นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

ลูกร้องตอนกลางคืน ไม่มีสาเหตุ พ่อแม่ควรรับมืออย่างไร

Enfa สรุปให้

  • ลูก 2 ขวบ ร้องไห้ตอนกลางคืนเพราะวัยนี้มีจินตนาการและอารมณ์เปลี่ยนแปลงมากขึ้น มักร้องไห้เพราะฝันร้าย กลัวความมืด หรือรู้สึกไม่ปลอดภัย เด็กวัยนี้ยังอยู่ในช่วง Terrible Two ทำให้มีความดื้อ ต่อต้าน และไวต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัว เช่น เสียงหรือกลิ่นรบกวน
  • ลูกร้องตอนกลางคืน ไม่มีสาเหตุ อาจเกี่ยวข้องกับพัฒนาการของสมอง ความไม่สบายตัวเล็กน้อย หรือสิ่งกระตุ้นภายนอก เช่น แสง เสียง หรือกลิ่น เด็กใช้การร้องเป็นการสื่อสารความไม่สบายใจ ซึ่งเป็นเรื่องปกติในเด็กวัยเล็ก
  • วิธีแก้ลูกร้องตอนกลางคืน ทำได้โดยสร้างกิจวัตรก่อนนอน ลดสิ่งกระตุ้นรอบตัว และให้ลูกเรียนรู้การหลับด้วยตนเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรรีบอุ้มหรือปลอบทันทีหากไม่มีอาการผิดปกติ ควรใช้ความสม่ำเสมอ ความเข้าใจ และบรรยากาศที่ทำให้ลูกอุ่นใจ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

 

เมื่อลูกน้อยตื่นร้องไห้กลางดึกแบบไม่มีสาเหตุชัดเจน หลายครอบครัวมักรู้สึกเครียด วิตกกังวล และสงสัยว่าเกิดจากอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลูกร้องบ่อยจนกระทบกับการนอนของทั้งบ้าน พฤติกรรมเช่นนี้อาจดูเหมือนไม่มีเหตุผลในสายตาผู้ใหญ่ แต่ในความเป็นจริง เด็กเล็กมีความไวต่อสิ่งแวดล้อม ความเปลี่ยนแปลง และพัฒนาการทางสมองที่ยังไม่สมบูรณ์ การร้องไห้จึงเป็นวิธีสื่อสารเดียวของพวกเขาในช่วงวัยนี้

นอกจากนี้ บางครั้งพ่อแม่อาจเข้าใจผิดว่าลูกร้องโดยไม่มีสาเหตุ ทั้งที่จริงแล้วมีปัจจัยกระตุ้นเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่เด็กไม่สามารถอธิบายได้ เช่น แสงไฟที่จ้าเกินไป กลิ่นที่ไม่คุ้นเคย หรือแม้แต่เสียงเล็กน้อยจากอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลต่อความรู้สึกของเด็กเล็กได้โดยตรง

 

ลูกร้องตอนกลางคืน ไม่มีสาเหตุ เกิดจากอะไร


ลูกร้องตอนกลางคืน ไม่มีสาเหตุ เกิดจากอะไร ต้องเข้าใจก่อนว่าเด็กแต่ละวัยมีเหตุผลที่ทำให้ร้องไห้ตอนกลางคืนแตกต่างกันออกไป โดยไม่ได้หมายความว่าเด็กมีปัญหาสุขภาพเสมอไป ซึ่งความเข้าใจในพฤติกรรมของเด็กตามช่วงวัยจะช่วยให้พ่อแม่รับมือได้ดีขึ้น โดยเฉพาะในช่วงวัย 1-3 ขวบที่มักพบปัญหานี้มากที่สุด มาดูกันว่าทารกร้องไห้ตอนกลางคืนแต่ละช่วงวัย หมายถึงอะไรบ้าง

 

ลูก 1 ขวบ ร้องไห้ตอนกลางคืน

ลูก 1 ขวบ ร้องไห้ตอนกลางคืนเพราะระบบการนอนของลูกยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ การตื่นบ่อยหรือตื่นกลางดึกจึงเป็นเรื่องปกติ พฤติกรรมนี้มักสัมพันธ์กับปัจจัยทางร่างกาย เช่น การงอกของฟันที่ทำให้ปวดหรือคันเหงือก รวมถึงความต้องการใกล้ชิดกับผู้ดูแลที่สร้างความรู้สึกปลอดภัย หากลูกหิวยามดึกหรือรู้สึกไม่สบายตัวเล็กน้อย เขาก็อาจร้องไห้เพื่อเรียกร้องความสนใจได้เช่นกัน
นอกจากนี้ เด็กวัยนี้ยังไม่สามารถแยกแยะระหว่างกลางวันกับกลางคืนได้ดีนัก บางครั้งลูกร้องไห้ตอนกลางคืน 1 ขวบ จึงอาจหมายถึงการตื่นขึ้นมาเล่นหรือร้องหาแม่แม้จะเป็นเวลากลางคืนก็ได้

 

ลูก 2 ขวบ ร้องไห้ตอนกลางคืน

เมื่อเข้าสู่วัย 2 ขวบ เด็กจะเริ่มมีจินตนาการมากขึ้น อารมณ์เปลี่ยนแปลงง่าย และเข้าสู่ช่วงที่เรียกว่า Terrible Two ซึ่งมีลักษณะของการต่อต้าน ไม่ยอมทำตามหรือร้องโยเย ลูก 2 ขวบ ร้องไห้ตอนกลางคืนเพราะอาจตื่นกลางดึกจากฝันร้าย รู้สึกกลัวความมืด หรือแค่ต้องการให้แม่มานั่งข้าง ๆ
นอกจากนี้ เด็กในวัยนี้ยังเริ่มเรียนรู้ความเป็นตัวของตัวเอง (sense of autonomy) และเมื่อถูกรบกวนจากสภาพแวดล้อม เช่น เสียงฝนตก ฟ้าร้อง หรือกลิ่นอาหารแรง ๆ ก็อาจทำให้ตื่นตกใจและร้องได้เช่นกัน

 

ลูก 3 ขวบ ร้องไห้ตอนกลางคืน

วัย 3 ขวบเป็นช่วงที่เด็กเริ่มเข้าใจสิ่งต่าง ๆ รอบตัวได้มากขึ้น แต่ก็ยังจัดการอารมณ์ตัวเองได้ไม่ดีนัก เด็กอาจเผชิญกับความเครียดจากการเริ่มเข้าโรงเรียน มีน้องใหม่ในบ้าน หรือแม้แต่เหตุการณ์ในชีวิตประจำวันที่ส่งผลต่อจิตใจโดยไม่รู้ตัว

การที่ลูก 3 ขวบ ร้องไห้ตอนกลางคืน อาจเพราะเด็กบางคนอาจเก็บความเครียดจากช่วงกลางวันไว้โดยไม่แสดงออก และแสดงออกมาในรูปแบบของการฝันร้ายหรือร้องกลางดึก การพูดคุยในเวลากลางวันเกี่ยวกับความรู้สึกจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในวัยนี้

 

วิธีแก้ลูกร้องตอนกลางคืน


วิธีแก้ลูกร้องตอนกลางคืนไม่ควรใช้วิธีห้ามหรือลงโทษ เพราะจะทำให้เด็กรู้สึกไม่ปลอดภัย วิธีที่เหมาะสมคือควรใช้ความเข้าใจ ความสม่ำเสมอ และความอดทน ดังนี้

  • สร้างกิจวัตรก่อนนอน เพราะเด็กจะรู้สึกปลอดภัยเมื่อมีลำดับกิจกรรมที่คุ้นเคยก่อนนอน เช่น อาบน้ำ ลูบหลัง อ่านนิทาน ฟังเพลงเบา ๆ ทำอย่างสม่ำเสมอทุกคืนจะช่วยให้เด็กหลับง่ายขึ้น โดยเฉพาะเมื่อทำในเวลาเดียวกันทุกวัน
  • ลดสิ่งกระตุ้นรอบตัว ปิดทีวี งดเล่นมือถือ และลดแสงสว่างอย่างน้อย 1 ชั่วโมงก่อนนอน เพื่อให้สมองหลั่งฮอร์โมนเมลาโทนินซึ่งช่วยให้ง่วง หลีกเลี่ยงเสียงรบกวน เช่น เครื่องดูดอากาศหรือเสียงโทรศัพท์
  • ปล่อยให้ลูกได้เรียนรู้การนอนเอง เมื่อลูกร้องตอนกลางคืน ลองรอสัก 1-2 นาที ไม่ต้องเข้าไปอุ้มทันที หากร้องไม่นานและไม่มีอาการผิดปกติ เด็กอาจหลับต่อเองได้ การฝึกให้เด็กหลับเองเป็นทักษะที่ต้องใช้เวลา แต่จะส่งผลดีระยะยาว
  • ให้ลูกรู้สึกปลอดภัย โดยเด็กบางคนจะรู้สึกดีขึ้นหากมีตุ๊กตาตัวโปรด ผ้าห่ม หรือสิ่งของที่ทำให้รู้สึกอบอุ่นเหมือนอยู่กับแม่ การมีสิ่งเหล่านี้ในเตียงจะช่วยลดความกลัวได้ โดยเฉพาะในเด็กที่กลัวความมืด
  • สื่อสารกับลูกในช่วงกลางวัน หากลูกร้องกลางคืนบ่อย ลองพูดคุยในช่วงกลางวันเกี่ยวกับสิ่งที่เขารู้สึก เช่น ถามว่าเมื่อคืนฝันอะไร หรือมีอะไรทำให้ไม่สบายใจ เพื่อหาสาเหตุในเชิงอารมณ์ การพูดคุยอย่างอ่อนโยนจะช่วยให้ลูกกล้าเปิดใจมากขึ้น

 

ลูกร้องไม่หยุดตอนกลางคืน อาจจากเกิดจากอาการไม่ถูกกับนม


นอกจากนี้ การที่ลูกร้องไม่หยุดตอนกลางคืน อาจจากเกิดจากอาการไม่ถูกกับนม โดยเฉพาะในเด็กที่ดื่มนมวัวหรือใช้สูตรนมผงที่มีส่วนผสมของโปรตีนจากนมวัว โดยอาการไม่ถูกกับนมที่ทำให้เด็กร้องไห้ตอนกลางคืน ได้แก่

  • ภาวะแพ้นมวัว ซึ่งมักพบในเด็กเล็ก ทำให้เกิดอาการปวดท้อง ท้องเสีย ผื่น หรือแม้แต่ร้องกวนกลางคืนโดยไม่มีสาเหตุ อาการมักแสดงออกในช่วง 1-2 ชั่วโมงหลังดื่มนม
  • การไม่ย่อยแลคโตส ทำให้ท้องอืด แน่นท้อง และร้องไห้จากความไม่สบายตัว มักเกิดขึ้นทันทีหลังดื่มนม หรือตอนกลางคืนที่นมย่อยไม่หมด

ทั้งนี้ คุณแม่สามารถสังเกตอาการเด็กร้องไห้ตอนกลางคืนที่อาจมีสาเหตุมาจากการไม่ถูกกับนมได้ ดังนี้

  • ลูกมีผื่นหรืออาการทางผิวหนังบ่อยไหม เช่น ผื่นที่แก้ม คาง หรือข้อพับ
  • ถ่ายเหลวหรือมีมูกในอุจจาระ ถ่ายบ่อยกว่าปกติ หรือมีเสียงลมในท้อง
  • มีอาการหลังดื่มนมหรืออาหารบางชนิด เช่น แหวะนมมาก ร้องไห้จุกจิก หรือไม่ยอมดูดนม

หากมีอาการเหล่านี้ควบคู่กับการร้องกลางคืน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย อาจต้องเปลี่ยนนมหรือใช้สูตรนมเฉพาะทางเพื่อป้องกันอาการแพ้ เช่น นมสูตรโปรตีนย่อยบางส่วน หรือนมโปรตีนผ่านการย่อยสมบูรณ์

 

เลือกโภชนาการที่ย่อยง่าย ถ่ายคล่อง สมองดี ผสมโปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน


การที่ลูกร้องตอนกลางคืน ไม่มีสาเหตุ อาจเกิดจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นพัฒนาการตามวัย อารมณ์ ความกลัว ฝันร้าย หรือปัญหาทางกายภาพ เช่น แพ้อาหารหรือไม่ถูกกับนม การเข้าใจพฤติกรรมของลูกแต่ละช่วงวัยคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกได้อย่างเหมาะสมและมั่นใจยิ่งขึ้น
 
ทั้งนี้ ในช่วงวัยแรกเกิด ระบบย่อยอาหารของลูกน้อยยังทำงานได้ไม่เต็มที่ เด็กมากกว่า 70% จึงมีโอกาสเกิดอาการไม่สบายท้อง เช่น ท้องผูก ท้องอืด แหวะนม และร้องกวน การเลือกโภชนาการที่ย่อยง่ายจึงเป็นกุญแจสำคัญ เพื่อช่วยให้ลูกสบายท้อง ถ่ายคล่อง และเรียนรู้ได้เต็มศักยภาพ
 
โดยเฉพาะโภชนาการที่ผสมโปรตีนที่ผ่านการย่อยบางส่วน (PHP) ซึ่งมีขนาดโมเลกุลเล็ก ย่อยง่าย ดูดซึมไว ลดการเกิดแก๊สและปัญหาขับถ่าย พร้อมทั้งเสริมด้วยเส้นใยสุขภาพอย่าง PDX และ GOS ที่ช่วยปรับสมดุลลำไส้ และสารอาหารบำรุงสมอง เช่น MFGM และ DHA เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทั้ง IQ และ EQ ของลูกน้อยอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น หากไม่สามารถให้นมแม่ได้ โภชนาการที่ย่อยง่าย ผสมโปรตีนย่อยบางส่วน และเสริมสารอาหารสำคัญ คือทางเลือกที่ช่วยให้ลูกเติบโตแข็งแรง สมองดี พร้อมเรียนรู้อย่างไม่สะดุด
 

 

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama