นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

น้ำคาวปลาผ่าคลอดกี่วันหมด น้ำคาวปลาผ่าคลอดแบบไหนผิดปกติ

Enfa สรุปให้

  • น้ำคาวปลาผ่าคลอดกี่วันหมด โดยทั่วไปน้ำคาวปลาผ่าคลอดจะหมดภายใน 4–6 สัปดาห์ แต่บางรายอาจนานถึง 8 สัปดาห์ และหากนานกว่านั้นควรพบแพทย์

  • ผ่าคลอดน้ำคาวปลากี่วันหมด ปกติแล้วน้ำคาวปลาผ่าคลอดจะมีระยะเวลาหมดใกล้เคียงกับการคลอดธรรมชาติ แต่ปริมาณน้ำคาวปลาผ่าคลอดมักน้อยกว่า เพราะแพทย์ช่วยทำความสะอาดโพรงมดลูกขณะผ่าคลอดแล้ว

  • วิธีสังเกตน้ำคาวปลาผ่าคลอด คือ ส่วนใหญ่ค่อย ๆ ลดลงตามลำดับ ดังนี้ สีแดง สีน้ำตาล สีเหลืองขาว และจะหมดไปในช่วงไม่เกิน 6–8 สัปดาห์

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

หลังจากคลอดลูก ร่างกายคุณแม่จะต้องเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูครั้งใหญ่ ไม่ว่าจะคลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอด โดยการคลอดทั้งสองแบบมีสิ่งที่เหมือนกันคือ “น้ำคาวปลา” หลังคลอด ซึ่งเป็นเลือดและสารคัดหลั่งจากโพรงมดลูกที่ถูกขับออกมาและรอเวลาให้มดลูกกลับคืนสู่สภาพเดิม

ทั้งนี้ คุณแม่หลายคนโดยเฉพาะคุณแม่ผ่าคลอดอาจสงสัยว่า น้ำคาวปลาผ่าคลอดกี่วันหมด หรือน้ำคาวปลาผ่าคลอดมีความต่างจากการคลอดธรรมชาติหรือไม่ บทความนี้ Enfa จะพาคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทำความเข้าใจเรื่องนี้กันค่ะ


 

น้ำคาวปลาผ่าคลอดกี่วันหมด


น้ำคาวปลาผ่าคลอดกี่วันหมด เป็นคำถามที่คุณแม่ผ่าคลอดมักสงสัย เพราะการผ่าคลอดแม้ว่าคุณหมอจะทำความสะอาดมดลูกไปให้บ้างแล้ว ทำให้หลังผ่าคลอดมีน้ำคาวปลาไม่มาก และโดยทั่วไปผ่าคลอดน้ำคาวปลาจะค่อย ๆ ลดลงและหมดไปในภายใน 4-6 สัปดาห์ และบางรายอาจนานถึง 8 สัปดาห์ ซึ่งถือว่ายังอยู่ในเกณฑ์ปกติค่ะ

ทั้งนี้ คุณแม่ผ่าคลอดอาจสังเกตระยะเวลาที่น้ำคาวปลามีการเปลี่ยนแปลง ดังนี้

  • ช่วงแรก (1–7 วันแรก) จะมีสีแดงสด เนื่องจากยังมีเลือดไหลออกมามาก
  • ช่วงกลาง (สัปดาห์ที่ 2–3) สีเริ่มจางลงเป็นชมพูหรือน้ำตาล ปริมาณลดลง
  • ช่วงท้าย (สัปดาห์ที่ 4–6) เปลี่ยนเป็นสีเหลืองอ่อนหรือขาวใส คล้ายตกขาว และค่อย ๆ หายไป

การสังเกตลักษณะของน้ำคาวปลาเป็นสิ่งสำคัญทั้งกับคุณแม่ผ่าคลอดและคุณแม่คลอดธรรมชาติ เพราะนอกจากทำให้รู้ว่าน้ำคาวปลาผ่าคลอดกี่วันหมดแล้ว ยังช่วยให้คุณแม่เข้าใจว่าอยู่ในระยะใดของการฟื้นตัว และสามารถแยกความผิดปกติได้ทันท่วงที

 

น้ำคาวปลาหลังผ่าคลอดกับคลอดธรรมชาติ ต่างกันหรือไม่


แม้ว่าหลังคลอดทั้งการคลอดธรรมชาติ และการผ่าคลอดจะมีน้ำคาวปลาคล้ายกัน แต่มีความต่างกันอยู่บ้าง โดยคุณแม่สามารถสังเกตความต่างของน้ำคาวปลาหลังผ่าคลอดกับคลอดธรรมชาติได้ ดังนี้

  • ปริมาณ หลังผ่าคลอดมักมีปริมาณน้อยกว่าการคลอดธรรมชาติ เนื่องจากแพทย์จะช่วยทำความสะอาดโพรงมดลูกระหว่างการผ่าคลอด
  • ระยะเวลา โดยทั่วไประยะเวลาการหมดของน้ำคาวปลาทั้งสองแบบไม่ต่างกันมาก อยู่ที่ประมาณ 4–6 สัปดาห์
  • ความรู้สึกของคุณแม่ การผ่าคลอดอาจทำให้เจ็บแผลหน้าท้องมากกว่าการคลอดทางช่องคลอด จึงทำให้บางครั้งคุณแม่รู้สึกกังวลหรือไม่มั่นใจเมื่อต้องเผชิญกับน้ำคาวปลาที่ออกมา แม้ในความจริงแล้วจะเป็นอาการปกติของร่างกาย

 

ผ่าคลอดกินยาขับน้ำคาวปลาได้มั้ย


ปัจจุบันยังไม่มีหลักฐานทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าการกินยาหรือสมุนไพรขับน้ำคาวปลาจะช่วยให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้นได้อย่างปลอดภัย เพราะโดยปกติแล้วน้ำคาวปลาเป็นกลไกตามธรรมชาติของร่างกาย จึงควรปล่อยให้ค่อย ๆ หมดไปเองโดยไม่ต้องใช้ตัวช่วย ทั้งนี้ สิ่งที่คุณแม่ทุกคนควรทำแทนการใช้ยาขับน้ำคาวปลาผ่าคลอด คือ

  • พักผ่อนให้เพียงพอ
  • ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยให้ร่างกายสมดุล
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ เน้นโปรตีนและผักผลไม้
  • หลีกเลี่ยงการออกแรงหนักเกินไป โดยเฉพาะในช่วง 6 สัปดาห์แรกหลังผ่าคลอด

ทั้งนี้ หากคุณแม่ผ่าคลอดมีความกังวลเรื่องน้ำคาวปลาไหลนานหรือผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยาหรือสมุนไพรทุกชนิด เพราะอาจมีผลกระทบต่อสุขภาพแม่และการให้นมลูกค่ะ

 

น้ำคาวปลาหลังผ่าคลอดลักษณะต่อไปนี้ผิดปกติ ควรไปพบแพทย์ทันที


การสังเกตลักษณะของน้ำคาวปลาหลังผ่าคลอดเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้คุณแม่รู้ว่าร่างกายกำลังฟื้นตัวตามปกติหรือไม่ โดยการสังเกตตนเองดังกล่าว หากคุณแม่พบสัญญาณผิดปกติดังต่อไปนี้ ควรรีบไปพบแพทย์โดยทันที

  • มีเลือดสดสีแดงไหลออกมาในปริมาณมาก หลังจากผ่าน 4-5 วันแรกไปแล้ว น้ำคาวปลาควรมีสีจางลง หากกลับมามีสีแดงสดอีกครั้ง หรือต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกชั่วโมง ติดต่อกันเกิน 2 ชั่วโมง ถือเป็นสัญญาณอันตรายของภาวะตกเลือด
  • มีลิ่มเลือดขนาดใหญ่ การมีลิ่มเลือดขนาดเล็กในช่วงแรกถือเป็นเรื่องปกติ แต่หากพบลิ่มเลือดขนาดใหญ่กว่าลูกกอล์ฟหรือไข่ไก่ ควรไปพบแพทย์ทันที
  • น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นรุนแรง ปกติน้ำคาวปลาจะมีกลิ่นคาวเลือดคล้ายประจำเดือน แต่หากมีกลิ่นเหม็นเน่าหรือกลิ่นคาวปลาที่รุนแรงผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในโพรงมดลูก
  • มีไข้สูงเกิน 38 องศาเซลเซียสและหนาวสั่น หากมีไข้ร่วมกับอาการปวดท้องน้อย อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อในโพรงมดลูกหรือแผลผ่าตัด
  • ปวดท้องน้อยรุนแรง อาการปวดมดลูกบีบตัว (ปวดมดลูกเข้าอู่) เป็นเรื่องปกติ แต่หากมีอาการปวดท้องน้อยรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ หรือกดเจ็บมากผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์
  • น้ำคาวปลาไม่ไหลเลย ในบางกรณีที่พบได้น้อยมาก หากไม่มีน้ำคาวปลาไหลออกมาเลยในช่วงสัปดาห์แรก อาจเป็นสัญญาณว่ามีสิ่งกีดขวางทางออกของปากมดลูก ซึ่งต้องให้แพทย์ตรวจวินิจฉัย

 

เด็กผ่าคลอด เริ่มต้นดีต้องมีดีครบ 3: สมองดี ภูมิคุ้มกันดี สุขภาพลำไส้ดี


การดูแลให้ลูกน้อยเด็กผ่าคลอดมีพัฒนาการที่สมบูรณ์และแข็งแรง โดยเฉพาะในช่วง 1,000 วันแรกของชีวิต ซึ่งเป็นโอกาสสำคัญในการวางรากฐานสุขภาพและพัฒนาการในระยะยาวของลูกน้อย โดยเด็กผ่าคลอดอาจมีจุดเริ่มต้นที่แตกต่างจากเด็กที่คลอดตามธรรมชาติเล็กน้อยในบางด้าน ดังนั้นการใส่ใจใน 3 องค์ประกอบหลักจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม คือ

  1. สมองดี โดยพัฒนาการทางสมองของลูกน้อยเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงขวบปีแรก สารอาหารสำคัญอย่าง DHA จึงมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างเซลล์สมองและจอประสาทตา ซึ่งแหล่ง DHA ที่ดีที่สุดสำหรับทารกคือนมแม่
  2. ภูมิคุ้มกันดี เพราะเด็กที่คลอดโดยวิธีธรรมชาติจะได้รับจุลินทรีย์ดีจากช่องคลอดของแม่ ในทางกลับกัน เด็กผ่าคลอดจะไม่ได้รับจุลินทรีย์กลุ่มนี้ ทำให้ระบบนิเวศในลำไส้อาจแตกต่างออกไปในช่วงแรกเกิด นมแม่จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมาก เพราะในน้ำนมแม่ โดยเฉพาะน้ำนมเหลือง (Colostrum) อุดมไปด้วยสารภูมิคุ้มกันและพรีไบโอติกส์ ซึ่งเป็นอาหารของจุลินทรีย์ดีในลำไส้
  3. สุขภาพลำไส้ดี เพราะสุขภาพของลำไส้มีความเชื่อมโยงโดยตรงกับระบบภูมิคุ้มกัน นมสำหรับเด็กผ่าคลอด ที่ดีที่สุดจึงเป็นนมแม่ที่มีทั้งพรีไบโอติกส์และโพรไบโอติกส์ จะช่วยส่งเสริมให้ระบบทางเดินอาหารทำงานได้ดี ลดปัญหาท้องผูก ท้องเสีย และลดความเสี่ยงของการเกิดโรคภูมิแพ้ในอนาคตได้

 

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama