
Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
เมื่อใกล้กำหนดคลอด คุณแม่หลาย ๆ คนก็เริ่มวางแผนลาคลอดกันแล้ว เพื่อที่จะได้เตรียมพร้อมสำหรับการคลอดที่กำลังจะมาถึง แต่ก่อนที่คุณแม่จะไปยื่นใบลาคลอดนั้น มาเช็กกันดูสิว่า คุณแม่มีสิทธิลาคลอดอะไรที่ควรรู้บ้าง
ใกล้กำหนดคลอดแล้ว คุณแม่รู้หรือยังว่าคนท้องสามารถลาคลอดได้กี่วัน? ตามกฎหมายลาคลอดบุตรได้กี่วันนะ? ตามกฎหมายนั้น ปัจจุบันคุณแม่สามารถที่จะลาคลอดได้นานถึง 98 วันค่ะ
โดยในระยะเวลา 98 วันของการลาคลอดนี้ จะนับรวมการลาเพื่อไปตรวจครรภ์ก่อนคลอดบุตรด้วย โดยแบ่งเป็นลาคลอดบุตร 90 วัน และลาเพื่อไปตรวจครรภ์อีก 8 วัน รวมเป็น 98 วัน
ปัจจุบันคุณแม่สามารถลาคลอดได้ 98 วัน โดยคุณแม่สามารถใช้สิทธิลาคลอดได้ตั้งแต่ก่อนคลอดหรือจะเริ่มใช้สิทธิ์ลาเอาหลังคลอดก็ได้ แต่ไม่ว่าจะลาก่อนคลอด หรือหลังคลอด ก็จะต้องอยู่ในกรอบระยะเวลารวมกันแล้วไม่เกิน 98 วัน
ส่วนการนับลาคลอดนั้น จะเป็นการนับรวมวันหยุดเข้าไปด้วย แม้ว่าวันหยุดนั้นจะเป็นวันหยุดปกติที่คุณแม่มีสิทธิ์จะหยุดอยู่แล้วโดยไม่ต้องลาก็ตาม แต่หลักการนี้ไม่ถูกนำมารวมเข้ากับการลาคลอดค่ะ
ดังนั้น ถ้าลาคลอด 98 วัน ก็จะนับเริ่มตั้งแต่วันแรกที่จะใช้สิทธิ์ลาคลอด นับยาวไปรัว ๆ แบบรวดเดียวจนครบ 98 วันเลยค่ะ
ส่วนองค์กรไหนที่อนุญาตให้ลาคลอดได้นานกว่านั้น คุณแม่ก็อาจจะต้องดูข้อกำหนดและรายละเอียดต่าง ๆ ตามนโยบายขององค์กรอีกทีนะคะ
สิทธิ์พื้นฐานในการลาคลอดของคุณแม่แต่ละคนนั้นโดยรวมแล้วก็จะไม่แตกต่างกันมากนัก แต่จะมีรายละเอียดปลีกย่อยอื่น ๆ ที่แตกต่างกันไปตามสังกัดหน่วยงานที่ทำงานอยู่ ดังนี้
สำหรับคุณแม่ที่ทำงานในสังกัดของเอกชนนั้น:
คุณแม่สามารถลาคลอดได้ 98 วัน โดยไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์
คุณแม่จะได้รับค่าจ้างจากนายจ้าง 45 วัน ในอัตรา 100% ของค่าจ้าง และสำนักงานประกันสังคมจ่ายเพิ่มให้อีก 50% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 45 วัน
คุณแม่สามารถที่จะเบิกจ่ายค่าคลอดบุตรได้ 15,000 บาทต่อครั้ง
คุณแม่มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร โดยประกันสังคมจะเหมาจ่ายในอัตราร้อยละ 50 ของค่าจ้าง เฉลี่ยเป็นระยะเวลา 90 วัน
คุณแม่มีสิทธิ์รับเงินสงเคราะห์บุตร โดยประกันสังคมจะเหมาจ่ายเดือนละ 400 บาท จนกระทั่งบุตรอายุถึง 6 ปี
คุณแม่ที่ทำงานในหน่วยงานของรัฐวิสาหกิจนั้น:
สามารถเบิกเงินช่วยเหลือการคลอดบุตรได้ครั้งละ 400 บาท
สามารถเบิกเงินช่วยเหลือบุตร 50 บาท ต่อคนต่อเดือน
สามารถลากิจเพื่อเลี้ยงดูบุตรได้ไม่เกิน 30 วันทำการ (แต่จะไม่ได้รับเงินเดือน)
คุณแม่รับราชการในหน่วยงานต่าง ๆ:
สามารถลาคลอดได้ 98 วัน โดยไม่ต้องใช้ใบรับรองแพทย์
ได้รับเงินเดือนตามปกติ และสามารถลาเพิ่มได้อีกไม่เกิน 90 วัน โดยได้รับเงินเดือนในอัตรา 50%
สามารถทำการเบิกเงินช่วยเหลือการคลอดบุตรได้ครั้งละ 400 บาท
ได้รับเงินสวัสดิการสำหรับบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย เดือนละ 50 บาทต่อคน โดยเงินช่วยเหลือบุตรนี้ จะได้ไม่เกิน 3 คน และได้ต่อเนื่องจนอายุ 18 ปีบริบูรณ์
สำหรับคุณแม่ที่ประกอบอาชีพอิสระ สามารถรับสิทธิ์จากบัตรประกันสุขภาพถ้วนหน้าหรือบัตรทอง ซึ่งสามารถฝากครรภ์ และรับบริการในสร้างภูมิคุ้มกันให้กับเด็กได้ฟรี และเสียค่าใช้จ่าย 30 บาท สำหรับการตรวจครรภ์และการคลอดบุตร (ไม่เกิน 2 ครั้ง)
แต่ถ้าคุณแม่ประกอบอาชีพอิสระ และสมัครใจเข้าจ่ายประกันสังคม คุณแม่มีสิทธิที่จะได้รับเงินช่วยเหลือคลอดบุตรและเงินสงเคราะห์บุตรได้
ลาคลอดได้ตั้งแต่วันไหน ขึ้นอยู่กับนโยบายขององค์กร และความสะดวกของคุณแม่ค่ะ บางองค์กรอาจจะไม่ได้เข้มงวดในเรื่องของวันลา แต่บางองค์กรก็อาจจะอนุญาตให้ลาคลอดได้ก่อนกำหนดคลอดไม่นาน หรือให้ลาคลอดได้หลังจากคลอดลูกแล้วเท่านั้น
แต่สิ่งสำคัญคือคุณแม่สามารถลาคลอดบุตรได้ 98 วันตามกฎหมาย หากได้น้อยกว่านี้ ถือว่าองค์กรกระทำผิดต่อหลักกฎหมาย สามารถร้องเรียนต่อกรมแรงงาน หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
รูปแบบการลาคลอดของแต่ละองค์กรนั้นอาจจะเหมือนหรือแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับองค์กร
แต่โดยทั่วไปแล้วก็จะต้องมีการทำหนังสือลาระบุรายละเอียดการลา หรือบางองค์กรก็จะมีแบบฟอร์มการลาให้ระบุรายละเอียดต่าง ๆ
ส่วนหลักฐานกำหนดการคลอด หรือใบรับรองแพทย์นั้น ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละองค์กรว่าต้องใช้เป็นเอกสารประกอบการลาคลอดหรือไม่ แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่จำเป็นต้องใช้ค่ะ
ตามกฎหมายใหม่ คุณแม่สามารถลาคลอดได้ 98 วัน โดยจะได้รับค่าจ้างจากนายจ้าง 45 วัน ในอัตรา 100% ของค่าจ้าง และสำนักงานประกันสังคมจ่ายเพิ่มให้อีก 50% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 45 วัน
หากยังเป็นพนักงานที่รับเงินเดือนตามปกติ และยังไม่มีการลาออก ยังจำเป็นต้องจ่ายประกันสังคมตามปกติค่ะ โดยประกันสังคมก็จะหักจากเงินเดือนตามปกติ
สำหรับผู้ชายที่เป็นพนักงานราชการ สามารถที่จะใช้สิทธิ์ลาคลอดได้ 15 วัน แต่ใน 15 วันที่ลานั้นจะต้องไม่ใช่การลาติดต่อกัน
ส่วนพนักงานเอกชนชาย กฎหมายลาคลอดยังไม่มีการบังคับใช้กับภาคเอกชน ดังนั้น สวัสดิการลาคลอดของผู้ชายจึงขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละองค์กร ว่าองค์กรใดมีสวัสดิการในส่วนนี้สำหรับพนักงานชายที่ประสงค์จะลาคลอดเพื่อดูแลภรรยาและบุตรหรือไม่
หลังลาคลอดแล้วตัดสินใจลาออก หากคุณแม่ไปขึ้นทะเบียนผู้ประกันตนกรณีว่างงานกับสำนักงานประกันสังคม หรือผ่านเว็บไซต์ของกรมการจัดหางาน ก็จะสามารถได้รับเงินชดเชยว่างงานตามปกติค่ะ
จริง ๆ แล้วไม่มีรูปแบบการลาคลอดที่ตายตัวค่ะ ขึ้นอยู่กับความสะดวกของแม่แต่ละคนเป็นหลัก บางคนอาจจะสะดวกลาคลอดก่อนกำหนดคลอด 1 เดือน เพื่อจะได้มีเวลาพักผ่อนมากขึ้นก่อนคลอด
บางคนอาจจะลาคลอดก่อนกำหนดคลอด 1 สัปดาห์ หรือก่อนกำหนดคลอดเพียงไม่กี่วัน
นโยบายของแต่ละบริษัทในการปรับขึ้นเงินเดือนพนักงานนั้นแตกต่างกันไปค่ะ หากบริษัทมีการพิจารณาจากความรู้ความสามารถ และผลงานที่ผ่านมา แม้ว่าจะลาคลอดอยู่ คุณแม่ก็ยังสามารถจะได้รับการขึ้นเงินเดือนได้
ตามกฎหมายใหม่ คุณแม่สามารถลาคลอดได้ 98 วัน โดยจะได้รับค่าจ้างจากนายจ้าง 45 วัน ในอัตรา 100% ของค่าจ้าง และสำนักงานประกันสังคมจ่ายเพิ่มให้อีก 50% ของค่าจ้าง เป็นเวลา 45 วัน
หากคุณแม่ยังไม่ลาออก และยังเป็นพนักงานรับเงินเดือนอยู่ ก็ยังจะต้องเสียเงินส่งประกันสังคมทุกเดือนตามปกติค่ะ
ตามกฎหมายใหม่ข้าราชการชายสามารถที่จะลาคลอดได้ 15 วัน แต่ใน 15 วันที่ลานั้นจะต้องไม่ใช่การลาติดต่อกัน
ถ้าลาคลอดแล้วบุตรเสียชีวิตในครรภ์หรือระหว่างคลอด แม่จะยังใช้สิทธิ์ลาคลอดได้อยู่ไหม?
จริง ๆ แล้วก็ขึ้นอยู่กับนโยบายการลาคลอดของแต่ละองค์กร แต่ส่วนมากแล้วแม้ว่าบุตรจะเสียชีวิตในครรภ์หรือเสียชีวิตหลังคลอด แม้ว่าจะยังไม่ครบวันลา 98 วันก็ตาม แม่ยังสามารถใช้สิทธิ์ลาคลอดต่อไปจนครบวันลาได้ตามปกติ หรือหากสภาพจิตใจและสุขภาพฟื้นฟูดีแล้ว และไม่ประสงค์จะใช้วันลาต่อ ก็สามารถกลับมาทำงานตามปกติได้เช่นกัน
Enfa สรุปให้ ของใช้เด็กแรกเกิดเป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรจะเริ่มเตรียมเอาไว้ตั้งแต่เ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ตามกฎหมายล่าสุดแม่ท้องทุกคนที่มีประกันสังคมและจ่ายครบตามกำหนด สามารถเบิกค่าฝากครรภ์...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ปัจจุบันคุณแม่สามารถที่จะลาคลอดได้นานถึง 98 วันค่ะ ซึ่งในระยะเวลา 98 ...
อ่านต่อ