Enfa สรุปให้
เลือกอ่านตามหัวข้อ
อาการปวดหู เป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพของเด็กที่สามารถพบได้ทั่วไป แต่บางครั้ง...อาการปวดหูของลูกอาจจะไม่ได้มีแค่การปวดหูเพียงอย่างเดียว แต่อาจพ่วงมาด้วยการมีไข้สูง เป็นหวัด หรือมีการติดเชื้อร่วมด้วย บทความนี้จาก Enfa จะช่วยไขข้อสงสัยเกี่ยวกับวิธีรับมือเมื่อลูกปวดหู รวมถึงตอบคำถามว่า หากลูกปวดหูทําไงดี? และ อาการปวดหูส่งผลอันตรายต่อเด็กมากแค่ไหน? เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกได้อย่างถูกต้องและทันท่วงที
อาการปวดหูทั้งในตอนกลางวันและปวดหูตอนกลางคืนนั้น เกิดขึ้นได้จากหลากหลายสาเหตุที่แตกต่างกันไป ดังนี้
หากคุณพ่อคุณแม่พบว่าลูกมีอาการปวดหูรุนแรงจนกระทบกับการนอนหลับพักผ่อน ทำให้ลูกนอนไม่พอ จะส่งผลให้ลูกขาดสมาธิในการเรียนและการทำกิจกรรม ควรหยุดเรียนและพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุที่ทำให้ลูกมีอาการปวดหู และรับการรักษาที่ตรงจุด
ความอันตรายจากอาการปวดหูในเด็กนั้น ขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ทำให้ลูกปวดหู หรือมีอาการปวดหูข้างเดียว หากเกิดจากอุบัติเหตุโดยทั่วไป เช่น การขีดข่วน การแคะหู กรณีแบบนี้การปฐมพยาบาลเบื้องต้นสามารถช่วยให้อาการดีขึ้นได้ค่ะ
แต่ถ้ามีสาเหตุมาจากการติดเชื้อในหู อาจจำเป็นจะต้องเข้ารับการรักษาเฉพาะทางจากแพทย์ หรืออาจต้องกินยาปฏิชีวนะเพื่อบรรเทาการติดเชื้อ ดังนั้น หากลูกมีอาการปวดหูควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยหาสาเหตุ และรับการรักษาที่ตรงจุด
หากลูกเป็นหวัดและมีอาการปวดหูร่วมด้วย คุณพ่อคุณแม่สามารถดูแลลูกได้ ดังนี้
ซึ่งอาการเป็นหวัดและปวดหูของลูกน้อยนั้น จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 1-3 วัน แต่ถ้าหากอาการของลูกไม่ดีขึ้น ไข้พุ่งสูง หรือมีอาการปวดหูรุนแรงขึ้น พร้อมกับมีอาการต่าง ๆ ดังต่อไปนี้ร่วมด้วย ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันที
หากลูกมีอาการปวดหู คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือเพื่อบรรเทาอาการปวดหูของลูกได้ ดังนี้
หากลูกปวดหูและมีไข้ คุณพ่อคุณแม่จะต้องเช็ดตัวให้ลูกบ่อย ๆ เพื่อช่วยลดอุณหภูมิในร่างกาย และดูแลให้ลูกกินยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอลหรือไอบูโพรเฟน
มากไปกว่านั้น ดูแลให้ลูกดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อช่วยลดความร้อนในร่างกาย และป้องกันความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำอีกด้วย พร้อมทั้งดูแลให้ลูกนอนพักผ่อนอย่างเพียงพอ ลดการทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงจนกว่าไข้จะลดลง
หากลูกมีแค่อาการปวดหูเพียงอย่างเดียว แต่ไม่มีไข้ร่วมด้วย คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือได้ ดังนี้
หากคุณพ่อคุณแม่ดูแลช่วยบรรเทาอไข้และอาการปวดหูแล้ว แต่อาการของลูกมีแต่แย่ลง หรืออาการไม่ดีขึ้นภายใน 1-3 วัน ควรพาลูกไปพบแพทย์ทันทีเพื่อเข้ารับการตรวจวินิจฉัยและรับการรักษาที่เหมาะสมต่อไปค่ะ
อาการหูอักเสบในทารก มีอาการที่พบได้โดยทั่วไป ดังนี้
ซึ่งหากลูกมีอาการปวดหู คุณพ่อคุณแม่ควรเร่งรับมือด้วยการบรรเทาหูเบื้องต้นทันที หรือพาลูกไปพบแพทย์ทันที เพราะถ้าหากปล่อยเอาไว้และรักษาไม่ทัน อาจทำให้แก้วหูทะลุ เสี่ยงที่ลูกจะสูญเสียการได้ยินแบบถาวร
เด็กที่มีระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง อาจเจ็บป่วยได้ง่าย และเวลาที่ไม่สบายก็เสี่ยงที่จะมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้นได้อีกด้วย คุณพ่อคุณแม่จึงจำเป็นจะต้องใส่ใจดูแลให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรง เพื่อให้สามารถเติบโตได้อย่างสมวัย มีพัฒนาการที่รอบด้าน
โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ควรดูแลให้ลูกได้กินอาหารที่มีประโยชน์ เพื่อได้รับโภชนาการและสารอาหารที่หลากหลาย เหมาะสำหรับการเจริญเติบโต และดูแลให้ลูกมีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง
มากไปกว่านั้น สำหรับทารกน้อยในช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต ควรจะต้องได้กินนมแม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกน้อยได้รับ MFGM สุดยอดสารอาหารในนมแม่หนึ่งเดียวที่มีงานวิจัยรองรับว่า* ช่วยให้มี IQ และ EF ที่เหนือกว่าตั้งแต่ 5 ขวบปีแรก ให้ลูกพร้อมกว่าเมื่อถึงวัยเข้าเรียน โดย MFGM ในนมแม่ เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างเส้นใยประสาท (Myelin Sheath) และเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณประสาทเชื่อมต่อระหว่างเซลล์สมอง ทำให้สมองทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเรียนรู้และจดจำได้ดียิ่งขึ้น
*สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินีและศูนย์นมแม่แห่งประเทศไทย. นมแม่กับการพัฒนาทักษะสมองส่วน Executive Function. 2561
Enfa สรุปให้ ลูกตัวร้อนอย่างเดียว แต่วัดไข้แล้วไม่มีไข้ เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ เช่น อุณหภูมิภา...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ เนิร์สเซอรี คือ สถานรับเลี้ยงเด็กเล็กวัยก่อนเข้าเรียนอนุบาล ซึ่งส่วนมากจะเปิดรับเลี...
อ่านต่อEnfa สรุปให้ อะดีโนไวรัส (adenovirus) เป็นเชื้อไวรัสที่สามารถติดต่อและระบาดถึงกันได้ตลอดทั้งปีแบ...
อ่านต่อ