Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
ทารกในวัยแรกเกิดจะมีรีเฟล็กซ์หรือปฏิกิริยาตอบสนองทางระบบประสาท ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่ควรมีในช่วงแรกของชีวิต โดยอาการเหล่านี้จะหายไปเองเมื่อเวลาผ่านไป
คุณแม่หลายคนอาจสงสัยว่าปฏิกิริยาตอบสนองลักษณะใดบ้างที่เป็นพฤติกรรมปกติของทารก เอนฟาจะมาไขข้อข้องใจเกี่ยวกับปฏิกิริยาตอบสนองของทารกในบทความนี้กันค่ะ
Reflex ของทารก คือ ปฏิกิริยาตอบสนองของทารกที่มีต่อสิ่งกระตุ้น เป็นอาการที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติและมีการพัฒนามาเรื่อย ๆ ตั้งแต่ทารกอยู่ในครรภ์
Reflex ของทารกเป็นพัฒนาการที่พบได้ทั่วไปในทารก ที่แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการด้านระบบประสาทตามช่วงวัย โดยปฏิกิริยาตอบสนองบางอย่างจะเกิดขึ้นในพัฒนาการช่วงใดช่วงหนึ่งเท่านั้น และอาการเหล่านี้จะหายไปเมื่อทารกอายุมากขึ้น
Reflex ทารกหรือปฏิกิริยาตอบสนองของทารก มีอะไรกันบ้าง ตามมาดูกันได้เลย
Moro Reflex คือ รีเฟล็กซ์โมโร หรือที่เรียกอีกชื่อว่า Startle Reflex เป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่มักเกิดขึ้นหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมกะทันหัน เช่น เมื่อได้ยินเสียงดัง เมื่อเห็นการเคลื่อนไหวเร็ว ๆ
ส่งผลให้ทารกตอบสนองด้วยการเงยศีรษะ ยืดแขนและขาออก ร้องไห้งอแง แล้วหดแขนและขากลับเข้าหาตัวอย่างรวดเร็ว บางครั้งคุณแม่อาจสังเกตว่าทารกมีปฏิกิริยาตอบสนองนี้หลังจากตกใจเสียงร้องไห้ของตัวเอง โดย Startle reflex จะหายไปในตอนทารกอายุประมาณ 2 เดือน
Rooting Reflex คือ ปฏิกิริยาตอบสนองที่เกิดขึ้นเมื่อมีการลูบหรือสัมผัสริมฝีปากของทารก ส่งผลให้ทารกหันศีรษะหรือขยับริมฝีปากไปหาสิ่งกระตุ้นทันที
โดยรูทติ้งรีเฟล็กซ์เป็นสัญชาตญาณเอาตัวรอดที่ช่วยให้ทารกสามารถหาเต้านมหรือขวดนมเพื่อเริ่มดูดนมนั่นเองค่ะ ปฏิกิริยาตอบสนองนี้จะมีตั้งแต่แรกเกิด จนกระทั่งอายุประมาณ 4 เดือนก็จะหายไปเอง
Sucking Reflex คือ รีเฟล็กซ์ของการดูด เป็นสัญชาตญาณเอาตัวรอดอีกอย่างหนึ่งของทารก เกิดขึ้นเมื่อมีการสัมผัสริมฝีปากของทารกหรือสอดหัวนมเข้าไปในปากทารก
โดยทารกจะเริ่มดูดน้ำนมโดยอัตโนมัติ และจะเรียนรู้วิธีดูดนมในขณะที่หายใจและกลืนนมด้วยได้ตัวเอง ปฏิกิริยาตอบสนองของการดูดจะหายไปในช่วงอายุระหว่าง 2-4 เดือน
Tonic Neck Reflex คือ รีเฟล็กซ์การสะท้อนของคอ โดยปกติแล้วขณะนอนหงายทารกจะสามารถขยับแขนขาได้ปกติ แต่หากจับศีรษะทารกหันไปด้านใดด้านหนึ่ง ทารกจะเหยียดแขนและขาข้างนั้นไปด้านที่หันหน้า ในขณะที่งอแขนและขาอีกข้างไว้ ปฏิกิริยาตอบสนองนี้จะหายไปเมื่อทารกอายุประมาณ 6 เดือน
สิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิด Palmar Grasp Reflex คือ การกดหรือลูบบริเวณฝ่ามือของทารก ซึ่งจะทำให้ทารกขยับนิ้วและเข้าหากันจนกำมือเพื่อจับสิ่งของในอุ้งมือตัวเอง
ปฏิกิริยาตอบสนองนี้จะปรากฎชัดมากในวัยแรกเกิด ทารกจะกำมือแน่นมาก แต่แรงมักไม่แน่นอน โดยปฏิกิริยาตอบสนองการหยิบของมือทารกจะหายไปตอนทารกอายุประมาณ 5 ถึง 6 เดือน ส่วนปฏิกิริยาตอบสนองบริเวณฝ่าเท้าจะหายไปเมื่อทารกอายุ 9 ถึง 12 เดือน
Placing Reflex คือ รีเฟล็กซ์การก้าวเดินหรือที่เรียกว่า Stepping Reflex เป็นปฏิกิริยาตอบสนองที่อาจช่วยให้ทารกแรกเกิดคลานไปหาเต้านมโดยสัญชาตญาณทันทีหลังคลอด ขณะทารกนอนบนหน้าอกของคุณแม่
ปฏิกิริยาตอบสนองนี้มักเกิดขึ้นเมื่ออุ้มหรือยกตัวทารกขึ้นให้ฝ่าเท้าสัมผัสกับพื้นผิวเรียบ คุณแม่อาจสังเกตเห็นว่าทารกจะพยายามก้าวไปข้างหน้าโดยวางเท้าข้างหนึ่งไว้ข้างหน้าอีกข้างหนึ่ง แม้จะยังไม่สามารถรองรับน้ำหนักของตัวเองได้ก็ตาม โดยทั่วไปรีเฟล็กซ์ของการก้าวเดินจะหายไปตอนทารกอายุประมาณ 2 เดือน
Babinski Reflex คือ รีเฟล็กซ์ของฝ่าเท้า เกิดจากการตอบสนองบริเวณฝ่าเท้าของทารก จุดสังเกตของ Babinski Reflex คือ ทารกจะหดขาหนีเมื่อมีสิ่งกระตุ้น
เช่น เมื่อคุณแม่ลูบปลายเท้าของทารกตั้งแต่ส้นเท้าจนถึงนิ้วเท้า นิ้วหัวแม่เท้าของทารกจะยกขึ้น ในขณะที่นิ้วเท้าที่เหลือจะกางออก ปฏิกิริยาตอบสนองนี้ อาจหายไปในช่วงอายุ 1-2 ปี
การตรวจ Reflex ทารกแรกเกิด เป็นการประเมินปฏิกิริยาตอบสนองของทารกในช่วงเดือนแรก ๆ หลังคลอด โดยเป็นการประเมินที่สามารถทำได้ทั้งพ่อแม่ ผู้ปกครอง และเจ้าหน้าที่ โดยวิธีตรวจประเมิน Reflex ของทารก อาจทำได้ดังนี้
• วิธีตรวจ Moro Reflex: อุ้มทารกประคองศีรษะกับต้นคอ เลื่อนมือลงมาบริเวณหลัง เพื่อให้ศีรษะทารกหงายไปข้างหลัง หรืออาจกระตุ้นทารกที่นอนหงายอยู่ด้วยเสียงดังกะทันหัน ทารกจะมีปฏิกิริยาตอบสนองทันที คือแขนขาจะเหยียดชูขึ้นด้านบน แล้วจะแบมือและกางออกสองข้างเท่า ๆ กัน จากนั้นจะโอบเข้าหากัน และอาจร้องไห้
• วิธีตรวจ Palmar Grasp Reflex: สอดนิ้วมือเข้าไปในฝ่ามือทารกทางนิ้วก้อยหรือใช้นิ้วแตะบริเวณฝ่ามือของทารก ทารกจะกำไว้ชั่วครู่ สามารถคลายมือได้เองแล้วปล่อย หากทารกกำมือแน่นจนสามารถยกตัวทารกขึ้นจากพื้นได้ อาจเป็นสัญญาณของความผิดปกติ
• วิธีตรวจ Tonic Neck Reflex: ให้ทารกนอนหงายบนพื้นเรียบ หันศีรษะทารกไปด้านใดด้านหนึ่ง หากทารกเหยียดแขนและขาไปด้านที่หันศีรษะ ส่วนด้านตรงข้ามเด็กจะงอแขนและเข่า แสดงว่าพัฒนาการเป็นปกติ
คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะว่า เด็กจะมีพัฒนาการ IQ และ EQ ที่ก้าวล้ำตั้งแต่ยังเล็กได้นั้น นอกจากการฝึกฝน เลี้ยงดู และอบรมสั่งสอนแล้ว การใส่ใจกับโภชนาการตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกของชีวิตนั้น ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ลูกพร้อมเติบโตมาเป็นเด็กที่ทั้งฉลาดทางความคิดและฉลาดทางอารมณ์
โดยโภชนาการที่สำคัญที่ลูกน้อยควรได้รับก็คือนมแม่ เพราะในนมแม่มีสารอาหารอย่าง MFGM หรือเยื่อหุ้มอนุภาคไขมันในนมแม่ ประกอบด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด อย่างสฟิงโกไมอิลีน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซต์ ซึ่งเป็นกลุ่มสารอาหารที่มีส่วนช่วยสำคัญต่อการเสริมพัฒนาการรับรู้ เพื่อ IQ ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก
Enfa สรุปให้ ทารกตัวเหลือง ถือเป็นอาการโดยทั่วไปที่พบได้ในทารกแรกเกิด โดยเฉพาะในช่วง 2-3 หลังคลอ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ ตรวจ Reflex ทารกแรกเกิด จะช่วยให้คุณแม่สามารถติดตามพัฒนาการของลูกในแต่ละช่วงวัย และ...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ Tummy Time คือการให้ทารกนอนคว่ำขณะตื่นเพื่อเสริมพัฒนากล้ามเนื้อคอ ไหล่ และหลัง ช่วย...
อ่านต่อ