มารู้จัก Simon Says เกมสนุกสร้างทักษะสมอง EF ให้ลูกรัก

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• Simon Says คืออะไร
• Simon Says แปลว่าอะไร
• เกม Simon Say เล่นยังไง
• เกม Simon Says เหมาะกับเด็กอายุเท่าไหร่
• เกม Simon Says ช่วยเสริมทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ของลูกน้อยอย่างไร
• เลือกโภชนาการที่มี MFGM เพื่อ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่า
  

ในยุคที่ของเล่นและสื่อดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตเด็กมากมาย แต่เกมง่าย ๆ อย่าง Simon Says ยังคงได้รับความนิยมจากครูและผู้ปกครองทั่วโลก เพราะนอกจากจะสร้างความสนุกสนานแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมองของเด็กในหลายมิติ โดยเฉพาะทักษะสมอง Executive Function (EF) ซึ่งเป็นทักษะที่ช่วยให้เด็กคิดเป็น ทำเป็น และอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในบทความนี้ Enfa จะพาคุณพ่อคุณแม่ไปรู้จักเกม Simon Says กันค่ะ ซึ่งเกมนี้ไม่ต้องใช้อุปกรณ์มากมาย เพียงอาศัยเสียงพูด การฟัง และการทำตามคำสั่งเท่านั้น

Simon Says คืออะไร

Simon Says คือ เกมสำหรับเด็ก สุดคลาสสิกที่ได้รับความนิยมทั่วโลก เป็นเกมที่เล่นง่าย ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ เพียงแค่ใช้คำสั่งเสียงและการทำท่าทางตามเท่านั้น หัวใจหลักของเกมนี้คือการฝึกให้ผู้เล่น "ฟังอย่างตั้งใจ" และ "ควบคุมตัวเอง" ให้ทำตามคำสั่งก็ต่อเมื่อมีวลีนำหน้าว่า "Simon Says" เท่านั้น หากคำสั่งนั้นไม่มีวลีดังกล่าว ผู้เล่นจะต้องอยู่นิ่ง ๆ ใครที่ทำพลาดก็จะถูกคัดออกจากเกมในรอบนั้น ๆ

เกมนี้จึงไม่ใช่แค่เกมที่เล่นเพื่อความสนุกสนาน แต่เป็นเกมฝึกสมองเด็ก ที่ทรงพลังในการฝึกฝนทักษะการฟัง การมีสมาธิจดจ่อ และที่สำคัญที่สุดคือ "การควบคุมและยับยั้งพฤติกรรมของตนเอง" (Inhibitory Control) ซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะพื้นฐานที่สำคัญที่สุดของ Executive Functions (EF) อีกด้วย

Simon Says แปลว่าอะไร

Simon Says แปลว่า “ไซมอนพูดว่า…” หรือ “ไซมอนสั่งว่า…” วลีนี้ไม่ได้เป็นเพียงคำอธิบายธรรมดา แต่เป็น “กุญแจ” ในการตัดสินใจของผู้เล่นว่า จะทำหรือไม่ทำตามคำสั่ง

เมื่อมองในเชิงพัฒนาการเด็ก คำว่า Simon says ทำให้เด็กรู้จักการฟังอย่างมีเงื่อนไข เด็กต้องคิดก่อนลงมือ ไม่ใช่ทำตามทันทีเมื่อได้ยินคำสั่ง นี่จึงเป็นการฝึก การคิดเชิงวิเคราะห์และการยับยั้งตนเอง ไปพร้อมกัน

หากผู้ปกครองอธิบายให้ลูกเข้าใจว่า การเล่นเกมนี้ไม่ใช่แค่การทำตาม แต่คือการใช้สมองคิดก่อนขยับ เด็กจะได้เรียนรู้ว่าความอดทนและการมีสติเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตจริง

เกม Simon Say เล่นยังไง

วิธีการเล่น เกม Simon Says นั้นง่ายมาก สามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับจำนวนผู้เล่นและสถานที่ได้เสมอ โดยมีขั้นตอนพื้นฐานดังนี้ค่ะ

• เลือก "ไซม่อน" โดยให้ผู้เล่นหนึ่งคนรับบทเป็น "ไซม่อน" หรือผู้ออกคำสั่ง ส่วนผู้เล่นที่เหลือจะเป็นผู้ทำตามคำสั่ง
• ไซม่อนออกคำสั่ง โดยไซม่อนจะยืนอยู่ด้านหน้าของผู้เล่นคนอื่น ๆ และเริ่มออกคำสั่งให้ทำท่าทางต่าง ๆ โดยจะมี 2 รูปแบบ คือ
  • คำสั่งที่มี "Simon Says" นำหน้า เช่น "Simon says jump up and down" หรือไซม่อนสั่งให้กระโดดขึ้นลง ในกรณีนี้ ผู้เล่นทุกคนจะต้องกระโดดขึ้นลงตามคำสั่ง
  • คำสั่งที่ไม่มี "Simon Says" นำหน้า เช่น "Clap your hands" หรือปรบมือ ในกรณีนี้ ผู้เล่นทุกคนจะต้อง "ไม่ทำอะไรเลย" และอยู่นิ่ง ๆ
• การคัดออก ผู้เล่นคนไหนที่ทำพลาด จะถูกคัดออกจากเกมในรอบนั้นๆ
  • ทำท่าทางตามคำสั่งที่ไม่มี "Simon Says" นำหน้า
  • ไม่ทำท่าทางตามคำสั่งที่มี "Simon Says" นำหน้า
• หาผู้ชนะ โดยผู้เล่นคนสุดท้ายที่ยังเหลือรอดอยู่จะเป็นผู้ชนะในรอบนั้น และมักจะได้รับหน้าที่เป็น "ไซม่อน" ในรอบถัดไป

ทั้งนี้ สามารถเพิ่มความท้าทายโดยการใช้คำสั่งที่ซับซ้อนขึ้น เช่น “Simon says jump three times and turn around” หรือเพิ่มความเร็วในการสั่ง เพื่อต้องการทดสอบสมาธิของเด็ก เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วย เช่น ผู้ปกครองสามารถใช้เกมนี้ในบ้าน เพื่อสร้างกิจกรรมที่สนุกและกระตุ้นสมอง หรือครูอนุบาลสามารถใช้เป็นกิจกรรมกลุ่ม เพื่อฝึกเด็กเรื่องสมาธิ ความสามัคคี และการควบคุมตนเอง

เกม Simon Says เหมาะกับเด็กอายุเท่าไหร่

เกม Simon Says เป็นเกมพัฒนา EF ที่มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับระดับความยากง่ายให้เหมาะสมกับเด็กในแต่ละช่วงวัยได้เป็นอย่างดี ดังนี้

• วัยเตรียมอนุบาล (3-4 ปี) ในวัยนี้ เด็ก ๆ กำลังเริ่มพัฒนาทักษะการควบคุมตนเองและความจำเพื่อใช้งาน คุณพ่อคุณแม่ควรใช้คำสั่งง่าย ๆ แบบขั้นตอนเดียว เช่น "Simon says touch your toes" หรือ "Simon says make a happy face" โดยเน้นที่การมีส่วนร่วมและความสนุกสนานมากกว่าการแพ้ชนะ
• วัยอนุบาล (5-6 ปี) เด็กในวัยนี้จะเข้าใจกติกาที่ซับซ้อนขึ้นได้แล้ว สามารถเพิ่มความท้าทายด้วยคำสั่ง 2 ขั้นตอน เช่น "Simon says pat your head and rub your tummy" หรือออกคำสั่งเร็วขึ้นเพื่อฝึกสมาธิและการประมวลผลที่ไวขึ้น
• วัยประถมต้น (7 ปีขึ้นไป) สามารถเพิ่มความซับซ้อนของเกมได้สูงสุด เช่น การใช้คำสั่งที่ต้องใช้การคิดวิเคราะห์เล็กน้อย หรือคำสั่งที่ต่อเนื่องกันหลายๆ ท่าทางเพื่อท้าทายความจำของเด็ก ๆ

จะเห็นได้ว่า เกม Simon Says เป็นเกมที่เล่นได้ในหลายช่วงวัย โดยสามารถใช้เป็นไอเดียเกมเด็กอนุบาล ได้ ทั้งยังสามารถใช้เป็นกิจกรรมได้จนถึงวัยประถมศึกษา   

เกม Simon Says ช่วยเสริมทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ของลูกน้อยอย่างไร

Executive Function (EF) คือความสามารถของสมองส่วนหน้าที่ช่วยให้เราคิด วางแผน ควบคุมตนเอง และแก้ปัญหาได้อย่างมีระบบ ซึ่งนักวิจัยยืนยันว่า EF ที่แข็งแรงตั้งแต่วัยเด็กมีความสัมพันธ์กับผลการเรียน ความสามารถทางสังคม และแม้กระทั่งโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตเมื่อโตขึ้น

Simon Says จึงเป็นหนึ่งในกิจกรรมพัฒนา EF ที่นักการศึกษาทั่วโลกแนะนำ เพราะช่วยพัฒนา EF ได้หลายด้าน คือ

• การยับยั้งควบคุม (Inhibitory Control)
  เด็กต้องห้ามใจไม่ทำตามคำสั่งที่ไม่มี “Simon says” ซึ่งเป็นการฝึก “เบรกสมอง” ให้ไม่ตอบสนองทันทีตามสิ่งที่ได้ยิน
• ความจำเพื่อการทำงาน (Working Memory)
  เด็กต้องจำว่า “คำสั่งเมื่อกี้มี Simon says หรือไม่” รวมถึงการจำคำสั่งหลายขั้นตอนในเกมที่ซับซ้อนขึ้น
• การปรับตัวและความยืดหยุ่นทางความคิด (Cognitive Flexibility)
  เด็กได้เรียนรู้ว่ากฎสามารถเปลี่ยนได้ ต้องปรับตัวตามสถานการณ์ เช่น จากคำสั่งง่าย ๆ ไปสู่คำสั่งที่ซับซ้อน
• สมาธิและการจดจ่อ (Attention)
  เด็กต้องตั้งใจฟังทุกคำ เพราะความแตกต่างเพียงคำเดียวระหว่าง “Simon says” กับ “ไม่ Simon says” สามารถตัดสินผลลัพธ์ได้
• การมีวินัยในตนเองและการเข้าสังคม (Self-regulation & Social skills)
  เด็กเรียนรู้การปฏิบัติตามกฎ รอคิว และเคารพผู้อื่นในเกม สิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อการปรับตัวในโรงเรียนและสังคมจริง

จะเห็นได้ว่าเกมที่มีกฎการเล่นและใช้การยับยั้งพฤติกรรม เช่น Simon Says มีผลโดยตรงต่อการเสริม EF ในเด็กปฐมวัย และสามารถนำไปใช้เป็นกิจกรรมประจำชั้นเรียนได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วยค่ะ

เลือกโภชนาการที่มี MFGM เพื่อ IQ และทักษะสมองเพื่อความสำเร็จ EF ที่เหนือกว่า

นอกจากการดูแลสุขอนามัย สุขภาพโดยรวม และเฝ้าสังเกตพัฒนาการของของลูกน้อยว่าเหมาะสมตามวัยแล้ว การดูแลด้านโภชนาการตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกของชีวิตนั้น ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญให้กับชีวิตของลูก จะช่วยพัฒนาทักษะ EF ให้ลูกพร้อมเติบโตมาเป็นเด็กที่ทั้งฉลาดทางความคิดและฉลาดทางอารมณ์อีกด้วย

โดยโภชนาการที่สำคัญที่ลูกน้อยควรได้รับก็คือนมแม่ เพราะในนมแม่มี MFGM สุดยอดสารอาหารในนมแม่ ประกอบด้วยไขมันและโปรตีนกว่า 150 ชนิด รวมทั้งสฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซด์ มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างพัฒนาการสมองของลูกน้อย และยังเป็นสารอาหารชนิดเดียวที่ช่วยให้ลูกมี IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ปีแรก