Enfa สรุปให้

  • อาการมโนว่าท้อง โดยมากก็มักจะเป็นการตั้งความหวังประสาคนอยากมีลูก หากการมโนว่าท้องอยู่ในขอบเขตที่พอเหมาะ เล็งเห็นความเป็นจริงและยอมรับความจริงได้ ก็ถือเป็นเรื่องปกติของคนเรา

  • แต่หากอาการมโนว่าท้องนำไปสู่การชักนำให้ร่างกายแสดงอาการบางอย่างคล้ายอาการตั้งครรภ์ออกมา โดยที่ไม่ได้มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจริง อาการแบบนี้ทางการแพทย์เรียกว่า Pseudocyesis เป็นที่รู้จักในชื่อ “ท้องหลอก” หรือ “ท้องเทียม” อาการลักษณะนี้ควรได้รับการดูแลโดยจิตแพทย์

  • หากต้องการมั่นใจว่าตั้งครรภ์แน่ๆ ควรเริ่มนับวันไข่ตกเพื่อเลือกโอกาสที่เหมาะสมในการมีเพศสัมพันธ์ และตรวจการตั้งครรภ์เมื่อประจำเดือนขาด หากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันเกิน 1 ปีแล้วยังไม่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อขอรับคำแนะนำในการใช้เทคโนโลยีช่วยมีบุตรสำหรับผู้มีบุตรยาก

    เลือกอ่านตามหัวข้อ

         • อาการมโนว่าท้อง คืออะไร
         • มโนว่าท้องได้ไง ในเมื่อร่างกายแสดงอาการคนท้องชัดเจนขนาดนี้? 
         • จะรู้ได้ยังไงว่าตั้งครรภ์แน่ๆ ไม่ได้มโนหรือกังวลไปเองว่าท้อง

    รู้จักอาการมโนว่าท้องกันไหมคะ? ก่อนจะมีลูก คุณแม่หลายคนบางคนอาจจะเคยผ่านช่วงเวลาแบบนี้มาก่อน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่คุณแม่ใจจดใจจ่อรอให้เบบี๋มา ขอแค่ประจำเดือนขาดไปวันเดียว หรือตกขาวมีลักษณะเปลี่ยนไปเล็กน้อย ก็พร้อมจะมโนว่าท้องอย่างสุดจิตสุดใจ แต่พอใช้ที่ตรวจครรภ์หรือไปโรงพยาบาลก็กลับได้พบกับผลลัพธ์ว่ายังไม่ท้อง อาการแบบนี้มีคำอธิบายทางการแพทย์หรือเปล่า? ไม่อยากมโนว่าท้องแล้วต้องมานั่งผิดหวังบ่อยๆ คุณแม่ควรจะทำยังไงดี? Enfa Smart Club หาคำตอบมาให้แล้วค่ะ

    อาการมโนว่าท้อง คืออะไร


    อาการมโนว่าท้อง แต่ไม่ได้ท้องจริงๆ โดยมากก็มักเป็นแค่อาการมโนทั่วไปที่ผู้หญิงเราคิดเข้าข้างตัวเองว่ารอบนี้แหละ ฉันท้องแน่ๆ แต่พอประจำเดือนมาก็อาจจะเฟลนิดหน่อย แล้วค่อยไปพยายามและลุ้นกันใหม่ในเดือนหน้า

    แต่สำหรับบางคน อาการมโนว่าท้องนั้นเกิดจากสภาพจิตใจชักนำให้ร่างกายแสดงอาการบางอย่างคล้ายอาการตั้งครรภ์ออกมา โดยเจ้าตัวเชื่ออย่างยิ่งยวดว่าตนกำลังตั้งครรภ์ ซึ่งอาการแบบนี้มีชื่อเรียกว่า “ท้องหลอก” หรือ “ท้องเทียม” ในทางสากลมักรู้จักในชื่อ Delusional Pregnancy, Phantom Pregnancy, False Pregnancy และอีกหลายชื่อ ในทางการแพทย์จะเรียกอาการนี้ว่า Pseudocyesis

    อาการท้องหลอก หรือ Pseudocyesis นี้ยังไม่ได้เป็นที่เข้าใจอย่างแน่ชัดในทางการแพทย์ แต่ก็มีหลายๆ งานวิจัยที่พบว่าผู้หญิง (หรือผู้ชาย) ที่มีอาการท้องหลอกมักจะมีการแปรปรวนของฮอร์โมน อันเนื่องมาจากความเครียดซึ่งเกิดจากกความต้องการมีลูก แต่ยังไม่ตั้งครรภ์สักที 

    ดังภาษิตที่ว่า “จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว” ความปรารถนาที่จะตั้งครรภ์อย่างแรงกล้าก็โน้มน้าวร่างกายให้เชื่อได้ว่ากำลังตั้งครรภ์อยู่ จึงแสดงอาการบางอย่างเหมือนหญิงตั้งครรภ์ออกมา แต่แน่นอนว่าเมื่อตรวจด้วยอุปกรณ์สำหรับตรวจการตั้งครรภ์ก็จะไม่พบว่ามีฮอร์โมน hCG ที่ใช้ระบุการตั้งครรภ์ และเมื่อทำการตรวจอัลตร้าซาวนด์ก็จะไม่พบว่ามีถุงการตั้งครรภ์ ตัวอ่อน หรืออื่นๆ ที่อาจระบุได้ว่ามีหรือเคยมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น

    อาการมโนว่าท้องนี้เกิดขึ้นไม่บ่อย แต่ก็มักทำให้คุณแม่และคนรอบตัวเชื่ออย่างจริงจังว่ากำลังมีเบบี๋จริงๆ เพราะนอกจากจะอยากมีลูกมากๆ อยู่แล้ว คุณแม่ก็เองก็จะแสดงอาการคนท้องหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น อาการแพ้ท้อง เช่น คลื่นไส้ วิงเวียน อยากกินของเปรี้ยวหรืออาหารรสจัด อารมณ์แปรปรวน นอกจากนี้ยังพบการเปลี่ยนแปลงของร่างกายร่วมด้วย เช่น ประจำเดือนไม่มา เจ็บคัดเต้านม หัวนมขยายใหญ่ขึ้นหรือมีสีเข้มขึ้น หน้าท้องขยายใหญ่ขึ้น รู้สึกถึงการดิ้นของทารก และในบางราย ร่างกายอาจมีการเริ่มผลิตน้ำนมด้วย อีกกรณีที่พบได้น้อยมากๆ คือไปพบแพทย์ด้วยอาการท้องแข็งถี่หรือเจ็บท้องคลอด เพราะเข้าใจว่าตนตั้งครรภ์มาจนถึงกำหนดคลอด

    มโนว่าท้องได้ไง ในเมื่อร่างกายแสดงอาการคนท้องชัดเจนขนาดนี้? 


    สำหรับอาการมโนว่าท้องแต่ไม่ได้ท้องนั้น ในเคสที่ร่างกายแสดงอาการผิดปกติเสมือนมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ทางการแพทย์จะเรียกว่าภาวะท้องหลอกอย่างที่ได้อธิบายไปแล้วด้านบน แต่บางที การมโนว่าท้องของสาวๆ ก็เป็นแค่ความเข้าใจผิดเล็กน้อยจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เกิดขึ้นในทุกๆ เดือน มีผู้หญิงจำนวนมากที่เข้าใจผิดว่าอาการก่อนมีประจำเดือน หรือ Premenstrual Syndrome ของตนเองเป็นอาการที่บ่งบอกการตั้งครรภ์ เพราะมีบางอาการที่คล้ายกัน เช่น เจ็บหน้าอก คัดตึงเต้านม อารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด อ่อนไหวง่าย อ่อนเพลีย  วิงเวียนศีรษะ ปวดเกร็งท้อง เป็นต้น แต่แน่นอนว่าหากเป็นอาการก่อนมีประจำเดือน พอผ่านไปไม่กี่วันก็จะมีเลือดประจำเดือนไหลออกมาจากช่องคลอด บ่งบอกว่าไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น

    จะรู้ได้ยังไงว่าตั้งครรภ์แน่ๆ ไม่ได้มโนหรือกังวลไปเองว่าท้อง


    ก่อนอื่น ควรทำใจให้สบายๆ อะไรที่มากเกินไปย่อมส่งผลร้ายมากกว่าดี รวมถึงความอยากมีลูกด้วยค่ะ

    หากคุณกำลังอยู่ในช่วงพยายามมีน้อง ขอให้พยายามรับประทานอาหารที่เป็นประโยชน์ พักผ่อนให้เพียงพอ และอย่าเครียดหรือกดดันตัวเองมากจนเกินไป หากคุณเป็นคนที่ประจำเดือนมาไม่ตรงกัน เมื่อรอบเดือนขาด ควรรอสักประมาณ 7 วันแล้วตรวจการตั้งครรภ์ด้วยที่ตรวจครรภ์ ซึ่งตอนนี้หาซื้อได้ทั้งจากร้านขายยาและร้านสะดวกซื้อ ที่ตรวจครรภ์ในปัจจุบันนี้มีความแม่นยำสูงมากๆ หากตรวจแล้วขึ้น 2 ขีด คุณพ่อคุณแม่ก็ควรจะรีบไปฝากครรภ์เพื่อให้ครรภ์นี้อยู่ในการดูแลของแพทย์โดยเร็วที่สุด แต่หากขึ้นเพียง 1 ขีดก็อย่าเพิ่งหมดหวังไปนะคะ การดูแลร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอและนับวันไข่ตกร่วมด้วยช่วยได้มากค่ะ

    หากอยากมีลูกมานาน ปล่อยธรรมชาติมาตลอด แต่น้องยังไม่มาสักทีจนเวลาล่วงเลยไปเป็นปี นั่นเป็นสัญญาณว่าได้เวลาต้องพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์แล้วค่ะ ลองจูงมือกันไปตรวจสุขภาพและขอคำแนะนำจากคุณหมอที่เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีช่วยการมีบุตร ก็จะช่วยให้มีลูกน้อยได้สมใจและสมกับที่รอคอยมานาน Enfa ขอเอาใจช่วยว่าที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนนะคะ

     

    อ้างอิง