
Enfa สรุปให้

เลือกอ่านตามหัวข้อ
เด็กติดโทรศัพท์ ถือเป็นหนึ่งในความกังวลของคุณพ่อคุณแม่ยุคนี้ ยิ่งเมื่อลูกน้อย ไม่ยอมห่างจากหน้าจอโทรศัพท์ หรือแท็บแล็ต การแสดงออกเหล่านี้กำลังเป็นปัญหาใหญ่ที่ท้าทายพ่อแม่ยุคใหม่ เพราะนอกจากจะส่งผลต่อพัฒนาการแล้ว ยังอาจนำไปสู่ปัญหาพฤติกรรมที่น่ากังวลได้ แล้วอาการเด็กติดจอ จะมีทางแก้ไขยังไง ต้องถึงขั้น หักดิบลูกติดจอโทรศัพท์เลยไหม วันนี้เรามาหาคำตอบไปพร้อมๆ กันค่ะ
ก่อนอื่นคุณแม่ต้องเข้าใจว่า เด็กติดโทรศัพท์ หรือ ลูกติดโทรศัพท์ เป็นการที่เด็กใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเล่นโทรศัพท์มือถือหรือดูจอมากเกินไป จนเริ่มมีผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน อาการที่เห็นได้ชัดเจน เช่น ลูกใช้เวลาหมดไปกับการดูสื่อออนไลน์หรือติดเกมจนลืมกิจกรรมอื่น ๆ เช่น การเรียนรู้ การเล่นกับเพื่อน หรือแม้แต่การทำการบ้าน
มีสัญญาณเตือนจากพฤติกรรมของลูก ดังนี้
เมื่อพูดถึง "เด็กติดโทรศัพท์" หรือ "ลูกติดจอ" มักมีสาเหตุหลักๆ ที่ทำให้เกิดปัญหานี้ มาจากหลายปัจจัย เช่น
สิ่งแวดล้อม: เด็กอาจได้รับการฝึกฝนให้เล่นโทรศัพท์ตั้งแต่ยังเล็ก หรือบางครั้งโทรศัพท์ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการทำให้เด็กสงบ เช่น เมื่อพ่อแม่ต้องทำงาน หรือมีภารกิจอื่น ๆ
ความสะดวกในการเข้าถึง: โทรศัพท์มือถือหรือแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ที่ง่ายต่อการเข้าถึงและใช้งาน เด็กอาจเห็นพ่อแม่เล่นโทรศัพท์แล้วอยากลองใช้บ้าง
การเสพสื่อดิจิทัล: เด็กส่วนใหญ่จะถูกดึงดูดด้วยการ์ตูน เกม หรือวีดีโอที่มีความสนุกสนาน ซึ่งทำให้พวกเขาหลงใหลและอยากใช้เวลาอยู่หน้าจอมากขึ้น
อาการเด็กติดจอไม่ใช่แค่การที่เด็กใช้เวลามากกับโทรศัพท์เท่านั้น แต่ยังมีอาการอื่นๆ ที่คุณแม่สามารถสังเกตได้ เช่น
สมาธิสั้น: เด็กจะมีปัญหาในการทำกิจกรรมที่ต้องใช้สมาธิหรือความอดทน  เช่น การอ่านหนังสือ การทำการบ้าน หรือการเล่นกิจกรรมที่ต้องใช้สมอง รวมถึงอาจมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวตามมา
ความรุนแรงในการแสดงอารมณ์: เด็กอาจแสดงอารมณ์รุนแรง เช่น โกรธหรือหงุดหงิด เมื่อไม่ได้ใช้โทรศัพท์ตามที่ต้องการ หรือเมื่อพ่อแม่จำกัดเวลาในการเล่น
ขาดการสื่อสารทางสังคม: เด็กที่ติดโทรศัพท์มักจะไม่สนใจการเล่นกับเพื่อน ๆ หรือไม่ชอบการพูดคุยกับคนรอบข้าง ส่งผลให้พัฒนาการทางสังคมของเด็กช้าลง
พัฒนาการทางภาษาล่าช้า: เช่น เด็กยังพูดไม่เป็นประโยค หรือผู้ใหญ่ฟังภาษาที่เด็กพูดแล้วไม่เข้าใจ
ปวดตา ปวดหลัง: เด็กที่ติดจอจะมีผลกระทบกับสุขภาพตา เกิดอาการตาแห้ง ปวดตา ร่วมกับอาการปวดกล้ามเนื้อ ปวดไหล่ และต้นคอ
การที่ลูกติดโทรศัพท์ ติดจอมากเกินไป เป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนกังวล เพราะการใช้เวลาอยู่กับหน้าจอมากเกินไปนั้น ส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของเด็กในหลายด้านเลยค่ะ เช่น 
พัฒนาการทางร่างกาย: เด็กที่ใช้เวลานานกับโทรศัพท์มักจะไม่ออกกำลังกาย ทำให้เสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพ เช่น น้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน กล้ามเนื้ออ่อนแรง รวมถึงมีปัญหาการนอนด้วย
พัฒนาการทางสมอง: การที่เด็กดูแต่สื่อดิจิทัลทำให้สมองไม่พัฒนาอย่างเต็มที่ หรือสมองเล็กลงขาดการพัฒนา ทำให้พัฒนาการเชาวน์ปัญญาไม่ดี ไอคิวต่ำกว่ามาตรฐาน เช่น กระบวนการฝึกคิด การเรียนรู้ และการแก้ปัญหาที่เชื่องช้า เพราะเด็กขาดการเล่นที่ใช้จินตนาการ การเล่นกลางแจ้ง หรือการสื่อสารกับคนอื่น
พัฒนาการทางอารมณ์: เด็กที่ติดโทรศัพท์มักจะแสดงอารมณ์ไม่เหมาะสมและอาจมีปัญหาด้านการจัดการอารมณ์ในระยะยาว เช่น ความวิตกกังวล หรือความเครียด
ถ้าคุณแม่กังวลว่าลูกติดโทรศัพท์มากเกินไป ก็อย่าเพิ่งตกใจนะคะ เพราะทุกปัญหามีทางแก้ไข!
วิธีแก้เด็กติดโทรศัพท์ หรือ เด็กติดโทรศัพท์แก้ยังไง คือ การตั้งกฎระเบียบและขอบเขตที่ชัดเจน เช่น
กำหนดเวลาใช้งานที่ชัดเจน: คุณพ่อคุณแม่สามารถตั้งเวลาที่ลูกจะสามารถใช้โทรศัพท์ได้ โดยอาจจะใช้วิธีให้ลูกเลือกเวลาที่ต้องการเล่น หรือเลือกให้เล่นหลังจากทำการบ้านเสร็จ
กิจกรรมทางเลือก: หากลูกอยากใช้โทรศัพท์มากเกินไป ลองเสนอทางเลือกที่น่าสนใจ เช่น กิจกรรมสร้างสรรค์ที่ช่วยเสริมพัฒนาการ หรือกิจกรรมกลางแจ้งที่ดีต่อสุขภาพ
เป็นตัวอย่างที่ดี: คุณพ่อคุณแม่เองก็ควรใช้โทรศัพท์อย่างมีสติ และไม่เล่นโทรศัพท์บ่อยเกินไป เพราะเด็กมักจะเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่
ให้ลูกออกไปทำกิจกรรมรวมกลุ่มกับเพื่อนมากขึ้น: เพราะการทำกิจกรรมกับเพื่อนๆ จะช่วยให้ลูกห่างหน้าจอได้ และยังสานสัมพันธ์กับเพื่อนๆ ได้อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม เข้าชมรมศิลปะ เรียนพิเศษ เรียนดนตรี เป็นต้น
สานความสัมพันธ์: ไม่ใช่ตามใจ ให้โอกาสเด็กๆ ได้เล่นอิสระ กับเพื่อนๆ ตามความเหมาะสม
การ "หักดิบ" ลูกติดโทรศัพท์ไม่ได้หมายความว่าให้ตัดการใช้โทรศัพท์ออกไปเลยค่ะ แต่ควรเป็นการลดการใช้ลงอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยคุณแม่สามารถลองใช้วิธีเหล่านี้
การเปลี่ยนพฤติกรรม: เริ่มจากการลดเวลาใช้งานโทรศัพท์ลงทีละน้อย เช่น จาก 2 ชั่วโมงลดเหลือ 1 ชั่วโมง จากนั้นลดลงอีก
สร้างกิจกรรมทดแทน: สร้างกิจกรรมที่ทำให้ลูกไม่รู้สึกเบื่อหน่าย เช่น เล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมสร้างสรรค์ร่วมกันในครอบครัว
อธิบายเหตุผลให้เด็กเข้าใจ: พูดคุยกับลูกโดยใช้เหตุผลและความเข้าใจ พร้อมชวนออกไปทำกิจกรรมด้วยกัน
ให้กำลังใจและรางวัลเมื่อทำได้: เมื่อลูกสามารถลดเวลาจากการดูหน้าจอ และหันไปทำกิจกรรมอย่างอื่นตามที่ได้ตกลงกับคุณพ่อคุณแม่ไว้ อย่าลืมคำชมที่ให้กำลังใจลูก และให้รางวัลเมื่อลูกทำได้นะคะ
คุณพ่อคุณแม่ควรหากิจกรรมที่สนุกและสร้างสรรค์ให้กับลูกๆ เพื่อห่างจากหน้าจอโทรศัทพ์ค่ะ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการช่วยลดเวลาในการใช้โทรศัพท์ และเสริมพัฒนาการของลูก กิจกรรมสนุกๆ ที่แนะนำ เช่น
อยากให้ลูกมีพัฒนาการสมองดี ต้องเลือกเอนฟาโกรที่มี MFGM มีหลากหลายสูตรเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูก เพราะเด็กทุกคนต่างกัน
 ลูก 2 ขวบติดโทรศัพท์ ควรให้ลูกเลิกใช้โทรศัพท์ดีไหม
 ลูก 2 ขวบติดโทรศัพท์ ควรให้ลูกเลิกใช้โทรศัพท์ดีไหมสำหรับเด็กวัยนี้้ หากพ่อแม่พบว่า ลูก 2 ขวบติดโทรศัพท์ ควรเอาใจใส่ดูแลเรื่องนี้เป็นพิเศษ เนื่องจาก วัยนี้เป็นวัยที่กล้ามเนื้อมัดเล็กกำลังพัฒนา หรือมีปัญหาในการสื่อสาร และทักษะภาษาพัฒนาได้ไม่ดีเท่าที่ควร นอกจากนั้นยังเสี่ยงเป็นไฮเปอร์เทียม ทำให้ลูกมีอารมณ์ร้อน รอคอยไม่เป็น หรือถึงขั้นเป็นออทิสติกเทียมได้ง่ายมาก
 ลูก 1 ขวบติดโทรศัพท์ สมาธิสั้น ทำไงดี
 ลูก 1 ขวบติดโทรศัพท์ สมาธิสั้น ทำไงดีแน่นอนว่า คำแนะนำสำหรับลูกในขวบปีแรกกับหน้าจอ คือ ไม่แนะนำเลย แต่ถ้าหากลูกมีอาการสมาธิสั้นจากการติดหน้าจอ ต้องเริ่มจากการไม่ปล่อยให้ลูกๆ อยู่กับหน้าจอเพียงลำพัง มีการตกลงเรื่องเวลากันให้ชัดเจน พยายามหากิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้ลูกเล่นมากกว่าการดูจอ ที่สำคัญ พ่อแม่ต้องให้เวลากับลูกถึงจะแก้ไขพฤติกรรมไม่พึงประสงค์เหล่านี้ได้
 ลูกติดโทรศัพท์ ก้าวร้าว เถียงพ่อแม่ ควรรับมือยังไง
 ลูกติดโทรศัพท์ ก้าวร้าว เถียงพ่อแม่ ควรรับมือยังไง
นอกจากการควบคุมอารมณ์ตนเองแล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องเข้าใจที่มาที่ไป หรือสิ่งเร้า สิ่งกระตุ้นที่นำไปสู่พฤติกรรมการแสดงออกแบบนั้นก่อน โดยให้เวลาลูกๆ ได้สงบสติอารมณ์ของตัวเอง การกอดจากพ่อแม่ก็เป็นอีกหนึ่งทางที่ช่วยให้เด็กๆ สงบลงได้ จากนั้นจึงเริ่มพูดคุยด้วยเหตุผล เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงพฤติกรรมในระยะยาวต่อไป
 ลูกติดโทรศัพท์ไม่สนใจเรียน แม่ควรยึดโทรศัพท์ดีไหม
 ลูกติดโทรศัพท์ไม่สนใจเรียน แม่ควรยึดโทรศัพท์ดีไหมการยึดโทรศัพท์อาจส่งผลร้ายมากกว่าดี นอกจากตัวลูกเองจะเห็นด้วยกับวิธีนี้ ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับเรื่องนี้ก็คือ การพูดคุยกันด้วยเหตุผล โดยการตั้งกติการ่วมกัน ที่สำคัญต้องทำให้เห็นว่า พ่อแม่น่าสนใจกว่าหน้าจอ ชื่ชนลูก เมื่อลูกตั้งใจเรียน หรือใช้เวลาทบทวนบทเรียนร่วมกับลูก การใช้เวลาร่วมกันกับลูกจะค่อยๆ เป็นการเปลี่ยนพฤติกรรมของเด็กๆ ให้กลับมาห่างจากหน้าจอ และเอาใจใส่ต่อสิ่งที่พ่อแม่ชื่นชมตัวเขาในที่สุด
 
                      Enfa สรุปให้ มุมต่างๆ ในห้องเรียนปฐมวัย คือ การแบ่งพื้นที่เป็นมุมประสบการณ์ให้เด็กเลือกเล่นตามค...
อ่านต่อ 
                      Enfa สรุปให้ DSPM คือ คู่มือเฝ้าระวังและส่งเสริมพัฒนาการเด็กปฐมวัยที่ใช้กันเป็นมาตรฐานเดียวทั่ว...
อ่านต่อ 
                      Enfa สรุปให้ เด็ก LD หรือ Learning Disorder เกิดจากปัจจัยทางด้านพันธุกรรม หรือเกิดจากการทำงานของ...
อ่านต่อ