
Enfa สรุปให้

เลือกอ่านตามหัวข้อ
ผื่นแพ้อากาศเป็นหนึ่งในปัญหาสุขภาพที่พบได้บ่อยในเด็ก โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หรือเมื่อเจอสภาพอากาศแห้งและเย็น ซึ่งสร้างความกังวลใจคุณพ่อคุณแม่ไม่น้อย เนื่องจากอาการคันจากผื่นแพ้ส่งผลต่อสุขภาพของลูกรัก
ในบทความนี้ Enfa จะพามารู้จักกับผื่นคันแพ้อากาศ หรืออาการแพ้อากาศ ผื่นขึ้น พร้อมวิธีรับมืออย่างเหมาะสมกันค่ะ
ผื่นแพ้อากาศ (Atopic Dermatitis) หรือผื่นภูมิแพ้อากาศ เป็นผื่นที่เกิดจากการตอบสนองของผิวหนังต่อสิ่งกระตุ้นในสิ่งแวดล้อม เช่น ฝุ่น ละอองเกสรดอกไม้ หรือความเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ ซึ่งอาจกระตุ้นให้เกิดอาการผิวแห้ง คัน และมีผื่นแดง โดยเฉพาะบริเวณข้อพับ แขน ขา คอ หรือใบหน้า
ผื่นภูมิแพ้อากาศมักพบในเด็กที่มีภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจร่วมด้วย เช่น โรคหืดหรือโรคจมูกอักเสบภูมิแพ้ โดยเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ดังนี้
ลักษณะผื่นแพ้อากาศ (Atopic Dermatitis) มักมีการอักเสบของผิวหนังหลายระยะ ตั้งแต่ระยะเฉียบพลันจนถึงระยะเรื้อรัง ลักษณะที่พบได้ชัดคือเป็นผื่นตุ่มแดงคัน เป็นแผ่นแดง ลอก และเป็นขุย มีอาการคันมาก และการกระจายตามตัวจะต่างกันในแต่ละช่วงวัย
อาการผื่นคันแพ้อากาศในแต่ละช่วงวัยเป็นดังนี้
ผื่นคันแพ้อากาศของทารกมักปรากฏบนแก้มเป็นที่แรก รวมถึงบริเวณแขนและขาที่พ้นเสื้อผ้า และอาจพบบริเวณใต้ผ้าอ้อม หากผ้าอ้อมเปียกชื้นหรือใส่ไว้เป็นเวลานานทำให้ทารกระคายเคืองและเกิดเป็นผื่นผ้าอ้อมตามมา
โดยทารกที่อายุต่ำกว่า 1 ปี มักมีผื่นภูมิแพ้ผิวหนังกระจายอยู่หลายจุดทั่วร่างกาย รวมทั้งอาจมีผิวที่แห้ง แดง ลอก เป็นสะเก็ด และรอยแดงจากการข่วนตัวเอง
ผื่นคันแพ้อากาศของเด็กวัยหัดเดินและวัยก่อนเข้าเรียนอาจเริ่มปรากฏขึ้นเฉพาะส่วน ผื่นอาจเริ่มแข็ง หนา หยาบ และทำให้รู้สึกไม่สบายตัว ผื่นผิวหนังดังกล่าวมักเกิดขึ้นบริเวณข้อต่อกระดูก เช่น ข้อมือ ข้อศอก หัวเข่า ข้อเท้า รวมถึงอวัยวะเพศ
เมื่อเด็กโตขึ้น ผื่นอาจเปลี่ยนมาปรากฏบริเวณข้อพับของข้อต่อนั้น ๆ แทน ซึ่งผื่นผิวหนังจะยิ่งแห้ง หนา และแข็งขึ้นหากถูกถูหรือเกา
สำหรับเด็กวัยเรียนมักพบผื่นคันแพ้อากาศบริเวณข้อศอกและหัวเข่า รวมถึงบริเวณอื่น ๆ ที่บอบบาง เช่น เปลือกตา ใบหู ศีรษะ และช่วงคอ ซึ่งผื่นจะหนาขึ้น รวมถึงมีรอยเกาบริเวณลำคอหรือข้อพับของแขนและขา ผู้ป่วยบางรายอาจมีตุ่มพองบริเวณฝ่ามือ นิ้วมือ และเท้าร่วมด้วย
ผื่นผิวหนังที่เกิดขึ้นในช่วงวัยเรียนอาจหายได้เองเมื่อเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น แม้ผิวจะบอบบางลงก็ตาม
ลักษณะผื่นแพ้อากาศในวัยผู้ใหญ่อาจปรากฏเฉพาะส่วน เช่น มือ เปลือกตา ข้อพับ หัวนม หรือเกิดขึ้นทุกส่วนพร้อมกัน และมักเป็นผื่นแห้ง หนา และแข็งกว่าผื่นผิวหนังในเด็ก โดยเฉพาะบริเวณมือที่อาจมีตุ่มพองร่วมด้วย
ผื่นคันแพ้อากาศมักเกิดขึ้นในวัยเด็กช่วงอายุก่อน 5 ปี และอาจคงอยู่ไปเรื่อย ๆ จนเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ บางคนอาจมีอาการเรื้อรังแบบเป็น ๆ หาย ๆ หรืออาการอาจหายไปหลายปีก่อนกลับมาเป็นอีกครั้ง ทั้งนี้ ความรุนแรงของอาการจะแตกต่างกันไปตามสาเหตุ ขนาดของบริเวณที่เกิดอาการ และการเกาบริเวณที่ติดเชื้อ
เด็กแพ้อากาศสามารถสังเกตได้จากผิวหนัง เช่น มีผื่นแดงบริเวณแก้ม ข้อพับ แขน ขา ผิวแห้งและคัน โดยเฉพาะหลังอาบน้ำหรือในอากาศเย็น โดยอาการอาจกำเริบเมื่อเจอสิ่งกระตุ้น เช่น อากาศแห้ง หรือเปลี่ยนอากาศเร็ว รวมถึงการแพ้สารระคายเคือง เช่น ฝุ่น สบู่ น้ำหอม
โดยเด็กอาจเกาผิวหนังบ่อยจนเกิดรอยแผล และหากลูกเป็นภูมิแพ้คัดจมูกหรือภูมิแพ้ในระบบทางเดินหายใจ อาจพบอาการมีน้ำมูกหรืออาการคัดจมูกร่วมด้วย
ลูกเป็นภูมิแพ้อากาศทําไงดี หากทารกเป็นภูมิแพ้อากาศ หรือลูกแพ้อากาศ ผื่นขึ้น มักทำให้เกิดความไม่สบายตัว อาจมีการร้องกวน ส่งผลต่อการนอนและการใช้ชีวิตประจำวันของลูก หากปล่อยไว้ลูกอาจเกาจนผิวอักเสบได้ คุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตสาเหตุของการแพ้และแก้ไขให้เหมาะสม ดังนี้
1. บรรเทาอาการผื่น
โดยให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ทาครีมบำรุงผิวสำหรับเด็กที่แพ้ง่ายทันทีหลังอาบน้ำ เพื่อป้องกันผิวแห้ง หากผิวอักเสบมากควรปรึกษาแพทย์ เนื่องจากอาจต้องใช้ยาแก้แพ้หรือยาสเตียรอยด์
2. หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
โดยเฉพาะสบู่ที่ไม่เหมาะสมต่อผิวเด็ก หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีน้ำหอม รวมทั้งกำจัดฝุ่นละออง ขนสัตว์ ตุ๊กตา และสารระคายเคืองอื่น ๆ พร้อมทั้งให้ลูกสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี เนื้อนุ่ม ไม่ระคายเคืองผิว
3. ปรับสภาพแวดล้อม
ระวังอย่าให้บ้านชื้นและแห้งเกินไป หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนอากาศฉับพลัน เช่น อาบน้ำเสร็จแล้วออกมาเจอแอร์เย็นจัด อาจกระตุ้นอาการภูมิแพ้ได้
4. ตัดเล็บให้สั้นและรักษาความสะอาดเสมอ
สำหรับทารกอาจต้องสวมถุงมือป้องกันไม่ให้ลูกเกาผื่น เพราะหากลูกเกาผื่นอาจขึ้นมากกว่าเดิมและลุกลามมากขึ้น ทำให้ผิวหนังอักเสบมากขึ้นด้วย
5. ปรึกษาแพทย์
หากลูกแพ้อากาศ ผื่นขึ้น ไม่มีท่าทีว่าจะดีขึ้น หรือมีอาการแทรกซ้อน เช่น น้ำเหลืองซึม ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์
นอกจากนี้ ควรให้ลูกพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะหากพักผ่อนน้อย อาการจะยิ่งกำเริบได้ง่ายเนื่องจากร่างกายอ่อนเพลีย
ยาแก้แพ้อากาศของเด็ก มักใช้เพื่อลดอาการคันและบรรเทาผื่นแพ้ โดยควรใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกรเท่านั้น โดยยาภูมิแพ้อากาศเด็กมี 3 ชนิด คือ
การใช้ยาภูมิแพ้อากาศเด็กหรือผลิตภัณฑ์ลดอาการแพ้ควรเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับเด็กที่ปราศจากน้ำหอม ไม่ควรซื้อยาใช้เอง ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพื่อป้องกันการใช้ยาเกินขนาดและผลข้างเคียงที่อาจตามมา
ภูมิแพ้อากาศในเด็กสามารถลดความเสี่ยงและป้องกันอาการกำเริบได้ในระดับหนึ่ง โดยการดูแลและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม คือ
รู้หรือไม่? "กรรมพันธุ์" เป็นปัจจัยหลักที่ทำให้เกิดอาการภูมิแพ้ในเด็กเล็ก ซึ่งหากพ่อแม่ทั้งคู่มีประวัติการเป็นภูมิแพ้มาก่อน เด็กจะมีความเสี่ยงในการเป็นภูมิแพ้สูงถึง 70 - 80% เลยทีเดียว
สำหรับภูมิแพ้อากาศสามารถป้องกันได้โดยรักษาความชุ่มชื้นของผิว หลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น เช่น อากาศร้อนหรือเย็นเกินไป ฝุ่น สารเคมี น้ำหอม เป็นต้น และหลีกเลี่ยงอาหารที่แพ้ เช่น ไข่ นม ถั่ว
นอกจากนี้ คุณแม่ยังสามารถป้องกันภูมิแพ้ในเด็กได้ ดังนี้
- ให้ลูกได้กินนมแม่เพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง
- หลีกเลี่ยงสิ่งที่สามารถกระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ได้
- หากคุณแม่ไม่สามารถให้นมแม่ได้ ควรปรีกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ในกรณีที่คุณแม่น้ำนมไม่เพียงพอหรือไม่สามารถให้นมแม่ได้ ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งแพทย์มักแนะนำ* โปรตีนที่ผ่านการย่อยอย่างละเอียด (eHP) ซึ่งมีคุณสมบัติ Hypoallergenic ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ และโพรไบโอติกส์ แล็กโทบาซิลลัส รามโนซัส จีจี (LGG) เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง รวมถึงลดโอกาสในการเกิดภูมิแพ้อื่น ๆ ที่อาจตามมาในอนาคต
*แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาโรคแพ้โปรตีนนมวัว พ.ศ. 2555
Enfa สรุปให้ ลูกไอแล้วอ้วกตอนกลางคืน วิธีแก้ทำได้หลายวิธี ไม่ว่าจะเป็น การเปิดเครื่องทำความชื้น ...
อ่านต่อ
ลูกไอตอนกลางคืน ลูกไอ มีเสมหะ ตอนกลางคืน ลูกไอแห้งๆ ตอนกลางคืน ลูกไอ แล้วอ๊วก ตอนกลางคืน ลูกไอหนั...
อ่านต่อ
ลูกมีเสมหะ หายใจครืดคราด ไม่มีไข้ อันตรายไหม ลูกไอมีเสมหะ วิธีแก้ ทารกมีเสมหะ หายใจครืดคราด เกิดจ...
อ่านต่อ