ข้ามไปยังเนื้อหาหลัก
รู้เพศตอนกี่เดือน อัลตราซาวนด์เพศลูก เริ่มทำได้ตอนไหน

รู้เพศตอนกี่เดือน อัลตราซาวนด์เพศลูก เริ่มทำได้ตอนไหน

 

Enfa สรุปให้

  • ระยะเวลาในการรู้เพศลูกนั้น โดยปกติแล้วหากคุณแม่มีสุขภาพการตั้งครรภ์ที่แข็งแรง ไม่มีปัญหาสุขภาพ เมื่ออายุครรภ์ถึง 18-21 สัปดาห์ก็สามารถที่จะทำการอัลตราซาวนด์เพื่อดูเพศของลูกได้

  • อย่างไรก็ตาม การรู้เพศลูกนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอายุครรภ์เพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ในการตรวจครรภ์ด้วย ถ้าหากคุณแม่เข้ารับการตรวจคัดกรองการตั้งครรภ์ก่อนคลอด โดยใช้วิธีการตรวจหาโครโมโซมผิดปกติ วิธีนี้นอกจากจะทำให้ทราบความเสี่ยงของทารกในครรภ์แล้ว ยังทำให้ทราบด้วยว่าทารกเป็นเพศอะไร ซึ่งการตรวจครรภ์ลักษณะนี้สามารถมองรู้เพศลูกได้เมื่ออายุครรภ์ 9-10 สัปดาห์ขึ้นไป

  • นอกจากวิธีการตรวจครรภ์จะทำให้รู้เพศลูกได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แล้ว กระบวนการรักษาภาวะมีบุตรยากโดยการทำเด็กหลอดแก้ว ก็ยังมีโอกาสจะได้ทราบเพศของลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วย เพราะแพทย์จะเลือกอสุจิที่มีความแข็งแรง และมีโครโมโซมครบถ้วน ซึ่งกระบวนการตรวจโครโมโซมนั้นจะมีความแม่นยำสูง คุณพ่อคุณแม่จึงอาจสามารถทราบเพศของลูกได้ตั้งแต่กระบวนการปฏิสนธิของตัวอ่อน


เลือกอ่านตามหัวข้อ

• เมื่อไหร่ถึงจะรู้เพศลูก
• ตรวจเพศลูก มีกี่วิธี
• ที่ตรวจเพศลูก คืออะไร?
• ไขข้อข้องใจเรื่องการตรวจเพศลูกกับ Enfa Smart Club

อีกหนึ่งโมเมนต์ชวนลุ้นของการตั้งครรภ์ลูก ก็คือการลุ้นเพศลูก แบบที่เรามักจะได้เห็นกันผ่านโซเชียลมีเดียบ่อย ๆ ที่มีการแบ่งปันนาทีประทับใจในการลุ้นเพศลูก หรือเฉลยเพศลูก Enfa เองก็ลุ้นไปกับคุณพ่อคุณแม่ทุก ๆ คนที่กำลังอยู่ระหว่างการลุ้นเพศของเจ้าตัวเล็ก และเพื่อให้เข้ากับบรรยากาศในการลุ้นเพศลูกของหลาย ๆ คน Enfa มีสาระน่ารู้เกี่ยวกับการรู้เพศลูกมาฝากค่ะ 

รู้เพศตอนกี่เดือน: อยากรู้เพศตัวเล็กในท้อง คุณพ่อคุณแม่ต้องอดใจรอนานแค่ไหน


เป็นหนึ่งในคำถามยอดฮิตของคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังอุ้มท้องเจ้าตัวเล็ก ซึ่งต่างก็มักจะสงสัยกันว่าต้องรออีกกี่เดือนรู้เพศลูก หรือจะรู้เพศลูกตอนกี่เดือน เพราะคุณพ่อคุณแม่แทบจะอดใจรอลุ้นเอาตอนคลอดไม่ไหวแล้ว 

ซึ่งระยะเวลาในการรู้เพศลูกนั้น โดยปกติหากคุณแม่มีสุขภาพการตั้งครรภ์ที่แข็งแรง ไม่มีปัญหาสุขภาพ เมื่ออายุครรภ์ถึง 18-21 สัปดาห์ก็สามารถที่จะทำการอัลตราซาวนด์และเห็นเพศของลูกได้ 

อย่างไรก็ตาม หากคุณแม่เข้ารับการตรวจคัดกรองการตั้งครรภ์ก่อนคลอด โดยใช้วิธีการตรวจหาโครโมโซมผิดปกติ วิธีนี้นอกจากจะทำให้ทราบความเสี่ยงของทารกในครรภ์แล้ว ยังทำให้ทราบด้วยว่าทารกเป็นเพศอะไร ซึ่งการตรวจครรภ์ลักษณะนี้สามารถมองรู้เพศลูกได้เมื่ออายุครรภ์ 9-10 สัปดาห์ขึ้นไป 

หากต้องการรู้เพศลูกโดยเร็วที่สุด เราจะตรวจเพศลูกได้ตอนกี่เดือน 

จุดสำคัญที่จะทำให้รู้เพศลูกช้าหรือเร็วนั้น ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้ในการตรวจครรภ์ ถ้าตรวจด้วยการอัลตราซาวนด์ก็อาจต้องรอประมาณ 18-21 สัปดาห์ หรือราว ๆ เดือนที่ 5 ของการตั้งครรภ์เป็นต้นไป  

แต่ถ้าตรวจครรภ์ด้วยการตรวจโครโมโซมก็สามารถรู้เพศลูกได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 9-10 สัปดาห์หรืออายุครรภ์ 3 เดือน

ตรวจเพศลูกมีกี่วิธี และมีขั้นตอนอะไรบ้าง?


การตรวจเพศทารกในครรภ์ สามารถทำได้หลายวิธี ดังนี้ 

การทำเด็กหลอดแก้ว

ในคู่สามีภรรยาที่ประสบกับภาวะมีบุตรยาก การรักษาด้วยการทำเด็กหลอดแก้วนอกจากจะช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์แล้ว ก็ยังมีโอกาสจะได้ทราบเพศของลูกตั้งแต่เนิ่น ๆ ด้วย เพราะกระบวนการทำเด็กหลอดแก้วนั้นจะต้องนำไข่กับอสุจิมาปฏิสนธิกันภายนอก แล้วจึงฉีดกลับเข้าไปในโพรงมดลูกอีกครั้ง ในขั้นตอนการปฏิสนธินี้แพทย์ก็จะเลือกอสุจิที่มีความแข็งแรง และมีโครโมโซมครบถ้วน ซึ่งกระบวนการตรวจโครโมโซมนั้นจะมีความแม่นยำสูง และเกิดความผิดพลาดได้น้อย คุณพ่อคุณแม่จึงอาจสามารถทราบเพศของลูกได้ตั้งแต่กระบวนการปฏิสนธิของตัวอ่อน 

อย่างไรก็ตาม ตามกฎหมายในประเทศไทยไม่อนุญาตให้เลือกเพศของลูกด้วยวิธีการทำเด็กหลอดแก้วหากไม่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคทางพันธุกรรม

ดังนั้น ผลพลอยได้จากการทำเด็กหลอดแก้วก็คือมีโอกาสจะได้รู้เพศลูกก่อนเท่านั้น ไม่สามารถจะเจาะจงเลือกลูกเพศชายหรือหญิงได้ 

การตรวจ NIPT หรือ Non-Invasive Prenatal Testing (NIPT)   

การตรวจ NIPT หรือ Non-Invasive Prenatal Testing (NIPT) เป็นวิธีการตรวจคัดกรองโครโมโซมผิดปกติโดยใช้เลือดของคุณแม่มาทำการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์  

เนื่องจากในขณะตั้งครรภ์นั้น รกก็จะปล่อยดีเอ็นเอออกมาปนกับเลือดของแม่ด้วย ซึ่งปริมาณดีเอ็นเอที่รกปล่อยออกมาจะมีปริมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก็เพียงพอที่จะทำให้ตรวจโครโมโซมต่าง ๆ เพื่อหาความผิดปกติของโครโมโซมได้ ซึ่งผลพลอยได้จากการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมและโรคทางพันธุกรรมแล้ว ก็สามารถที่จะทราบเพศของลูกได้ด้วย 

และการตรวจครรภ์ด้วยวิธีนี้สามารถทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์เป็นต้นไป 

การเจาะชิ้นเนื้อรก (Chorionic villus sampling หรือ CVS) 

การเจาะชิ้นเนื้อรก หรือการตัดชิ้นเนื้อรก (Chorionic Villus Sampling หรือ CVS) เป็นกระบวนการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมและโรคพันธุกรรม โดยเฉพาะความผิดปกติของกลุ่มอาการดาวน์ ซึ่งกระบวนการก็คือจะมีการตัดบริเวณเนื้อรกชิ้นเล็ก ๆ จากนั้นจึงนำมาตรวจในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์  

ซึ่งเซลล์เนื้อรกกับทารกนั้นเกิดมาจากเซลล์เดียวกัน หรือก็คือ เป็นเซลล์ที่เกิดมาจากการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิ ดังนั้น การนำชิ้นเนื้อรกมาตรวจ จึงสามารถที่จะตรวจพบสารพันธุกรรม หรือดีเอ็นเอ (DNA) จากทารกได้ด้วย ทำให้สามารถรู้เพศของลูกได้ 

โดยการเจาะชิ้นเนื้อรกนั้นสามารถทำได้เร็วที่สุดเมื่ออายุครรภ์ 10-12 สัปดาห์ของการตั้งครรภ์  

การเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis) 

การเจาะน้ำคร่ำ (Amniocentesis) เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้เพื่อตรวจหาความผิดปกติของการตั้งครรภ์ ซึ่งโดยมากมักจะทำหลังจากที่อัลตราซาวนด์และพบความผิดปกติ แพทย์อาจแนะนำให้ทำการเจาะน้ำคร่ำ เพราะน้ำคร่ำนั้นมีเซลล์ต่าง ๆ ที่สามารถตรวจพบได้ว่าทารกในครรภ์มีความผิดปกติ หรือมีความเสี่ยงของโรคทางพันธุกรรมใดบ้าง และผลพลอยได้จากนั้นก็คือสามารถตรวจทราบเพศของลูกได้ด้วย 

อย่างไรก็ตาม การตรวจครรภ์โดยการเจาะน้ำคร่ำนี้ก็ถือว่ามีความเสี่ยงที่จะเกิดการแท้งบุตรได้ 

การอัลตราซาวนด์ 

การอัลตราซาวนด์เป็นหนึ่งในวิธีการตรวจเพศลูกที่นิยมมากที่สุด โดยการใช้คลื่นเสียงเพื่อตรวจจับภาพภายในครรภ์ ก็จะสามารถมองเห็นทารกในครรภ์และรู้เพศของทารกได้ ซึ่งการอัลตราซาวนด์นี้นอกจากจะใช้ตรวจหาเพศลูกแล้ว หลัก ๆ คือจะใช้ในการตรวจสุขภาพครรภ์และตรวจหาความผิดปกติต่าง ๆ ในการตั้งครรภ์ 

ซึ่งการตรวจอลัตราซาวนด์นั้น บางครั้งก็อาจจะมองไม่เห็นเพศของลูกเลยก็ได้ หากว่าเจ้าตัวเล็กอยู่ในท่าที่อึดอัด หรือไม่สบายตัว ก็อาจจะมีการไขว้ขา จนทำให้มองเห็นเพศของลูกไม่ชัด 

การตรวจอัลตราซาวนด์มักจะทำกันเมื่อมีอายุครรภ์ตั้งแต่ 18-21 สัปดาห์เป็นต้นไป เพราะสามารถที่จะมองเห็นเพศของลูกได้ชัดเจน อย่างไรก็ตาม บางกรณีแพทย์ก็อาจทำการอัลตราซาวนด์และเห็นเพศลูกได้ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 14-16  

ที่ตรวจเพศลูกคืออะไร? ทำความรู้จักชุดทดสอบเพศทารกในครรภ์


มีที่ตรวจครรภ์ ที่ตรวจไข่ตก แล้วจะไม่มีที่ตรวจเพศลูกได้อย่างไรกัน ถูกไหมคะ?

แน่นอนค่ะว่าตามท้องตลาด หรือร้านค้าออนไลน์ในปัจจุบันมีการขายอุปกรณ์ที่อ้างว่าสามารถตรวจเพศของลูกได้ โดยอุปกรณ๊ดังกล่าวจะนำมาตรวจกับปัสสาวะของคนท้อง แล้วดูว่าผลลัพธ์ขึ้นเป็นสีอะไร หากเป็นสีชมพูแปลว่าลูกเป็นผู้หญิง แต่ถ้าผลลัพธ์เป็นสีฟ้าแปลว่ากำลังอุ้มท้องลูกผู้ชาย 

ฟังดูน่าสนใจเลยใช่ไหมคะ ง่าย สะดวก และได้คำตอบในเวลาไม่นาน โดยไม่ต้องเสียเวลารอคิวตรวจกับแพทย์ที่โรงพยาบาลเลย แต่...อย่าเพิ่งปักใจเชื่อไปค่ะแม่ ๆ ทั้งหลาย เพราะจากหลักฐานทางการแพทย์นั้นปรากฎข้อเท็จจริงที่ว่า ในปัสสาวะนั้นไม่มีฮอร์โมนที่เกี่ยวกับเพศอยู่เลย และไม่มีฮอร์โมนใด ๆ ในปัสสาวะที่จะสามารถเปลี่ยนสีอุปกรณ์การตรวจได้ด้วย 

ดังนั้น เรื่องที่ตรวจเพศลูกนั้น จึงเป็นเรื่องที่ยังไม่สามารถวางใจเชื่อถือได้ แม้ว่าจะมีหลาย ๆ คนรีวิวว่าตรวจแล้วแม่นยำ แต่ก็ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่ลองแล้ว แต่ผลปรากฎว่าพอไปตรวจอัลตราซาวนด์ เพศของลูกกลับไม่ตรงกับผลของที่ตรวจเพศลูก 

วิธีที่ดีที่สุดในการตรวจเพศลูก ก็คือการไปเข้ารับการตรวจกับแพทย์ โดยสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการตรวจดีเอ็นเอ การตรวจโครโมโซม หรือการตรวจอัลตราซาวนด์ ซึ่งให้ผลลัพธ์ที่น่าเชื่อมากกว่าที่ตรวจเพศลูกอย่างแน่นอน

ไขข้อข้องใจเรื่องการตรวจเพศลูกกับ Enfa Smart Club


1. ท้อง 14 สัปดาห์รู้เพศหรือยัง? 

ท้อง 14 สัปดาห์ในบางกรณีสามารถตรวจพบเพศได้ด้วยการตรวจอัลตราซาวนด์แล้ว แต่โดยมากมักจะรอจนกระทั่งอายุครรภ์ 18-21 สัปดาห์ขึ้นไปจึงจะมีการตรวจอัลตราซาวนด์เพื่อดูเพศของลูก

2. ท้อง 3 เดือนรู้เพศหรือยัง? 

ท้อง 3 เดือน สามารถที่จะรู้เพศของลูกได้ เพียงแต่อาจจะไม่ใช่วิธีการตรวจโดยอัลตราซาวนด์ แต่อาจจะเป็นวิธีอื่น ๆ เช่น การเจาะชิ้นเนื้อรก หรือการตรวจโครโมโซม เป็นต้น 

3. ท้อง 4 เดือนรู้เพศหรือยัง? 

ท้อง 4 เดือน เป็นระยะที่เร็วสุดที่สามารถจะตรวจพบเพศของลูกได้โดยการอัลตราซาวนด์ 

4. ท้อง 5 เดือนรู้เพศยัง? 

ท้อง 5 เดือน หรือราว ๆ สัปดาห์ที่ 18-21 ของการตั้งครรภ์ ถือว่าเป็นระยะที่เหมาะสมต่อการตรวจอัลตราซาวนด์ และสามารถที่จะเห็นเพศของลูกอย่างชัดเจนในระยะนี้ด้วย 

5. อัลตร้าซาวด์ตรวจเพศลูกได้ตอนกี่เดือน? 

การตรวจเพศของลูกด้วยการอัลตราซาวนด์สามารถตรวจได้เมื่ออายุครรภ์ประมาณ 18-21 สัปดาห์ หรือราว ๆ เดือนที่ 5 ของการตั้งครรภ์เป็นต้นไป  

แต่บางกรณีก็พบว่าการอัลตราซาวนด์สามารถตรวจพบเพศของลูกได้ตั้งแต่เดือนที่ 4 ของการตั้งครรภ์ 

6. เบกกิ้งโซดาทดสอบเพศลูกได้จริงหรือ? 

อีกหนึ่งความเชื่อที่ส่งต่อกันมาก็คือ การตรวจเพศลูกโดยใช้เบกกิ้งโซดา 1-2 ช้อนโต๊ะผสมลงในแก้วที่ใส่ปัสสาวะของคุณแม่ไว้ จากนั้นรอดูปฏิกิริยาที่เกิดขึ้น

หากเกิดฟองขึ้นมาแปลว่าเด็กในท้องเป็นผู้ชาย แต่ถ้าไม่มีปฏิกิริยาใด ๆ เกิดขึ้นเลย แปลว่าเด็กในท้องเป็นผู้หญิง 

ฟังดูน่าสนใจอีกแล้วใช่ไหมคะ แต่ต้องเสียใจด้วยกับคุณแม่ที่กำลังคิดจะใช้วิธีนี้ เพราะจากหลักฐานทางการแพทย์พบว่าเบกกิ้งโซดาไม่สามารถจะทำนายเพศของเด็กในท้องได้ และปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นนั้น ก็เป็นเพียงปฏิกิริยาทางเคมีของกรดและเบสระหว่างปัสสาวะและเบกกิ้ง โซดา ซึ่งไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับโครโมโซม X หรือ Y ที่กำหนดเพศของทารกเลยแม้แต่น้อย 

7. การตรวจ NIPT จะรู้เพศลูกไหม? ต้องตรวจตอนกี่เดือน? 

การตรวจ NIPT หรือ Non-Invasive Prenatal Testing (NIPT) เป็นวิธีการตรวจคัดกรองโครโมโซมผิดปกติโดยใช้เลือดของคุณแม่มาทำการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมในห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ เพราะขณะตั้งครรภ์รกจะปล่อยดีเอ็นเอปริมาณเล็กน้อยออกมาปนกับเลือดของแม่ด้วย จึงเป็นผลพลอยได้จากการตรวจหาความผิดปกติของโครโมโซมและโรคทางพันธุกรรม เพราะปริมาณดีเอ็นเอเหล่านั้นเพียงพอที่จะทำให้ได้ทราบเพศของลูกด้วย 

โดยการตรวจครรภ์ด้วยวิธีนี้สามารถทำได้ตั้งแต่อายุครรภ์ 10 สัปดาห์เป็นต้นไป



บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

บทความที่แนะนำ

gassy-baby
how-to-conceive-twins
baby-movements-during-pregnancy
EFB banner
Mobile efb banner
EFB banner

Leaving page banner

 

Leaving page banner