นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก เอนฟาสนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวอย่างน้อย 6 เดือนไปจนถึง 2 ปี หรือนานกว่าตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO) Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ Hydrocephalus คืออะไร เป็นแล้วรักษาได้ไหม

Enfa สรุปให้

  • Hydrocephalus คือ ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง หรือภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ เกิดจากการที่มีของเหลวส่วนเกินในโพรงสมองหรือไขสันหลังมากเกินไป หากไม่รับการรักษา จะเสี่ยงทำให้สมองเสื่อม
  • Normal Pressure Hydrocephalus คือ ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติ ภาวะน้ำคั่งในสมองแบบนี้จะพบได้ในผู้สูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป
  • Hydrocephalus พยาธิสภาพการวินิจฉัยสามารถทำได้หลายแบบ เช่น การตรวจหาภาวะตาโหล ตรวจดูการโป่งพองของกระหม่อมศีรษะ และตรวจดูการตอบสนองต่าง ๆ ว่าลูกน้อยมีการตอบสนองล่าช้าหรือไม่

เลือกอ่านตามหัวข้อ


หนึ่งในภาวะความผิดปกติที่เกี่ยวของกับสมองและสามารถพบได้ในขณะตั้งครรภ์ นั่นคือ Hydrocephalus ค่ะ บทความนี้จาก Enfa จะชวนคุณแม่มาดูว่า Hydrocephalus คืออะไร ส่งผลเสียต่อลูกน้อยอย่างไร และถ้าหากลูกมีภาวะดังกล่าว จะสามารถรักษาได้ไหม ไปหาคำตอบพร้อม ๆ กันค่ะ

 

Hydrocephalus คืออะไร

Hydrocephalus คือ โรคสมองคั่งน้ำ หรือภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ หรือภาวะน้ำคั่งในสมอง หรือภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง เป็นภาวะที่มีน้ำหล่อเลี้ยงสมองและน้ำไขสันหลัง สะสมมากเกินไปภายในกะโหลก ของเหลวส่วนเกินนี้ทำให้โพรงสมองขยายตัวกว้างขึ้นกว่าปกติ

เมื่อมีการสะสมของเหลวติดต่อกันเป็นระยะเวลานาน ๆ ก็จะเริ่มส่งผลต่ออาการทางสมอง เช่น มีอาการปวดศีรษะ มีความจำผิดปกติ เดินทรงตัวไม่ได้ หรือมีการมองเห็นที่ผิดปกติ เป็นต้น และในระยะยาวอาจนำไปสู่ภาวะสมองเสื่อมได้ค่ะ โดยภาวะโพรงสมองคั่งน้ำนี้ สามารถพบได้ตั้งแต่กำเนิด หรืออาจเกิดขึ้นในภายหลังเมื่ออายุมากขึ้นค่ะ

 

Hydrocephalus เกิดจากอะไร

ภาวะน้ำคั่งในโพรงสมอง หรือ Hydrocephalus เกิดจากหลายปัจจัยที่แตกต่างกันตามชนิดของภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ดังนี้

สาเหตุของภาวะโพรงสมองคั่งน้ำแต่กำเนิด คือพบตั้งแต่ยังเป็นทารก

  • โรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • ภาวะไขสันหลังเปิด (Spina Bifida)
  • ภาวะตีบตันของท่อน้ำในสมอง (Aqueductal stenosis)
  • ภาวะแทรกซ้อนจากการคลอดก่อนกำหนด เช่น เลือดออกภายในโพรงสมอง การติดเชื้อระหว่างตั้งครรภ์ เช่น โรคหัดเยอรมัน ซึ่งอาจทำให้เกิดการอักเสบในเนื้อเยื่อสมองของทารกในครรภ์

 

สาเหตุของภาวะโพรงสมองคั่งน้ำที่เกิดขึ้นหลังคลอด คือพบเมื่อมีอายุมากขึ้น ไม่ได้พบแต่กำเนิด

  • การบาดเจ็บที่ศีรษะ หรือการกระทบกระเทือนที่ศีรษะและเกิดภาวะเลือดออกในสมอง
  • โรคหลอดเลือดสมอง
  • เนื้องอกในสมองหรือไขสันหลัง
  • เยื่อหุ้มสมองอักเสบหรือการติดเชื้ออื่น ๆ ที่สมองหรือไขสันหลัง

 

Hydrocephalus มีกี่แบบ

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ สามารถแบ่งออกได้ 2 แบบ ได้แก่

  • Normal Pressure Hydrocephalus คือ ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำชนิดความดันปกติ มักพบได้บ่อยในผู้ป่วยสูงวัยที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป และจะปรากฎอาการออกมา 3 อย่าง ได้แก่ สมองเสื่อม เดินเซ และกลั้นปัสสาวะไม่ได้
  • Congenital Hydrocephalus คือ ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ที่มีการสะสมของเหลวในสมองมากเกินไปตั้งแต่แรกเกิด

 

Hydrocephalus พยาธิสภาพ

สภาพความเจ็บป่วย หรือ พยาธิสภาพของภาวะโพรงสมองคั่งน้ำนั้น หากเป็นตั้งแต่แรกเกิด มักจะพบว่าเด็กมีศีรษะโตผิดปกติ กระหม่อมศีรษะมีอาการโป่งพองขึ้นมา ตาตก เซื่องซึม

แต่สำหรับเด็กโต วัยรุ่น วัยผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ จะไม่ค่อยพบความผิดปกติทางรูปร่าง แต่จะพบกลุ่มอาการผิดปกติจำพวก การทรงตัวไม่ดี เดินเซ เดินช้าผิดปกติ เดินแล้วล้มบ่อย กลั้นปัสสาวะไม่ได้ พัฒนาการล่าช้า และมีอาการหลง ๆ ลืม ๆ ง่าย

ซึ่งเมื่อพบความผิดปกติเกิดขึ้น ควรพาไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี แต่จะแตกต่างกันไปตามช่วงวัย ดังนี้

  • ตรวจหาภาวะโพรงสมองคั่งน้ำในเด็ก โดยจะทำการตรวจหาภาวะตาโหล ตรวจดูการโป่งพองของกระหม่อมศีรษะ และตรวจดูการตอบสนองต่าง ๆ ว่าลูกน้อยมีการตอบสนองที่ช้าผิดปกติหรือไม่
  • ตรวจหาภาวะโพรงสมองคั่งน้ำในผู้ใหญ่ โดยการตรวจการทำงานของระบบประสาทและสมองเพื่อหาความผิดปกติ

มากไปกว่านั้น แพทย์อาจเลือกใช้กระบวนการตรวจวินิจฉัยหาภาวะโพรงสมองคั่งน้ำได้หลายวิธี ดังนี้

  • อัลตราซาวนด์กะโหลกศีรษะ
  • การสแกนสมองด้วยวิธีตรวจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง (CT Scan)
  • การตรวจโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI)
  • การเจาะไขสันหลัง (การเจาะน้ำไขสันหลัง)
  • การตรวจวัดความดันในกะโหลกศีรษะ (ICP)
  • การตรวจด้วยกล้องตรวจจอประสาทตา (Fundoscopic Examination)

 

Hydrocephalus อาการเป็นอย่างไร

ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ จะมีอาการที่แตกต่างกันไปตามวัย ดังนี้

อาการของภาวะโพรงสมองคั่งน้ำในทารก

  • ศีรษะโตผิดปกติ
  • กระหม่อมศีรษะโป่งพอง
  • ตาตก
  • อาเจียน
  • เซื่องซึม ง่วงนอนบ่อย

 

อาการของภาวะโพรงสมองคั่งน้ำในเด็กโตหรือวัยรุ่น 

  • ปวดศีรษะ
  • คลื่นไส้และอาเจียน
  • มีปัญหาด้านการมองเห็น
  • พัฒนาการด้านต่าง ๆ ล่าช้ากว่าเด็กในวัยเดียวกัน

 

อาการของภาวะโพรงสมองคั่งน้ำในผู้ใหญ่

  • ปวดศีรษะ
  • คลื่นไส้และอาเจียน
  • ปัญหาการมองเห็น
  • เหนื่อยล้า
  • มีปัญหาเรื่องของการทรงตัว
  • สูญเสียความจำระยะสั้น

 

อาการของภาวะโพรงสมองคั่งน้ำในผู้สูงอายุ

  • มีปัญหาการเดินผิดปกติ เช่น เดินเซ เดินไม่ตรง
  • มีภาวะสมองเสื่อมระดับอ่อน
  • อาการหลงลืม
  • การสูญเสียการควบคุมกระเพาะปัสสาวะ ปัสสาวะเล็ด กลั้นปัสสาวะไม่ได้

 

โรคน้ำในสมองทารกในครรภ์ อันตรายแค่ไหน

หากทารกในครรภ์มีภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ถือว่ามีความเสี่ยงอย่างยิ่งต่อพัฒนาการทางสมองของทารกหลังคลอด อาจส่งผลต่อพัฒนาการเรียนรู้ที่ล่าช้า ลูกอาจมีการมองเห็นผิดปกติ มีอาการชัก และถ้าไม่ได้รับการรักษาอย่างเหมาะสมหลังคลอดหรือเมื่อโตขึ้นแล้ว อาจเสี่ยงทำให้สมองถูกทำลาย

 

Hydrocephalus ในทารก รักษาได้อย่างไร

การรักษาภาวะโพรงสมองคั่งน้ำในทารก สามารถทำได้หลายแบบ แต่การผ่าตัดใส่ท่อระบายน้ำ (Shunt placement) เป็นวิธีที่นิยมใช้ในการรักษาภาวะโพรงคั่งน้ำในสมองมากที่สุด

โดยทำการผ่าตัดใส่ท่อหรือสายระบายน้ำขนาดเล็กและยืดหยุ่นเข้าไปในสมองหรือไขสันหลัง เพื่อระบายของเหลวส่วนเกินออกไปยังอวัยวะอื่น ๆ ซึ่งท่อระบายน้ำนี้จำเป็นต้องปรับและเปลี่ยนใหม่เป็นระยะ และต้องได้รับการตรวจโดยศัลยแพทย์ระบบประสาทอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การรักษาอาจจะไม่ได้ทำให้หายขาดแบบ 100% ในทุกราย แต่ก็ช่วยชะลอความเสี่ยงที่รุนแรงต่อสมองได้ดี เด็กสามารถที่จะเติบโตได้เป็นปกติ มีพัฒนาการทางสมองที่สมวัย และใช้ชีวิตได้อย่างเป็นปกติสุขค่ะ

 

Hydrocephalus ในทารก และคำแนะนำสำหรับคุณพ่อคุณแม่

เนื่องจากภาวะโพรงสมองคั่งน้ำนั้นสามารถพบได้ตั้งแต่ทารกแรกเกิด คุณพ่อคุณแม่จึงมีข้อควรรู้เพื่อรับมือกับภาวะดังกล่าว ดังนี้

  • ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ ไม่สามารถหายเองได้ จำเป็นต้องได้รับการรักษา เพื่อดูแลให้อาการดีขึ้นและลดความเสี่ยงรุนแรงทางสมอง
  • ภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ หากไม่ได้รับการรักษาตั้งแต่ยังเนิ่น ๆ อาจทำให้ลูกน้อยมีอาการในระดับรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และอาจมีผลทำให้การรักษายากขึ้น
  • คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตความผิดปกติของลูกตั้งแต่ยังเล็ก ลูกศีรษะโตผิดปกติไหม กระหม่อมโป่งพองหรือเปล่า ตาตกไหม อาเจียนบ่อยไหม หากมีอาการดังกล่าวควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยหาความเสี่ยงของภาวะโพรงสมองคั่งน้ำ
  • คุณแม่ควรไปฝากครรภ์ และไปตามนัดหมายทุกครั้ง เนื่องจากภาวะโพรงสมองคั่งน้ำสามารถตรวจวินิจฉัยได้ตั้งแต่ทารกยังอยู่ในครรภ์ เพื่อที่แพทย์จะได้วางแผนการดูแลรักษาอย่างเหมาะสมหลังคลอดที่ลูกคลอด

 


บทความแนะนำสำหรับคุณแม่ตั้งครรภ์

* นมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารก
Enfa Smart Club สนับสนุนให้คุณแม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่าง
เดียวอย่างน้อย 6 เดือนและให้นมแม่ควบคู่อาหารตามวัยอีก 2 ปี หรือนานกว่านั้น ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลก (WHO)
Enfa Smart Club พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการดูแลคุณแม่และลูกน้อย ด้วยการมอบข้อมูลโภชนาการและพัฒนาการลูกน้อยแต่ละวัย ที่เป็นประโยชน์และเชื่อถือได้ ผ่านเว็บไซต์ enfababy.com

คุณกำลังเข้าถึงเนื้อหาจากผู้ให้บริการภายนอกเกี่ยวกับการซื้อหรือ เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัท มี้ด จอห์นสัน นิวทริชัน (ประเทศไทย) จำกัด​

กรุณากดยืนยันเพื่อดำเนินการต่อ

Line TH
Cart TH Join Enfamama