
Enfa สรุปให้

เลือกอ่านตามหัวข้อ
ช่วงวัยทารกโดยเฉพาะตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 6 เดือน ร่างกายของลูกน้อยยังอยู่ในระยะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นระบบย่อยอาหาร การมองเห็น หรือแม้แต่ภายในช่องปาก พ่อแม่หลายคนอาจตกใจเมื่อสังเกตพบตุ่มขาวในปากทารก เหงือกมีจุดสีขาวเล็ก ๆ หรือลูกมีตุ่มขึ้นที่เหงือก ซึ่งดูคล้ายตุ่มหนองหรือแผลเล็ก ๆ บางรายอาจมีหลายตุ่ม บางรายมีเพียงจุดเดียวจนอดคิดไม่ได้ว่า ลูกไม่สบายหรือเปล่า?
ในบทความนี้ Enfa จะพาไปหาคำตอบอย่างละเอียด พร้อมคำแนะนำการดูแลที่เหมาะสม เพื่อให้พ่อแม่เบาใจและดูแลลูกได้อย่างถูกวิธีกันค่ะ
ลักษณะเป็นถุงซีสต์เล็ก ๆ ที่เกิดจากเศษเซลล์เยื่อบุช่องปากระหว่างพัฒนาการในครรภ์ พบได้บ่อยที่เพดานปากช่วงใกล้เหงือก มักหายไปเองในไม่กี่สัปดาห์
ลักษณะคล้าย Epstein’s pearls แต่ขึ้นที่เหงือก เกิดจากเซลล์เยื่อบุเหงือกที่สะสมตัวเป็นถุงน้ำขนาดเล็ก
โดยหากตุ่มหรือคราบขาวกระจายกว้าง มีลักษณะเหมือนคราบนมข้นที่เช็ดไม่ออก และทารกมีอาการเจ็บหรือไม่สบายเวลาให้นม อาจเป็นการติดเชื้อราแคนดิดา (Candida albicans) ซึ่งต้องได้รับการรักษา
มักเป็นตุ่มนูนใสหรือสีม่วงเล็กน้อย บริเวณเหงือก ที่เกิดจากฟันกำลังจะโผล่ขึ้นมา
ทั้งนี้ ทั้งหมดนี้ไม่ใช่โรค ไม่ต้องเจาะออก และมักหายไปได้เองค่ะ
หากพบอาการเหล่านี้ ควรพาไปพบกุมารแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียดค่ะ
ใช้ผ้าก๊อซหรือผ้าสะอาดชุบน้ำต้มสุกอุ่นๆ เช็ดเหงือกวันละ 1-2 ครั้ง
หลีกเลี่ยงการให้ลูกอมของเล่นหรือขวดนมที่ไม่สะอาด
ไม่ควรใช้ยาหรือสมุนไพรใด ๆ ทาในช่องปากลูก หากไม่ได้รับคำแนะนำจากแพทย์
แต่หากแพทย์วินิจฉัยว่าเป็น เชื้อราในปาก (oral thrush) ซึ่งจะมีลักษณะเป็นคราบหนาขาวลอกยาก แพทย์อาจจ่ายยาฆ่าเชื้อรา เช่น Nystatin ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการวินิจฉัยของแพทย์ ไม่ควรซื้อยามาใช้เอง
ทั้งนี้ ตุ่มขาวในปากทารก การที่เหงือกทารกมีจุดสีขาวเล็ก ๆ เป็นอาการที่พบได้บ่อยและไม่ควรตกใจ เพราะส่วนใหญ่แล้วไม่อันตรายและไม่ต้องรักษา ตราบใดที่ไม่มีอาการเจ็บปวดหรือภาวะแทรกซ้อน การดูแลความสะอาดภายในช่องปาก และการสังเกตอาการของลูกอย่างใกล้ชิดคือสิ่งสำคัญที่สุด หากไม่แน่ใจว่าตุ่มนั้นเป็นชนิดใด ควรปรึกษากุมารแพทย์เพื่อความอุ่นใจและปลอดภัยของลูกน้อยในทุกระยะของการเติบโต
คุณพ่อคุณแม่รู้ไหมคะว่า เด็กจะมีพัฒนาการ IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ยังเล็กได้นั้น นอกจากการฝึกฝน เลี้ยงดู และอบรมสั่งสอนแล้ว การใส่ใจกับโภชนาการตั้งแต่ลูกยังเล็ก โดยเฉพาะในช่วง 5 ปีแรกของชีวิตนั้น ถือว่าเป็นการปูพื้นฐานที่สำคัญ ซึ่งจะช่วยให้ลูกพร้อมเติบโตมาเป็นเด็กที่ทั้งฉลาดทางความคิดและฉลาดทางอารมณ์
โดยโภชนาการที่สำคัญที่ลูกน้อยควรได้รับก็คือนมแม่ เพราะในนมแม่มีสารอาหารอย่าง MFGM หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ ประกอบไปด้วยโปรตีนและไขมันกว่า 150 ชนิด เช่น สฟิงโกไมอีลิน ฟอสโฟลิปิด แกงกลิโอไซต์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่มีส่วนช่วยสำคัญต่อการเสริมสร้างพัฒนาการด้านสมองและการเรียนรู้
*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561
บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ดูแลลูกน้อย
Enfa สรุปให้ Hydrocephalus คือ ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง หรือภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ เกิดจากการที่มีของเ...
อ่านต่อ
Enfa สรุปให้ ลูกไข้ 38 อันตรายไหม การมีไข้ที่อุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส ถือว่ามีไข้ระดับกลาง การบร...
อ่านต่อ
Enfa สรุปให้ Microcephaly คือ ภาวะศีรษะเล็กแต่กำเนิด ทำให้ทารกคลอดออกมาพร้อมกับขนาดรอบศีรษะที่เล...
อ่านต่อ