
Enfa สรุปให้:
ปกติแพทย์จะไม่แนะนำให้ผ่าคลอด เพราะการผ่าคลอดครั้งหนึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์และการคลอดในครั้งต่อไป เช่น เสี่ยงที่แผลจะติดเชื้อ เสี่ยงต่อภาวะรกเกาะต่ำ เป็นต้น
แม่ที่เคยผ่าคลอดมาแล้ว อาจสามารถทำการผ่าคลอดได้อีกในการคลอดครั้งต่อไป ถ้าหากว่าแพทย์ประเมินดูแล้วว่าไม่มีภาวะแทรกซ้อนใดที่ต้องเป็นกังวล
แม่ที่เคยผ่าคลอดมาก่อนหน้า สามารถที่จะคลอดธรรมชาติได้ในการคลอดครั้งต่อไป โดยไม่จำเป็นต้องผ่าคลอดซ้ำสอง แต่ก็ขึ้นอยู่กับว่าคุณแม่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพหรือไม่

เลือกอ่านตามหัวข้อ
การคลอดที่ดีที่สุด คือการคลอดโดยธรรมชาติ เพราะจากผลการศึกษาและผลการวิจัยจากหลายสำนักเห็นตรงกันว่า เด็กที่คลอดธรรมชาติจะได้รับจุลินทรีย์สุขภาพจากช่องคลอดของแม่ ทำให้เด็กเกิดมาแข็งแรง ลดโอกาสเป็นภูมิแพ้
อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่คุณแม่ทุกคนที่สามารถคลอดธรรมชาติได้ อาจมีสาเหตุบางประการที่ทำให้สุดท้ายแล้วคุณแม่ต้องทำการผ่าคลอด อาจเป็นไปตามความต้องการของแม่เอง หรือมีเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องผ่าคลอดฉุกเฉินเพื่อรักษาชีวิตของแม่และเด็กให้ปลอดภัย
แต่...เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า แม่ที่ผ่าคลอด หากท้องครั้งต่อไปยังสามารถผ่าคลอดได้อีกไหม แล้วการผ่าคลอดในครั้งต่อ ๆ ไป จะเป็นอันตรายกับคุณแม่หรือเปล่า
การผ่าคลอดเป็นการคลอดโดยใช้การผ่าตัด ซึ่งแม้จะเป็นวิธีที่แพทย์สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ดี แต่ก็มี ความเสี่ยงมากกว่าการคลอดธรรมชาติ ทั้งต่อสุขภาพของคุณแม่และลูก เนื่องจากทารกไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพจากทางช่องคลอดของแม่ ซึ่งมีผลต่อการพัฒนา Gut Microbiome รวมถึงคุณแม่ต้องให้ความสำคัญกับการดูแลตัวเองหลังผ่าคลอดมากกว่าการคลอดตามธรรมชาติ เพราะมีโอกาสติดเชื้อจากแผลผ่าตัด และต้องใช้เวลาฟื้นตัวนานกว่า
แม้จะไม่มีตัวเลขที่ระบุชัดเจนว่า ผ่าคลอดได้กี่ครั้ง เพราะต้องขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย การฟื้นตัวของแผล และประวัติสุขภาพ แต่โดยทั่วไปแพทย์มัก ไม่แนะนำให้ผ่าคลอดเกิน 3 ครั้ง เพื่อลดความเสี่ยงจากพังผืด แผลมดลูกสมานไม่ดี หรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป
คุณแม่ทราบหรือไม่ว่า การผ่าคลอด (C-Section) คือ การผ่าตัดโดยนำทารกออกมาผ่าทางหน้าท้อง จึงทำให้ทารกไม่ได้รับจุลินทรีย์สุขภาพ (Gut Microbiome) จากบริเวณช่องคลอดของแม่ ซึ่งทำให้เด็กผ่าคลอดอาจมีพัฒนาการภูมิคุ้มกันแรกเกิด และสุขภาพลำไส้ช้ากว่าเด็กที่คลอดแบบธรรมชาติ ส่งผลให้มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น
Cs-Biome หรือ Commensal Microbiome
คือ ดีเอ็นเอของกลุ่มจุลินทรีย์ชนิดดีที่อยู่รวมกัน เช่นบิฟิโดแบคทีเรียม (Bifidobacterium) และ แลคโตบาซิลลัส (Lactobacillus) ที่พบในน้ำนมแม่ มีส่วนช่วยทำให้ผนังลำไส้แข็งแรง พัฒนาระบบทางเดินอาหาร ทำให้ลูกขับถ่ายดี เสริมสร้างภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง นอกจากนี้ MFGM และ DHA ในนมแม่ยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างพัฒนาการสมองในช่วงเริ่มต้นของชีวิต
เด็กผ่าคลอดอาจไม่ได้รับจุลินทรีย์ชนิดดี (Gut-Microbiome) เท่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ จึงอาจทำให้มีภูมิคุ้มกันน้อยกว่า และแข็งแรงไม่เท่าเด็กที่คลอดธรรมชาติ คุณแม่จึงต้องเสริมพัฒนาการเด็กผ่าคลอดด้วย 2'FL และ MFGM สารที่มีงานวิจัยรองรับว่าช่วยให้เด็กมี IQ และ EF ที่เหนือกว่า ช่วยเสริมสร้างให้เขามี Commensal Microbiome ที่ดี เพื่อให้เด็กผ่าคลอดมีดีครบ 3 สมองดี ภูมิคุ้มกันดี สุขภาพลำไส้ดี
ผ่าคลอดมีลูกได้มากสุดกี่คน คำตอบขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล เพราะต้องพิจารณาจากสภาพร่างกาย แผลผ่าตัดเดิม และภาวะแทรกซ้อนที่อาจยังคงอยู่ แม้แพทย์มัก ไม่แนะนำให้ผ่าคลอดมากกว่า 2 ครั้ง แต่หากผ่านการตรวจและพบว่าไม่มีความเสี่ยง คุณแม่อาจสามารถตั้งครรภ์ลูกคนที่ 3 หรือ 4 ได้ ภายใต้การดูแลใกล้ชิดจากแพทย์
หากตั้งครรภ์หลังผ่าคลอดเพียง 2 เดือน ถือว่า มีความเสี่ยงสูง เนื่องจากแผลผ่าตัดและมดลูกยังฟื้นตัวไม่สมบูรณ์ อาจส่งผลต่อภาวะแทรกซ้อนทั้งแม่และลูก จึงควรรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการประเมิน
ผ่าคลอดมีลูกได้อีกเมื่อไหร่นั้น โดยทั่วไปแพทย์แนะนำให้เว้นระยะ อย่างน้อย 2 ปี ก่อนตั้งครรภ์ครั้งถัดไป เพื่อให้แผลทั้งภายนอกและภายในฟื้นสมบูรณ์ เพราะบางรายอาจยังมีอาการเจ็บหรือระบมจากการผ่าคลอดบล็อกหลังและการตั้งครรภ์เร็วเกินไปอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อแผลมดลูก รวมถึงความปลอดภัยระหว่างคลอด
ผ่าคลอดควรเว้นกี่ปี ตามคำแนะนำเชิงความปลอดภัยคือเว้นระยะ 2 ปีขึ้นไป เพื่อให้แผลผ่าตัดทั้งผิวหนังและมดลูกฟื้นตัวเต็มที่ รวมถึงสภาพร่างกายโดยรวมทั้งเลือด ฮอร์โมน และสภาพจิตใจพร้อมสำหรับการตั้งครรภ์ครั้งใหม่
ท้องแรกผ่า ท้องสองคลอดเองได้ไหม ในหลายกรณี สามารถคลอดธรรมชาติได้ หากมดลูกฟื้นตัวดี ไม่มีพังผืดหรือความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการคลอด เช่น รกเกาะต่ำ หรือแผลผ่าตัดเดิมมีลักษณะไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม การพิจารณาจะต้องอยู่ในการประเมินของแพทย์เสมอ
เมื่อจำนวนครั้งของการผ่าคลอดเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงด้านสุขภาพก็เพิ่มขึ้นตาม เช่น
นอกจากนี้ ความเสี่ยงป่วยหลังผ่าตัดอาจทำให้หลายคนกังวลเรื่องผ่าคลอดนอนรพ.กี่วัน ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนแต่ละราย
ข้อจำกัดหลักคือความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากการผ่าตัดซ้ำ เช่น พังผืด การสมานเนื้อเยื่อผิดปกติ หรือความเสี่ยงเกี่ยวกับรก ทำให้ในบางรายอาจไม่สามารถตั้งครรภ์ได้อีกอย่างปลอดภัย
หากคุณแม่มีความตั้งใจอยากมีลูกหลายคน แม้เคยผ่านการผ่าคลอดมาแล้ว สิ่งสำคัญคือการวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนร่วมกับแพทย์เพื่อรักษาความปลอดภัยทั้งต่อแม่และลูกในทุกครั้งของการตั้งครรภ์ โดยควรเริ่มจากการปรึกษาคุณหมอเพื่อประเมินสภาพร่างกาย โครงสร้างมดลูก และความพร้อมของแผลผ่าตัดเดิม พร้อมกับการติดตามภาวะแทรกซ้อนที่อาจคงอยู่หลังการผ่าคลอด ก่อนจะพิจารณาว่าสามารถตั้งครรภ์ครั้งต่อไปได้อย่างปลอดภัยหรือไม่
คุณแม่อาจเตรียมตัวผ่านรูปแบบง่าย ๆ เช่น
การตัดสินใจมีลูกหลายคนหลังผ่าคลอดจึงเป็นเรื่องที่ควรไตร่ตรองอย่างรอบด้าน รวมถึงต้องพร้อมรับคำแนะนำทางการแพทย์ เพื่อให้ทุกการตั้งครรภ์และการคลอดเป็นไปอย่างปลอดภัยที่สุดค่ะ
สามารถเป็นไปได้ในบางราย แต่ต้องขึ้นอยู่กับ สภาพร่างกาย แผลผ่าตัดเดิม ความแข็งแรงของมดลูก และประวัติภาวะแทรกซ้อน ในการตั้งครรภ์ครั้งก่อน ๆ ซึ่งหมายความว่าแม้จะไม่ใช่ข้อห้ามเด็ดขาด แต่ก็ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เพราะแพทย์โดยทั่วไป ไม่แนะนำให้ผ่าคลอดเกิน 2–3 ครั้ง เนื่องจากความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นทุกครั้ง เช่น พังผืด มดลูกแตก หรือภาวะรกเกาะแน่นและรกเกาะต่ำ ดังนั้นก่อนตัดสินใจ ต้องได้รับการประเมินโดยแพทย์ทุกครั้งค่ะ เพื่อประเมินทั้งความปลอดภัยและความพร้อมของคุณแม่
แม้อาจฟังดูเสี่ยง แต่ มีโอกาสเป็นไปได้ในบางกรณีเป็นรายบุคคล โดยต้องขึ้นอยู่กับผลตรวจร่างกายอย่างละเอียด และไม่มีภาวะเสี่ยงหรือภาวะแทรกซ้อนจากการผ่าคลอดครั้งก่อน ซึ่งหมายความว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถผ่าคลอดได้ถึง 4 ครั้ง แม้ในทางทฤษฎีจะเป็นไปได้ เพราะการผ่าคลอดหลายครั้ง เพิ่มความเสี่ยงอย่างมาก และแพทย์มัก ไม่แนะนำให้ผ่าคลอดมากกว่า 2 ครั้ง โดยหากคุณแม่มีความตั้งใจอยากมีลูกหลายคน ต้องอยู่ภายใต้การดูแลอย่างใกล้ชิดของแพทย์ตลอดการตั้งครรภ์ และต้องมีการติดตามสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ
ไม่สามารถกำหนดเป็นตัวเลขตายตัวได้ค่ะ เพราะต้องขึ้นกับ ลักษณะแผล การสมานของเนื้อเยื่อ ภาวะแทรกซ้อน และมดลูกหลังผ่าตัด ดังนั้นแม้อาจสามารถตั้งครรภ์ใหม่ได้ แต่ต้องได้รับการประเมินอย่างละเอียดโดยแพทย์ก่อนทุกครั้ง เนื่องจากการผ่าคลอดแนวตั้งเป็นชนิดที่มักต้องติดตามอย่างใกล้ชิดมากกว่าแบบแนวขวาง เพราะถือว่ามีความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนมากกว่า จึงจำเป็นต้องวางแผนและปรึกษาแพทย์อย่างรอบคอบก่อนตั้งครรภ์ทุกครั้ง
โครงการบัตรทอง หรือสิทธิบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค ครอบคลุมการผ่าคลอดเมื่อเป็นเหตุผลทางการแพทย์หรือจำเป็นทางคลินิก เช่น ภาวะเสี่ยงแม่–ลูก ภาวะรกผิดปกติ ทารกไม่กลับท่า ฯลฯ โดยไม่ได้กำหนดจำนวนครั้งตายตัวว่าผ่าคลอดได้กี่ครั้ง แต่ขึ้นกับการวินิจฉัยของแพทย์แต่ละครั้ง ซึ่งหมายถึงจะไม่พิจารณาจากเหตุผลด้านความสะดวก ความต้องการส่วนบุคคล หรือการเลือกกำหนดวันเวลาเอง หากไม่ได้เป็นความจำเป็นทางการแพทย์ค่ะ
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ผ่าคลอด
Enfa สรุปให้ ผ่าคลอดกินอะไรได้บ้าง คุณแม่ผ่าคลอดควรกินอาหารให้หลากหลาย มีประโยชน์ เพื่อให้ร่างกา...
อ่านต่อ
พยากรณ์โดยการะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ (การะเกต์พยากรณ์) ฤกษ์ผ่าคลอดเดือนกุมภาพันธ์ 2569 แนะนำวัน...
อ่านต่อ
พยากรณ์โดยการะเกต์ ศรีปริญญาศิลป์ (การะเกต์พยากรณ์) ฤกษ์ผ่าคลอดเดือนพฤษภาคม 2569 แนะนำวันที่...
อ่านต่อ