้งที่กั้นบันได เพื่อให้ลูกได้สำรวจอย่างอิสระโดยไม่ต้องกังวล
  • ให้ลูกได้เดินเท้าเปล่า เพราะการเดินเท้าเปล่าในบ้านช่วยให้กล้ามเนื้อเท้าและข้อเท้าแข็งแรง และยังช่วยให้เด็กรับรู้สัมผัสจากพื้นผิวที่แตกต่างกัน ซึ่งดีต่อการทรงตัว
  • ใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นตัวช่วย จัดวางเฟอร์นิเจอร์ที่มั่นคงให้ลูกได้ใช้เกาะและค่อย ๆ ก้าวเดินไปรอบ ๆ ห้อง
  • ให้กำลังใจ ไม่ใช่กดดัน เพราะเด็กแต่ละคนมีพัฒนาการเร็วช้าต่างกัน การให้กำลังใจและคำชมเชยจะสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ของลูก

ช่วงหัดเดินของลูกน้อยอาจมีอุบัติเหตุเล็ก ๆ เกิดขึ้นได้บ้าง เช่น ลูกหกล้ม ลูกหัวโน คุณพ่อคุณแม่ไม่ต้องกังวลไปค่ะ ควรดูแลอย่างใกล้ชิดและช่วยเหลือเท่าที่จำเป็น รวมทั้งระมัดระวังสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัยอย่างที่กล่าวไปก็เพียงพอแล้ว

 

เลือกโภชนาการที่มี MFGM เพื่อ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่า


นอกจากการดูแลสุขอนามัย สุขภาพโดยรวม และเฝ้าสังเกตพัฒนาการของของลูกน้อยว่าเหมาะสมตามวัยแล้วหรือไม่แล้ว การดูแลด้านโภชนาการตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกของชีวิตนั้น ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญให้กับชีวิตของลูก จะช่วยให้ลูกพร้อมเติบโตมาเป็นเด็กที่ทั้งฉลาดทางความคิดและฉลาดทางอารมณ์ และทักษะ EF 

โดยโภชนาการที่สำคัญที่ลูกน้อยควรได้รับก็คือนมแม่ เพราะในนมแม่ที่มี MFGM สุดยอดสารอาหารในนมแม่ ประกอบด้วยไขมันและโปรตีนกว่า 150 ชนิด รวมทั้งสฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิค แกงกลิโอไซด์ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการสมองของลูกน้อย และยัง เป็นสารอาหารชนิดเดียวที่ช่วยให้ลูกมี 10 ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน

โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น 

 

ไขข้อข้องใจเรื่อง รถหัดเดิน กับ Enfa Smart Club


เด็ก 4 เดือน นั่งรถหัดเดินได้ไหม

ไม่แนะนำให้เด็ก 4 เดือน นั่งรถหัดเดินค่ะ เพราะเด็กวัยนี้ยังไม่สามารถนั่งตัวตรงเองได้ กล้ามเนื้อคอและหลังยังไม่แข็งแรงพอ หากใช้เร็วเกินไปอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อกระดูกสันหลังหรือสะโพก และเพิ่มความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ แพทย์มักแนะนำให้รอจนกว่าลูกสามารถนั่งเองได้อย่างมั่นคงก่อน

 

เด็ก 5 เดือน นั่งรถหัดเดินได้ไหม

แม้เด็ก 5 เดือน บางคนอาจเริ่มนั่งได้บ้าง แต่ยังไม่แข็งแรงพอที่จะนั่งในรถหัดเดิน การใช้เร็วเกินไปอาจทำให้ร่างกายรับน้ำหนักไม่ถูกต้อง ส่งผลต่อพัฒนาการเดินในอนาคต ช่วงวัยนี้ควรให้ลูกฝึกกล้ามเนื้อด้วยการนอนคว่ำ คลาน หรือเล่นบนพื้น มากกว่าการใช้อุปกรณ์ที่มีล้อเคลื่อนที่

 

เด็ก 6 เดือน นั่งรถหัดเดินได้ไหม

เด็ก 6 เดือนขึ้นไปส่วนใหญ่เริ่มนั่งเองได้มั่นคงและขาแตะพื้น จึงเป็นช่วงที่ผู้ผลิตรถหัดเดินหลายรายระบุว่าสามารถใช้งานได้ อย่างไรก็ตาม แพทย์และกุมารเวชมักไม่แนะนำ เพราะแม้ใช้ได้ก็ยังมีความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุ เช่น การตกบันไดหรือการเข้าถึงสิ่งอันตราย จึงควรพิจารณาอย่างระมัดระวัง

 

เก้าอี้หัดเดินจําเป็นไหม เก้าอี้หัดเดินใช้ตอนกี่เดือน

เก้าอี้หัดเดินหรือรถวงกลมหัดเดิน ไม่ใช่อุปกรณ์จำเป็นต่อพัฒนาการของลูก เพราะไม่ได้ช่วยให้เดินเร็วขึ้น และอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้ หากจะใช้จริง ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วง 6–12 เดือนเมื่อเด็กนั่งได้แล้ว แต่ควรใช้เวลาไม่นานและต้องมีผู้ใหญ่ดูแลใกล้ชิดเสมอ ทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าคือการให้ลูกเล่นบนพื้นหรือใช้ของเล่นผลักแทนค่ะ

 


บทความแนะนำสำหรับคุณแม่

เด็กคว่ำกี่เดือน
ทารกนั่งได้ตอนกี่เดือน
เด็กคลานตอนกี่เดือน
เด็กตั้งไข่กี่เดือน

 

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama