ให้นมลูกย้อมผมได้ไหม ปลอดภัยต่อลูกน้อยแค่ไหน

เลือกอ่านตามหัวข้อ

• คลอดลูกกี่เดือนย้อมผมได้
• ให้นมลูกย้อมผมได้ไหม
• ให้นมลูกยืดผมได้ไหม
• ให้นมลูกดัดผมได้ไหม
• แม่ให้นมทำสีผม ยืดผม ดัดผม มีข้อควรระวังอะไรบ้าง
• อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อย เริ่มต้นด้วยโภชนาการผ่านคุณแม่
  

การเปลี่ยนแปลงของร่างกาย ของคุณแม่หลังคลอดไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องน้ำหนักหรือฮอร์โมนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเส้นผม เช่น ผมร่วง ผมแห้งเสีย หรือมีผมหงอก ทำให้คุณแม่หลายคนรู้สึกไม่มั่นใจในรูปลักษณ์ของตนเอง หลายคนจึงสงสัยว่า คุณแม่ให้นมลูกย้อมผมได้ไหม คลอดลูกกี่เดือนย้อมผมได้ ให้นมลูกดัดผมได้ไหม และอีกมากมายเกี่ยวกับการทำผมของคุณแม่ให้นมลูก

ในบทความนี้ Enfa จะพาไปดูคำแนะนำและข้อควรระวังกันค่ะ เพื่อให้คุณแม่มั่นใจว่าการดูแลตัวเองจะไม่กระทบต่อสุขภาพของลูกน้อย

คลอดลูกกี่เดือนย้อมผมได้

ในช่วงตั้งครรภ์ ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงขึ้นจะทำให้เส้นผมของคุณแม่แข็งแรง ดกดำ และหลุดร่วงน้อยกว่าปกติ แต่หลังจากคลอดบุตร ระดับฮอร์โมนจะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดภาวะ "ผมร่วงหลังคลอด" ซึ่งเป็นภาวะปกติที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่กว่า 50%

โดยจะเริ่มเห็นผมร่วงมากขึ้นในช่วง 3-4 เดือนหลังคลอด และจะค่อย ๆ กลับสู่ภาวะปกติภายใน 6-12 เดือน นอกจากนี้ สภาพเส้นผมและหนังศีรษะของคุณแม่หลังคลอดอาจมีการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เช่น ผมแห้งเสียมากขึ้น หรือหนังศีรษะบอบบางและแพ้ง่ายกว่าปกติ

ดังนั้น คุณแม่หลังคลอดหลายคนจึงมีข้อสงสัยว่าคลอดลูกกี่เดือนย้อมผมได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแนะนำให้คุณแม่อดใจรออย่างน้อย 3-6 เดือนหลังคลอด หรือรอจนกว่าภาวะผมร่วงจะเริ่มคงที่และลดน้อยลงเสียก่อนค่อยทำเคมีกับเส้นผม โดยมีเหตุผลคือ

• เพื่อให้เส้นผมแข็งแรงขึ้น ลดความเสี่ยงที่ผมจะขาดร่วงหรือถูกทำลายมากขึ้นจากการทำเคมี
  
• เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี เพราะสภาพเส้นผมที่เปลี่ยนแปลงไปจากฮอร์โมนอาจทำให้สีผมหรือลอนดัดที่ได้ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ
  
• ลดความเสี่ยงการแพ้ เพราะหนังศีรษะที่อาจบอบบางหลังคลอดมีความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองจากสารเคมีได้ง่ายขึ้น

ให้นมลูกย้อมผมได้ไหม

ให้นมลูกย้อมผมได้แม้ว่าสารเคมีในยาย้อมผมมีโอกาสดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้น้อยมากและไม่มีข้อมูลทางการแพทย์ที่แสดงว่าการย้อมผมของแม่จะทำให้เกิดอันตรายต่อลูกผ่านน้ำนมแม่ แต่การที่คุณแม่ให้นมลูกทำสีผมมีข้อควรระวัง ดังนี้

• ควรหลีกเลี่ยงการย้อมผมที่โคนหนังศีรษะโดยตรง และควรสวมถุงมือ
  
• ควรใช้ผลิตภัณฑ์ย้อมผมที่ไม่มีแอมโมเนีย หรือสารพาราเฟนิลีนไดอะมีน (PPD)
  
• ทำในที่ที่อากาศถ่ายเทดี เพื่อหลีกเลี่ยงการสูดดมสารเคมีสะสม
  
• ล้างผมให้สะอาดหลังย้อม และไม่อุ้มลูกขณะที่ยาย้อมผมยังติดอยู่บนผม

ให้นมลูกยืดผมได้ไหม

การยืดผมในยุคปัจจุบันมีทั้งแบบถาวรและชั่วคราว โดยใช้สารเคมีที่อาจมีฤทธิ์กัดกร่อน เช่น Sodium Hydroxide และ Thioglycolic Acid ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้ แม้สารเคมีเหล่านี้ไม่ได้ดูดซึมเข้าสู่ร่างกายจำนวนมากพอที่จะไปสู่กระแสเลือดหรือปนในน้ำนมได้ง่ายก็ตาม แต่คุณแม่ให้นมลูกยืดผมก็ควรระวัง ดังนี้

• ควรทำเฉพาะเมื่อร่างกายฟื้นตัวดีแล้ว (อย่างน้อย 2–3 เดือนหลังคลอด)
  
• หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับสารเคมีโดยตรง หรือให้ช่างทำผมมืออาชีพเป็นผู้ดูแล
• หากมีแผลหรือหนังศีรษะแพ้ง่าย ควรเลื่อนการยืดผมไปก่อน

ให้นมลูกดัดผมได้ไหม

ปกติการดัดผมใช้สารเคมีใกล้เคียงกับการยืดผม โดยมีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนโครงสร้างของเส้นผม ซึ่งอาจส่งกลิ่นแรง และเกิดการระคายเคืองได้ และแม้ไม่มีหลักฐานว่าการดัดผมขณะให้นมจะเป็นอันตรายต่อลูกโดยตรง แต่แพทย์แนะนำให้ระวังในช่วง 3 เดือนแรกหลังคลอด เพราะลูกยังต้องการการดูแลใกล้ชิด และคุณแม่อาจยังอ่อนเพลียได้ค่ะ

ทั้งนี้ หากคุณแม่ให้นมลูกดัดผมควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมอ่อนโยน หรือเป็นสูตรธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการทำพร้อมกับย้อมหรือฟอกผม และหลังดัดผม ควรอาบน้ำ ล้างผม และเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนอุ้มลูก

แม่ให้นมทำสีผม ยืดผม ดัดผม มีข้อควรระวังอะไรบ้าง

แม้ว่าคุณแม่ให้นมจะทำสีผม ยืดผม ดัดผมได้อย่างปลอดภัยก็ตาม แต่ก็มีข้อควรระวัง ดังนี้

• รอเวลาที่เหมาะสม เพื่อให้ร่างกายพักฟื้นเต็มที่ อย่างน้อย 3-6 เดือนหลังคลอด เพื่อให้สภาพเส้นผมและหนังศีรษะของคุณแม่กลับมาแข็งแรงและสมดุลมากขึ้น
• ทำการทดสอบการแพ้ (Patch Test) ก่อนการทำเคมีทุกครั้ง ควรนำผลิตภัณฑ์เล็กน้อยมาทดสอบที่บริเวณท้องแขนหรือหลังใบหู ทิ้งไว้ 24-48 ชั่วโมง เพื่อดูว่ามีอาการแพ้ แดง หรือคันหรือไม่
• เลือกร้านที่โปร่งและระบายอากาศได้ดี เพื่อลดการสูดดมไอระเหยของสารเคมี ซึ่งเป็นความเสี่ยงหลักมากกว่าการดูดซึมผ่านผิวหนัง
• บอกช่างทำผมเสมอว่าคุณกำลังให้นมบุตร เพื่อให้ช่างช่วยเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนที่สุด เช่น สูตรปราศจากแอมโมเนีย (Ammonia-free) หรือผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก
• เลือกเทคนิคที่ลดการสัมผัสหนังศีรษะโดยตรง เช่น การทำไฮไลท์ ซึ่งจะเริ่มลงสีเว้นจากโคนผม
• ดูแลหนังศีรษะให้แข็งแรง ไม่ควรสัมผัสสารเคมีหากหนังศีรษะของคุณแม่มีแผล มีผื่น หรือมีอาการระคายเคืองอยู่ก่อนแล้ว
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าช่างทำผมได้ล้างสารเคมีออกจากเส้นผมและหนังศีรษะจนสะอาดหมดจด
  ไม่ควรพาลูกน้อยเข้าไปในร้านทำผมด้วยเด็ดขาด และหลังจากทำผมเสร็จใหม่ ๆ ควรอาบน้ำสระผมและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะอุ้มหรือเข้าใกล้ลูกน้อย
• มองหาทางเลือกอื่นที่ปลอดภัย เช่น แชมพูปิดผมขาว หรือผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติอย่างเฮนน่า ซึ่งมีความปลอดภัยกว่า
  

อนาคตที่ดีที่สุดของลูกน้อย เริ่มต้นด้วยโภชนาการผ่านคุณแม่

การตั้งครรภ์เป็นช่วงเวลามหัศจรรย์ของชีวิตคุณแม่ นอกจากสัญญาณการมีชีวิตของทารกในครรภ์แล้ว สุขภาพที่ดีและการเจริญเติบโตอย่างมีพัฒนาการสมวัยยังเป็นสิ่งที่คุณแม่ควรให้ความสำคัญอย่างมาก โดยเฉพาะระหว่างตั้งครรภ์คุณแม่ควรรักษาสุขภาพให้ดี รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ได้รับโภชนาการครบถ้วน เพื่อส่งต่อสารอาหารที่ดีสู่ลูกน้อย

นอกจากนี้ ยังสามารถเสริมด้วยนมสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์และให้นมบุตร เพื่อให้ได้รับสารอาหารที่ครบถ้วนตามที่ร่างกายต้องการ ไม่ว่าจะเป็น ดีเอชเอ โฟเลต โคลีน และแคลเซียม