เลือกอ่านตามหัวข้อ
• อาการคนท้องระยะเริ่มต้น
• อาการเตือนคนเริ่มท้อง
• อาการคนท้อง 3 วันแรก
• อาการของคนท้องมารัวๆ ท้องชัวร์ไหมนะ
• ลักษณะหน้าท้องของคนท้อง 1 สัปดาห์ - 1 เดือนแรก
• เตรียมตัวอย่างไรเมื่อร่างกายเริ่มแสดงอาการคนท้อง
• อาการคนท้องระยะแรกจะดีขึ้นเมื่อไหร่
• อาการคนท้องไม่มีสักนิด แต่ตรวจแล้วท้อง
• ไขข้อข้องใจเรื่องอาการคนท้องกับ Enfa Smart Club
อาการคนท้อง เป็นกลุ่มอาการที่จะบอกให้คุณแม่ทราบและสังเกตตัวเองได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ ว่า นี่ฉันอาจจะกำลังตั้งครรภ์รึเปล่านะ? แต่อาการคนท้องระยะแรกๆ ที่สามารถสังเกตได้มีอะไรบ้าง และอาการคนท้องจะเริ่มขึ้นตอนไหน บทความนี้จาก Enfa ได้รวบรวมเอาสารพันอาการคนท้องที่คุณแม่ควรรู้ มาฝากแล้วค่ะ
เมื่อเราตั้งท้อง จะเริ่มมีอาการคนท้องเมื่อไหร่ หรืออาการคนท้องระยะแรกจะเป็นยังไง หลายครั้งที่เราอาจจะมีคำถามกับเรื่องเหล่านี้ สิ่งที่เราสามารถสังเกตได้อย่างแรก สำหรับอาการคนท้องระยะเริ่มต้น ในช่วง 1 สัปดาห์แรก นั่นคือ การขาดประจำเดือน
หากเรามีประจำเดือนที่มาสม่ำเสมอ การที่ประจำเดือนขาดหาย ไม่มาตามปกติ หรือมาล่าช้าเกิน 12 – 16 วัน ก็อาจจะเป็นไปได้ว่า เราอาจจะกำลังตั้งท้อง แต่การขาดประจำเดือนไม่ใช่อาการคนท้องระยะเริ่มต้นอย่างเดียวที่สังเกตได้ ยังมีอาการอื่น ๆ ที่สามารถสังเกตว่าเราตั้งท้องระยะเริ่มต้นได้เช่นกัน
คนท้องแรกๆ อาการเป็นยังไง? เช็กอาการคนท้องระยะเริ่มต้นในช่วง 1-4 สัปดาห์แรก
-
เต้านม และหัวนมมีการเปลี่ยนแปลง หรือมีอาการคัดเต้านม
อาการคนท้องระยะเริ่มต้น ในช่วง 1 สัปดาห์แรก ที่สังเกตได้คือ เต้านม และหัวนมของเรามีความเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม เต้านมจะมีอาการบวม เปราะบาง อ่อนไหว และอาจจะมีความรู้สึกเสียวแปลบ ๆ การเปลี่ยนแปลงนี้ จะเริ่มหลังจากการขาดประจำเดือนไปประมาณ 1 สัปดาห์
นอกจากนี้ยังอาจจะมีอาการคัดเต้านม คล้าย ๆ อาการช่วงก่อนมีประจำเดือนอีกด้วย ซึ่งเกิดขึ้นจากฮอร์โมนที่กำลังสร้างใหม่ และปรับให้เข้ากับสภาพร่างกายเพื่อเตรียมพร้อมในการสร้างน้ำนม
เต้านม และหัวนมจะเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่อเราขาดประจำเดือน เนื่องจากมีการตั้งท้อง หากขาดประจำเดือนเนื่องด้วยสาเหตุอื่น ๆ การเปลี่ยนแปลงของเต้านม และหัวนมก็จะไม่เกิดขึ้น ทั้งนี้ เรายังสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงอื่น ๆ ของเต้านมได้อีกเช่นกัน อาทิ บริเวณวง ๆ รอบหัวนมจะคล้ำขึ้นและขยายใหญ่ขึ้น อาจพบหลอดเลือดบริเวณรอบ ๆ เต้านมนูนขึ้นชัดเจนขึ้น รวมทั้งมีตุ่มเล็ก ๆ บริเวณรอบหัวนมเพิ่มจำนวนมาก
-
ตกขาวมากกว่าปกติ
ตกขาวเป็นเรื่องปกติทั่วไปที่เกิดขึ้นในผู้หญิง และเมื่อเริ่มตั้งท้อง การตกขาวก็อาจจะมีปริมาณมากกว่าปกติ หรือในคุณแม่มือใหม่อาจจะพบว่ามีการตกขาวแทนการมีประจำเดือนในระหว่างการตั้งท้อง
โดยการตกขาวเกิดจากฮอร์โมนเอสโตรเจน ที่ทำให้มีเลือดมาคั่งที่ช่องคลอด และที่คอมดลูก ส่งผลให้ต่อมต่าง ๆ ที่คอมดลูกทำงาน และหลั่งสารคัดหลั่งออกไปที่ช่องคลอดมากขึ้น ส่งผลให้แบคทีเรียที่มีตามปกติในช่องคลอดเจริญเติบโตมากกว่าเดิม จนกลายเป็นตกขาว
อย่างไรก็ตาม การตกขาวสามารถบอกสัญญาณการตั้งท้องได้ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในระหว่างการตั้งท้อง จะส่งผลให้ต่อปริมาณของตกขาว ทำให้มีการตกขาวออกมาในปริมาณมากกว่าปกติ แต่ก็ถือเป็นเรื่องปกติ และไม่เป็นอันตรายใด ๆ
ลักษณะของตกขาวคนท้องระหว่างการตั้งท้องอ่อน ๆ จะมีลักษณะเป็นมูกใส สีขาวขุ่น คล้ายแป้งเปียก แต่ไม่มีกลิ่น และไม่มีอาการคัน หากมีอาการผิดปกตินอกจากนี้ เช่น มีกลิ่น มีอาการคัน ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
-
ปัสสาวะบ่อย
ปัสสาวะบ่อยเป็นอีกหนึ่งอาการคนท้องที่พบได้ ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างการตั้งท้อง ทำให้ระบบไหลเวียนของเลือด และของเหลวในร่างกาย ทำงาน และเพิ่มระดับจากเดิม ส่งผลให้ไตต้องทำหน้าที่เพิ่มขึ้นเป็นพิเศษ เพื่อกำจัดของเสียออกจากร่างกาย นอกจากนี้ การที่มดลูกขยายตัวระหว่างการตั้งท้อง และไปกดทับกระเพาะปัสสาวะ ยังส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยอีกด้วย
-
อุณหภูมิร่างกายเปลี่ยนแปลง
ในช่วงตั้งท้องใหม่ ๆ ร่างกายจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นกว่าปกติ เนื่องจากร่างกายมีการปรับเปลี่ยนระบบต่าง ๆ เพื่อให้พร้อมสำหรับการเติบโตของลูกน้อย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างเนื้อเยื่อ เพิ่มการสร้างเลือดเพื่อลำเลียงอาหารไปให้ลูกน้อย การขยายและปรับเปลี่ยนเต้านมให้พร้อมสำหรับการสร้างน้ำนม เป็นต้น
คุณแม่อาจจะรู้สึกเหมือนมีไข้ต่ำ ๆ ในตอนเย็น แต่อาการเหล่านี้ไม่ได้เป็นอันตราย สามารถพบได้ปกติ แนะนำให้ดื่มน้ำให้มาก และพักผ่อนให้เพียงพอ จะช่วยให้อาการดีขึ้นได้
-
เหนื่อยล้า
อาการเหนื่อยล้า เป็นอาการแรก ๆ ของการตั้งท้อง สาเหตุเกิดจากระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนมีระดับที่สูงขึ้น ส่งผลให้เกิดความรู้สึกง่วงนอน และเหนื่อยล้าได้ง่าย เคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะช่วยแก้อาการเหนื่อยล้าในคนท้องคือ การพักผ่อนให้เพียงพอ รวมทั้งควรปรับอุณหภูมิห้องให้เย็น เนื่องจากร่างกายของคุณแม่ตั้งท้องจะมีอุณหภูมิที่สูงขึ้นในระยะแรกของการตั้งท้อง
-
อาการคลื่นไส้ หรืออาการแพ้ท้อง
สำหรับผู้ที่เพิ่งตั้งท้องได้ 1 สัปดาห์มักจะยังไม่ค่อยมีอาการแพ้ท้องมากนัก ในบางรายอาจจะมีอาการปวดหัว หรือเวียนหัวเล็กน้อย เนื่องจากร่างกายเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน ทั้งนี้ความรุนแรงของอาการขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของคุณแม่แต่ละคน
-
อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดง่าย
การผันผวนและการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนในช่วงแรก ๆ ของการตั้งครรภ์นั้น อาจมีผลต่อความรู้สึกและอารมณ์ คุณแม่ที่ตั้งท้อง จึงอาจมีอาการหงุดหงิดได้ง่ายในช่วงไตรมาสแรก
-
ท้องอืด
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนระหว่างตั้งครรภ์ในระยะแรก อาจทำให้คุณแม่รู้สึกอึดอัด แน่นท้อง และท้องอืด ซึ่งอาการท้องอืดนี้จะมีลักษณะที่คล้ายกับช่วงเริ่มมีประจำเดือน
-
เลือดออกกะปริดกะปรอย
โดยเลือดนี้เราอาจจะรู้จักกันในชื่อของ เลือดล้างหน้าเด็ก หรือเลือดจากการฝังตัว ซึ่งเกิดขึ้นจากการเคลื่อนตัวของไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว จากนั้นจึงเคลื่อนตัวไปฝังในมดลูก กระบวนการฝังตัวในโพรงมดลูกนี้แหละ ที่ทำให้มีเลือดไหลออกมากะปิดกะปรอย อย่างไรก็ตาม ่อาการนี้ไม่ได้เกิดกับคนท้องทุกคน
-
ปวดหน่วงท้องน้อย
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์หลายคนมักมีอาการปวดหน่วงที่ท้องน้อย หรือมีอาการคล้ายกับเป็นตะคริวบริเวณท้องน้อย ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการที่มดลูกเริ่มมีการขยายตัวเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อน จึงส่งผลให้รู้สึกปวดหน่วง ๆ หรือปวดคล้ายเป็นตะคริวที่บริเวณท้องน้อย
-
ท้องผูก
อาการท้องผูกสามารถพบได้บ่อยในคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ นั่นเพราะว่าระดับฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มระดับขึ้น ส่งผลให้กระบวนการย่อยอาหารทำได้ช้าลง จนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการท้องผูก
-
พะอืดพะอมจากอาหารการกิน
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์จะมีความไวต่อกลิ่นและรสสัมผัสมากกว่าปกติ อีกทั้งการรับรสอาหารก็เปลี่ยนไปด้วย อาหารที่เคยชอบตอนนี้ก็อาจจะไม่ชอบแล้ว หรืออาจจะไวต่อกลิ่นของอาหารบางอย่างจนทำให้รู้สึกพะอืดพะอม ซึ่งโดยมากแล้วมักเป็นผลพวงมาจากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนขณะตั้งครรภ์
-
ไวต่อกลิ่น
คุณแม่ตั้งครรภ์หลาย ๆ คนมีความรู้สึกไวต่อกลิ่นมากขึ้น ไม่เฉพาะแค่เพียงกลิ่นอาหารเท่านั้น แต่ยังหมายรวมถึงกลิ่นต่าง ๆ รอบตัวด้วย ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นตัวของสามี กลิ่นน้ำหอม หรือกลิ่นสิ่งของต่าง ๆ
-
อาการคัดจมูก
การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายระหว่างการตั้งครรภ์ สามารถทำให้เยื่อเมือกในโพรงจมูกมีอาการบวม แห้ง และมีเลือดออกได้ง่าย ทำให้คุณแม่เกิดอาการคัดจมูก และน้ำมูกไหลได้
-
น้ำลายไหลมากผิดปกติ
อาการน้ำลายไหลมากผิดปกตินี้ เป็นอาการโดยทั่วไปที่สามารถพบได้ทั้งคนที่ท้องและไม่ท้อง เนื่องจากเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายที่จะขับน้ำลายออกมาเพื่อปกป้องปาก ฟัน และลำคอ จากการกัดกร่อนของกรดในกระเพาะอาหาร แต่ว่าอาการนี้อาจจะพบได้มากหน่อยในคนท้อง โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก คุณแม่บางคนอาจจะมีน้ำลายไหลออกมามากกว่าปกติจนสังเกตได้
-
ปวดหลัง
คุณแม่ตั้งครรภ์หลาย ๆ คนเริ่มรู้สึกว่ามีอาการปวดหลังตั้งแต่เดือนแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ ทั้งนี้เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย และส่งผลต่อเส้นเอ็น ไขข้อ และกระดูกเชิงกราน ทำให้คุณแม่อาจจะรู้สึกปวดหลังได้
-
ปวดหัว
อาการปวดหัวและอาการวิงเวียนศีรษะถือเป็นเรื่องปกติในช่วงตั้งครรภ์ เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกาย รวมถึงปริมาณการไหลเวียนของเลือดที่เพิ่มขึ้นด้วย จึงทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ง่ายในช่วงแรกของการตั้งครรภ์
-
มีรสโลหะในปาก
ในช่วงแรกของการตั้งครรภ์คุณแม่หลายคนสัมผัสได้ว่ามีรสโลหะในปาก ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนและเอสโตรเจน ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้มีผลต่อรสชาติของอาหารที่กินเข้าไป อาจทำให้รู้สึกว่ามีรสโลหะอยู่ในปากเวลาที่กินอาหาร
-
หายใจถี่
เมื่อตั้งครรภ์ร่างกายของคุณแม่จะต้องการออกซิเจนเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับทารกในครรภ์ที่กำลังเติบโต บางครั้งอาจทำให้คุณแม่ผู้หญิงบางคนรู้สึกหายใจไม่ออก หรือหายใจถี่ ๆ แต่โดยมากแล้วอาการนี้มักจะพบได้บ่อยในระยะหลังของการตั้งครรภ์ หรือบางครั้งก็อาจเกิดจากการอ่อนเพลียง่าย ทำให้หายใจไม่สะดวก หรือมีอาการหายใจถี่มากขึ้นในเวลาที่รู้สึกเหนื่อยหรืออ่อนเพลีย
-
เป็นสิว
เนื่องจากระดับฮอร์โมนในร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง จึงอาจส่งผลต่อกระบวนการผลิตไขมันในต่อมใต้ผิวหนัง และทำให้เป็นสิว หรือมีสิวเห่อในช่วงตั้งครรภ์ได้
กี่วันถึงจะมีอาการคนท้อง? อาการเตือนคนเริ่มท้องมักจะเริ่มเมื่อไหร่
คุณแม่หลายคนอาจจะสงสัยกันว่า “อาการคนท้องเริ่มเมื่อไหร่?” "กี่วันถึงจะมีอาการคนท้อง?" ซึ่งจริง ๆ แล้วอาการคนท้องของคุณแม่แต่ละคนนั้นแตกต่างกัน บางคนอาจจะมีอาการตั้งแต่สัปดาห์แรก ๆ ของการตั้งครรภ์ ขณะที่บางคนไปเริ่มรู้สึกเมื่อตั้งครรภ์ผ่านไปแล้ว 2 เดือน
ดังนั้น อาการเตือนคนท้องของคุณแม่แต่ละคนจึงแตกต่างกันออกไป เริ่มช้าหรือเร็วไม่เหมือนกัน
อาการคนท้อง 3 วัน: เป็นไปได้ไหมที่คุณแม่จะรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ภายใน 2-3 วันแรก
อาจเป็นไปได้ แต่...ก็ถือว่าน้อยมากที่คุณแม่จะรู้ตัวตั้งแต่วันแรก ๆ เลย เพราะอย่างน้อย ๆ ก็อาจจะต้องใช้เวลาตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ขึ้นไป กว่าที่คุณแม่จะเริ่มสังเกตเห็นอาการผิดปกติบางอย่างที่อาจบอกว่ากำลังตั้งครรภ์
อาการของคนท้อง มารัวๆ ท้องชัวร์ไหมนะ? เช็กยังไงว่าตัวเองท้อง
ระยะเวลาในการตรวจครรภ์นั้น ขึ้นอยู่กับว่าคำนวณวันตกไข่ไว้ได้อย่างแม่นยำหรือไม่ เพราะถ้าหากคำนวณวันตกไข่เอาไว้แล้ว หลังจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ไปอีก 12-14 วัน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วที่สุดที่จะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ เพราะเป็นระยะเวลาที่มีการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิเสร็จสมบูรณ์พอดี ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
ดังนั้น การตรวจตั้งครรภ์จึงอาจให้ผลลัพธ์ที่เป็นบวกภายใน 10-12 วันหลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่คุมกำเนิด
แต่เพื่อผลลัพธ์ที่แม่นยำมากขึ้น ควรตรวจอย่างน้อย 2-3 สัปดาห์หลังจากมีเพศสัมพันธ์โดยไม่คุมกำเนิด เพื่อให้มีระดับฮอร์โมนเอชซีจีในปัสสาวะมากเพียงพอที่จะทำให้ตรวจพบการตั้งครรภ์ เพราะการตรวจครรภ์เร็วเกินไป อาจทำให้ผลลัพธ์การตั้งครรภ์คลาดเคลื่อนได้
ลักษณะหน้าท้องของคนท้อง 1 สัปดาห์ ไปจนถึง 1 เดือนแรก มีการเปลี่ยนแปลงหรือไม่
แม่ๆ หลายคนอาจสงสัยว่า จะรู้ได้ยังไงว่าตัวเองท้องใน 1 อาทิตย์แรก จะสังเกตเห็นได้จากหน้าท้องเลยไหม ต้องบอกว่าลักษณะท้องของคนท้องในช่วง 1 สัปดาห์ ไปจนถึง 1 เดือนแรก ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่ต่างไปจากเดิมที่เป็นอยู่ เพราะถึงแม้ในช่วงเดือนแรกนั้นมดลูกจะเริ่มกระบวนการขยายตัวเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของตัวอ่อน แต่ขนาดมดลูกในระยะนี้ก็ยังเล็กเกินกว่าที่จะทำให้ขนาดท้องยื่นออกมา
เมื่อร่างกายเริ่มแสดงอาการคนท้องแรก ๆ คุณแม่ควรวางแผนอะไรบ้าง
เมื่อมีอาการคนท้องแสดงออกมา สิ่งสำคัญที่ควรทำหลังจากนั้นคือ
ตรวจครรภ์
-
เป็นการตรวจครรภ์เบื้องต้นด้วยตัวเอง โดยใช้ที่ตรวจครรภ์ตรวจจากปัสสาวะ เพื่อยืนยันว่าอาการดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะการตั้งครรภ์จริง ๆ
ไปพบแพทย์
-
หากผลลัพธ์ออกมาว่าตั้งครรภ์ ขั้นตอนต่อไปคือการไปพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจยืนยันการตั้งครรภ์อีกครั้ง และทำการฝากครรภ์
-
เมื่อทำการฝากครรภ์ แพทย์จะให้คำแนะนำในการเริ่มดูแลตัวเอง มอบสมุดสำหรับการฝากครรภ์ รวมถึงทำการนัดหมายเพื่อทำการตรวจครรภ์ในครั้งต่อไปด้วย
อาการคนท้องระยะแรกจะดีขึ้นเมื่อไหร่ คุณแม่จะมีอาการไปจนถึงวันคลอดเลยหรือไม่
อาการเริ่มแรก ของคนท้องในคุณแม่แต่ละคนนั้นเริ่มและจบไม่เหมือนกัน คุณแม่บางคนมีอาการตั้งแต่เดือนแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ แต่พอเข้าไตรมาสที่สองก็เริ่มดีขึ้น ขณะที่คุณแม่บางคนไม่มีอาการอะไรเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตั้งครรภ์ไตรมาสสองแล้ว หรือคุณแม่บางคนไม่เคยมีอาการใด ๆ เลยตลอดการตั้งครรภ์
คุณแม่มีอาการท้องไม่รู้ตัวอยู่หรือเปล่า
อาการท้องไม่รู้ตัวนั้นสามารถเกิดขึ้นได้ คุณแม่บางคนอาจจะมีอาการคนท้องตั้งแต่เดือนแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ จึงสังเกตได้ว่าอาจจะกำลังตั้งครรภ์ ขณะที่คุณแม่บางคนไม่มีอาการใด ๆ ที่บ่งบอกว่าตั้งครรภ์เลย
โดยเฉพาะอย่างยิ่งคุณแม่ที่มีปัญหาประจำเดือนมาไม่ค่อยปกติอยู่แล้ว กรณีนี้ยิ่งทำให้การรับรู้้ หรือการสังเกตว่ากำลังตั้งครรภ์เป็นไปได้ยากขึ้นกว่าเดิม เพราะถึงแม้ประจำเดือนขาดจะเป็นหนึ่งในสัญญาณแรก ๆ ที่บอกว่าตั้งครรภ์ แต่สำหรับคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติแล้ว สิ่งนี้อาจจะเป็นเรื่องปกติ
ไขข้อข้องใจเรื่องอาการคนท้องกับ Enfa Smart Club
อาการคนตั้งครรภ์เหมือนกันทุกคนไหม
อาการตั้งครรภ์ในคุณแม่แต่ละคนนั้นจะมีความคล้ายกัน จะต่างก็เพียงมีอาการมากหรือน้อย คุณแม่บางคนอาจมีอาการชัดเจนมากที่รู้ได้ทันทีว่ามีการตั้งครรภ์ คุณแม่บางคนก็มีอาการน้อยจนดูไม่ออกว่าอาจจะกำลังตั้งครรภ์ หรือคุณแม่บางคนไม่มีอาการใด ๆ เลย กว่าจะรู้ตัวว่าตั้งครรภ์ก็ผ่านไปหลายเดือนแล้ว
อาการของคนท้องแรกๆ เช่น ง่วงนอน เหนื่อยล้า จะหายเมื่อไหร่
โดยมากแล้วกลุ่มอาการแพ้ท้องมักจะเริ่มดีขึ้นเมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 2 ของการตั้งครรภ์
อย่างไรก็ตาม อาการเริ่มแรกของคนท้องในคุณแม่แต่ละคนนั้นเริ่มและจบไม่เหมือนกัน คุณแม่บางคนมีอาการตั้งแต่เดือนแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ แต่พอเข้าไตรมาสที่สองก็เริ่มดีขึ้น ขณะที่คุณแม่บางคนไม่มีอาการอะไรเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตั้งครรภ์ไตรมาสสองแล้ว หรือคุณแม่บางคนไม่เคยมีอาการใด ๆ เลยตลอดการตั้งครรภ์
อาการคนเริ่มท้องจะมาหลังปฏิสนธิกี่วัน
อาการคนท้องอาจเริ่มตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่คุมกำเนิด ซึ่งอาจจะเริ่มพบจากอาการขาดประจำเดือนก่อน แล้วจึงมีอาการอื่น ๆ ตามมา
อย่างไรก็ตาม อาการเริ่มแรกของคนท้องในคุณแม่แต่ละคนนั้นเริ่มและจบไม่เหมือนกัน คุณแม่บางคนมีอาการตั้งแต่เดือนแรก ๆ ของการตั้งครรภ์ แต่พอเข้าไตรมาสที่สองก็เริ่มดีขึ้น ขณะที่คุณแม่บางคนไม่มีอาการอะไรเลย กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ตั้งครรภ์ไตรมาสสองแล้ว หรือคุณแม่บางคนไม่เคยมีอาการใด ๆ เลยตลอดการตั้งครรภ์
วิธีสังเกตคนท้องระยะแรกที่แม่นยำที่สุดคืออะไร
สัญญาณที่ชัดเจนที่สุดที่สามารถสันนิษฐานได้ว่าอาจมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ก็คืออาการขาดประจำเดือน
อย่างไรก็ตาม สำหรับคุณแม่ที่ประจำเดือนมาไม่ปกติเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว ก็อาจจะคิดว่าอาการเช่นนี้เป็นอาการปกติของตัวเอง ไม่ใช่การตั้งครรภ์แต่อย่างใด
อาการเหมือนคนท้อง แต่มีประจําเดือน เกิดจากอะไร
การมีประจำเดือนกะปริดกะปรอย ก็สามารถเป็นสัญญาณแรกของการตั้งท้องได้เหมือนกัน โดยเกิดขึ้นระหว่างการเคลื่อนตัวของไข่ที่ปฏิสนธิแล้ว เคลื่อนตัวไปฝังในมดลูก ซึ่งเป็นเวลาคาบเกี่ยวระหว่างช่วงที่จะมีประจำเดือน ทำให้มีเลือดไหลออกมากะปิดกะปรอย แต่อาการนี้ไม่ได้เกิดกับผู้หญิงทุกคน แม้จะเกิดได้ แต่ก็ถือว่าน้อย
อย่างไรก็ตาม เลือดที่ออกมานั้น บางครั้งก็อาจจะไม่ใช่เลือดประจำเดือน แต่เป็นเลือดที่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ดังนี้
-
ท้องลม
-
การตั้งครรภ์ไข่ปลาอุก
-
การแท้ง
ดังนั้น หากมีอาการเลือดออกขณะตั้งครรภ์ ควรไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจยืนยันว่าเป็นประจำเดือน หรือเป็นสัญญาณสุขภาพอื่น ๆ
อาการที่บอกว่าท้องลูกสาวคืออะไร
ไม่มีผลการวิจัยหรือผลการศึกษาที่มากพอจะรองรับได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าอาการแพ้ท้องหรืออาการตั้งครรภ์สามารถบอกเพศลูกได้
อาการเหมือนคนท้องแต่ไม่ท้อง เป็นเพราะอะไร
หากมีอาการคล้ายคนท้อง แต่เมื่อตรวจดูแล้วไม่มีการท้องเกิดขึ้น อาจเกิดจากการตั้งท้องลม ซึ่งเป็นหนึ่งในความผิดปกติของการตั้งครรภ์ คือมีการตั้งครรภ์เกิดขึ้นจริง แต่จู่ ๆ ตัวอ่อนที่ได้รับการปฏิสนธิและฝังตัวในมดลูกก็ฝ่อไป เหลือไว้แต่ถุงตั้งครรภ์เปล่า ๆ
อาการคนท้องระยะแรกจะมีปัสสาวะสีอะไร
จริง ๆ แล้วปัสสาวะของคนท้องกับคนที่ไม่ท้องนั้นไม่ได้มีอะไรที่แตกต่างกันมากถึงขนาดนั้น และการเปลี่ยนแปลงสีของปัสสาวะก็ไม่ได้เป็นตัวกำหนดการตั้งครรภ์ด้วย
การที่ปัสสาวะมีสีเข้ม หรือสีจาง อาจหมายถึงปัญหาสุขภาพมากกว่าจะหมายถึงการตั้งครรภ์ ปัสสาวะที่สีเข้มมากอาจหมายถึงการดื่มน้ำน้อย หรือร่างกายขาดน้ำ หรือถ้าปัสสาวะมีเลือดปนออกมาด้วย ก็อาจหมายถึงการอักเสบหรือติดเชื้อที่ระบบทางเดินปัสสาวะ อาการเช่นนี้แนะนำให้ไปพบแพทย์
ปฏิสนธิกี่วันถึงจะรู้ว่าท้อง
ระยะเวลาในการตรวจครรภ์นั้น ขึ้นอยู่กับว่าคำนวณวันตกไข่ไว้ได้อย่างแม่นยำหรือไม่ เพราะถ้าหากคำนวณวันตกไข่เอาไว้แล้ว หลังจากวันที่มีเพศสัมพันธ์ไปอีก 12-14 วัน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วที่สุดที่จะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ เพราะเป็นระยะเวลาที่มีการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิเสร็จสมบูรณ์พอดี ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
ตรวจครรภ์หลังมีอะไรกับแฟน 1 อาทิตย์ มีโอกาสตรวจเจอไหม
การตรวจครรภ์ 1 สัปดาห์หลังจากที่มีเพศสัมพันธ์โดยไม่คุมกำเนิดนั้น ถือว่ายังเร็วเกินกว่าที่จะตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ ระยะเวลาเร็วที่สุดในการตรวจพบการตั้งครรภ์คือ 12-14 วัน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วที่สุดที่จะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ เพราะเป็นระยะเวลาที่มีการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิเสร็จสมบูรณ์พอดี ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
ท้องกี่สัปดาห์ตรวจเจอ
ระยะเวลาเร็วที่สุดในการตรวจพบการตั้งครรภ์คือ 12-14 วัน ถือว่าเป็นระยะเวลาที่เร็วที่สุดที่จะสามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้ เพราะเป็นระยะเวลาที่มีการปฏิสนธิของไข่กับอสุจิเสร็จสมบูรณ์พอดี ก็จะให้ผลลัพธ์ที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของ Enfa Smart Club วันนี้ พร้อมให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลคุณแม่ตั้งครรภ์ในช่วงสัปดาห์แรก รวมทั้งพัฒนาการของทารกในครรภ์ และโภชนาการที่เหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญ พร้อมสิทธิพิเศษมากมาย เฉพาะสมาชิกเท่านั้น คลิกเลย!
- Cleveland Clinic. Pregnancy: Am I Pregnant?. [Online] Accessed https://my.clevelandclinic.org/health/articles/9709-pregnancy-am-i-pregnant. [ 13 June 2022]
- Very Well Family. Knowing the Early Signs and Symptoms of Pregnancy. [Online] Accessed https://www.verywellfamily.com/early-pregnancy-signs-2759952. [ 13 June 2022]
- WebMD. Early Pregnancy Symptoms. [Online] Accessed https://www.webmd.com/baby/guide/pregnancy-am-i-pregnant#091e9c5e80008bd.... [ 13 June 2022]
- What to expect. 14 Early Pregnancy Signs and Symptoms. [Online] Accessed https://www.whattoexpect.com/pregnancy/symptoms-and-solutions/early-sign.... [ 13 June 2022]
- Mayo Clinic. Symptoms of pregnancy: What happens first. [Online] Accessed https://www.mayoclinic.org/healthy-lifestyle/getting-pregnant/in-depth/s.... [ 13 June 2022]
- Medical News Today. Week 1 of pregnancy: Symptoms and testing. [Online] Accessed https://www.medicalnewstoday.com/articles/pregnancy-symptoms-week-1. [ 13 June 2022]
- The Bump. Pregnancy Week by Week. [Online] Accessed https://www.thebump.com/pregnancy-week-by-week/2-weeks-pregnant. [ 13 June 2022]
- Healthline. 2 Weeks Pregnant: Symptoms, Tips, and More. [Online] Accessed https://www.healthline.com/health/pregnancy/week-two. [ 13 June 2022]
- Healthline. Early Pregnancy Symptoms. [Online] Accessed https://www.healthline.com/health/pregnancy/early-symptoms-timeline. [ 13 June 2022]
- Healthline. Why You Might Have Cloudy Urine During Pregnancy. [Online] Accessed https://www.healthline.com/health/pregnancy/cloudy-urine-pregnancy . [ 13 June 2022]
- Baby Center. 3 Weeks Pregnant. [Online] Accessed https://www.babycenter.com/pregnancy/week-by-week/3-weeks-pregnant. [ 13 June 2022]
- Better Health Channel. Pregnancy - signs and symptoms. [Online] Accessed https://www.betterhealth.vic.gov.au/health/healthyliving/pregnancy-signs.... [ 13 June 2022]
- Medicine Net. 24 Early Pregnancy Symptoms and Signs. [Online] Accessed https://www.medicinenet.com/pregnancy_symptoms_am_i_pregnant/article.htm. [ 13 June 2022]
- คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล. ท้องลม...ท้องหลอก. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.si.mahidol.ac.th/sidoctor/e-pl/articledetail.asp?id=501. [ 13 มิถุนายน 2022]
- โรงพยาบาลสมิติเวช. ตั้งครรภ์แน่ๆ หรือแค่จะมีประจำเดือน. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://www.samitivejhospitals.com/th/article/detail/. [ 13 มิถุนายน 2022]
- The Asian Parents. ท้องแต่มีประจำเดือน มีประจำเดือนแต่ท้อง เมนส์มาแต่ท้องอยู่ เป็นไปได้หรือ?. [ออนไลน์] เข้าถึงได้จาก https://th.theasianparent.com/can-pregnant-woman-have-period. [ 13 มิถุนายน 2022]
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์
- เมนส์ไม่มากี่วันถึงท้อง ประจำเดือนไม่มาแปลว่าท้องใช่ไหม
- ที่ตรวจครรภ์ แม่นยำแค่ไหน และใช้อย่างไรให้ถูกวิธี
- อาการแพ้ท้อง รับมืออย่างไรให้ไม่แพ้
- อยากมีลูกต้องทำไง? อยากท้องไวๆ ต้องมาดูเคล็ดลับนี้เลย
- ท้องลม ท้องหลอก คือท้องจริงๆ หรือว่าท้องเทียม
- รู้เพศตอนกี่เดือน อัลตราซาวนด์เพศลูก เริ่มทำได้ตอนไหน
- เลือดล้างหน้าเด็ก สัญญาณแรกสู่การตั้งครรภ์ที่คุณแม่ควรรู้
- อาการเจ็บเต้านม ปวดเต้านมตอนท้องแบบนี้ ปกติหรือควรระวัง?
- วิธีกำจัดเหา ล้างบางไข่เหา จบปัญหาลูกเป็นเหา เกาหัวยิกๆ
- ภูมิแพ้ในเด็ก คุณแม่ควรรับมืออย่างไรเมื่อลูกน้อยเป็นภูมิแพ้
- ฤกษ์ผ่าคลอด 2566 โดย การะเกต์พยากรณ์
- ลูกหลับดี ยิ่งมี "พัฒนาการสมอง" ต่อเนื่อง
- อายุ 40 มีลูกได้ไหม ตั้งท้องตอน 40 ช้าไปหรือเปล่า
เมื่อคุณแม่ตั้งครรภ์แล้ว สิ่งที่คุณแม่ควรใส่ใจก็คือการได้รับโภชนาการที่ดี มีคุณภาพ ซึ่งไม่เพียงสำคัญกับพัฒนาการลูกในครรภ์ แต่ยังส่งผลต่อสุขภาพ และช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้คุณแม่เองด้วย
โภชนาการที่ดีหมายถึง การที่คุณแม่ได้รับสารอาหารอย่างสมดุล คือได้รับทั้งสารอาหารหลัก (โปรตีน คาร์โบไฮเดรต และไขมัน) และสารอาหารรอง (เกลือแร่ และวิตามิน) ซึ่งช่วยส่งเสริมการทำงานของจุลินทรีย์ชนิดดีในลำไส้ของคุณแม่ นอกจากนี้ คุณแม่ตั้งครรภ์ควรเสริมสารอาหารอย่างกรดโฟลิก และวิตามินบี 12 ที่มีบทบาทสำคัญในระบบภูมิคุ้มกัน รวมไปถึงการออกกำลังกาย การดูแลสุขภาพใจให้ดี เพื่อสุขภาพที่ดีของคุณแม่ และเจ้าตัวน้อย
