Enfa สรุปให้
เล็บข่วนหน้าลูกควรล้างแผลเบา ๆ ซับให้แห้ง แล้วทาด้วยครีมที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก เช่น วาสลีน หากแผลลึกหรือมีอาการติดเชื้อควรพาไปพบแพทย์
เล็บข่วนหน้าสามารถใช้วาสลีนหรือปิโตรเลียมเจลลี่บาง ๆ บนรอยข่วนเล็กน้อยเพื่อช่วยสมานผิว หลีกเลี่ยงการใช้ยาหรือสารที่ไม่เหมาะกับเด็กเล็ก
ลูก 1 ขวบ ชอบดึงผมตัวเอง ส่วนใหญ่เป็นพฤติกรรมตามวัยเพื่อปลอบใจหรือสำรวจร่างกาย แต่หากดึงแรงจนผมร่วงหรือศีรษะเป็นแผล ควรเบี่ยงเบนความสนใจและปรึกษาแพทย์หากจำเป็น
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ผิวของทารกและเด็กเล็กมีความบอบบางมากกว่าผู้ใหญ่หลายเท่า ทำให้บางครั้งคุณพ่อคุณแม่ต้องเจอกับเหตุการณ์เล็บข่วนหน้าลูกที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ หลายครอบครัวจึงสงสัยว่า เล็บข่วนหน้าใช้อะไรทาดีถึงจะปลอดภัยและเหมาะสม โดยไม่ทำให้เสี่ยงติดเชื้อหรือเกิดรอยแผลเป็นในอนาคต
นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การข่วนหน้า ขยี้ตา หรืออาการที่ลูก 1 ขวบ ชอบดึงผมตัวเอง ซึ่งมักเชื่อมโยงกับพัฒนาการตามวัย คุณพ่อคุณแม่จึงควรทำความเข้าใจว่าเป็นเรื่องปกติหรือสัญญาณที่ต้องใส่ใจค่ะ
เมื่อเกิดรอยเล็บข่วนหน้าขึ้นแล้ว สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติและดูแลแผลตามขั้นตอนอย่างใจเย็น การดูแลที่ถูกต้องไม่เพียงแต่จะช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น แต่ยังลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและป้องกันการเกิดแผลเป็นได้อีกด้วยค่ะ สำหรับรอยแผลเล็บข่วนหน้าลูกใช้อะไรทา มีคำแนะนำดังนี้
รอยถลอกเล็กน้อย
แผลลึกหรือมีเลือดออก
ทั้งนี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรใช้ยาที่ไม่ได้รับการรับรองทางการแพทย์กับผิวเด็ก เนื่องจากอาจก่อให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง และห้ามใช้แอลกอฮอล์ ทิงเจอร์ไอโอดีน หรือยาฆ่าเชื้อที่มีฤทธิ์รุนแรงกับผิวทารกโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้แสบร้อน ระคายเคือง และทำลายเนื้อเยื่อที่กำลังจะซ่อมแซมตัวเองได้ค่ะ
พฤติกรรมนี้เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น
ดังนั้น การข่วนหน้าจึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติเสมอไป แต่พ่อแม่ควรเฝ้าสังเกตเพื่อป้องกันการเกิดบาดแผล และดูแลบาดแผลอย่างเหมาะสมค่ะ
การป้องกันย่อมดีกว่าการรักษาเสมอ เมื่อพบว่าลูกข่วนหน้าตัวเองมีวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยลดโอกาสการเกิดรอยข่วนบนใบหน้าลูกน้อยได้ ดังนี้
ลูกชอบขยี้ตาขยี้จมูกเป็นพฤติกรรมที่พบได้บ่อยในทารก ซึ่งส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องปกติและเป็นสัญญาณสื่อสารบางอย่าง คือ
ทั้งนี้ หากลูกขยี้ตาบ่อยผิดปกติร่วมกับมีอาการตาแดง น้ำตาไหลเยอะ มีขี้ตาแฉะ อาจเป็นสัญญาณของเยื่อบุตาอักเสบหรือการติดเชื้อ หรือหากขยี้จมูกบ่อย ๆ ร่วมกับมีน้ำมูกใส ๆ จามบ่อย อาจเป็นสัญญาณของโรคภูมิแพ้ ซึ่งควรปรึกษาแพทย์เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องค่ะ
เมื่อลูกโตขึ้นเข้าสู่วัยใกล้ 1 ขวบ อาจมีพฤติกรรมใหม่ ๆ ที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ประหลาดใจ เช่น การดึงผมตัวเอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งพฤติกรรมที่เชื่อมโยงกับการเรียนรู้และการแสดงออกของเจ้าตัวน้อย ซึ่งการที่ลูก 1 ขวบ ชอบดึงผมตัวเอง อาจมีสาเหตุดังนี้
การดึงผมตัวเองอาจทำให้พ่อแม่กังวล แต่การดึงผมคนอื่นโดยเฉพาะคุณแม่เป็นพฤติกรรมที่พบบ่อยและถือเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการตามวัยค่ะ โดยเด็กวัยนี้กำลังเรียนรู้เรื่องเหตุและผล เช่น ถ้าดึงสิ่งนี้จากศีรษะแม่ จะเกิดอะไรขึ้น เรียกว่านี่คือการทดลองของนักวิทยาศาสตร์ตัวน้อย พวกเขาจะเรียนรู้ว่าการกระทำของเขาส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาตอบกลับจากคุณแม่ได้
นอกจากนี้ยังหมายถึงพัฒนาการฝึกการใช้มือและการคว้าจับ ซึ่งเป็นการฝึกฝนทักษะการใช้กล้ามเนื้อมัดเล็กในการกำและดึง
เมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ คุณแม่ควรตอบสนองอย่างใจเย็นแต่หนักแน่น พูดว่า "เจ็บนะลูก" แล้วค่อย ๆ แกะมือลูกออก พร้อมกับยื่นของเล่นหรือสิ่งอื่นที่สามารถดึงหรือจับได้ให้แทน เป็นการเบี่ยงเบนความสนใจและสอนให้รู้ว่าพฤติกรรมใดทำได้และไม่ได้ค่ะ
พฤติกรรมทั้งหมดที่กล่าวมา ไม่ว่าจะเป็นการข่วนหน้า ขยี้ตา หรือดึงผม เป็นการสื่อสารเบื้องต้นก่อนที่เด็กจะใช้คำพูดได้ พ่อแม่ควรสังเกตภาษากายเหล่านี้เพื่อเข้าใจความต้องการของลูก โดยเฉพาะในช่วงที่ลูกงอแงไม่ยอมนอนและทำพฤติกรรมซ้ำ ๆ เช่น ขยี้ตา ดึงผม หรือข่วนหน้า อาจเป็นสัญญาณของความง่วงหรือความไม่สบายตัวนั่นเอง ซึ่งการทำความเข้าใจพฤติกรรมเหล่านี้ในบริบทของพัฒนาการจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ลดความวิตกกังวลและตอบสนองต่อความต้องการของลูกได้อย่างเหมาะสมด้วยเช่นกันค่ะ
นอกจากการดูแลสุขอนามัย สุขภาพโดยรวม และเฝ้าสังเกตพัฒนาการของของลูกน้อยว่าเหมาะสมตามวัยแล้วหรือไม่แล้ว การดูแลด้านโภชนาการตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกของชีวิตนั้น ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญให้กับชีวิตของลูก จะช่วยให้ลูกพร้อมเติบโตมาเป็นเด็กที่ทั้งฉลาดทางความคิดและฉลาดทางอารมณ์ และทักษะ EF
โดยโภชนาการที่สำคัญที่ลูกน้อยควรได้รับก็คือนมแม่ เพราะในนมแม่ที่มี MFGM สุดยอดสารอาหารในนมแม่ ประกอบด้วยไขมันและโปรตีนกว่า 150 ชนิด รวมทั้งสฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิค แกงกลิโอไซด์ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการสมองของลูกน้อย และยัง เป็นสารอาหารชนิดเดียวที่ช่วยให้ลูกมี 10 ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน
โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น
เป็นพฤติกรรมที่พบได้ในวัยแรกเกิด เนื่องจากยังควบคุมการเคลื่อนไหวมือไม่ได้ดี อาจเผลอไปดึงหรือกำผมตัวเองโดยไม่ตั้งใจ มักไม่ใช่สัญญาณผิดปกติ เพียงเฝ้าสังเกตไม่ให้ทำแรงจนเป็นแผลก็เพียงพอค่ะ
เมื่อเข้าสู่ 2 เดือน เด็กเริ่มขยับแขนขาและมือได้มากขึ้น การดึงผมอาจเกิดจากการสำรวจร่างกายและสิ่งรอบตัว ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของพัฒนาการ ไม่ควรดุ แต่ควรดูแลไม่ให้ผมพันนิ้วหรือตึงเกินไปค่ะ
ในวัย 3 เดือน ทารกเริ่มตื่นตัวกับสัมผัสมากขึ้น การดึงผมเป็นการทดลองความรู้สึกของร่างกายและช่วยปลอบประโลมตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ควรเบี่ยงเบนความสนใจด้วยของเล่นนุ่ม ๆ และตัดเล็บลูกให้สั้นเพื่อความปลอดภัย
อายุ 9 เดือน เด็กเริ่มมีการเคลื่อนไหวและการใช้มือที่คล่องขึ้น การดึงผมอาจเป็นทั้งการเล่น การระบายอารมณ์ หรือแสดงออกเมื่อหงุดหงิด หากไม่ได้ทำบ่อยจนผมร่วงหรือเจ็บศีรษะ ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ปกติค่ะ
เมื่อครบ 1 ขวบ การดึงผมมักเป็นพฤติกรรมปลอบใจตนเอง (self-soothing) หรือทำตอนง่วงและเบื่อ แม้โดยทั่วไปจะไม่อันตราย แต่ถ้าดึงแรงจนผมหลุดมากหรือทำบ่อยจนเป็นแผล ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อประเมินเพิ่มเติมค่ะ
Enfa สรุปให้ เล็บข่วนหน้าลูกควรล้างแผลเบา ๆ ซับให้แห้ง แล้วทาด้วยครีมที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก เช่น ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ทารกควรใส่หมวกเฉพาะเมื่อออกกลางแจ้งหรืออยู่ในอากาศเย็น จนถึงอายุประมาณ 6 เดือน แต่...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เสียงโคลิค คือเสียงที่ออกแบบมาเพื่อช่วยปลอบทารกที่มีอาการโคลิค โดยเลียนแบบเสียงธรรม...
อ่านต่อ